ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 23 ร้อยปีผันผ่าน
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 23 ร้อยปีผันผ่าน
อาณาเขตตระกูลหลัว
ในห้องหนึ่ง
มีชายหนุ่มที่ไร้อารมณ์ รอบกายปกคลุมไปด้วยสง่าราศีอันน่าเกรงขาม
กำลังนั่งบนเก้าอี้หนึ่งตัวอย่างสงบนิ่ง
พลิกอ่านเอกสารฉบับหนึ่ง
"ราชวงศ์ชิงซาน......"
"ราชวงศ์หยินเยว่......"
"ราชวงศ์ฉื่อเหยียน......"
"ในดินแดนเต๋าอนันต์นี้ ราชวงศ์ที่สามารถเทียบเท่าขุมอำนาจระดับ 3 กลับยกกำลังพลมารวมพลกันที่แนวชายแดนของราชวงศ์หลัวของข้า"
"หรือว่า ต้องการจะร่วมมือกัน 3 ราชวงศ์ใหญ่ เพื่อทำลายล้างราชวงศ์หลัวของข้า?"
เมื่อเห็นข้อมูลในเอกสารนี้แล้ว
ชายหนุ่มก็อดหัวเราะเย็นชาไม่ได้
ไม่นาน เขาก็ปิดเอกสารในมือฉบับนั้น
แล้วเปิดอ่านเอกสารอีกฉบับหนึ่ง
[ในราชวงศ์หลัว 3 ตระกูลชั้นนำ ตระกูลหลิน, ตระกูลไป๋, ตระกูลเหยียน แอบติดต่อกับ 3 ราชวงศ์ใหญ่ ราชวงศ์ชิงซาน, ราชวงศ์หยินเยว่, ราชวงศ์ฉื่อเหยียน หวังจะก่อการกบฏ!!]
บนเอกสาร
ใช้เป็นอักษรสีแดง
นี่แสดงถึงความสำคัญของเอกสารฉบับนี้
กระนั้น ถึงแม้จะเป็นเอกสารเช่นนี้
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนตำแหน่งหลักของห้อง
ก็ยังคงไม่มีท่าทีใด ๆ เลย
เมื่ออ่านเสร็จแล้ว ก็วางมันลงอย่างช้า ๆ
"เป็นเพราะคนตระกูลหลัวของข้า ไม่ได้ปรากฏตัวมาร้อยกว่าปี ดังนั้นเหล่าขุมอำนาจภายในราชวงศ์หลัวจึงลืมความเจ็บปวดเมื่อร้อยกว่าปีก่อนไปแล้วหรือ?"
"เฮอะ ช่างไร้เดียงสาเสียจริง"
ภายในห้อง
เสียงเย็นชาของชายหนุ่มที่มีแววล้อเลียนเล็กน้อยดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
ส่วนข้าง ๆ ตัวชายหนุ่มนั้น
หลัวจิ่วเกอ กำลังไพล่มือไว้ข้างหลัง หรี่ตาเล็กน้อย
บนใบหน้ามีรอยยิ้มจาง ๆ เคลือบคลุมอยู่
ชายหนุ่มในห้องนั้น......
เขาได้สังเกตเห็นมาพักหนึ่งแล้ว
......
‘ได้เป็นถึงจ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบันแล้วหรือ?’
‘นั่นก็แสดงว่า หลัวอี้คนนั้นได้ลงจากตำแหน่งไปแล้ว?’
หลัวจิ่วเกอพยักหน้า
จากนั้นค่อย ๆ เดินไปนั่งลงข้าง ๆ ชายหนุ่มคนนั้น
ชายหนุ่ม
ชื่อว่าหลัวเหิง
เมื่อร้อยปีก่อน หลัวเหิงถูกเลือกโดยหลัวอี้ให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งจ้าวตระกูลหลัวคนต่อไป
ถึงแม้ว่าหลัวเหิงจะเป็นบุตรชายของหลัวอี้
แต่ก็ต้องยอมรับว่า
เด็กหนุ่มคนนี้ เขามีศักยภาพที่จะเป็นจ้าวตระกูลหลัวคนต่อไปได้จริง ๆ
ดังนั้นตอนนั้น หลัวจิ่วเกอจึงไม่ได้คัดค้านอะไร
"เจ้าวางแผนไว้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป?"
หลัวจิ่วเกอเอ่ยถาม
ส่วนหลัวเหิงที่ปกติไม่ค่อยแสดงสีหน้า
ในใจตอนนี้กลับรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา
‘เป็นใครกัน?’
หลัวเหิงขมวดคิ้วน้อย ๆ ครุ่นคิดอยู่ในใจ
ด้วยพลังอำนาจและพื้นฐานของตระกูลหลัวในตอนนี้
ไม่ควรจะมีใครสามารถแอบเข้ามาในห้องทำงานของจ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบันได้โดยไม่มีเสียงสนั่นแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าหลัวเหิงจะฝึกวิชายังไม่นานนัก
แต่เขาก็เป็นผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตทารกเซียน
ถึงแม้ว่าจะอยู่แค่เพียงขอบเขตทารกเซียน 3 สวรรค์ก็ตาม
"อย่ากังวล"
"ผ่อนคลาย"
หลัวจิ่วเกอหัวเราะ แล้วยื่นมือออกไปตบไหล่ของหลัวเหิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เบา ๆ
จากนั้นก็ถามต่อไปอีก
"เจ้าวางแผนจะทำอย่างไรต่อไป?"
ครั้งนี้
หลัวเหิงก็ค่อย ๆ คลายความกังวลในใจลง
ในที่สุด ผู้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
ก็คือท่านบรรพบุรุษที่เป็นตำนานของตระกูลหลัว หลัวจิ่วเกอ
"ท่านบรรพบุรุษ"
"จริง ๆ แล้ว ข้าได้วางแผนไว้แล้ว"
"ด้วยพลังอำนาจในตอนนี้ของราชวงศ์หลัว ของตระกูลหลัวของข้า"
"ราชวงศ์ชิงซาน ราชวงศ์หยินเยว่ ราชวงศ์ฉื่อเหยียน ทั้งสามราชวงศ์ใหญ่ ยังไม่พอจะคุกคามพวกเราได้"
"ส่วน 3 ตระกูลชั้นนำของราชวงศ์หลัว ตระกูลหลิน ตระกูลไป๋ และตระกูลเหยียน ข้าจะทำให้พวกเขาหายสาบสูญไปจากโลกนี้"
พูดถึงแผนการต่อจากนี้ไป
ใบหน้าของหลัวเหิงก็ค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มมั่นใจ
ราวกับสำหรับเขาแล้ว
สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องที่ยากจะแก้ไข
"ทำให้พวกเขาหายสาบสูญไปจากโลกนี้หรือ?"
หลัวจิ่วเกอพยักหน้า
แล้วก็กล่าวต่อ
"เด็กน้อย วิธีการของเจ้าไม่เลวเลย"
"ในโลกมนุษย์เช่นนี้ ความปรานีในใจของเจ้าไม่ควรแสดงออกต่อคนนอก"
"หากเจ้าต้องการให้คนอื่นรู้สึกเกรงกลัวเจ้า"
"หากเจ้าต้องการให้คนอื่นสยบยอมต่อเจ้า"
"ใจของเจ้าต้องดำพอ"
พูดจบแล้ว
หลัวจิ่วเกอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
มองไปที่หลัวเหิงในห้องเป็นครั้งสุดท้าย
แล้วก็หายตัวไปจากห้องอย่างเงียบ ๆ
ส่วนในห้อง
หลัวเหิง ตอนนี้ก็กำลังเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย
จ้องมองไปที่ทิศทางที่ร่างของท่านบรรพบุรุษหายไป พลางพึมพำกับตัวเอง
"ท่านบรรพบุรุษ ข้ารับทราบแล้ว"
"ข้าจะนำพาตระกูลหลัวให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ"
......
เช่นนี้แล้ว
หลังจากที่หลัวเหิงผู้เป็นจ้าวตระกูลคนปัจจุบันได้พบบรรพบุรุษแล้ว
เขาก็ใส่ใจในการจัดการกับกิจการของตระกูลมากขึ้น
จริงจังและเคร่งเครียดมากขึ้น
ส่วนหลัวจิ่วเกอที่จากมาจากห้องนั้นแล้ว
ตอนนี้กำลังเดินเตร่ไปคนเดียวอย่างช้า ๆ ภายในอาณาเขตทั้งหมดของตระกูลหลัว
"เหมือน......"
"การเปลี่ยนแปลง จะชัดเจนเป็นพิเศษ!"
ใช่แล้ว
เมื่อร้อยปีก่อนในอาณาเขตตระกูลหลัว
บางสถานที่ บางสิ่งอำนวยความสะดวก อาจจะยังไม่สมบูรณ์สักเท่าไร
แต่อาณาเขตตระกูลหลัวในตอนนี้
ราวกับได้เปลี่ยนโฉมไปทั้งหมด
กลายเป็นที่ซึ่งรุ่งเรืองมากกว่าเดิม
กลายเป็นที่ซึ่งมีการคุ้มครองอย่างเข้มงวดมากกว่าเดิม
ระดับความเข้มข้นของปราณวิญญาณเหมือนจะ แข็งแกร่งกว่าเมื่อร้อยปีก่อนอีกหลายเท่า
"เป็นเพราะสินแร่หินวิญญาณระดับสูงสุดที่อยู่ใกล้เคียงนั่นหรือ?"
ตามตรงแล้ว ตอนแรกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย
สินแร่หินวิญญาณระดับสูงสุด ยังมีพลังเช่นนี้ได้ด้วย
กลับเพิ่มระดับความเข้มข้นของปราณวิญญาณรอบ ๆ ขึ้นมาได้
นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจไม่น้อย
......
ระหว่างที่กำลังเดินอยู่คนเดียว
ทันใดนั้น หลัวจิ่วเกอก็มาถึงด้านหลังภูเขาแห่งหนึ่งในอาณาเขตตระกูลหลัว
จากนั้นก็ค่อย ๆ หยุดเดินลง
หาใช่เพราะสิ่งอื่นใด
แต่เป็นเพราะ ที่นี่มีอำนาจกระบี่ที่แหลมคมอย่างยิ่งกำลังค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น
"เป็นเด็กน้อยคนนั้นหรือ?"
หลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่ง หลัวจิ่วเกอก็เดินช้า ๆ ไปยังทิศทางที่อำนาจกระบี่แผ่ซ่านอยู่
แน่นอน ในไม่ช้า
ตรงหน้าของหลัวจิ่วเกอ ก็ปรากฏชายหนุ่มท่อนบนเปลือยเปล่า
กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้น้ำตก
เหมือนกำลังตระหนักรู้ถึงอะไรบางอย่างอยู่
"ยังคงเป็นเด็กน้อยคนนั้นจริง ๆ"
"ยังชอบฝึกฝนตามลำพังเช่นเคย"
หลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของขอบเขตกายาเต๋า 2 สวรรค์ที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่มเป็นระยะ ๆ และอำนาจกระบี่ที่แหลมคมยิ่งนั้น
หลัวจิ่วเกอก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้
ชักกระบี่ที่เต็มไปด้วยสนิมที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา
แกว่งไปมาช้า ๆ
......
ในช่วงร้อยปีนี้
หลัวจิ่วเกอมิได้มีเพียงพลังยุทธ์เท่านั้นที่ได้รับการยกระดับขึ้นอย่างใหญ่หลวง
อันที่จริงแล้ว ความเข้าใจในเต๋ากระบี่ของเขา
ก็ได้บรรลุถึงระดับกฎเต๋ากระบี่แล้ว
ถึงแม้ว่า......
สำหรับกฎกระบี่
ความเข้าใจของหลัวจิ่วเกอ มีเพียง 5% จากเศษเสี้ยวกฎเท่านั้น
แต่กระนั้น
ความเข้าใจในเต๋ากระบี่ของเขา
ก็เพียงพอที่จะรับการขนานนามว่าเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนเต๋าอนันต์นี้แล้ว
อย่างไรเสีย
กฎนั้น คือพลังแห่งฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่
1% ก็ทำลายฟ้าดินได้แล้ว
ส่วนพลังทำลายล้างที่ 5% สามารถปลดปล่อยออกมา
มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจประเมินได้
......
แน่นอน นอกจากความแข็งแกร่งในด้านพลังยุทธ์และการใช้กระบี่แล้ว
ในช่วงร้อยปีนี้
ระบบยังได้สับเปลี่ยนสินค้าลดราคาอีกประมาณ 5,000 กว่าครั้ง
เพียงแต่ ดูเหมือนว่า เนื่องจากจำนวนครั้งในการสับเปลี่ยสินค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
โอกาสที่จะมีสินค้าระดับเทพปรากฏจึงน้อยลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ไม่สำคัญอะไรสำหรับหลัวจิ่วเกอแล้ว
เพราะ......
เพียงแค่ 5,000 กว่าครั้งนั้น
ก็เพียงพอที่จะทำให้หลัวจิ่วเกอสามารถขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้ได้อย่างสบาย ๆ แล้ว