บทที่ 34 การต่อสู้ชิงความเป็นหนึ่ง
“ฮ่า ฮ่า ข้านี่แข็งแกร่งจริงๆ สามารถล้มทั้งสนามประลองได้ในหมัดเดียว”เจียงฉางเทียนดินลงมาจากสนามประลองแล้วหัวเราะร่า
“ดูเหมือนพี่ชายของข้าจะยังไม่รู้ว่าที่มันรุนแรงขนาดนั้นก็เพราะมันไปรวมกับพลังที่อีกสามคนบนลานประลองปล่อยออกมาพอดี”เจียงอี้เฟยกระซิบกับหวังเล่อเฉิง
“ปล่อยให้เขาดีใจไปก่อน ไม่ต้องบอกด้วยละรอบต่อไปเขาจะเจอดีเอง”
“ฮ่า ฮ่า เป็นยังไงละหวังเล่อเฉิง..ข้าเก่งขึ้นใช่ไหมละหมัดเดียวข้าล้มทั้งสนามเลยนะ”เจียงฉางเทียนเดินมาอวดต่อหน้าหวังเล่อเฉิงเป็นคนแรก
“ใช่!! ใช่!! เจ้าเก่งขึ้นจริงๆนั่นแหละไปพักผ่อนเตรียมพร้อมรอบสุดท้ายดีว่า”
“การประลองรอบที่ 3 จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ให้ทุกคนแยกย้ายได้”เมื่อผู้อาวุโสผู้คุมการประลองกล่าวจบคนทั้งหมดก็แยกย้ายกันทันทีโดยเฉพาะคนที่ต้องลงแข่งขันเพื่อฟื้นสภาพตนให้สมบูรณ์พร้อม
“เราเองก็ไปกันเถอะ ข้าต้องการทะลวงขั้นที่ 5 ด้วย”หวังเล่อเฉิงนั้นมาอยู่ประมาณกลางๆของขั้นที่ 3 แล้วถ้าเขาใช้โอสถระดับ 5 ที่เขาปรุงยามากมายคงจะทะลวงขั้นที่ 5 ภายในคืนเดียวได้
เมื่อมาถึงบนนาวานภาของราชวงศ์เจียง ทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปที่ห้องของแต่ละคนเพื่อฝึกฝนเตรียมความพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้
“เริ่มกันดีกว่า”หวังเล่อเฉิงนำเม็ดโอสถระดับ 5 ออกมามากกว่า 10 เม็ดแล้วดูดซับในทีเดียวคนปกติทั่วไปไม่สามารถทำแบบได้ แต่หวังเล่อเฉิงมีเส้นลมปราณกลืนกินถึงแม้จะเป็นระดับปฐพีแต่มันก็ใช้ดูดซับได้เรื่อยๆ
ผ่านไป 4 ชั่วยามวังเล่อเฉิงก็ดูดซับไปได้ 5 เม็ด
ปุงงงงงงงงงงงง
“ดูเหมือนว่าเส้นลมปราณกลืนกินระดับปฐพีของเราจะดูดซับโอสถระดับมากกว่า 4 ได้ช้ามากจึงทำได้แค่นี้”โอสถของหวังเล่อเฉิงยังเหลือเป็นกอง เขาได้สมุนไพรมาจากเหล่าเซียนเยอะมากจนกองเป็นภูเขาได้เลย
“เหลือเวลาอีกแค่ 3 ชั่วยามการแข่งรอบที่ 3 ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว”ตอนนี้เป็นยามโฉ่วแล้ว(01.00-02.59)เวลาที่เหลือไม่สามารถทำให้หวังเล่อเฉิงบรรลุระดับที่ 5 ได้แน่ ตอนนี้เขาจึงต้องฝึกเจตจำนงต่างๆไปก่อน
“คันฉ่องเทวะมิติ พาข้าไปฝึกในมิติที”เมื่อกล่าวจบก็เกิดรอยแยกมิติข้างๆหวังเล่อเฉิงแล้วดูดเขาเข้าไปทันที
แวบบบบบบบบบ
รอบๆข้างของหวังเล่อเฉิงตอนนี้เป็นภูเขาและน้ำตกซึ่งเป็นภาพที่เขาสร้างขึ้นมาครั้งที่แล้ว
“คันฉ่องน้อยเมื่อถึงยามเฉิน(07.00-08.59)ให้บอกข้าด้วย”หวังเล่อเฉิงตะโกนขึ้นมาเขาเชื่อว่าคันฉ่องเทวะมิติได้ยินแน่
“ข้างในนี้ข้าสามารถฝึกเจตจำนงได้ตามสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเจตจำนงนั้นๆได้”หวังเล่อเฉิงเริ่มสร้างแดนกระบี่ ดาบ กริช หอก และ ทวน ขึ้นมา
“ข้าต้องฝึกเจตจำนงอาวุธระยะใกล้พวกนี้ก่อน”หวังเล่อเฉิงเดินเข้าไปหยิบอาวุธออกมา 1 อย่างแล้วเริ่มสร้างศัตรูในจินตนาการขึ้นมา
เคร้งงงงงงงงงง
เสียงหอกกับหอกปะทะเข้าใส่กันอย่างรุนแรง
หวังเล่อเฉิงนั้นถอยออกมา 5 ก้าว ส่วนอีกฝ่ายก็ถอยไป 5 ก้าวด้วยเช่นกัน ที่หวังเล่อเฉิงกำลังสู้อยู่ตอนนี้คือเงาของตัวเองที่ใช้หอก เขาคิดว่าการสู้กับตัวเองจะทำให้รู้จุดอ่อนของตัวเองมากขึ้นและยังฝึกฝนเจตจำนงผ่านการต่อสู้ได้อีกด้วย
‘ข้าควรบอกเจ้าหนุ่มนี่ดีไหมว่าเวลาข้างนอกกับข้างในมันไม่เท่ากัน’คันฉ่องเทวะมิติตอนนี้กำลังมองดูหวังเล่อเฉิงสู้กับเงาของตัวเองอยู่ เวลาในมิตินี้จะช้ากว่าข้างนอก 2 เท่า เกิดจากตัวของคันฉ่องเทวะมิตินั้นได้บิดเบือนมิติทำให้เวลาถูกบิดเบือนไปด้วยถึงแม้จะไม่มีความสามารถเกี่ยวกับเวลา
หวังเล่อเฉิงยังคงสู้กับตัวเองไปเรื่อยๆไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้!! ผู้ถือครองข้าถึงหมดเวลาแล้ว”คันฉ่องเทวะมิติกล่าวออกมาแล้วแตะหวังเล่อเฉิงออกจากมิติ
แวบบบบบบบบบ
มิติถูกฉีกออกและหวังเล่อเฉิงก็กระเด็นออกมา
“ฮ่า ฮ่า ข้าบรรลุเจตจำนงระดับ 3 ทั้ง 5 ชนิดแล้ว”ตอนนี้เหลือแค่แส้และธนูเท่านั้นที่เจตจำนงของเขายังอยู่ระดับที่ 1
“ตอนนี้น่าจะเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วยามข้าต้องปรับสภาพพลังให้เตรียมพร้อมเอาไว้”
“กาแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะจาก 16 คนเริ่มได้!!!!”ผู้อาวุโสผู้คุมการประลองเอ่ยพร้อมนำกล่องจับฉลากขึ้นมาวางไว้กลางเวที
“จะมีการแข่งรอบแรกทั้งหมด 8 รอบถ้าจับได้หมายเลขเดียวกันนั่นแสดงว่าอีกฝ่ายคือคู่ต่อสู้”ผู้เข้าแข่งขันทุกคนขึ้นมาหยิบหมายเลขจากในกล่อง ไม่มีใครสามารถโกงได้หากไม่มีพลังมากกว่าผู้อาวุโสระดับสูงจากทั้ง 6 สำนักที่มาดูการแข่งขันได้เพราะพวกเขานั้นไม่ใช่มาดูอย่างเดียวแต่มาตรวจสอบด้วย
“ข้าได้หมายเลข 5 เจ้าค่ะ”เจียงอี้เฟยเป็นคนแรกที่ขึ้นไปหยิบ
“ข้าหมายเลข 8”ครั้งนี้เป็นเจียงฉางเทียน
“ข้าหมายเลข 2 เลยเจ้าค่ะ คู่แรกๆเลย”หวังซินก็ตามไปติดๆ
ครั้งนี้ถึงคิวของหวังเล่อเฉิงแล้ว เขาอยู่คนเกือบท้ายสุดตัวเลขจึงไม่น่าเหลือมากแล้ว
“หมายเลข 1”เมื่อหยิบขึ้นมาดูเขาก็ได้หมายเลขแรกเลยดูเหมือนว่าจะได้เวลาโชว์ของอีกแล้ว
“ให้เวลาเตรียมพร้อม 1 เค่อเพื่อขึ้นมาบนลานประลองถ้ามาช้ากว่านั้นถือว่าสละสิทธิ์”เมื่อได้ยินประกาศหวังเล่อเฉิงก็ขึ้นไปบนลานประลองทันทีเขานั้นเตรียมพร้อมมาทุกอย่างแล้ว
หวังเล่อเฉิงขึ้นมาบานประลองไม่นานก็มีอีกคนขึ้นมาด้วยเช่นกัน หวังเล่อเฉิงส่งพลังจิตเข้าไปตรวจสอบพลังของฝ่ายตรงข้ามแล้วพบว่า อีกฝ่ายอยู่ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 8 ซึ่งถือว่าแค่การโจมตีเดียวของหวังเล่อเฉิงก็ส่งอีกฝ่ายลงไปกองได้
“คู่แรก หวังเล่อเฉิง ปะทะกับ เก่อหมางเถา เริ่มการประลองได้!!!”
หวังเล่อเฉิงเรียกกระบี่ระดับมนุษย์ออกมาลองวิชาใหม่ในทันที
“สะบั้นนภากาศ”เกือบทุกคนเห็นเพียงแค่ว่าหวังเล่อเฉิงหยิบกระบี่ออกมาเท่านั้นแต่อากาศข้างหน้าของเขานั้นแหวกออกจากกันเป็นทางยาวไปจนถึงหน้าอีกฝ่าย
“ข้าไม่ยอมเจ้าหรอก!! ย๊ากกกกก หมัดพยัคฆ์สิ้นลาย”อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้ปล่อยวิชาหมัดของตัวเองออกมา
ตูมมมมมมมมมม
“อ๊อก…”คู่ต่อสู้ของหวังเล่อเฉิงกระเด็นตกเวทีไปซึ่งถือว่าแพ้แล้ว หวังเล่อเฉิงยังใช้พลังไปแค่ 2 ใน 10 เท่านั้นไท่งั้นอีกฝ่ายสาหัสแน่
“คู่แรก หวังเล่อเฉิงชนะ”
“เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงผู้ชมตะโกนเชียร์ดังสนั่นจนกตอนแรกที่มีแต่คนเหยียดหยามตอนนี้มีแต่คนคอยเชียร์เขานี่คือข้อแตกต่างของผู้แข็งแกร่งและผู้อ่อนแอ
“คู่ที่ 2 จื่อเทียนเฉิน ปะทะกับ หวังซิน เริ่มได้!!!!!”
“เจ้าจื่อเทียนเฉิยนั่นอยู่ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 9 ไวแฮะ”
“เมื่อวานเขายังอยู่ขั้นที่ 8 อยู่เลยนิเจ้าคะ”เจียงอี้เฟยนึกถึงเมื่อวานนี้
“มันน่าจะอยู่ขั้นที่ 9 มานานแล้วเมื่อวานคงปกปิดพลังด้วยวิธีอะไรสักอย่างแหละ”
เคร้งงงงง เคร้งงงงงงงงงง
จื่อเทียนเฉินใช้ดาบ ส่วนหวังซินนั้นใช้กระบี่เหมือนเจียงอี้เฟย ทั้งสองปะทะกันอย่างสูสีแต่หวังซินยังไม่ได้ใช้พลังจากกายาของตนเลย
“ครั้งที่แล้วพวกเจ้าใช้คนจำนวนมากรุมพวกข้า ตอนนี้มีเจ้าแค่คนเดียวแล้ว”หวังซินนั้นเกลียดจื่อเทียนเฉินทีี่นำพวกคนอื่นๆเข้ามาแย่งสมบัติโดยใช้คนจำนวนมากข่มเหง
“เหอะ ผู้แข็งแกร่งคือผู้กำหนด”จื่อเทียนเฉินก็เสียหน้าด้วยเช่นกันที่ปล่อยให้คนเพียง 5 คนสู้กับพวกตนที่มีมากกว่าและหนีไปได้
“แพ้ไปซะ!!! ดาบปฐพีสะบั้นขุนเขา”จื่อเทียนเฉินใช้วิชาดาบของตนใส่หวังซินอย่างรุนแรง
“สายธารกระบี่วารี”ปรากฎกระบี่น้ำออกมารอบๆตัวพร้อมพุ่งเข้าใส่ดาบของจื่อเทียนเฉิน
ฉึก ฉึก
“บัดซบ!! ข้าจะแพ้อย่างนั้นรึ”จื่อเทียนเฉินโดนกระบี่น้ำแทงเข้าไป 2 เล่ม ถึงธาตุน้ำ จะแพ้ธาตุดินแต่น้ำของหวังซินเป็นน้ำจากวิถีสวรรค์ไม่ใช่น้ำธรรมดา
“รามสูรขุนเขาวารี”ปราฎยักษ์วารีขนาด 5 จั้งขึ้นมาแล้วตบลงไปที่จื่อเทียนเฉิน
“บัดซบ!!! ดาบคมวายุเฉือนปักษา”คลื่นดาบวายุขนาดใหญ่ส่งเข้ามาปะทะกับหมัดของยักษ์วารี
ตูมมมมมมมมมมมม
ควันฟุ้งกระจายจากการปะทะออกมา ผู้คุมการประลองนั้นส่งพลังของตนตรวจสอบอยู่เสมอจึงใช้พลังของตนพัดฝุ่นควันออกไป
“คู่ที่ 2 หวังซินชนะ!!”
ปรากฎภาพที่จื่อเทียนเฉินนอนอยู่บนสนามประลองเสื้อผ้าฉีกขาด สภาพเละจนดูไม่ได้เลยทีเดียว