ตอนที่สอง ไม่อยากมีครอบครัว
โรงแรมxxx
ฟาทิทนั่งอยู่ริมระเบียงกว้างในห้องของโรงแรมหรูในย่านตัวเมืองกรุงเทพมหานคร
ฟาทิทเป็นหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทยตุรกีอายุ45ความสูงของเขาเกือบสองเมตรเป็นลูกครึ่งไทยตุรกีหุ่นล่ำบึกบึนสมส่วนผมสีน้ำตาลเข้มตัดลองทรงเซ็ทเนี้ยบใบหน้าเป็นสันคมมีไรหนวดเคราเล็กน้อยดวงตาหวานขนตางอนราวกับผู้หญิงนัยห์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่เมื่อใครได้มองเป็นดั่งต้องมนต์สะกดยากที่จะละสายตาคิ้วหนาเข้มได้รูปจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับอมชมพู
ฟาทิททำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมมีหุ้นส่วนมากมายทั้งในแคนาดาและซาอุดิอาราเบียและยังเป็นเจ้าของคาสิโนอีกหลายแห่งแถมยังมีหุ้นเล็กหุ้นน้อยในบริษัทอสังหาเรียกได้ว่าชีวิตของเขามีแต่งานรัดตัว
ที่ชีวิตของเขาสนใจแต่เพียงเรื่องงานเพราะธุรกิจมากมายล้วนแล้วแต่ตกทอดเป็นมรดกให้เขาเพียงแค่คนเดียว
และการที่เกิดมาเป็นลูกคนเดียวชีวิตแต่ละช่วงวัยก็จะไม่ได้ใช้ไปเหมือนคนอื่นเขาถูกฝึกมาเพื่อเป็นผู้นำชีวิตของเขาตั้งแต่เด็กๆจึงอยู่กับการฝึกการต่อสู้เรียนรู้การบริหาร
ไม่ได้มีสัมพันธ์ครอบครัวกับพ่อแม่เหมือนคนอื่นๆชีวิตจึงไม่ได้ใส่ใจที่จะหาคนรักเพราะคิดว่ามันไม่จำเป็นหากมีความต้องการของความเป็นบุรุษเพศเขาก็แค่ใช้เงินซื้อเท่านั้นเพราะเขาคิดว่าการมีครอบครัวทำให้เขาจะต้องหลุดโฟกัสกับการงานและเวลาส่วนตัว
เขาเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ โลกส่วนตัวสูง ชอบความเพอเฟคยิ่งเรื่องงานยิ่งเนี้ยบและคนที่ทำงานกับเขาได้ก็ต้องเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดเรื่องงานได้เป็นอย่างดีไม่อย่างนั้นก็จะถูกเขาอาละวาดใส่จนอยู่ไม่ได้
เวลานี้เขานั่งไขว่ห้างอยู่ในชุดคลุมสีดำนั่งจิบไวน์ราคาแพงอย่างสบายใจดวงตากลมโตนัยห์ตาฟ้าดูหวานปานผู้หญิงจ้องมองไปที่แสงสีของเมืองกรุงในตอนกลางคืน
เขาจำได้ว่าไม่ได้สัมผัสบรรยากาศที่นี่มาหลายปีแล้วหลังจากที่ยายของเขาเสียก็ไม่เคยได้กลับมาที่นี่อีกเลยเพราะงานรัดตัวจนวุ่นวาย
ครั้งนี้ที่มาเมืองไทยได้ก็เพราะเห็นว่างานสำคัญไม่ค่อยมีแล้วและใกล้จะครบรอบวันจากไปของคนเป็นยายจึงเลือกมาที่เมืองไทยในช่วงนี้
"ที่พักที่เขาใหญ่ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับนาย"
โรฮานเดินเข้ามารายงานคนเป็นนายเรื่องที่พักที่คนเป็นนายสั่งให้จัดการเมื่อมาถึงที่นี่
โรฮานคนสนิทมือขวาของฟาทิท เป็นคนตุรกีและเป็นหนุ่มโสดที่นิสัยค่อนข้างเหมือนเจ้านายผิดแค่ใจเย็นกว่ามากเขาอายุ 38 เป็นบอดี้การ์ดหนุ่มหน้าหล่อสาวที่ไหนเห็นเป็นต้องเหลียวแต่สายตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
โรฮานสูงใหญ่บึกบึนกว่าคนเป็นนายพอสมควรใบหน้าดุคิ้วเข้มตาคมนัยห์ตาสีน้ำข้าวผมหยิกยาวประบ่ารวบมัดตึงใบหน้ามีไรหนวดเคราเฟิ้มจมูกโด่งริมฝีปากไม่หนามากสีออกอมชมพู
โรฮานเป็นลูกชายของคนสนิทเก่าพ่อของฟาทิทเมื่อมีพ่อเป็นบอดี้การ์ดตัวเขาก็เลยซึมซับการต่อสู้และชีวิตบอดี้การ์ดมาตั้งแต่เด็กที่ว่านิสัยเหมือนเจ้านายคือบ้างานและรักความเป็นส่วนตัวพอกันแต่โรฮานเป็นคนที่ค่อนข้างสุขุม เยือกเย็นจะดูดุดันและว่องไวเมื่อมีอันตรายเท่านั้น
"อืม..พรุ่งนี้เราก็ออกเดินทางกันแต่เช้าเลย"
ใบหน้าคมพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะยกมือหนาปัดให้โรฮานไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้เขาต้องการออกเดินทางแต่เช้าตรู่
หลังจากที่มือขวาคนสนิทออกจากห้องไปฟาทิทก็ยกแก้วไวน์ถือเอาไว้พร้อมจิบเบาๆส่วนอีกมือก็ยกมือถือขึ้นมาเปิดรูปคนเป็นยายดูด้วยความคิดถึง
ในรูปเป็นหญิงชราผมขาววัยแปดสิบใบหน้าเหี่ยวย่นยิ้มแป้นอย่างมีความสุขเธอยืนตัวตรงไม่หลังค่อมหรือดูอ่อนแอเหมือนผู้สูงวัยทั่วไปด้วยดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
หากตอนนี้ยายของเขายังอยู่เมื่อรู้ว่าเขากลับมาเมืองไทยคงไม่วายเร่งเร้าให้รีบเข้าไปหา
ทั้งยังเตรียมอาหารโปรดมากมายไว้รอแต่ตอนนี้ไม่มีบรรยากาศแบบนั้นแล้วคิดแล้วเขาก็ใจหายไม่คิดว่ายายของเขาที่ยังแข็งแรงจะมาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ
หากเขาย้อนเวลากลับไปได้เขาจะใช้เวลากับยายของเขาให้มากที่สุดเพราะเมื่อเขาเด็กๆยายของเขาก็ทุ่มเวลาทั้งหมดให้เขาเช่นกันเพราะคนเป็นพ่อและแม่ยุ่งอยู่แต่กับงาน
"หากคุณยายยังอยู่ผมคงมีลูกแล้วใช่ไหมครับ"
ฟาทิทพูดพร้อมอมยิ้มอ่อนต่อหน้ารูปในมือเขายังจำคำขอร้องของยายเขาได้ดีเมื่อหลายปีก่อน
เหตุการณ์ครั้งนั้น
"เราควรจะรีบหาภรรยาแต่งงานมีลูกได้แล้วนะลูก" หลังจากที่ลูกเขยและลูกสาวเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกฉวีวรรณก็อยากให้หลานที่เป็นทายาทคนเดียวนั้นเริ่มมีทายาทได้แล้วเพราะอายุอานามก็เหมาะแก่การมีครอบครัว
"ผมไม่สนใจที่จะมีครอบครัวอยู่แล้วครับคุณยาย" ฟาทิทที่นั่งอยู่หน้าจอโน๊ตบุ๊คตอบปัดคนเป็นยายอย่างไม่ใส่ใจเรื่องทายาทเขาก็เคยคิดเอาไว้เหมือนกันแต่ไม่ใช่ตอนนี้ส่วนเรื่องมีครอบครัวตัดทิ้งไปได้เลยเพราะเขาไม่สนใจจะมีอยู่แล้ว
"ไม่ได้...ยังไงเราก็ต้องมีทายาทไม่อย่างนั้นใครจะเป็นคนบริหารงานต่อจากเรา" ฉวีวรรณเห็นจะให้เป็นอย่างที่หลานคนเดียวว่าไม่ได้
"ผมมีได้นะครับแต่ผมคงไม่มีภรรยา" ชายหนุ่มปิดจอโน๊ตบุ๊คก่อนจะเงยหน้ามาคุยกับคนเป็นยายจริงจังถึงวิธีที่เขาเคยคิดเอาไว้
"เราจะทำยังไง" ฉวีวรรณมองหลานชายด้วยสายตาสงสัย
และแล้วฟาทิทก็เสนอวิธีของเขาให้กับยายได้ฟังเขาเสนอว่าเขาจะให้สเปริ์มและให้ยายของเขาหาผู้หญิงที่ยายเขาคิดว่าสมบูรณ์แข็งแรงมาเป็นแม่อุ้มท้องลูกของเขาโดยการทำกิฟท์หลังจากเด็กคลอดมาแล้วเขาก็จะขอเลี้ยงลูกเพียงคนเดียว
คราแรกที่ฉวีวรรณได้ฟังก็ตกใจไม่น้อยแต่ไม่นานก็ต้องยอมข้อเสนอเดียวของเขาเพราะหากยายของเขาไม่เห็นด้วยเขาก็ไม่ยอมทำวิธีอื่น
สามวันต่อมา
"กลับมาแล้วค่า.." พลอยฝนอุ้มหลานสาวตัวจ้ำม่ำน่ารักราวกับตุ๊กตาเพราะมีผิวขาวตากลมโตนัยห์ตาสีฟ้าน้ำทะเลผมสีน้ำตาลถักเปียสองข้างวัยสามขวบเข้ามาในคลินิกหลังจากที่ไปรับมาจากศูนย์เด็กเล็ก
พอพลอยฝนวางเจ้าก้อนกลมได้เด็กหญิงตะวันฉายก็วิ่งตัวป้อมไปหาคนเป็นแม่ด้วยความรวดเร็วพร้อมส่งเสียงใสแจ๋วเอ่ยคำหวานให้คนเป็นแม่ได้ชื่นใจหายเหนื่อย
"คุณแม่ขา...ตะวันคิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ"
ฟอด...
"ปากหวานกับแม่อีกแล้วแบบนี้จะไม่ให้หลงได้ยังไงคะ" พรฟ้าอุ้มลูกสาวสุดที่รักก่อนจะกดจมูกหอมไปที่แก้มพองๆของเด็กหญิงฟอดใหญ่