ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 25 รุกคืบ
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 25 รุกคืบ
สำนักตะวันหาญ
ดินแดนหวงห้ามหลังภูเขา
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ซ่งหยางก็ค่อย ๆ ก้าวเข้าไป
"ท่านบรรพบุรุษสูงสุด ไม่ทราบว่าท่านเรียกข้ามาด้วยเรื่องใดหรือ"
ซ่งหยางถามด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
"ซ่งหยาง......"
"เจ้าสามารถเพิ่มพูนฐานพลังยุทธ์ไปถึงขอบเขตกึ่งทารกเซียนภายในเวลาเพียง 50 ปี ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าแล้ว อนาคตข้างหน้าช่างมิอาจจำกัดได้จริง ๆ!!"
เมื่อหันหลังให้ซ่งหยาง กู่เจิ้น บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักตะวันหาญก็เอ่ยถ้อยคำพูดที่ฟังแล้วเหมือนกับสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่เข้ากับเรื่องที่ถามเลยสักนิด
แต่ในไม่ช้า
กู่เจิ้นก็ไม่ได้ทำท่าทีเสแสร้งต่อไปอีก
เพราะเขารู้
อีกไม่นานนัก ซ่งหยางผู้นี้ก็จะกลายเป็นผู้ที่เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้ว
......
เวลาผ่านไป
ประมาณครึ่งชั่วโมงเต็มแล้ว
ซ่งหยางจึงค่อย ๆ ออกมาจากดินแดนหวงห้ามหลังภูเขาของสำนักตะวันหาญอย่างเชื่องช้า
เมื่อออกมาแล้ว
เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย
ครุ่นคิดถึงถ้อยคำที่บรรพบุรุษสูงสุดกู่เจิ้นเอ่ยไว้เมื่อครู่
ท่าทีบนใบหน้ายังคงเลือนลางอยู่
"ดินแดนเต๋าอนันต์ เป็นเพียงดินแดนหนึ่งในพันส่วนของมณฑลตงหวงเท่านั้นหรือ"
"สำนักตะวันหาญ......"
"ก็เป็นเพียงแค่สำนักสาขาหนึ่งของนิกายหมื่นอัคคี ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำขนาดใหญ่ในมณฑลตงหวงเท่านั้น"
เมื่อครั้งแรกที่ซ่งหยางได้ฟังข่าวนี้
เขายังคงไม่ค่อยปักใจเชื่อเท่าไร
เขาไม่เชื่อว่าดินแดนเต๋าอนันต์ที่มีขนาดใหญ่โตในสายตาของเขานั้น จะเป็นเพียงหนึ่งในพันกว่าส่วนของมณฑลตงหวงเท่านั้น
เขาไม่เชื่อว่าสำนักตะวันหาญที่ดูเหมือนยักษ์ใหญ่ในสายตาของเขา
จะเป็นเพียงแค่สำนักสาขาหนึ่งของนิกายหมื่นอัคคีเท่านั้น
ถึงกระนั้น......
แม้ไม่เชื่อ แต่จะมีประโยชน์อะไร
ตามกาลเวลาที่ผ่านไป
ซ่งหยางก็ค่อย ๆ ยอมรับข้อมูลที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน เกี่ยวกับโลกที่กว้างใหญ่นี้อย่างช้า ๆ
"หวังว่า เขาคงจะยังจำความดีของข้าในตอนนี้ได้......"
ที่ดินแดนหวงห้ามหลังภูเขานั้น
กู่เจิ้น บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักตะวันหาญค่อย ๆ ส่ายหน้า
เดินออกจากดินแดนหวงห้าม
จ้องมองไปยังทิศทางที่อยู่ไกลโพ้น
ม่านตาหรี่ลงเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปที่ทิศทางหนึ่ง
ทิศทางนั้น
คือที่ตั้งของราชวงศ์หลัว และตระกูลหลัว
"ตระกูลหลัว รวมถึงขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังตระกูลหลัว ร้อยปีที่ผ่านมาพวกเจ้าน่าจะพอใจแล้วกระมัง"
หลังจากพึมพำกับตัวเองแล้ว
กู่เจิ้นก็โบกมือ
เรียกให้จ้าวสำนักคนปัจจุบันของสำนักตะวันหาญมา
เริ่มค่อย ๆ สั่งการ
[รวบรวมศิษย์สำนัก 2 ล้านกว่าคน นั่งเรือเหาะอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด 200 ลำยกพลออกสำนัก เพื่อทำลายล้างตระกูลหลัว และขุมอำนาจขอบเขตเซียนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลหลัว!]
ส่วนเหตุผลที่กู่เจิ้นไม่เป็นกังวลว่าตนจะรับมือไม่สามารถรับมือกับขุมอำนาจขอบเขตเซียนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลหลัว
เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว
เพราะสำนักตะวันหาญสังกัดนิกายหมื่นอัคคี 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำขนาดใหญ่ของมณฑลตงหวง ซึ่งเป็นสำนักสาขาหนึ่งของนิกายนั้น
ภายในดินแดนเต๋าอนันต์นี้
ขุมอำนาจชั้นนำ หรือขุมอำนาจระดับ 1
ล้วนไม่กล้าทำอะไรสำนักตะวันหาญ เพราะมีนิกายหมื่นอัคคีอยู่เบื้องหลัง
ส่วนหากเป็นขุมอำนาจระดับ 2 หรือระดับ 3 ล่ะก็
ถึงแม้กู่เจิ้นจะไม่ได้อ้างอิงชื่อนิกายหลักอย่างนิกายหมื่นอัคคี
ก็ยังสามารถกำจัดขุมอำนาจระดับ 2 หรือแม้แต่ระดับ 3 ในดินแดนเต๋าอนันต์ได้อย่างง่ายดายอยู่ดี
ดังนั้น
เขาจะกลัวอะไรได้
......
ไม่นาน
หลังจากที่บรรพบุรุษสูงสุดกู่เจิ้นแห่งสำนักตะวันหาญสั่งการลงไป
ทั่วทั้งสำนักตะวันหาญก็เริ่มเคลื่อนไหวกันขึ้นมา
เรือเหาะอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดอันล้ำค่า 200 ลำล้วนค่อย ๆ ลอยขึ้นกลางอากาศ
ศิษย์สำนักตะวันหาญกว่า 2 ล้านคนก็ค่อย ๆ ขึ้นเรือเหาะ ตามการบัญชาการของผู้อาวุโสสำนัก
จนกระทั่งเตรียมพร้อมทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว
บรรพบุรุษสูงสุดกู่เจิ้นแห่งสำนักตะวันหาญ จึงได้พาซ่งหยางผู้มีพรสวรรค์ราวปีศาจขึ้นไปด้วย
นั่งอยู่บนเรือเหาะอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดลำหนึ่ง
ค่อย ๆ มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ราชวงศ์หลัวตั้งอยู่
เทียบกับการเคลื่อนไหวของสำนักตะวันหาญแล้ว
ขณะนี้ที่บริเวณแนวชายแดนของราชวงศ์หลัว
3 ราชวงศ์ใหญ่ที่อยู่ติดกัน
ราชวงศ์หยินเยว่
ราชวงศ์ฉื่อเหยียน
และราชวงศ์ชิงซาน
ทั้งสามราชวงศ์ใหญ่นี้ เหมือนจะมีการเคลื่อนไหวเช่นกัน
มีกองกำลังทหารปกติประมาณ 20 ล้านนาย
และกองทัพที่ประกอบด้วยผู้บำเพ็ญเพียรกว่า 3 ล้านนาย กำลังเคลื่อนพลมารวมกันที่ชายแดนทั้งสามราชวงศ์
และกำลังเคลื่อนทัพมุ่งหน้ามายังแนวชายแดนของราชวงศ์หลัวด้วยความเร็วมหาศาล
เหมือนคลื่นยักษ์ที่ทำลายล้างฟ้าดิแดน
ทั้งเหมือน......
ต้องการทดสอบขีดจำกัดของราชวงศ์หลัว
แต่ในขณะเดียวกัน......
เหมือนจะร่วมมือกันเพื่อทำลายล้างราชวงศ์หลัวทั้งราชวงศ์
เมื่อราชวงศ์หลัวถูกทำลายล้างแล้ว ดินแดน ผู้คนนับล้าน และทรัพย์สมบัตินานาชนิดที่ราชวงศ์หลัวทิ้งไว้ ก็คงจะถูกแบ่งสรรปันส่วนจนหมดสิ้นโดยสามราชวงศ์ใหญ่นี้
......
แน่นอน ภายในดินแดนเต๋าอนันต์
การที่สามราชวงศ์ใหญ่สามารถตัดสินใจร่วมมือกันได้ในเวลาเดียวกัน
ย่อมต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง
ณ ราชวงศ์หลัว นครจักรพรรดิ
ในห้องที่ดูมืดทึมเล็กน้อยแห่งหนึ่งของอาณาเขตตระกูลหลิน
ใน 4 ตระกูลชั้นนำของราชวงศ์
มี 3 ตระกูลใหญ่ กำลังชุมนุมกันอยู่ที่นี่ เหมือนกำลังปรึกษาหารือกันเรื่องบางอย่าง
"จ้าวตระกูลหลิน ทุกคนรู้กันดีว่าในราชวงศ์หลัวนั้น ตระกูลหลัวเป็นใหญ่"
"การที่ท่านเรียกพวกเราทั้งหมดมาที่นี่อย่างเปิดเผยเช่นนี้"
"ท่านไม่กลัวตระกูลหลัวจะระแวงหรือ"
ในห้อง
ข้างโต๊ะกลม
จ้าวตระกูลไป๋ผู้เป็นหนึ่งใน 4 ตระกูลชั้นนำในปัจจุบัน
ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
ดูเหมือนกำลังตำหนิการกระทำของตระกูลหลิน
"จ้าวตระกูลไป๋"
"ท่านกับข้าต่างก็รู้กันดีอยู่แก่ใจ จะมาปิดบังอะไรกัน"
เห็นได้ชัดว่าแม้จะโดนตำหนิจากจ้าวตระกูลไป๋
จ้าวตระกูลหลินในปัจจุบัน ไม่ได้มีความร้อนรนแม้แต่น้อย
จ้าวตระกูลหลินยังแสดงรอยยิ้มเยือกเย็นออกมาอีก
มองไปยังผู้คนในที่นี้
พลางเอ่ยช้า ๆ ว่า
"ตระกูลหลัวโหดเหี้ยมทารุณ ตอนนั้นตระกูลหลัวก็ยึดครองแผ่นดินมาจากราชวงศ์ต้าเหยียน และตระกูลเกอ"
"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราไม่อาจจะเลียนแบบการกระทำของตระกูลหลัวบ้างหรือ"
"อาศัยความโลภของสามราชวงศ์ใหญ่"
"ประกอบกับพลังของพวกเราสามตระกูลใหญ่ เพื่อช่วงชิงและแบ่งสรรแผ่นดินสามส่วน"
"เช่นนี้แล้ว ไม่ดีหรือ"
คำพูดของจ้าวตระกูลหลิน
ทำให้ระยะห่างระหว่างสามตระกูลชั้นนำแคบลงในพริบตา
ใช่แล้ว
จ้าวตระกูลหลินพูดได้ดี
ตระกูลหลัวโหดร้ายอำมหิต
ตอนที่ตระกูลหลัวขึ้นมาครองราชย์ได้ ก็ยึดครองแผ่นดินมาจากตระกูลเกอไม่ใช่หรือ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้
หากพวกเขาสามตระกูลใหญ่ร่วมมือกัน
อาศัยความโลภของสามราชวงศ์ใหญ่ด้านนอก
ประกอบกับพลังของพวกเขาสามตระกูลใหญ่ที่แข็งแกร่ง
ทำลายล้างตระกูลหลัว
ช่วงชิงแผ่นดินราชวงศ์หลัวแบ่งออกเป็นสามส่วน
ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ
อย่างไรก็ตาม คนสามัญย่อมเป็นแค่คนสามัญ
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ
ขณะนี้ ด้านนอกห้อง
มีสมาชิกตระกูลหลัวในขอบเขตกลั่นเทพกว่าร้อยคน และขอบเขตทารกเซียนอีกคนหนึ่งกำลังซุ่มซ่อนอยู่ในที่ต่าง ๆ
สอดส่องดูการกระทำทุกอย่างทั้งหมดของสามตระกูลใหญ่เหล่านี้อยู่