ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 20 เคล็ดหลอมกายเปลวไฟยมโลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 22 ปิดด่าน

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 21 เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 21 เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว

เปลวไฟผีนรก

นี่เป็นเปลวไฟชนิดหนึ่งในนรกยมโลก

พลังมหาศาลน่าสะพรึงกลัว

ไม่เพียงแต่แผดเผาเนื้อหนังมังสาจนไม่สามารถฟื้นฟูด้วยพลังงานชีวิตตนเองได้

แม้แต่......

ยังเผาไหม้จิตวิญญาณได้ด้วย

ดังนั้น สำหรับเปลวไฟประเภทนี้ในตำนาน

ผู้คนต่างเคารพนับถือ และหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

แต่ตอนนี้ เนื่องจากวรยุทธ์ระดับกึ่งเทพ เคล็ดหลอมกายเปลวไฟยมโลก หลัวจิ่วเกอจึงชักนำเปลวไฟผีนรกที่อยู่ในนรกยมโลกมาหลอมกายได้

พูดตามตรง ประสบการณ์นี้ช่างพิเศษแปลกมหัศจรรย์ยิ่งนัก

.....

เวลาผ่านไป

ในพริบตา วันใหม่ก็ค่อย ๆ ผ่านพ้นไปอีกครั้ง

อาณาเขตตระกูลหลัว

ภายในลานโบราณแห่งหนึ่ง

หลัวจิ่วเกอหลับตา นั่งขัดสมาธิ

บนร่างของเขามีกลิ่นอายบางอย่างที่ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาด และเย็นยะเยือกแผ่ออกมาเป็นระยะ ๆ

"ฟู่...."

จวบจนเวลาผ่านไปอีก 5 นาที

เขาถึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

ถอนลมหายใจขุ่นมัว

การหลอมกายด้วยเปลวไฟผีนรก ความรู้สึกนี้ทรมานอย่างมาก

ทรมานพอที่จะทำให้คนรู้สึกอยากตายทั้ง ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่

แม้ว่า หากมีจิตใจที่อ่อนแอ ก็สามารถทำให้เสียสติได้เพราะความเจ็บปวด

แต่......

เผชิญหน้ากับการกระทำที่ใช้เปลวไฟผีนรกหลอมกายครั้งนี้

หลัวจิ่วเกอกลับคิดว่า

นี่สามารถฝึกฝนจิตใจของเขาได้

ขัดเกลาความมุ่งมั่น

คิดแบบนี้แล้ว เขากลับรู้สึกเพลิดเพลินกับความทรมานเช่นนี้เสียอีก

บ้าบอหรือไม่?

ไม่น่าจะใช่

เพราะว่า หลังจากความเจ็บปวดนั้น

เขารู้สึกว่าร่างกาย และพลังจิตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ

ช่างยอดเยี่ยม

.....

ภายในลาน

ภายในซุ้มหิน

หลัวจิ่วเกอนั่งเงียบ ๆ บนม้านั่งหิน

ด้านหน้าวางกาน้ำชาไม้

มือถือถ้วยน้ำชาไม้อยู่

เช่นนี้แล้ว

เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

สองตาจ้องมองตรงหน้าเหม่อลอยเล็กน้อย

"ฟู่...."

"ฟู่...."

ทันใดนั้น

ก็พัดพาสายลมมา

หลัวจิ่วเกอจึงตื่นขึ้นมา

เขาคิดถึงการพัฒนาของตระกูลหลัวต่อจากนี้ไป

ยิ่งไปกว่านั้น ยังคิดว่าจะใช้วรยุทธ์ระดับกึ่งเทพในมืออย่างไร เพื่อเสริมสร้างพลังโดยรวมของตระกูลหลัวได้

ส่วนทำไมเขาจึงคิดถึงวิธีเสริมสร้างพลังของตระกูลอยู่เสมอ

จริง ๆ แล้วเหตุผลก็ง่ายมาก

เพียงตัวคนเดียวก็อาจอยู่รอดในโลกนี้ได้

แต่ถ้าสามารถพึ่งพาขุมอำนาจเบื้องล่างและปกครองโลกนี้ได้

แล้วยังสามารถรวบรวมทรัพยากรนานาชนิด

ครอบครองทั้งตระกูล เพื่อนำพาโชคชะตามาให้ตนเอง

เส้นทางการบำเพ็ญเพียรของเขา จะราบรื่นขึ้นอีกมาก

แน่นอน

นี่เป็นเพียงแค่คำพูดภายนอก

ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือหลัวจิ่วเกอค่อนข้างกลัวความรู้สึกโดดเดี่ยว

ความรู้สึกที่เป็นคนเดียวที่ข้ามมายังในโลกนี้

ไม่มีใครผูกพัน

ช่างรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก

.....

เวลาผ่านไป

ในพริบตา แสงตะวันจ้าแล้วพุ่งขึ้นสู่ฟ้า

ชาวนครจักรพรรดิส่วนใหญ่ในราชวงศ์หลัวในขณะนี้ ต่างก็เดินออกจากบ้าน

เริ่มยุ่งวุ่นวายขึ้นเรื่อย ๆ

แม้จะเหนื่อย แต่ก็สามารถเลี้ยงชีพและครอบครัวด้วยฝีมือของตนเอง

ไม่ต้องผ่านสงคราม

ไม่ต้องเผชิญกับอันตราย

ชีวิตเช่นนี้ ดูเหมือนจะดีไม่น้อยกระมัง?

"ท่านบรรพบุรุษ"

อาณาเขตตระกูลหลัว

ด้านนอกลานแห่งหนึ่ง

หลัวอี้ก้มหน้าลงเล็กน้อย

ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ

เดินเข้าไปในลานที่แผ่กลิ่นอายโบราณนั้น

"มาแล้วหรือ?"

"เอาวิชานี้ไป ไปสั่งสอนลูกหลานของเราในตระกูล"

เมื่อเห็นหลัวอี้มาถึง

หลัวจิ่วเกอค่อย ๆ หยิบตำราเล่มหนึ่งที่ปกดูเก่าเหลืองเล็กน้อย

บนตำราเขียนอักษรไม่กี่ตัว

[เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว]

ใช่แล้ว

ก็คือ [เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว] นี่เอง

ส่วนต้นฉบับของ [เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว] นี้

คือ 3 ขั้นแรกของวรยุทธ์ระดับกึ่งเทพ [เคล็ดหลอมกายเปลวไฟยมโลก]

แน่นอน

ก็มีแค่ 3 ขั้นแรก

แล้วก็ต้องมีเพียง 3 ขั้นแรกเท่านั้น

ในนั้น ขั้นที่ 1 สอดคล้องกับขอบเขตควบแน่นทารก

ขั้นที่ 2 สอดคล้องกับขอบเขตกลั่นเทพ

ขั้นที่ 3 สอดคล้องกับขอบเขตทารกเซียน

ส่วน 6 ขั้นหลังนั้น

ก็จารึกไว้ในจิตใจของหลัวจิ่วเกอแล้ว

หากมีคนในตระกูลหลัวฝึกฝน 3 ขั้นแรกเสร็จ เขาจะสอนวิธีฝึกฝน 6 ขั้นหลังด้วยตนเอง

แต่หากฝึก 3 ขั้นแรกยังไม่จบ

ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะสัมผัสวิธีฝึกฝน 6 ขั้นหลัง

อันที่จริง นอกจากจุดนี้แล้ว

หลัวจิ่วเกอยังทำเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้วิชานี้รั่วไหลด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว จิตใจมนุษย์เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกแฟนตาซีที่มีมนุษย์ป่าเถื่อแทบจะกินคนเช่นนี้

หลัวจิ่วเกอจึงต้องป้องกันไว้ก่อน

......

"[เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว]?"

ภายในลาน

หลัวอี้ จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน

มองดูวิชาในมือของบรรพบุรุษตนแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

แต่ในไม่ช้า เขาก็ค่อย ๆ รับมาด้วยความระมัดระวัง

หลังจากออกจากลานนั่นแล้ว

เขาจึงกล้าพลิกอ่านตำราที่ปกเก่าเหลืองเล่มนั้นอย่างละเอียด

"เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว คือการเรียกเปลวไฟผีนรกจากนรกยมโลก มาหลอมกายจนร่างกายคืบหน้าขึ้นเรื่อย ๆ"

"วิชานี้มีทั้งหมด 9 ขั้น"

"แต่ในตำราบันทึกเพียง 3 ขั้นรึ?"

มาถึงตรงนี้

คิ้วของหลัวอี้ที่ขมวดอยู่แล้วเล็กน้อย

ตอนนี้ขมวดแน่นขึ้นอีก

9 ขั้น?

แต่มีให้ 3 ขั้น?

หากเคล็ดหลอมกายตระกูลหลัวนี้มีทั้งหมด 9 ขั้น

ทำไมที่นี่จึงมีแค่ 3 ขั้น?

หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง

หลัวอี้ก็อ่านต่อไปด้านล่าง

"เคล็ดหลอมกายตระกูลหลัว ไม่ได้ดูที่พรสวรรค์ แต่ดูที่ความมุ่งมั่น"

"หากต้องการบำเพ็ญเพียร ผู้ที่ไม่มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งยวดจะไม่สามารถทำได้"

"หากบำเพ็ญสำเร็จจนถึงขั้นที่ 1 ความแข็งแกร่งของร่างกายจะเทียบเท่าผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตควบแน่นทารก"

"แต่หากว่าล้มเหลว......"

"ธาตุไฟจะแตกซ่าน จิตวิญญาณจะสลายหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์"

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้

หลัวอี้ก็กลืนน้ำลายเอื๊อก

ม่านตาหดเล็กลงเล็กน้อย

เขาเหมือนจะรู้แล้วว่าทำไมเคล็ดหลอมกายตระกูลหลัวถึงมีทั้งหมด 9 ขั้น แต่ที่นี่กลับมีแค่ 3 ขั้น

"หากคนในอาณาเขตตระกูลหลัวของข้าต่างฝึกฝนเคล็ดวิชานี้กันหมด"

"พลังอำนาจของตระกูลหลัว จะไม่ก้าวกระโดดขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้าเลยหรือ?"

หลัวอี้ส่ายหน้า

เขาคิดว่าตัวเองไร้เดียงสาเกินไปหน่อย

หากเรื่องนี้ทำได้ง่าย ๆ ก็คงดี

หากบำเพ็ญสำเร็จ

พลังยุทธ์จะพุ่งทะยานอย่างแน่นอน

แต่หากล้มเหลว......

จิตใจจะพังทลาย ธาตุไฟแตกซ่าน เท่ากับตายไปแล้ว เหลือแต่กายหยาบ

สำหรับตระกูลหลัวในยามนี้ที่ต้องการกำลังคนไม่ว่าที่ใด ราคาที่ต้องแลกนี้ ดูเหมือนจะหนักหนาเกินไปหน่อย

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด