ตอนที่1 เมียหนี
ช่วงประมาณปี พ.ศ 2500
เชียงใหม่
ไร่ศังกร
ปั้งๆๆๆๆ
ไร่ศังกรเชียงใหม่ตั้งอยู่ที่ราบสูงตอนนี้อยู่ช่วงหน้าฝนมองสุดลูกหูลูกตาก็มีแต่สีเขียวขจีไปทั่วทุกมุมไร่..อาณาเขตของไร่นี้มีนับพันไร่เป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างมากที่ยากต่อการเข้าถึงหากมิใช่คนในจะไม่รู้ทางและอาจจะหลงเข้าป่าไปได้..ที่ไร่นี้ทำการเกษตรหลายอย่างรวมกันปกครองโดยพ่อเลี้ยงเมืองรามวัยสี่สิบปีชายหนุ่มที่ยิ่งทีอายุยิ่งดูดีสาวๆในราเมื่อมีโอกาสก็มิวายจะโปรยเสน่ห์หรือถวายตัวให้โดยไม่มีข้อแม้เพราะรู้ตัวว่าหากเป็นคนของเมืองรามนั้นจะไม่ต้องทำงานไปตลอดชาติเลยก็ยังได้
คล้อยบ่ายแดดเปรี้ยงพ่อเลี้ยงหนุ่มที่อยู่ในชุดคาวบอยสวมหมวกสีน้ำตาลรับกับใบหน้าคมเข้มชายหนุ่มยืนหน้านิ่งคิ้วขมวดเพราะโทสะที่อยู่ในใจมือขวาและซ้ายต่างก็มีปืนสั้นอยู่ในมือทั้งรัวปล่อยกระสุนปืนอยู่ที่กระท่อมเถียงนาใส่หุ่นไล่กาสิบกว่าตัวที่สั่งให้คนสนิทสร้างขึ้นมาให้เพื่อระบายอารมณ์
เหงื่อตามเนื้อตัวไหลซิกออกมาไม่หยุดเพราะความร้อนจากแดดบวกกับความร้อนในใจมันแผดเผาพ่อเลี้ยงหนุ่มอยู่นั่นเองที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเมียสุดที่รักของเขาที่เฝ้าประคบประหงมอย่างดีนั้นหนีไปกับหนุ่มเมืองกรุงหน้าใหม่ที่พึ่งเจอกันได้ไม่นานนั่นเอง
“โอ้ยๆ..พ่อเลี้ยง..หนวกหูไปหมดแล้วคร้าบบบบ”
ทศพลนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเถียงนาหมายจะนอนหลับยามบ่ายเสียหน่อยแต่ก็ต้องนอนไม่ได้เพราะเสียงปืนที่รัวใส่หุ่นไร่กาฝีมือตัวเองที่ทำขึ้นมาไม่ขาดสายเมื่อหมดความอดทนจึงลุกมาตะโกนหน้าหงิกหน้างอใส่พ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ทศพลชายหนุ่มวัยสิบแปดเป็นคนที่พ่อเลี้ยงเมืองรามเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่แบเบาะเพราะมีคนเอามาทิ้งตั้งแต่แบเบาะเมืองรามรักทศพลเหมือนน้องชายคนนึงแต่ทั้งคู่ก็ชอบกัดกันตลอดเพราะทศพลนั้นชอบหาเรื่องกวนประสาทเมืองรามอยู่เรื่อย
“เงียบปากไปไอ้ทศหรือมึงจะให้กูเปลี่ยนจากหุ่นเป็นมึง”
เมืองรามหยุดมือทั้งหันมามองหน้าทศพลหน้านิ่งอย่างไม่พอใจทั้งจ่อกระบอกปืนมาที่เถียงนาจนทศพลนั้นกระโดลงเถียงนาแทบไม่ทัน
“เอ่อ..เชิญยิงต่อเลยจะเอาให้สบายใจพ่อเลี้ยงเลยจะเดี๋ยวทศจะไปหาน้ำมาให้กินนะจ้ะ”
ทศพลรีบพุดจาเสียงอ่อนเสียงหวานให้เมืองรามใจเย็นลงทั้งรีบวิ่งหมายจะหาน้ำหาท่าให้พ่อเลี้ยงหนุ่มได้กินจะได้ใจเย็นลงเขารู้ว่าเมืองรามรักเขาเหมือนน้องแต่วินาทีนี้ที่เมืองรามกำลังโมโหเพราะเมียหนีจะกล้ายิงเขาจริงหรือเปล่าแต่เขาก็จะไม่ประมาทไปก่อนเด็ดขาด
“ไอ้เวรวันๆกวนประสาทแต่กูนี่แหละ”
ปั้งๆๆ
เมืองรามตวาดเสียงฝาดยิงปืนรัวไปตรงเด็กหนุ่มจนทศพลกระโดดกระเด้งหาที่หลบแทบไม่ทันหากเมืองรามตั้งใจคงถูกเด็กหนุ่มตั้งแต่นัดแรกแล้วแต่นี่เพื่อสั่งสอนว่าอย่ากวนประสาทเขาในเวลานี้ก็เท่านั้น
“โอ้ยย..พ่อเลี้ยงยิงไปทางนั้นสิจะมายิงทางผมทำไมล่ะ”
เมื่อเสียงปืนสงบลงทศพลชะเง้อหน้าออกมาจากหลังต้นมะพร้าวด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“ถ้ามึงวิ่งยังไม่พ้นสายตากูกูจะยิงหัวมึงนี่แหละ”
“ไปแล้วจ้าๆ”
เด็กหนุ่มรีบวิ่งจะฝุ่นคลุ้งเพราะกลัวคำขู่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มในนาทีนี้ที่ไม่รู้ได้เลยว่าเจ้าตัวพูดจริงหรือพูดเล่น
เรือนศังกร
เรือนศังกรเป็นเรือนไม้สักหลังค่อนข้างไม่ใหญ่มากแต่ก็ถือว่าใหญ่สำหรับคนในที่นี้อาศัยอยู่เพียงแค่เมืองรามและมีแม่ครัวเก่าแก่เป็นฟองจันทร์อายุ60ปีที่อาศัยอยู่ในห้องเล็กที่นี่กับคำแก้วเด็กสาววัยสิบแปดน้องสาวบุญธรรมของเมืองรามส่วนทศพลนั้นอาศัยอยู่ในเรือนพักคนงานกับทองดี
“เสียงพ่อเลี้ยงยิงอะไรวะ”
ทองดีเด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่เป็นเพื่อนเล่นกับทศพลมาตั้งแต่เด็กโตมามีเงินใช้ก็เพราะทำงานที่ไร่นี้เหมือนกันเมื่อเขาเห็นทศพลวิ่งเข้ามาที่หน้าเรือนเขาที่ถางหญ้าอยู่จึงรีบวิ่งเข้าไปถามว่าเสียงปืนที่รัวอยู่นานสองนานพ่อเลี้ยงกำลังยิงอะไร
“เค้าจะยิงกูนี่แหละ”
ทศพลพูดพร้อมกรอกตาถอนหายใจ
“มึงไปกวนโมโหอะไรพ่อเลี้ยงอีกล่ะ”
ทองดีพอจะรู้ว่าพ่อเลี้ยงและทศพลกัดกันประจำแต่ไม่รู้ครั้งนี้พ่อเลี้ยงโมโหอะไรที่ถึงขั้นจะยิงเพื่อนของเขาทั้งที่คนในไร่ต่างก็รู้ว่าพ่อเลี้ยงรักทศพลเหมือนน้องในไส้
“กวนอะไรเล่ามึงก็รู้ว่าพ่อเลี้ยงหงุดหงิดหัวเสียไม่เป็นการเป็นงานตั้งแต่รู้ว่าเมียหนีไปกับเศรษฐีนายธนาคารนั่นแล้ว”
ทศพลขมวดคิ้วเป็นปม
“เห้อ..คุณดวงเดือนนะคุณดวงเดือนอยู่ที่นี่พ่อเลี้ยงก็ให้คนดูแลนึกว่านางฟ้านางสวรรค์ดูซิมาทำกับพ่อเลี้ยงได้”
ทองดีได้ฟังคำที่เพื่อนของเขาพูดมาก็ส่ายหัวเบาๆอ่อนใจแทนพ่อเลี้ยงเพราะผู้คนที่นี่ใครๆต่างก็อิจฉาดวงเดือนที่พ่อเลี้ยงนั้นเลี้ยงสบายอย่างกับนางฟ้ายังมาทรยศไปกับคนกรุงได้
“โว้ย..ผู้หญิงสวยอย่างคุณดวงเดือนเค้าก็คงอยากจะแต่งตัวสวยเป็นสาวในเมืองกรุงกับเค้าบ้างล่ะมั้งอยู่แต่บ้านป่าแบบนี้คงจะเบื่อ”
ทศพลพูดพรางประชดเพราะเขาก็รู้สึกโกรธแทนเมืองรามเหมือนกันวันที่รู้ว่าเมียหายวันแรกๆแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับกันเลยทีเดียวจนถึงทุกวันนี้ยังเป็นไม่หายแถมบวกกับความหงุดหงิดง่ายเพิ่มขึ้นมาด้วยอีกต่างหาก
“กูว่าถ้าพ่อเลี้ยงเจอคุณดวงเดือนอีกครั้งคงไม่เอาเธอไว้แน่ชู้เธอก็ด้วย”
ทองดีวางมือบนจอบดายหญ้าทั้งทำหน้าครุ่นคิดถึงสิ่งที่มันจะเกิด
“กูก็ว่างั้น”
ทศพลลูบหัวแกรกๆเขาเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน