บทที่ 51 (ฟรี)
บทที่ 51
ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคนเหมือนฟ้ากับเหว!
ถ้าเขามาในนามของหลินเป่ยฝาน ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และเธอก็ยินดีมอบความบันเทิงแก่เขาตามกฏทางธุรกิจ
แต่ถ้าเป็นการมาในนามส่วนตัว มันจะไม่เหมือนกัน!
นี่เป็นข้อห้ามอย่างใหญ่หลวงในการทำงาน! เว้นแต่จะเป็นเรื่องบังเอิญ!
ไม่มีเจ้านายคนไหนอยากให้ลูกน้องไปพบกับหัวหน้าคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต!
เรื่องนี้บอกได้แค่ประเด็นเดียว นั่นคืออีกฝ่ายคิดมีใจเป็นอื่น!
“คราวนี้ผมมาในนามของตัวเอง!” เย่ซิงเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
ดวงตาของฉู่รั่วเสวี่ยสั่นไหว เธอเอนหลังและกล่าวพลางคิดกลยุทธ์ในหัว “ในเมื่อมาเอง งั้นมีเรื่องอะไรถึงอยากพบฉัน?”
“ประธานฉู่ ผมยากจะบอกคุณ หลินเป่ยฝานคนนี้ไม่น่าเชื่อถือเลย! เหตุผลที่เขาต้องการร่วมมือกับคุณไม่ใช่เพื่อที่ดินผืนนั้น แต่เพื่อ ... เพื่อจะได้คุณไปครอง! เพราะงั้นผมอยากให้คุณยุติความร่วมมือกับเขา”
ฉู่รั่วเสวี่ย “หืม แค่นี้เองเหรอ?”
เย่ซิงเฉินตกตะลึง “นี่ยังไม่พอเหรอ?”
ฉู่รั่วเสวี่ยพูดอย่างใจเย็น“พูดตามตรง มีผู้ชายมากมายที่ต้องการตัวฉัน ถ้าให้ทุกคนมายืนต่อแถวกันเริ่มจากที่นี่คงแถวยาวไปถึงแม่น้ำฮวงเหอ! หลินเป่ยฝานเดิมทีเขาก็เป็นเพลย์บอย เพราะงั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาอยากได้ตัวฉัน”
เย่ซิงเฉินพูดไม่ออกทันที
ฉู่รั่วเสวี่ยหัวเราะเบาๆ “ถ้าเขาสามารถเอาชนะฉันด้วยทักษะของตัวเอง ยอมตกเป็นผู้หญิงของเขาก็ใช่ว่าจะมีอะไรเสียหาย คุณเย่ ถ้าคุณต้องการมาบอกฉันแค่เรื่องนี้ล่ะก็โปรดกลับไปเถอะ”
“ประธานฉู่ ผมมีอีกอย่างที่จะบอกคุณ อย่าทำธุรกิจกับหลินเป่ยฝาน! ที่ดินผืนนั้นมีค่ามาก หากคุณร่วมมือกับเขา คุณจะต้องประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง!”
ดวงตาของฉู่รั่วเสวี่ยเป็นประกาย “ดูเหมือนคุณจะรู้มูลค่าที่แท้จริงของที่ดินผืนนั้น?”
เย่ซิงเฉินกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “แน่นอน ผมรู้”
ฉู่รั่วเสวี่ยเผยรอยยิ้มที่สวยงาม “งั้นคุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่ามูลค่าที่แท้จริงของที่ดินผืนนี้คืออะไร? ถ้าคุณบอกมันให้ฉันทราบ บางทีฉันอาจจะพิจารณายุติความร่วมมือของฉันกับ หลินเป่ยฝาน!”
“ได้อยู่แล้ว!” เย่ซิงเฉินพูดอย่างตื่นเต้น “ประธานฉู่ มูลค่าของที่ดินผืนนั้นมหาศาลมาก! อีกไม่กี่เดือนจากนี้ ประเทศเราจะจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติในเจียงหนาน และที่ดินของคุณก็อยู่ใจกลาง เขตพัฒนาฯ คุณคิดว่าที่ดินผืนนี้มีมูลค่าเท่าไร?”
ดวงตาของฉู่รั่วเสวี่ยเบิกกว้าง
เข้าใจแล้ว!
ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลินเป่ยฝานกับหลงหยาแคปปิตอลต่างก็แข่งขันกันเพื่อที่ดินผืนนั้น เพราะมันมีมูลค่ามหาศาลจริงๆ!
หากประเทศสร้างเขตพัฒนาเศรษฐกิจที่นั่นจริงๆ ราคาที่ดินจะสูงขึ้นอย่างมากและถ้าเธอถือมันไว้ในมือไม่ยอมปล่อย ราคาต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยมากกว่าสองสามเท่าอย่างแน่นอน!
อีกทั้งหากพัฒนาบริเวณที่ดินผืนนั้น ย่อมก่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ทำกำไรระยะยาวได้อย่างแน่นอน!
ฉู่รั่วเสวี่ยสูดหายใจเข้าแรงขึ้น “ข้อมูลนี้มาจากไหน เป็นไปได้ไหมที่หลินเป่ยฝานบอกคุณ?”
เย่ซิงเฉินกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่ใช่หลินเป่ยฝานที่บอก ผมรู้เอง ผมมีช่องทางข่าวสารของตัวเอง!”
ฉู่รั่วเสวี่ยยิ้มดูแคลนในใจ บอดี้การ์ดเล็กจ้อยอย่างแกเนี่ยนะมีช่องทางของตัวเอง ขนาดในกลุ่มลี่เฉิงของฉันยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ! คงเป็นหลินเป่ยฝานแน่ที่บอก!
หลินเป่ยฝานปฏิบัติต่อคุณเหมือนเป็นพี่ชายแท้ๆ เขาถึงขั้นยอมบอกข้อมูลสำคัญเช่นนี้แก่คุณ แต่คุณทรยศเขา!
และคนทรยศไม่มีที่ไหนต้อนรับ!
ณ ขณะนี้ในใจของเธอได้วาดเครื่องหมาย X ทับหน้าเย่ซิงเฉินเอาไว้แล้ว
เย่ซิงเฉินพูดต่อโดยไม่รู้ตัว “เพราะงั้นประธานฉู่อย่าร่วมมือกับหลินเป่ยฝานอีกเลย! วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บที่ดินผืนนั้นไว้เอง กอดมันไว้ให้แน่นที่สุด พัฒนามันด้วยตัวเอง และสร้างรายได้ด้วยตัวเอง!”
ฉู่รั่วเสวี่ยหัวเราะเยาะ “พูดง่ายนะ! ถ้าให้เราพัฒนามันเอง กลุ่มของเราจะเอาเงินจากไหนไปพัฒนามัน?”
“ด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอย การใช้จ่ายเงินฝืดขัด กลุ่มของเราไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงกับสินเชื่อเอกชน! ขายบ้านเพื่อหาเงินก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก! แล้วเราจะพัฒนามันได้ยังไงถ้าไม่มีพันธมิตร?”
เย่ซิงเฉินพูดอย่างกังวลใจ “แต่คุณก็ไม่สามารถให้ผู้อื่นเอาเปรียบได้เช่นกัน!”
ฉู่รั่วเสวี่ยโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องถูกคนอื่นเอาเปรียบ แต่เป็นเรื่องของการเอาตัวรอด! กลุ่มของเรากำลังเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ซึ่งก็คือขาดเงิน! ถ้าเราไม่รีบเติมเงินในส่วนนั้น พวกเราก็จะล้มละลาย สุดท้ายก็ต้องปล่อยที่ดินผืนนั้นไปอยู่ดี”
“เพราะงั้น .. ทำไมไม่ใช้ประโยชน์จากที่ดินผืนนี้ทำอะไรสักอย่างให้เกิดประโยชน์ล่ะ?”
ฉู่รั่วเสวี่ยยิ้ม “หลินเป่ยฝานมีเงิน ฉันมีที่ดิน ดังนั้นเราจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งได้! ประการที่สอง เราสามารถทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาที่ดินนั้น ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แม้ว่าเราจะมีรายได้น้อยลง แต่อย่างน้อย... กลุ่มของเราก็รอดมาได้ และยังมีโอกาสพัฒนาต่อไปในอนาคต!”
เย่ซิงเฉินรู้สึกหายใจไม่ออก พูดถึงขนาดนี้แล้วสุดท้ายเธอก็ยังเลือกร่วมมือกับเขา!
นี่ฉันจะแก้เกมนี้ไม่ได้เลยหรือ?
ช้าก่อน!
บางทีอาจไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
เย่ซิงเฉินฟื้นความมั่นใจและพูดว่า “ประธานฉู่ จากที่ผมสรุปได้ คุณก็แค่ไม่มีเงิน! งั้นถ้าผมช่วยแก้ปัญหาเรื่องเงินได้ คุณก็ไม่ต้องร่วมมือกับหลินเป่ยฝานแล้วถูกไหม?”
ฉู่รั่วเสวี่ยพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง! แต่คุณจะช่วยฉันแก้ปัญหาเรื่องเงินได้ยังไง? รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ได้ขาดเงินหลักร้อยล้าน แต่เป็นหลายพันล้าน หรือแม้กระทั่งหมื่นล้าน!”
“ผมช่วยได้!” เย่ซิงเฉินเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
ฉู่รั่วเสวี่ยตกตะลึง บอดี้การ์ดเล็กจ้อยถึงกับอวดว่าเขาสามารถแก้ปัญหาทางการเงินมูลค่านับพันล้านได้! แม้แต่กลุ่มลี่เฉิงที่ร่ำรวยและมีอำนาจก็ไม่กล้าพูดเช่นนั้น!
กล้าพูดแบบนี้ได้อย่างเต็มปากต้องหน้าด้านขนาดไหนกัน!
“ตอนนี้ฉันอยากรู้มาก คุณจะช่วยฉันแก้ปัญหาเรื่องเงินทุนนี้ได้ยังไง?”
“แน่นอนว่าด้วยการเก็งกำไร!” เย่ซิงเฉินพูดอย่างสดใสว่า “ประธานฉู่ ผมเก่งเรื่องการเก็งกำไรมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็งกำไรแบบฟิวเจอร์สในทองคำและน้ำมันดิบ จะแทงขึ้นหรือลงก็มีแต่ชนะ! ผมกล้าพูดเลยว่าถ้าบริษัทหลินอินเวสเมนท์ไม่มีผม ก็ไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้!”
ในฐานะตัวเอกที่เกิดใหม่ เขาสุดยอดมาก!
ฉู่รั่วเสวี่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันได้ยินมานานแล้วเรื่องพรสวรรค์ของคุณเย่ ซึ่งน่าชื่นชมมาก!”
เย่ซิงเฉินยิ่งภูมิใจมากขึ้น และพูดว่า “ดังนั้น ที่จริงแล้ว คุณไม่ต้องร่วมงานกับเขา แต่สามารถร่วมมือกับผมได้! ถ้าคุณมอบทุนให้ผมจำนวนหนึ่งไปเก็งกำไร ปัญหาการขาดเงินของคุณก็จะหมดไป”
ณ ขณะนี้ เย่ซิงเฉินเริ่มจินตนาการถึงอนาคตที่สดใส ก่อนเกิดใหม่หลินเป่ยฝานได้ใกล้ชิดฉู่รั่วเสวี่ยมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยวิธีนี้และในที่สุดก็กลายเป็นของกันและกัน
ตอนนี้เขาได้เกิดใหม่แล้ว ดังนั้นคนที่ได้ร่วมทางกับเธอในชาตินี้สมควรเป็นเขา!
เขามาที่นี่เพื่อช่วยรั่วเสวี่ยทำเงิน แล้วใช้มันบริหารจัดการที่ดิน พอเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น สุดท้ายก็จะตกเป็นของกันและกัน ฮ่า ฮ่า!
“สมเหตุสมผลมาก! แต่ว่า ...” ฉู่รั่วเสวี่ยพูดขัดจังหวะของเย่ซิงเฉิน “ฉันไม่รู้ว่าคุณเย่จะยอมทุ่มเทเพื่อฉันไปทำไม? คุณอยากได้อะไรตอบแทน หรือฉันต้องมอบอะไรให้คุณจากความช่วยเหลือในครั้งนี้?”
“ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย แค่อยากช่วยคุณเท่านั้น!” เย่ซิงเฉินกล่าวอย่างเสน่หา
นี่เป็นคำสารภาพครั้งแรกในรอบสองชาติหรือเปล่านะ!
ตื่นเต้นจัง!
แก้มของเทพสงครามเย่ซิงเฉินเปลี่ยนเป็นสีแดงจนดูผิดปกติ
รั่วเสวี่ย ... ตอนนี้เธอควรจะซาบซึ้งใจมากใช่ไหม?
ฉู่รั่วเสวี่ยไม่มีการแสดงออกใดบนใบหน้า แต่ในใจหัวเราะเย็นชา
ที่แท้ก็มาเพื่อเลียแข้งเลียขาฉัน!