ตอนที่1
16.00 น.
ณ เขตชุมชนเปลี่ยวแห่งหนึ่งในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครตอนนี้สองสาวพี่น้องอย่างวิวาห์รินท์กับวรรณวารีเดินจับมือกันแน่นเพราะหลงเข้ามาในซอยเปลี่ยวหลังจากพากันไปสัมภาษณ์งานเสร็จ
"พี่วิเข้าเมืองครั้งแรกก็จะงงๆหน่อยเนอะ...มือถือก็แบตหมด"
วรรณวารีหันไปพูดหยอกกับคนเป็นพี่แกมหาเรื่องคุยเพราะที่นี่ค่อนข้างเปลีายวและน่ากลัวเธอเดินนำพี่สาวเข้ามาลึกหมายจะหาทางออกแต่ก็ไม่ยักจะเจอเสียทีแถมมือถือเธอก็ดันมาแบตหมดเพราะลืมชาร์จตั้งแต่เมื่อคืน
"พี่ก็ลืมมือถือไว้ที่ห้องพักด้วยสิ"
วิวาห์รินทร์เองก็หน้าเจื่อนเล็กน้อยที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะกลับโรงแรมที่พักกันได้หรือไม่เพราะเธอก็ดันลืมมือถือแถมเข้ากรุงเทพกันเป็นครั้งแรกด้วยก่อนหน้านั้นก็เคยเรียนอยู่แค่ในตัวจังหวัดเชียงใหม่แล้วต่อที่ต่างประเทศเลยน้องเธอก็เช่นกันตอนนี้จึงพากันสับสนกับพื้นที่ที่ไม่คุ้นชิน
"นั่นอะไร"
วรรณวารีเห็นว่าตรงหน้ามีผู้หญิงถูกกระชากกระเป๋าจึงตกใจหน้าตาตื่น
"ช่วยด้วยค่ะ...ช่วยด้วย"
ราณีหญิงวัยกลางคนตะโกนสุดชีวิตเพราะเธอกำลังถูกขี้ยาที่มานั่งเสพยาอยู่ที่นี่ปล้น
"ส่งมาสิวะ"
ชายฉกรรจ์ที่เมายาตะคอกใส่หญิงวัยกลางคนอย่างราณีจนเธอตื่นกลัวและปล่อยกระเป๋าไป
พลั้กกก
"ไอ้พวกนิสัยไม่ดี"
วรรณวารีกระโดดถีบชายคนนั้นจนล้มลงและกระชากกระเป๋ากลับมา
"ไปเลยนะ.."
วิวาห์รินทร์รีบหยิบท่อนไม้ใหญ่แถวนั้นมาเป็นอาวุธให้เธอกับน้องสาว
"อยากถูกทุบตายตรงนี้ใช่ไหม"
วรรณวารีเห็นว่าคนร้ายยังไม่ยอมไปดีๆจึงรีบขู่ขึ้นและหมายจะฟาดไม้ท่อนหนาลงบนหัวคนร้าย
"เฮ้ยๆๆๆ...อย่านะโว้ยยย.."
คนร้ายรีบวิ่งกนีไปอย่างๆม่คิดชีวิตเพราะตอนนี้มีคนเดียวหากถูกรุมคงจะนอนเดี้ยงอยู่ตรงนี้เป็นแน่
ครู่ต่อมา
"เฮ้ออ...ขอบใจหนูสองคนมากนะจ้ะที่ช่วยฉัน"
ราณีพาเด็กสาวสองคนเดินออกมาจากซอยเปลี่ยวตรงนั้นไม่คิดเลยว่าดารที่เธอมาดูที่ที่จะสร้างโรงแรมใหม่คนเดียวโดยที่ไม่ให้บอดี้การ์ดตามติดต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
"คุณน้าเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ"
ทั้งสามมานั่งกันอยู่ในร้านสะดวกซื้อที่มีคนพลุกพล่านวิวาห์รินทร์รีบดูตามเนื้อตัวหญิงวัยกลางคนอย่างเป็นห่วง
"ไม่หรอกจะแค่ยังตกใจนิดหน่อย...ดีนะที่มีพวกหนูผ่านมาทางนี้พอดี...แล้วพวกหนูเข้ามาเจอน้่ได้ไงล่ะจ้ะใครๆก็รู้ว่าทางนั้นเปลี่ยวมากๆ"
ราณีนับว่าเธอยังโชคดีที่เจอสองสาวทั้งไม่คิดจะแจ้งความเพราะหากเกิดเรื่องลูกชายเธอและสามีคงจะให้บอดี้การ์ดตามติดเธอแจแน่นอน
"เอ่อ..คือหนูหลงเข้ามาไม่รู้ว่าทางออกต้องไปตรงไหน..พวกหนูพึ่งมากรุงเทพเป็นครั้งแรกมือถือหนูก็แบตหมดส่วนพี่สาวหนูก็ลืมเอามือถือมา"
วรรณวารีตอบด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
"อย่างงั้นเหรอจ้ะ"
ราณีแอบอมยิ้มให้กับท่าทีซื่อไงๆของสองสาวจะว่าน่าสงสารก็น่าสงสารทั้งเป็นเรื่องขบขันก็ว่าได้เธอจึงอาสาไปส่งสองสาวตามชื่อที่พักที่พวกเธอบอกโดยโทรให้คนขับรถที่บ้านมารับ
โรงแรมxx
เมื่อราณีมาถึงโรงแรมเล็กๆที่สองสาวพักกันอยู่ก็ถือโอกาสมาพูดคุยทำความรู้จักกันเสียเลยเะราะราณีก็ถูกชะตาสองสาวตั้งแต่แรกพบแล้ว
"หนูวิกับหนูวามาที่นี่ทำอะไรกันเหรอจ้ะ"
ราณีอยากจะรู้ว่าสองสาวนั้นมาที่กรุงเทพด้วยธุระเรื่องอะไร
"หนูกับพี่สาวมาสมัครงานค่ะ"
วรรณวารีตอบราณีด้วยรอยยิ้ม
"อืม...แล้วหนูได้งานกันหรือยังล่ะ"
ราณีเห็นว่าที่โรงแรมเธอก็ต้องการคนอยู่พอดีหากทั้งสองมีคุณสมบัติตามที่เธอต้องการก็อยากจะได้คนทั้งสองมาร่วมงานกันถือเสียว่าตอบแทนน้ำใจที่ช่วยเธอเอาไว้
"ก็...มีแต่รอเรียกอีกทีทั้งนั้นเลยค่ะ"
วิวาห์รินทร์พอจะรู้ชะตาตัวเองกับน้องแล้วว่าคงจะได้งานยาก
"แล้วหนูสองคนอยากทำงานอะไรเหรอ"
ราณีอยากจะรู้ว่าในใจทั้งสองอยากจะทำอะไร
"วาจบบริหารมาตอนแรกก็ช่วยคุณพ่อคุณแม่ที่รีสอร์ทแต่พอรีสอร์ทถูกยึดวาก็เลยต้องหางานทำบางทีก็มีรับงานถ่ายแบบให้พวกเพื่อนๆที่ทำแบรนด์เสื้อผ้าบ้างค่ะส่วนพี่วิก็พึ่งกลับจากต่างประเทศค่ะก่อนหน้านี้พี่วิเคยเป็นเลขาให้กับผู้บริหารโรงแรมที่ซิดนี่ย์น่ะค่ะ"
วรรณวารีตอบ