บทที่ 46 พ่อและแม่ คือที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของลูก!
สำหรับหลินซวนแล้ว นิกายกระบี่สวรรค์ ที่เป็นนิกายฝ่ายธรรมะ แต่กับทำทุกอย่างเพื่อผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงคนอื่นเลย.
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลกับคนเหล่านี้.
เพียงแค่บดขยี้มันโดยตรง!
และในเวลาเดียวกัน
ภายในห้องโถงนิกายกระบี่สวรรค์ เจียงเฟยเฟอ อู๋ซิงเฉินและฉู่หานอวิ๋นที่กำลังแบ่งปันสินสงครามกันอยู่ ต้องตื่นตระหนกตกใจจากการระเบิดจึงเร่งรีบวิ่งออกมา.
"เกิดอะไรขึ้น?" เจียงเฟยเหอถามออกมาด้วยความโกรธ
ศิษย์คนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจากประตู: "แย่แล้ว ท่านผู้นำนิกาย! ค่ายกลกระบี่พิทักษ์ภูเขาของเราพังทลายแล้ว!"
แฮก ๆ
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เจียงเฟยเหอและคนอื่น ๆ ก็อดไม่ได้ ที่จะอ้าปากค้าง
“'ค่ายกลกระบี่ฮุนหยวน' เป็นค่ายกลกระบี่โบราณ ตอนนี้มันพังไปแล้วจริง ๆ!”
“อีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งมาก บางทีเขาอาจเป็นผู้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจ้าววิญญาณ!”
“จ้าววิญญาณรึ? แม้แต่ขอบเขตจักรพรรดิ ยังทำไม่ได้เลย!”
ยิ่งทั้งสามคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น และเหงื่อที่เย็นยะเยือบก็ไหลลงมาบนหน้าผากของพวกเขา.
"ไป! รีบออกไปดู!"
เจียงเฟยเหอเป็นผู้นำ ตามมาด้วย อู๋ซิงเฉินและฉู่หานอวิ๋น.
ทั้งสามที่มาถึงลานฝึก พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมอง.
พวกเขาที่เห็นชายหนุ่มในชุดขาวที่หล่อเหลาลอยอยู่บนอากาศ.
รูปลักษณ์ของอีกฝ่ายนี้ราวกับอมตะ ที่หาได้ยากยิ่ง เพียงแค่เห็นก็อดไม่ได้แล้วที่ต้องโค้งคำนับอีกฝ่ายในทันที.
“บุคคลผู้นี้จะต้องเป็นยอดฝีมือไร้คู่เปรียบ!”
หัวใจของเจียงเฟยเหอเริ่มเย็นยะเยือบลงเรื่อย ๆ
ขณะมองผ่านไปด้านหลัง พวกเขาทั้งสามยิ่งตกใจเข้าไปอีก!
“ราชรถหยกของจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!”
คราวนี้แขนขาของเจียงเฟยเหอที่สั่น อ่อนระทวยขึ้นมาทันที.
คนที่ทำลายค่ายกลกระบี่ผู้พิทักษ์ภูเขา มาจากราชวงศ์เป่ยเสวียนเทียน
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
นี่แสดงให้เห็นว่านิกายกระบี่สวรรค์พบกับภัยพิบัติแล้ว!
เหวินหยวนซ่งที่อยู่ข้าง ๆ จ้องมองพวกเขาทั้งสามด้วยความโกรธและเกลียดชัง ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง.
“เจียงเฟยเหอ อู๋ซิงเฉินและฉู่หานอวิ๋น ต่อหน้าจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน ยังไม่คุกเข่าอีกรึ?!”
คำพูดดังกล่าว ทำให้พวกเจียงเฟยเหอและคนอื่น ๆ รู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาดผ่าลงห้าครั้งติด.
คำเพียงไม่กี่คำ จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน เหมือนกับภูเขาหมื่นลูกกระแทกเข้ามายังหัวใจของทุกคน.
ปัง ปัง~
ในพริบตานั้น ไม่เพียงแค่พวกเจียงเฟยเหอ เหล่าศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์นับหมื่นล้วนแต่คุกเข่าลง.
"คารวะจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!"
คนของจักรพรรดินีเสวียนปิงแข็งแกร่งแค่ไหนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจากอาณาจักรล่าง จะจินตนาการถึงได้เลย
สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้ก็คือต่อหน้าหลินซวน พวกเขามีแค่ต้องคุกเข่าลงเท่านั้น!
ต่อมา หลินซวนและเด็กสาวทั้งห้าที่ถูกนำไปยังห้องโถงหลัก.
ภายใต้การนำของเจียงเฟยเหอและคนอื่น ๆ ที่ขวัญหนีดีฝ่อ ขณะจ้องมองเขานั่งบนบัลลังก์ของเจ้านิกายกระบี่สวรรค์.
ทันทีที่หลินซวนนั่งลง เจียงเฟยเหอ อู๋ซิงเฉินและฉู่หานอวิ๋น ที่คุกเข่าหัวโขกพื้นเสียงดัง.
“เรียนจักรพรรดิ พวกเราเพียงแค่ต้องการตัวอ่อนกระบี่หยวนซีเท่านั้น จึงได้ขาดสติ ทำเรื่องเหลวไหลไร้สาระไป!”
เจียงเฟยเหอที่เร่งรีบเอ่ยกล่าวสารภาพออกมาอย่างรวดเร็ว.
หลินซวนที่พาเหวินหยวนซ่งมายังภูเขาเทียนเจี้ยน ด้วยตัวเอง แม้แต่คนโง่ก็ยังรู้เลยว่า อีกฝ่ายนั้นกำลังหนุนหลังเหวินหยวนซ่งอยู่.
หากพวกเขาไม่เร่งรีบสารภาพออกไปเอง เกรงว่าเมื่อตี้ฟู่โกรธ นิกายกระบี่สวรรค์ นิกายกระบี่ชิงเหลียนและโถงเทพกระบี่ อาจจะหายไปในทันที.
หลินซวนที่เผยยิ้มอย่างเย็นชา“เพื่อที่จะให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น พวกเจ้าสามารถทำได้ทุกอย่างแม้แต่สังหารผู้บริสุทธิ์ตามใจได้เลยรึ?”
เขามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์สองประการ
เรื่องแรกคือนำเตาอีกาทองคำกลับไป เพื่อปรุงโอสถ ซวนมิงซีมู่ ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับบุตรสาว.
เรื่องที่สองมีความสำคัญมาก.
เจียงเฟยเหอและพวกที่กระทำการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวโดยไร้ซึ่งคุณธรรม การเก็บคนเช่นนี้ไว้มีแต่สร้างหายนะเท่านั้น.
ลองคิดดู หากนิกายธรรมะเป็นเช่นนิกายกระบี่สวรรค์ สังหารผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง.
โลกนี้จะเป็นอย่างไร?
เมื่อทุกนิกายคิดถึงแต่ผลประโยชน์ตัวเอง ก็มีแต่จะสร้างหายนะให้กับโลกนี้เท่านั้น.
หลินซวนไม่เพียงแค่ต้องลงโทษพวกเขา แต่ยังใช้โอกาสนี้สอนบทเรียนดี ๆ แก่ธิดาทั้งสี่ของเขาด้วย.
นั่นก็คือไม่ว่าเมื่อใดที่ไหน ผู้คนไม่สามารถกระทำการตามใจตัวเอง คิดถึงประโยชน์ของตัวเองอย่างเดียวได้ ดังนั้นหลินซวนจึงได้นำเด็กหญิงตัวน้อยมายังนิกายกระบี่สวรรค์ด้วย.
แน่นอน หลังจากที่ หลินซวน เอ่ยเช่นนี้ เสวียนจู่,เสวียนซี, เสวียนหาน และ เสวียนหยู ก็พยักหน้า
“เสด็จพ่อกับเสด็จแม่เอ่ยเหมือนกัน ถ้าอยากแข็งแกร่งขึ้นต้องเรียนรู้ ไม่อาจใช้มันได้ตามใจ!”
“ใช่แล้ว พวกเราจะเป็นคนดี!”
“พวกเราต้องเป็นคนดี เหมือนเสด็จพ่อและเสด็จแม่”
"แน่นอน!"
หลินซวนเผยยิ้มอย่างลับ ๆ เมื่อเขาได้ยินคำพูดดังกล่าว.
เป็นความจริง ที่บิดามารดาเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของบุตรธิดา.
ดูเหมือนว่าการเดินทางมาครั้งนี้จะคุ้มค่า!
คำพูดของเด็กเล็ก ๆ ทำให้เจียงเฟยเหอและพวกที่รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที.
"โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย!"
เจียงเฟยเหอและคนอื่น ๆ ยากที่จะมีคำโต้แย้งอะไรออกมา พวกเขาทำได้แค่ร้องขอความเมตตาเท่านั้น.
หลินซวนที่ลุกขึ้นก้าวออกไปพร้อมกับบุตรสาว “ไม่ต้องเอ่ยกับข้า บอกกับเหวินหยวนซ่ง!”
จากนั้นเขาก็พาเด็ก ๆ ก้าวออกไปนอกประตู
เจียงเฟยเหอและคนอื่น ๆ รู้สึกหนาวสั่นในใจ
คำเอ่ยของตี้ฟู่หมายความว่าเขาจะไม่ให้อภัยพวกเขา
ตอนนี้ในห้องโถงใหญ่ เหลือเพียงพวกพวกเขาทั้งสามและเหวินหยวนซ่งเท่านั้น
จักรพรรดิที่ปล่อยให้เหวินหยวนซิ่งล้างแค้นหรือไม่?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เจียงเฟยเหอและคนอื่น ๆ ที่จ้องมองหน้ากันและกัน.
พวกเขาทำได้แค่รอให้เหวินหยวนซ่งสังหารหรือไม่?
หวึ่ง ๆ~
ในเวลานั้น พลังจิตวิญญาณที่น่าพรั่นพรึงของ เทพเจ้ายักษาโบราณที่กดทับมา ปกคลุมไปทั่วห้องโถงใหญ่.
ภายใต้แรงกดดันของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นี้ เจียงเฟยเหอและคนอื่น ๆ ต่างก็สั่นสะท้าน ทำให้หายใจลำบาก.
“ตี้ฟู่ปลดปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมา ตราบใดที่พวกเรากล้าเคลื่อนไหว ก็จะลงมือด้วยตัวเอง!”
“อ๊าก วันนี้ข้าคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
ทั้งสามหมดเรี่ยวหมดแรง.
ในเวลานี้ เหวินหยวนซ่งที่รอคอยอย่างตั้งใจ เวลาต่อมาปราณแท้ทั่วร่างกายของเขาที่ปะทุออกมาราวกับสัตว์ป่า.
“เจียงเฟยเหอ อู๋ซิงเฉินและฉู่หานอวิ๋น เจ้าต้องชดใช้ชีวิตกับความผิดของพวกเจ้า!”
“ข้าจะส่งเจ้าพวกเจ้าสู่นรกภูมิในเวลานี้!”
-
ภายนอกห้องโถงใหญ่มีลมพัดแรง
หลินซวน พาเด็ก ๆ ไปยืนบนแท่นหินที่สูงที่สุด และมองไปที่อนุสาวรีย์หินขนาดใหญ่ของสำนักกระบี่สวรรค์ ที่ใจกลางลานจัตุรัสนิกาย
มีตัวอักษรสี่ตัวเขียนอยู่บนนั้น
ปราณกระบี่มีชีวิต!
เสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพของเหวินหยวนซ่งที่ดังมาจากด้านหลัง“ตี้ฟู่ เตาปรุงยาอีกาทองคำนำกลับมาแล้ว!”
“อืม.”หลินซวนที่จ้องมองไปยังธิดาทั้งสี่อย่างอ่อนโยน“บุตรรัก พ่อจะกลับไปปรุงยาทันที!”
“เยี่ยมเลย! เสด็จพ่อใจดีมาก!”
เด็กหญิงทั้งสี่แสดงสีหน้ามีความสุขเป็นอย่างมาก
ก่อนที่จะเดินลงออกมาจากแท่นหิน หลินซวนส่งแก่นแท้พลังที่น่าสะพรึงกลัวออกไป แผ่พุ่งเข้ายิงไปยังแผ่นดินด้วยดัชนีกระบี่ของเขา.
ปัง
อักขระกระบี่บนแท่นที่ถูกสลักเอาไว้.
หลินซวนที่สลักอักขระของเขาด้วยดัชนีกระบี่ที่แหลมคมลงบนแท่นศิลา.
เหวิน หยวนซ่ง และสาวกนับหมื่นของนิกายกระบี่สวรรค์ เงยหน้าขึ้นมองพร้อม ๆ กัน ด้วยดวงตาเบิกกว้างจนทำให้ร่างของพวกเขาถึงกับสั่นเทา
บนแผ่นศิลานิกายกระบี่สวรรค์ มีคว่าคำว่าเจิ้งถูกสลักลงไปแทนคำว่า“กระบี่”
ความชอบธรรมดำรงอยู่เป็นนิตย์!
อักขระดังกล่าวทำให้เหล่าสาวกนิกายกระบี่สวรรค์โลหิตร้อนขึ้นมาทันที.
“ตี้ฟู่ ที่กำลังแสดงพลังของเขา เพื่อเตือนพวกเขาให้รักษาความยุติธรรมเอาไว้เสมอ!”
สาวกนิกายกระบี่สวรรค์ เอ่ยตะโกนเสียงดัง.
“พวกเราจะปฏิบัติตามคำสอนของจักรพรรดิ ไม่เปลี่ยนแปลงไปจนถึงวันตาย!”