ตอนที่3 เดินทางมาที่ไร่
"ใช่จ่ะก็หนูพราวลูกของน้าพิศไง"
หทัยรัตน์บอกลูกชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอเธอนะครับแล้วเธอมาเป็นภรรยาของผมตอนไหน"
หิรัญยังคงตั้งคำถามกับคนเป็นแม่ด้วยท่าทีตนกเล็กน้อย
"ก็ก่อนเราเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นานหรอกจ่ะ"
"คุณแม่อำผมเล่นหรือเปล่าครับถ้าเธอเป็นภรรยาผมจริงตอนที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไมไม่มาดูแลผมบ้างเลยล่ะครับ"
"เอ่อ...ก็...จริงๆแล้วน้องก็ไม่ใช่ไม่ห่วงเรานะตารัญแต่น้องรักเรามากจนทนเห็นเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้น่ะช่วงที่เรายังไม่ฟื้นน้องก็มานะแต่เห็นเราทีไรก็เป็นลมไปทุกทีเลยแม่ก็เลยไม่ให้เธอมาจะดีกว่าแล้วพอเราหายดีค่อยมาเจอกันทีเดียว"
หทัยรัตน์ตอบลูกชายของเธออย่างรื่นไหลหากลูกชายเธอไม่เชื่อเธอแล้วจะเชื่อใคร
"งั้นเหรอครับ"
หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้าแม่ของเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามคำถามอะไรอีกต่อไปขอรอดูหน้าคนที่แม่เขาบอกว่ามาเป็นภรรยาของเขาก่อนก็แล้วกัน
วันต่อมา
"แม่พวงที่เค้าว่ากันว่าภรรยาคุณรัญกำลังจะมานี่จริงเหรอะวะ"
บัวตองเป็นแม่ครัวอยู่ในเรือนศังกรถามพวงที่เป็นแม่ครัวที่เดียวกับเธอด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินว่าเจ้านายตนเองนั้นมีภรรยาแล้ว
"ก็ใช่น่ะสิเห็นได้ยินว่าแต่งงานกันก่อนจะเกิดอุบัติเหตุไม่เท่าไร"
พวงเองก็สงสัยเช่นกัน
"ฉันรู้มาว่าตอนนั้นคุณรัญพึ่งเลิกกับแฟนเก่าไปนี่นา"
บัวตองเองแอบเห็นอุ่นเรือนปลอบใจเจ้านายของพวกเธออยู่บ่อยครั้งก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ
"อย่าพูดเรื่องนี้อีกถ้าเกิดภรรยาคุณรัญมาได้ยินเข้าจะไม่ดีเท่าไร"
พวงปรามบัวตองพร้อมส่ายหัวเล็กน้อยหน้าที่ของเธอคือทำอาหารเรื่องของเจ้านายก็คือเรื่องของเจ้านายเธอไม่อยากยุ่ง
"เออๆฉันไม่พูดแล้วก็ได้..แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีล่ะวะว่าไปแต่งกันตอนไหน"
บัวตองรับปากว่าจะไม่พูดแต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนเป็นนายแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ตอนไหน
ถึงเธอจะไม่เคยเห็นแฟนเจ้านายเธอมาที่นี่แต่ก็รู้ว่านายของเธอไปหาอยู่เรื่อยๆที่กรุงเทพแต่หลังจากเลิกกับแฟนเก่าไม่นานก็ได้แต่งงานกับแฟนใหม่เลยหรืออันนี้เธอคิดหนัก
"อย่ายุ่งเรื่องเจ้านายให้เยอะนักเรื่องตัวเองเอาให้รอดเห็นว่าลูกสาวแกก็พึ่งจะตกงานกลับมาอยู่บ้านไม่ใช่รึ"
พวงเห็นว่าบัวตองนั่งครุ่นคิดเรื่องเมื่อครู่ที่พูดกันไม่ตกเธอจึงหันไปบอกบัวตองให้คิดเรื่องมาลีลูกสาวตัวเองจะดีกว่า
"ก็ใช่น่ะสินี่ฉันก็คะยั้นคะยอให้มันมาทำงานในไร่อยู่ขืนเลี้ยงมันอยู่อย่างนี้ไม่ไหวแน่"
เมื่อพวงพูดถึงลูกสาวเธอบัวตองจึงเกิดหงุดหงิดขึ้นมาเพราะลูกสาวของเธอเป็นคนบอกอะไรยากเย็นเสียเหลือเกินหลังจากกลับตากกรุงเทพก็มาเกาะเธอกินอยู่ทั้งที่ร่่างกายครบถ้วนพร้อมที่จะทำงานได้
"รีบเอามาฉันจะให้ลูกสาวแกมาช่วยงานครัว"
พวงเองก็กำลังหาคนช่วยทำครัวอยู่เหมือนกันเธอจะได้ให้บัวตองไปช่วยแม่ครัวของไร่ทำอาหารให้คนงานในไร่กินเหมือนเดิม
"เห็นว่ามันจะเข้ามาพรุ่งนี้นะ"
บัวตองพูดอย่างไม่รู้เลยว่าลูกสาวของเธอจะมาตามที่บอกหรือเปล่า
สนามบินxxx
"นี่อย่าลืมที่บอกล่ะ...ดูรูปคุณชายเค้าไว้เยอะๆแล้วก็พยายามอินว่าเค้าคือสามีเธออ่ะ"
ปอแก้วมาส่งพราวพิไลเพื่อนของเธอที่สนามบินพร้อมทั้งย้ำเตือนเพื่อนเธอถึงวิธีที่จะทำให้คุ้นกับคนที่เพื่อนเธอจะไปอยู่ด้วยในฐานะภรรยาปลอมๆโดยเร็ว
"โหย...ใครมันจะไปอินง่ายขนาดนั้น"
พราวพิไลพูดด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง
"ทำไมหน้าบูดแบบนั้นล่ะแก"
"ตอนแรกฉันก็ค่อนข้างไม่กลัวอะไรนะแต่ตอนนี้รู้สึกใจโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูกเลยอะ"
"ตัดสินใจมาแล้วนี่ยัยพราว..เออแล้วแม่แกได้บอกไหมว่าไอ้การเป็นเมียปลอมๆเนี่ยจนถึงเมื่อไร"
"เห็นว่ารอให้ยัยแฟนเก่าหน้าเงินแต่งงานไปก่อนมั้ง"
พราวพิไลได้ยินว่าหทัยรัตน์ป้าของเธอต้องการให้คนที่เป็นแฟนเก่าของหิรัญแต่งงานไปก่อนจะได้สบายใจว่ายังไงก็ไม่กลับมาหาหิรัญอีก
"แล้วถ้า...เค้าจะ..."
ปอแก้วพูดพร้อมมองหน้าพราวพิไลอย่างมีเลศนัย
"นี่หยุดพูดไปเลย...ฉันรู้ว่าแกคิดอะไรเรื่องนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกน่าฉันว่าฉันเอาตัวรอดได้"
พราวพิไลปรามเพื่อนเธอเอาไว้ก่อนเพราะรู้ว่าจะพูดอะไรคงไม่พ้นเรื่องที่คู่สามีภรรยาต้องทำกันบนเตียงเธอจึงบอกให้เพื่อนเธอรู้ว่าคงไม่มีวันนั้นแน่นอน
"แล้วถ้าเค้าคุณชายคนนั้นเค้ารู้ความจริงก่อนล่ะว่าแกไม่ใช่เมียเค้าจริงๆอะ"
"ไม่มีทางหรอกน่าคุณป้าฉันเธอบอกว่าเตรียมแผนไว้ออย่างรอบคอบแล้วเหลือแค่ฉันทำตัวเป็นภรรยาที่ดีก็พอ"
พราวพิไลเชื่อใจว่ายังไงมันก็ไม่เป็นปัญหาอยู่แล้วเพราะเธอเหฌนว่าหทัยรัตน์ได้เตรียมการทุกอย่างไว้้รียบร้อยแล้วหากเกิดปัญหาอย่างมากเธอก็คงถูกหิรัญต่อว่าแต่เดี๋ยวแม่ลูกเค้าก็เคลียกันได้เองเพราะทุกอย่างเป็นแผนของแม่หิรัญ
"อืมๆ.."
ปอแก้วพยักหน้าและหวังว่ามันจะเป็นอย่างที่เพื่อนเธอพูดแต่เธออดคิดไม่ได้ว่าเรื่องแบบนั้นที่เธอคิดมันจะเกิดขึ้นจริงเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอจะต้องอยู่กับผู้ชายคนนั้นนานเท่าไรอีกอย่างคนอย่างพราวพิไลก็ไม่เคยอยู่ใกล้ผู้ชายมาก่อนด้วยเธอกลัวว่าเพื่อนเธอจะมีใจให้อีกฝ่ายอย่างง่ายดายน่ะสิแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะมันอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้
"นี่จะได้เวลาแล้วฉันไปก่อนนะ"
พราวพิไลดูนาฬิกาก็ได้เวลาที่จะต้องไปขึ้นเครื่องแล้วเธอจึงรีบบอกลาเพื่อนเธอ
"โชคดีล่ะ"
ครู่ต่อมา
พราวพิไลนั่งเครื่องได้ครู่หนึางแล้วเธอนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่าวันนี้เธอถอนหายใจไปกี่ครั้งเพราะเมื่อจะถึงเวลาที่จะต้องถึงเชียงใหม่จริงๆเธอกลับประหม่ามากขึ้นเรื่อยๆ
สองชั่วโมงต่อมา
ไร่ศังกร
"คุณป้า...เอ่อคุณแม่"
กว่าลุงครามผู้จัดการไร่จะพราวพิไลมาถึงไร่ศังกรก็เล่นเอาเป็นชั่วโมงเพราะว่าทางจากสนามบินมาที่ไร่ค่อนข้างไกลกันมากเมื่อมาถึงก็รีบสวัสดีหทัยรัตน์คนที่ยืนรอต้อนรับอยู่หน้าบ้านครั้งแรกเธอเกือบจะเรียกอีกฝ่ายผิดแต่เธอก็เปลี่ยนเป็นคุณแม่อย่างรวดเร็วตามแผนที่คุยกันเอาไว้
"พี่เค้าอยู่ข้างในน่ะหนูพราว"
"ขอพราวสูดหายใจลึกๆก่อนนะคะ"
พราวพิไลยังคงประหม่าไม่หายตอนนี้เธอขอทำอารมณ์ให้เป็นคนรักคนนึงที่ต้องคิดถึงคนรักอีกคนมากๆก่อนภาพในหัวของเธอตอนนี้กำลังคิดถึงการกอดพี่สาวของเธออยู่และคิดว่าการทักทายชายหนุ่มก็ต้องทำแบบนั้นเช่นกัน
"โอเคจ่ะ.."
ซื้ดดดด..ฟู่ฟฟฟฟ
"เฮ่อออ.."
พราวพิไลหลับตาพร้อมพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ