ตอนที่หนึ่ง อุบัติเหตุ
มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
ในช่วงเย็นของมหาลัยดังในตอนนี้เหล่านักศึกษาต่างก็เดินกันประปรายไม่ได้ครึกครื้นเหมือนช่วงเช้าเพราะบางคนก็มีเรียนกันแค่ช่วงบ่าย
"วันนี้ฉันปวดสมองมากเลยเอย" ทรายแก้วหญิงสาวปีหนึ่งของคณะบริหารร่างบางอ้อนแอ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนยกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่มอึกใหญ่อย่างชื่นใจคุยกับเพื่อนสาวหน้าหวานตรงหน้าหลังจากที่เรียนกันมาทั้งวัน
ทรายแก้ว หญิงสาววัย 18
เป็นลูกสาวเจ้าของร้านขนมหวานเล็กๆอยู่ชานเมืองสมุทรปราการตอนนี้พักอยู่หอพักหญิงในมหาลัยกลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์เธอทำแบบนี้มาตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่กรุงเทพแล้ว
ทรายแก้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งผิวขาวเหลืองใบหน้าเรียวรูปไข่ตาโตคิ้วเข้มปากนิดจมูกหน่อยผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนค่อนข้างซนอยู่พอสมควรรู้จักกับเจ้าเอยและเกวรินทร์ตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้
"นี่ก็ได้พักแล้วไง" เจ้าเอยอมยิ้มอ่อนก่อนจะยกหนังสือขึ้นมาอ่านต่อนิดหน่อยระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนของเธอไปซื้ออะไรมากินกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
"มาแล้วๆ.." เกวรินทร์กองห่อขนมที่เธอไปหอบซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อในมหาลัยเต็มโต๊ะจนแทบไม่มีที่วาง
เกวรินทร์ หญิงสาววัย 18
หญิงสาวเป็นคนผอมแห้งสูง160 ผิวสีน้ำผึ้งใบหน้ากลมแก้มป่องผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยาวถึงกลางหลังคิ้วบางได้รูปตากลมหางตาเฉี่ยวเหมือนลูกแมวจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับ
หญิงสาวเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพคั้งแต่ ม.ปลายค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่แก่นแก้วไม่ค่อยยอมคนเท่าไรแต่ก็ซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเมืองบางคนอยู่ดี
"นี่ใครจะกินหมดกัน" เจ้าเอยมองเกวรินทร์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"นั่งกินนั่งคุยกันไปยาวๆไง” เกวรินทร์พูดพร้อมยกห่อขนมซองโตแกะเข้าปากด้วยใบหน้าระรื่น
RrrrrRrrrr
“สวัสดีค่ะ..อะไรนะคะ..”
“เป็นอะไรเอย” ทรายแก้วและเกวรินทร์ต่างละมือจากขนมมองหน้าเจ้าเอยด้วยความสงสัยเพราะหลังจากที่เจ้าเอยวางหูจากสายเมื่อครู่ได้ก็หน้าซีดหน้าเซียวนิ่งอึ้งไม่ยอมพูดอะไร
“พี่โอบเกิดอุบัติเหตุในสนามแข่งกำลังโคม่า” ริมฝีปากบางเอ่ยเสียงสั่นก่อนน้ำตาหยดน้อยจะเริ่มไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสายสองสาวที่นั่งฟังอยู่ก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกันเมื่อรู้ข่าว
เจ้าเอยคิดเอาไว้แล้วว่าอิทธิกรพี่ชายของเธอจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสักวันเธอขอให้เขาเลิกอาชีพนี้แต่พี่ชายเธอก็ไม่ยอมเลิกเสียทีอ้างแต่ว่าสามารถหาเงินจากทางนี้ได้มากกว่างานประจำ
วันต่อมา
เหนือเมฆชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทราคาแพงเดินดุ่มๆเข้ามาในคลับของนักแข่งที่น่านน้ำน้องชายของเขาสร้างเอาไว้
เหนือเมฆออกจากโรงพยาบาลหลังจากเยี่ยมน่านน้ำได้ก็ตรงเข้ามาที่นี่เพื่อมาหาเหล่าเพื่อนๆของน่านน้ำสอบถามว่าเรื่องที่น้องของเขาเกิดอุบัติเหตุในสนามแล้วโคม่าเป็นเพราะอะไร
"เกิดอะไรขึ้น" สายตาดุดันจ้องมองมายังชายหนุ่มกับอีกหนึ่งสาวตรงหน้าที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดไม่ยอมตอบอะไร
"น่านกับพี่โอบแข่งรถกันค่ะไม่รู้ว่ารถของพี่โอบผิดพลาดอะไรรถของพี่โอบถึงเสียหลักชนน่านจนเละกันทั้งคู่แบบนี้" เป็นมีนาที่เป็นเพื่อนสนิทและคู่ขาบางครั้งของน่านน้ำเอ่ยโพร่งออกมาขณะที่ทุกคนเอาแต่นิ่งเงียบ
"อืม..ฉันจะได้จัดการให้ถูกตัว" เหนือเมฆกำมือแน่นที่รู้ว่าความผิดพลาดเกิดจากอิทธิกรจากเดิมที่เขาไม่ชอบหน้าชายหนุ่มเพราะอิทธิกรได้ใจผู้หญิงที่เขาเฝ้าตามจีบไปครานี้เขายิ่งรู้สึกเกลียดที่อิทธิกรทำให้น้องชายของเขาต้องเจ็บปางตาย
“เข้าใจพูดดีนี่” หลังจากที่เหนือเมฆเดินออกไปแล้วมาร์คชายหนุ่มร่างสูงนักแข่งรถคู่หูของน่านน้ำตั้งแต่สมัยเรียนเปรยสายตามองมีนาด้วยสายตามีเลศนัยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
22.00
หลังเลิกเรียนวันนี้เกวรินทร์และทรายแก้วก็ขลุกรวมกันอยู่ที่บ้านหลังสีขาวริมแม่น้ำของเจ้าเอยเพราะกลัวเพื่อนตัวเองอยู่คนเดียวแล้วจะฟุ้งซ่าน
"ฮือๆๆ.. ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาผ่าตัดพี่ชายฉัน" เจ้าเอยมืดแปดด้านนั่งร้องให้ตัวโยนมาพักใหญ่ในห้องนอนหลังจากที่เธอเห็นสภาพพี่ชายนอนมีแต่สายระโยงระยางเต็มตัวก็หดหู่ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ก็ยังไม่หาย
"ฉันกับเกวจะลองยืมเงินคนที่บ้านให้พวกท่านน่าจะพอมีบ้าง" ทรายแก้วคุยกับเกวรินทร์คุยกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะใช้วิธีนี้ช่วยพี่ชายของเจ้าเอย
"ฉันขอบใจพวกแกมากเลยแต่ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกฉันรู้ว่าทางบ้านแกสองคนก็ลำบากมากอยู่เหมือนกัน" เจ้าเอยรู้เจตนาดีของเพื่อนๆแต่เธอก็อยากให้เพื่อนๆของพวกเธอเก็บเงินเอาไว้เพราะรู้ว่าทางบ้านของเพื่อนเธอทั้งสองก็มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่เหมือนกัน
"ลองให้พี่อินช่วยดีหรือเปล่า" ทรายแก้วเสนอขึ้นมาเพราะรู้ว่าเงินหกเจ็ดแสนค่าผ่าตัดอิทธิกรคุณหนูไฮโซอย่างอินทิราคงจะช่วยได้เพราะคนเป็นแฟนกันคงต้องช่วยกันอยู่แล้ว
"พี่โอบบอกเลิกพี่อินไปนานแล้ว" เมื่อพูดถึงอินทิราเจ้าเอยก็ก้มหน้างุดเพราะการเลิกลาของพี่ชายเธอและอินทิราเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักและตอนนี้ทั้งคู่ก็เลิกกันมาเป็นปีแล้วด้วย
"อ้าว.. ทำไมล่ะ" ทั้งเกวรินทร์และทรายแก้วก็ตกใจไปตามๆกันเพราะยังคิดว่าทั้งสองคนยังคบกันอยู่
"พ่อแม่ของพี่อินมาขอร้องให้พี่โอบเลิกกับลูกสาวเค้าเพื่อที่จะให้พี่อินมีอนาคตที่ดี" เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เจ้าเอยยอมปริปากบอกเพื่อนทั้งสองของเธอ
"แล้วพี่โอบก็ยอมอย่างนั้นหรอก" เกวรินทร์ขมวดคิ้วเป็นปมไม่คิดว่าเรื่องกีดกันความรักแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว
"พี่โอบรักพี่อินเกินกว่าจะฉุดพี่อินลงมาอยู่ด้วย" เจ้าเอยเอ่ยเสียงอ่อนจะว่าไปชีวิตรักของพี่ชายเธอก็น่าสงสารตั้งแต่เลิกกับอินทิราไปพี่ชายเธอก็ไม่สนใจใครอีกเลย
"นี่พี่อินก็ไม่รู้สาเหตุนี้ใช่ไหม" ทรายแก้วเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนเพราะเชื่อว่าหากอินทิรารู้ก็คงไม่ยอมไปจากอิทธิกรง่ายๆ
"อืม.." เจ้าเอยพยักหน้าเบาๆ