บทที่ 39 การต่อสู้ในรอบชิง (2)
หลังการประลองเริ่มไปได้สักพัก บนห้องรับรองหรูหราที่มีตราสัญลักษณ์ของสำนักเมฆคราม
“สหายน้อยคนนี้ดูเหมือนว่าจะเร่งเพิ่มระดับพลังไปหน่อยนะ”ชายชราเอ่ยออกมา
“ข้าคิดว่ามันจะส่งผลต่ออนาคตของเขาทำให้เขาไม่สามารถไปไกลกว่าระดับก่อตันเถียนได้”ชายหนุ่มกล่าว
“ทำไมเจ้าถึงคิดเช่นนั้นล่ะ”
“เพราะเส้นลมปราณของเขาน่าจะเสียหายหนักจากการฝืนเร่งระดับทำให้ไม่สามารถดูดซับปราณจำนวนที่เพียงพอต่อการทะลวงขอบเขตเหนือมนุษย์ได้”
“แต่เขามีเส้นลมปราณไร้ระดับนะ และเจ้าหนุ่มนั่นดูเหมือนจะไม่ใช่พวกที่ไม่คิดหน้าคิดหลังเสียด้วย”
“นี่เป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั่นขอรับ”
“อืมมมมมม เดี๋ยวเราก็จะได้รู้ว่าเขานั้นทำลายอนาคตตัวเองหรือไม่”
ตูมมมมมม ตูมมมมม
“ถ้าโดนเข้าไปมีหวังได้ลาโลกนี้แน่ๆ”หวังเล่อเฉิงกำลังหลบ บอลทมิฬ ที่อสรพิษเกล็ดทมิฬปล่อยออกมาเรื่อยๆ สาวนเซียงเฟิงตอนนี้นั้นกำลังนั่งอยู่บนหัวของอสรพิษเกล็ดทมิฬ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เข้ามาสิไม่เก่งแล้วหรอ ข้าจะให้สัตว์เลี้ยงของข้าทรมานเจ้าไปเรื่อยๆแล้วค่อยฆ่าเจ้าทิ้งทีหลัง”เซียงเฟิงหัวเราะอย่างสะใจ
“เวรแล้ว บอลทมิฬของมันแค่โดนเข้าไปข้าโดนพลังทมิฬแทรกเข้าร่างกายแน่หรือข้าจะยอมแพ้ดี”หวังเล่อเฉิงคิดไม่ตกเพราะอสรพิษเกล็ดทมิฬนั้นแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก
‘นายท่านเจ้าคะ ให้ข้าออกไปสู้กับเจ้านั่นได้ไหมเจ้าคะ”เสี่ยวจิ้ง จิ้งจอกน้อยที่ทำตัวเป็นผ้าพันคอเอ่ยออกมา
‘เจ้ายังอยู่แค่ระดับ 3 จะไปสู้กับมันได้อย่างไร’
‘ข้าอยู่ระดับ 4 แล้วเจ้าค่ะ ถึงจะแค่ขั้นต้นเกือบกลางแต่ข้ามั่นใจว่าสามารถเอาชนะมันได้เจ้าค่ะ’
‘แล้วเจ้าอยู่ระดับ 4 ได้อย่างไรข้ายังไม่ได้ให้ทรัพยากรแก่เจ้าเลย’
‘อะ…เอ่ออออ ข้าแอบกินโอสถข้างในแหวนมิติของท่านหมดเลย ขะ..ข้า ขอโทษเจ้าค่ะ’เสี่ยวจิ้งลนลานและขอโทษอย่างรู้สึกผิด
‘ห๊ะ!!! หมดเลยหรอ.…แต่ช่างมันเถอะถ้าเจ้าชนะมันได้ข้าจะไม่ว่าอะไร’
‘ขอบคุณเจ้าค่ะ’
กิ้ววววววววว
เสี่ยวจิ้งกระโดดออกมาจากคอของหวังเล่อเฉิงนั่นทำให้ผู้ชมตกใจเป็นอย่างมาก
“เฮ้ยยย..นั่นมันสัตว์อสูรนี่ ข้านึกว่าผ้าพันคอ”
“ข้าก็เพิ่งรู้เหมือนกันแต่ดูไม่น่าจะแข็งแกร่งเลยนะ”เพื่อนชายที่กล่าวเอ่ย
“อ๊ายยยยย…จิ้งจอกน้อยสีขาวน่าร๊ากกกกก”หญิงสาวบางคนบนอัฒจันทร์เอ่ย
โฮกกกกกกกกกกก
จากจิ้งจอกน้อยตัวเล็ก ตอนนี้เสี่ยวจิ้งขยายขนาดตัวไปเป็นขนาดปกติของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์อายุน้อยซึ่งมีขนาดเท่ากับอสรพิษเลยทีเดียวพร้อมกับหาง 4 หางที่ส่องประกายธาตุต่างๆ จากจิ้งจอกตัวเล็กน่ารักก็กลายเป็นจิ้งจอกตัวใหญ่น่าเกรงขาม
“ฮ่า ฮ่า สุดยอดเสี่ยวจิ้งข้าก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าทำอย่างนี้ได้”หวังเล่อเฉิงที่เห็นเสี่ยวจิ้งขยายตัวจนมีขนาดใหญ่ก็กระโดดขึ้นไปบนหลังของมัน
“เหอะ แค่สัตว์อสูรระดับ 4 ขั้นต้นจะทำอะไรอสรพิษเกล็ดทมิฬของข้าได้”เซียงเฟิงสั่งให้อสรพิษเกล็ดทมิฬโจมตีเสี่ยวจิ้งแต่ปรากฎว่าตัวของมันสั่นเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง
“เฮ้ยยย ข้าบอกให้แกฆ่ามันไงทำตามที่ข้าสั่งสิ”เซียงเฟิงไม่พอใจขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อมันไม่ฟังคำสั่งของตน
โฮกกกกกกกกก
เสี่ยวจิ้งคำรามออกมาจนทำให้อสรพิษทมิฬถึงกับขดตัวลงหมอบราบกับพื้น
“เสี่ยวจิ้งเจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไรงั้นรึ”
‘ข้าเป็นจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางสายเลือดแท้ แม้แต่มังกรแท้จริงยังกลัวพวกเราเลยแล้วประสาอะไรกับเจ้างูน้อยนี่’
“แต่เจ้าบอกว่ามีโอกาสชนะเฉยๆไม่ใช่รึ”
‘กะ..ก้อออ…ตอนแรกข้าไม่มั่นใจเจ้าค่ะข้าไม่เคยสู้กับสัตว์อสูรตัวอื่นมาก่อนเลย’เมื่อหวังเล่อเฉิงได้ยินกูลูบไปที่หัวอันใหญ่โตของเสี่ยวจิ้ง
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวจบการประลองแล้วไปที่สำนักแล้วข้าจะพาเจ้าไปสู่กับสัตว์อสูรตัวอื่นเยอะๆเลย”
‘เจ้าค่ะ นายท่าน ข้าอยากเป็นประโยชน์ให้กับนายท่าน’
“ไอ่งูเฮงซวยที่ข้ายอมทำพันธสัญญากับแกก็เพราะแกแข็งแกร่งไม่ใช่รึไง แค่จิ้งจอกหน้าโง่ระดับ 4 ขั้นต้นเจ้ายังสู้ไม่ได้เลย”เซียงเฟิงเริ่มก่นด่าอสรพิษเกล็ดทมิฬจนมันเริ่มรู้สึกไม่พอใจ
ฟ่ออออออออออ
อสรพิษเกล็ดทมิฬสะบัดเซียงเฟิงให้ออกไปจากตัวของมันแล้วขู่ใส่
“เป็นแค่เดรัจฉานเท่านั้นเจ้ากล้าที่จะขู่ข้าอย่างนั้นรึ”เซียงเฟิงโกรธจัดจนไม่มีสตินึกคิดว่าตนไม่สามารถทำอะไรกับมันได้
กร๊อบบบบบบบ
อสรพิษเกล็ดทมิฬกัดเซียงเฟิงเข้าไปนั่นทำให้ผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักอสูรทมิฬออกมาจากห้องรับรองเพื่อมาช่วย แต่ทว่าก็ได้มีคนมาขวางไว้
“ตาเฒ่า เหวินจี เจ้าจะไปไหนอน่างนั้นรึ”เป็นชายชราผู้อาวุโสระดับสูงจากสำนักเมฆครามมาขวางไว้
“เรื่องของข้าท่านมิต้องยุ่ง”ชายกลางคนนั้นเร่งรีบที่จะพุ่งไปช่วยไม่งั้นพี่ชายของเซียงเฟิงที่เป็นศิษย์หลักในสำนักต้องเอาคืนมันแน่
“หรือว่าเจ้าเด็กคนนั้นเป็นศิษย์ของสำนักอสูรทมิฬเจ้าถึงไปช่วยมัน อสรพิษตัวนั้นพวกเจ้าคงให้เขาไปด้วยสินะ แสดงว่าพวกเจ้านั้นไม่สนใจสัญญา 6 สำนักแล้วสินะ”ชายชรายังคงขวางทางไว้อยู่
“ท่านฉีเว่ยกง ข้าจับตัวอีกคนได้แล้วขอรับ”ชายหนุ่มที่ติดตามชายชราคนนี้ได้ลากตัวชายชราจากสำนักอสูรทมิฬมาด้วย
เมื่อชายกลางคนเห็นเช่นนั้นก็รู้แล้วว่าหมดโอกาสแล้วจึงต้องถอยกลับไปก่อน
“ชิ แล้วพวกเราจะได้เห็นดีกัน”ชายกลางคนข่มขู่ก่อนจะใช้ปราณของตนดึงชายชราที่ติดตามตนมากลับไปด้วย
“เอาละสหายน้อยข้าช่วยเจ้าได้แต่นี้ ที่เหลือเจ้าจะทำอะไรต่อ”ชายชราคนนั้นหันไปทางที่อสรพิษเกล็ดทมิฬกำลังเคลื่อนตัวมาทางเสี่ยวจิ้งเพื่อมามอบของบรรณาการ
‘นายท่าน ข้ารู้ส่าท่านต้องการของบางอย่างจากตัวของเจ้านี่’
“ข้าก็ต้องการจริงๆนั่นแหละแต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะงั้นข้าลงอาคมเอาไว้ก่อนเมื่อข้าบรรลุระดับกำเนิดเสาค้ำปราณเมื่อไหร่ค่อยมาเอา”ไม่ใช่ว่าหวังเล่อเฉิงไม่อยากดูดซับเส้นลมปราณทมิฬสถิตของเซียงเฟิงแต่ตอนนี้เส้นลมปราณกลืนกินของเขาได้รับความเสียหายและระดับพลังของเขาตอนนี้ยังน้อยไปที่จะรับพลังของเส้นลมปราณระดับนภา
คนปกติที่เกิดมาพร้อมกับเส้นลมปราณระดับสูงๆนั้นร่างกายจะแข็งแกร่งกว่าปกติเพื่อให้รองรับพลังจากเส้นลมปราณได้ ซึ่งตัวของหวังเล่อเฉิงก็มีเส้นลมปราณเทวะมาก่อนแต่พอเขาทำลายมันทิ้งไปพร้อมกับสร้างเส้นลมปราณใหม่ร่างกายของเขาก็ปรับตัวกับพลังที่ลดลงและเตรียมพื้นฐานให้กับเส้นลมปราณไร้ระดับ
เส้นลมปราณและกายาไร้ระดับนั้นมันจะต้องค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นทีละขั้นถ้าร่างกายของหวังเล่อเฉิงยังเป็นร่างกายที่รองรับเส้นลมปราณเทวะทมิฬอยู่เขานั้นจะไม่สามารถเพิ่มระดับเกิดระดับเทวะได้ทำให้เขาต้องเริ่มใหม่เพื่อพื้นฐานที่ดีกว่าในอนาคต
หวังเล่อเฉิงกัดนิ้วของตัวเองและนำเลืิอดออกมาเขียนอาคม นี่เป็นอาคมต้องห้ามจากสมองเทพที่ส่งมาให้เขาจะไม่สามารถถอนอาคมออกได้ถ้าไม่มีระดับพลังจิตเหนือกว่าผู้ลงอาคม 3 ขั้นทำให้หวังเล่อเฉิงมั่นใจได้ว่าเหยื่อจะไม่สามารถเล็ดรอดไปได้
วิ้งงงงงงงงงง
“อาคมบัญชาโลหิต”ปรากฎวงอาคาสีแดงและฟ้าขึ้นมาถ้าไม่ใช่ผู้ใช้อาคมสีเหลืองก็คงไม่สามารถแก้อาคมได้
“อ๊ากกกกกกกก!! จะ..เจ้าทำอะไรกับร่างกายข้า”เซียงเฟิงที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ตอนนี้พูดออกมาอย่างอ่อนแรง
“เดี๋ยวในอนาคตเจ้าก็รู้เองแหละ”หวังเล่อเฉิงกล้าทำอย่างนี้ก็เพราะเขาวางอาคม4ธาตุที่มีแหล่งพลังมาจากเสี่ยวจิ้งทำให้คนข้างนอกมองไม่เห็นเหตุการณ์ตอนเขาใช้อาคมต้องห้าม
เพล้งงงงงงงง
หวังเล่อเฉิงคลายอาคม4ธาตุที่มีผลในการบิดเบือนมิติทำให้คนข้างนอกมองเห็นเหตุการณ์แล้ว หลังจากที่เซียงเฟิงโดนอสรพิษเกล็ดทมิฬคาบไปคนข้างนอกนั้นมองไม่เห็นอะไรเลย
“ผู้ชนะ หวังเล่อเฉิง!!!!!”
“เฮ้ๆๆๆๆๆๆ”ผู้ชมทุกคนส่งเสียงให้กับผู้ชนะในการประลองของปีนี้อย่างกึกก้อง
#ตอนหน้าจะเริ่มเก็บเหรียญแล้วนะครับเก็บ 3 บาททุกๆสี่ตอน ตอนเก็บเหรียญจะมีการเช็คคำผิดขอให้มั่นใจว่าจะไม่มีคำผิดในตอนเก็บเหรียญนะครับหรืออาจจะมีเล็กน้อยถ้ามีคอมเมนท์มาจะรีบแก้ไขทันทีครับ
