ตอนที่3 มาถึงเมืองกรุง
“นั่นอะไรเหรอ”
ในระหว่างที่ขับรถสิงหนาทหันไปเห็นตระกร้าหวายที่มีผ้าขาวบางปิดอยู่ในมือของนรีนาถจึงแปลกใจว่าหญิงสาวถืออะไรกลับมาด้วย
“ขนมตาลน่ะค่ะแม่ของหนึ่งให้เอามาฝาก”
นรีนาถค่อยๆเปิดผ้าขาวบางที่คลุมขนมตาลฟูเหลืองอร่ามในกระทงใบตองเล็กๆให้สิงหนาทได้ดู
“ดีสิพี่กำลังอยากทานอยู่พอดีเลยไม่รู้ว่าน้องหญิงจะแบ่งให้พี่ได้ไหมนะ”
สิงหนาทรู้ดีว่าขนมไทยที่แม่ของนาราเป็นคนทำอร่อยแค่ไหนจึงต้องเอ่ยปากของนรีนาถอย่างไม่เกรงใจ
“ได้สิคะหนึ่งเอามาฝากเยอะเลย”
นรีนาถไม่ได้หวงสิงหนาทแม้แต่น้อยเพราะขนมนี่มันก็เยอะพอที่จะแบ่งได้หลายคน
“วันหน้าพี่คงต้องไปอุดหนุนถึงที่ร้านหนึ่งเสียแล้วล่ะให้ขนมเราทานฟรีบ่อยเกินจนพี่เริ่มเกรงใจแล้ว”
สิงหนาทเห็นทีจะต้องไปอุดหนุนนาราถึงที่บ้านเสียแล้วเพราะเขาได้ทานขนมฟรีจากบ้านนานราบ่อยเสียเหลือเกินจนเริ่มเกรงใจ
“ดีเลยค่ะไว้วันที่พี่สิงห์ว่างเราไปร้านหนึ่งกันนะคะ”
นรีนาถเห็นด้วยเช่นนั้นเหมือนกันเพราะเธอก็กะจะชวนสิงหนาทในวันที่เขาว่างไปที่บ้านนาราเช่นกันแต่ติดตรงที่น้อยครั้งนักที่สิงหนาทจะว่าง
“ครับ”
สิงหนาทชายหนุ่มอายุ30ปีรูปร่างหล่อเหลาใบหน้าคมเข้มผิวขาวสะอาดสะอ้านส่วนสูง185เป็นชายหนุ่มที่เป็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆว่าเป็นทายาทธนาคารใหญ่ที่เก่งที่สุดและหล่อที่สุดคนนึงเขาเป็นน้องชายบุญธรรมของภิภพพ่อของนรีนาถแต่ตั้งแต่เล็กๆนรีนาถนั้นสนิทกับอาหนุ่มมากเสียกว่าคนเป็นพ่อเสียอีกเพราะสิงหนาทดูแลเธอตั้งแต่อ้อนแต่ออกและนรีนาถก็เรียกอาหนุ่มว่าพี่ตั้งแต่เล็กๆเพราะห่างกันแค่สิบปีสีหนาถก็ไม่ได้ว่าอะไรจึงไม่ได้เรียกอาตั้งแต่นั้นมาและเขาเองก็รักเอ็นดูนรีนาถเหมือนน้องสาวคนนึงเช่นกัน
ทุกวันนี้งานในธนาคารทุกอย่างถึงเขาจะเป็นแค่คนที่รักษาการแทนภิภพแต่ก็เหมือนคนดูแลเต็มตัวไปแล้วเพราะภิภพนั้นไม่ค่อยจะสนใจงานเท่าไรทั้งยังติดเที่ยวและเรื่องผู้หญิงก็มีมาไม่เว้นวันดังเช่นตอนนี้เขาเองก็ได้ข่าวว่าคนเป็นพี่ชายนั้นพาผู้หญิงคนใหม่ล่องเรือเที่ยวกันไม่รู้ว่าจะมีกำหนดกลับเมื่อไรอีกด้วย
วันต่อมา
เรือนธิติลักษณ์
08.00 น.
“พี่สิงห์คะทำงานเสร็จแล้วรีบกลับเลยนะคะ”
นรีนาถยืนส่งสิงหนาทที่หน้าบ้านเธอมีสีหน้ากระเง้ากระงอดเล็กน้อยเพราะไม่ชอบที่จะต้องเหงาอยู่บ้านกับคนรับใช้ที่ถึงจะมีหลายคนก็ไม่ได้ทำให้เธอคลายเหงาได้เลยเพราะเวลาที่เธอจะทำอะไรก็มีข้อห้ามไปเสียทุกอย่างจะมีก็แค่เพียงแม่นมของเธอเท่านั้นที่พอจะตามใจเธอบ้าง
“วันนี้พี่มีประชุมไม่รู้จะเสร็จเมื่อไรแต่ถ้าเสร็จแล้วพี่จะรีบกลับมาหาน้องหญิงทันทีเลยนะคะ”
"น้องจะรอนะคะ"
สิงหนาทลูบหัวนรีนาถเบาๆทั้งรีบเปิดประตูรถขับออกไปทันทีเพราะเขาค่อนข้างเป็นคนที่ตรงเวลาเรื่องงานอย่างมาก
“คุณหนูจะเข้าห้องหนังสือเลยไหมคะ”
นมสรวงแม่นมนรีนาถวัย40ปีรู้ว่าเวลาว่างของนรีนาถนั้นเธอจะต้องอยู่ในห้องหนังสือคลายเหงาเป็นแน่จึงถามความจำนงของนรีนาถว่าวันนี้จะเข้าห้องหนังสือหรือไม่เพราะจะได้ให้คนเข้าไปทำความสะอาดก่อนที่จะทำที่อื่น
“จะนม..อ่อ..เดี๋ยวสายๆหญิงว่าจะออกไปหาหนึ่งสักหน่อยค่ะ”
นรีนาถพยักหน้ารับนมสรวงทั้งหันหลังในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปห้องหนังสือบอกกับนมสรวงว่าวันนี้เธอจะออกไปหานาราเสียหน่อย
“จะไปเวลาไหนคะเดี๋ยวนมจะให้คนเตรียมรถไว้รอค่ะ”
“เดี๋ยวหญิงเดินออกไปเองค่ะบ้านหนึ่งอยู่ไม่ไกลนี่เองหญิงเดินไปสะดวกกว่าค่ะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอคะถ้าคุณสิงห์รู้ว่าคุณหญิงเดินไปเองพวกเราจะถูกตำหนิเอานะคะ”
นมสรวงหน้าเสียเล็กน้อยเธอไม่ค่อยอยากจะให้นรีนาถไปไหนทาไหนคนเดียวบ่อยเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอเนื่องจากหญิงสาวเป็นคนที่ไม่ค่อยทันคนเท่าไรนักจึงยกสิงหนาทมาเป็นข้อกังขาให้นรีนาถนั้นเกรงกลัวที่จะออกไปคนเดียวบ้าง
“ก็ไม่ต้องบอกให้พี่สิงห์รู้สิคะนม”
หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงยิ้มออกหากไม่มีใครบอกสิงหนาทก็จะไม่รู้เพราะเธอกะวาาจะรีบไปรีบกลับ
“คุณหนูของนมนี่นะ.. เดี๋ยวนมไปเอาขนมฝากไปให้หนูหนึ่งด้วยค่ะตอนเธอมาที่เรือนเราก็มีขนมติดไม้ติดมือมาตลอด”
นมสรวงส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็อดตามใจคุณหนูที่เธอรักไม่ได้ทั้งเอ่ยปากว่าจะฝากขนมไปให้นาราอีกด้วย
“ค่ะนม”
นรีนาถยิ้มกว้างอย่างพอใจทั้งเดินขึ้นมาที่ห้องหนังสืออย่างอารมณ์ดีคนที่จะตามใจเธอได้มากที่สุดเห็นจะเป็นนมสรวงคนเดียวนี่แหละ
แกร๊ก
“หืม..ใครกัน”
นรีนาถอ่านหนังสืออยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงแปลกๆที่หน้าต่างทั้งยังเหมือนว่าจะเห็นคนแวบๆเธอจึงรีบละจากหนังสือรีบเดินมาดูที่ริมหน้าต่างอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องทำหน้าสงสัยเพราะเธอไม่เห็นอะไรแม้แต่นิดเดียว
ครู่ต่อมา
“ไอ้แสงตื่น”
เมืองรามเดินกลับเข้ามาในรถยนต์ของเขาที่รุ่นเดียวกับมหาเศรษฐีในเมืองกรุงใช้กันเลยทีเดียวจึงเป็นที่ไม่แปลกตาเท่าไรนักเมื่อจอดอยู่ที่นี่
ชายหนุ่มตบหน้าเพื่อนของเขาเบาๆที่สายป่านนี้ยังนอนหลับอุตุอยู่ได้
“ถึงแล้วเหรอวะ...นี่เหรอรุงเทพ”
พันแสงค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมามองดูรอบๆว่าที่นี่เป็นที่ไหนด้วยภาพตรงหน้าที่ดูว่ามันเจริญกว่าบ้านนอกที่เคยอยู่อยู่มากจึงค่อนข้างตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะเขาเองก็พึ่งจะเคยเห็นเมืองกรุงกับเค้าครั้งแรกเหมือนกัน