บทที่ 31 การทดสอบเข้าสำนัก (2)
การทดสอบพรสวรรค์ได้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนมาถึงรอบพรรคพวกของหวังเล่อเฉิง ซึ่งแต่ละคนก็สร้างความสนใจให้แก่เหล่าผู้อาวุโสที่มาดูการทดสอบ
“อายุ 15 ปี ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 9 กายาไม่มี เส้นลมปราณระดับนภา ผ่าน!!”เจียงฉางเทียนยังอยู่ที่ขั้นเดิมคงเพราะต้องการทะลวงระดับที่ 10
“อายุ 14 ปี ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 9 กายาระดับสวรรค์ เส้นลมปราณระดับนภา ผ่าน!!”หวังซินนั้นก็เป็นไปตามที่คาด ดีที่แท่นหินวิถีสวรรค์มันบอกแค่ระดับไม่ได้บอกชนิดไม่งั้นหวังซินแย่แน่
เมื่อถึงรอบที่เจียงอี้เฟยจะขึ้นไปทดสอบนั้นเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายก็มองมาที่นางด้วยสายตาหยาดเยิ้มตั้งแต่ที่นางดูดซับไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์นางก็งดงามขึ้นเรื่อยๆจนหวังเล่อเฉิงหลงนางขึ้นไปกว่าเก่า
“อายุ 12 ปี ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 8 กายาระดับนภา เส้นลมปราณไร้ระดับ ผ่าน!!!!!”ครั้งนี้เหล่าผู้อาวุโสพลันแตกตื่นขนาดองค์ชายราชวงศ์เซียงยังไม่ทำให้แตกตื่นขนาดนี้
“เส้นลมปราณไร้ระดับในตำนาน!!!”ชายชราในกลุ่มผู้อาวุโสตะโกนตกใจออกมา
“มาอยู่สำนักวิถีเต๋ารึไม่ ข้าสามารถพาเจ้าไปได้เลย”
“มาสำนักดาบอัสนีดีกว่า ข้าจะให้ดาบระดับนภากับเจ้าด้วย”
“อย่าไปสนใจไอ่แก่ทั้งสองคนนั่นถ้าเจ้ามาที่สำนัอสูรทมิฬข้าจะให้อสูรระดับ 5 แก่เจ้า”
เหล่าชายชราจากสำนัก ต่างก็แย่งตัวของเจียงอี้เฟยไปเข้าสำนักเพราะเส้นลมปราณของนางนั้นพัฒนาได้เรื่อยๆถ้าสำนักใดได้ตัวนางไปก็เท่ากับว่าถ้านางยังมีชีวิตอยู่ก็มีโอกาสที่จะทำให้สำนักนั้นแข็งแกร่งมากกว่าสำนักอื่นๆจนสามารถกุมอำนาจในทวีปนี้ได้
“ข้าว่าพวกเราให้นางเลือกเองดีกว่าว่าจะไปสำนักไหน”ชายชราจากสำนักอสูรทมิฬเอ่ยขึ้นทำให้เหล่าชายชราจากสำนักต่างๆเริ่มเงียบลงและฟังว่าเจียงอี้เฟยเลือกจะไปสำนักใด
เมื่อเจียงอี้เฟยเห็นว่าผู้อาวุโสจากสำนักต่างๆสนใจในตัวเธอนั้นก็รู้สึกดีใจที่ตนเองแข็งแกร่งขึ้นมากแต่ตนนั้นต้องการที่จะไปกับหวังเล่อเฉิงจึงต้องเอ่ยออกไป
“ข้าต้องขอโทษผู้อาวุโสทุกท่านด้วยข้านั้นต้องการที่จะตามคู่หมั้นของข้าไป”เมื่อนางพูดจบเหล่าชายชราก็ตามหาชายหนุ่มที่เป็นคู่หมั้นของนาง
พวกเขามองไปรอบๆเพื่อหาคู่หมั้นของนางจนลืมคิดไปว่าพวกตนไม่รู้เลยว่าคู่หมั้นของนางเป็นใคร
“คู่หมั้นของเจ้าคือใครอย่างนั้นรึ”ชายชราจากสำนักอสูรทมิฬคนเดิมเอ่ย
“คนนี้เจ้าค่ะ”เจียงอี้เฟยเดินเข้ามากอดแขนของหวังเล่อเฉิงก่อนกล่าว
กล่าวจบไม่ทันไรก็มีพลังหลายสายเข้ามาสำรวจตัวเขาแต่ดีที่หลังจากศึกษาข้อมูลวิชาต่างๆในห้องสมุดขอราชวงศ์ ทำให้เขาได้วิชาใหม่ๆมาเล่นอีกแล้วรวมทั้งสามารถปกปิกพลังได้อย่างสมบูรณ์ด้วย ซึ่งมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือฝ่ายตรงข้ามจะประมาทและทำให้เอาชนะได้ง่ายขึ้น ส่วยข้อเสีย ก็โดนเหยียดหยามสารพัดนั่นแหละ ตอนนี้หวังเล่อเฉิงแสดงพลังออกมาแค่ระดับก่อเสริมจิตเท่านั้นทำให้เหล่าชายชราต่างๆมีสีหน้าบิดเบี้ยว ยกเว้นแต่ชายชราจากสำนักเมฆครามที่รู้สึกแปลกๆ
“ถ้าเจ้ามาเข้าสำนักข้าข้าจะให้เจ้าทุกอย่างเลย ขยะนี่มันมีดีแค่หน้าตาเท่านั้นแหละอยู่กับมันไปก็มีแต่ล่มจมมาอยู่กับข้าดีกว่าข้าจะหาชายหนุ่มที่หน้าตาดีและมีพรสวรรค์สูงส่งให้กับเจ้า”ชายชราจากสำนักอสูรทมิฬเอ่ยอย่างดูแคลนเป็นอย่างมากพร้อมส่งแรงกดดันไปที่หวังเล่อเฉิง
“เหอะ ค้างคกคิดจะกินเนื้อหงส์”
“อยู่ระดับก่อเสริมจิตขั้นที่ 9 ด้วยอายุเท่านี้ถึงจะแก่งกว่าคนธรรมดาก็เถอะแต่มันเทียบกันไม่ได้เลย”
เหล่าคนที่มาดูการทดสอบนี้ต่างพูดคุยเหยียดหยามดูแคลนไปที่ชายหนุ่ม แต่คนที่มาทดสอบแล้วเข้าไปในมิติลี้ลับแล้วแย่งชิงสมบัตินั้นไม่พูดอะไรเลยแถมยังกลัวๆอีกด้วย
เจียงอี้เฟยได้ยินรอบๆพูดคุยกันนางก็โกรธจนแผ่ความเย็นออกมารอบๆตัว ทำให้คนรอบๆนั้นเงียบไป
“ข้าไม่เข้าสำนักท่านแน่นอน!!!”เจียงอี้เฟยตะโกนใส่ชายชราคนนั้น
ชายชราจากสำนักอสูรทมิฬนั้นรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมากจนจะเข้าไปทำร้ายเจียวอี้เฟย แต่ที่นี่มีคนที่แข็งแกร่งพอๆกับตนอยู่เยอะ ตนนั้นมีระดับพลังเพียงกำเนิดวิถีเต๋าระดับต่ำขั้นต้นเท่านั้น ผู้อาวุโสระดับสูงที่ตามมาด้วยนั้นอยู่บนนาวานภาไม่ได้ลงมาด้วย
“เหอะ!! เจ้าเด็กนี่มันเป็นแค่ขยะเท่านั้นถ้าเจ้าตามมันไปชีวิตเจ้าจบสิ้นแน่”ชายชราพูดอย่างนั้นจนทำให้หวังเล่อเฉิงเริ่มที่จะทนไม่ไหวกับชายชราคนนั้นแล้ว
“ไอ่แก่บัดซบ แกบอกว่าข้าเป็นแค่ขยะงั้นสินะถ้าข้าเป็นแค่ขยะงั้นข้าขอบอกเลยว่าข้าจะไม่เข้าสำนักของแกเป็นอันขาด”หวังเล่อเฉิงตะโกนด่าทอพร้อมเดินตัดหน้าคนอื่นมายืนตรงหน้าแท่นหินวิถีสวรรค์แล้วใส่พลังทั้งหมดลงไป
ตอนแรกเขากะจะปิดบังกายาของเขาแต่เมื่อมันจะมาแย่งคนรักของเขาไปเขายอมไม่ได้
แวบบบบบบบบบ
ปราณที่บริสุทธิ์เป็นอย่างมากจนคนมากมายรู้สึกสบายตัว มันทำให้แท่นหินวิถีสวรรค์ระดับต่ำที่บอกได้แค่ระดับนั้นมีรอยร้าวขึ้นมานิดหน่อย
“อายุ 12 ปี ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 4 กายาไร้ระดับ เส้นลมปราณไร้ระดับ!!!!!!”
เมื่อเห็นแสงที่แสดงออกมาจากแท่นหินมันทำให้คนที่กล่าวดูถูกเขาแต่ละคนรู้สึกอับอายกับคนพูดของตนเองมาก
ถึงระดับพลังจะน้อยกว่าเจียงอี้เฟยแต่ปราณที่เขาแผ่ออกมานั้นมันหนาแน่นและบริสุทธิ์เป็นอย่างมากมันทำให้ชายชราจากสำนักอสูรทมิฬนั้นสะอึกออกมา
ครั้งนี้ไม่มีใครพูดอะไรออกมาได้แต่เงียบเอาไว้ก่อนเท่านั้น
การทดสอบจึงเริ่มต่อไปอย่างเงียบๆจนครบหมดทุกคน
“ในเมื่อทดครบทุกคนแล้วเตรียมตัว การแข่งขันจะเริ่มในอีก 1 ชั่วยาม”
หวังเล่อเฉิงและพรรคพวกจึงกลับไปบนนาวานภา
“ท่านพี่ท่านคิดจะเข้าร่วมสำนักใดหรือเจ้าคะ”เจียงอี้เฟยเอ่ย
“ข้าจะเข้าสำนักเมฆครามหน่ะ”เพราะตอนที่เขาโดนแรงกดดันจากไอ่แก่จากสำนักอสูรทมิฬก็มีผู้อาวุโสจากสำนักเมฆครามมาช่วยไว้แถมเขาสนใจในสำนักนี้อยู่แล้วด้วย จากในบันทึกของราชวงศ์นั้นบอกว่าสำนักนี้เคยเป็นสำนักอันดับ 1 มาก่อนแต่เจ้าสำนักแต่ละคนนั้นเป็นคนดีเกินไปจึงทำให้โดนสำนักอื่นเอาเปรียบ
แต่ที่ยังอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมีทะเลสาบเมฆครามจึงทำให้สร้างอัจฉริยะออกมาได้เรื่อยๆและเขาชอบนิสัยของคนในสำนักนี้
เมื่อกลับมาถึงบนนาวานภาเขาก็ให้เจียงอี้เฟยไปรอเขาในห้องและไปพบกับพ่อและพ่อตาของเขาที่ตอนนี้กำลังสนทนากันอย่างถูกคอ
“ท่านพ่อขอรับมีคนในตระกูลเราผ่านกี่คนขอรับ”
“โอ้ เจ้ามาแล้วงั้นรึ ในปีนี้มีคนในตระกูลผ่านทั้งหมด 5 คน”
“ลูกเขยของข้า ทำไมบิดาของเจ้านั้นยังอยู่แค่ระดับก่อตันเถียนเองละเจ้ายังช่วยให้ข้าทะลวงระดับกำเนิดวิถีเต๋าได้เลย”
หวังเล่อเฉิงได้ยินนั้นก็คิดได้ว่าระหว่าง 9 เดือนที่ผ่านมานั้นตนได้หลอมโอสถระดับ 5 ออกมามากมายเพราะเขานั้นต้องการที่จะกลายเป็นนักหลอมโอสถระดับ 5 ให้ได้ จากประสบการณ์จากการหลอมโอสถเปิดชีพจรทำให้ได้โอสถระดับ 5 มาหลายเม็ด
“นี่ขอรับท่านพ่อ เอาไปใช้ให้หมดเลย ข้าหลอมมาเยอะมากแล้วก็ดูดซับนี่มันจะทำให้ท่านพ่อแข็งแกร่งขึ้น ท่านพ่อตาก็ด้วย”หวังเล่อเฉิงนำขวดที่ใส่โอสถระดับ 5 ขึ้นมา 10 ขวด 1 ขวดมีทั้งหมดสิบเม็ดให้พ่อของตนทั้งหมดแล้วก็นำไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์ออกมาให้บิดากับพ่อตาของตน
“นี่คืออะไรอย่างนั้นรึเฉิงเอ๋อ”
“มันคือไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์ที่ข้าเจอในมิติลี้ลับ มันสามารถเพิ่มพลังปราณมหาศาลและยังทำให้รูปร่างหน้าตาดูดีขึ้นอีกด้วย”
“แสดงว่าเป็นเจ้านี่สินะที่ทำให้ลูกสาวของข้างดงามจนดวงดาวยังอาย”
“พี่เว่ย คราวนี้พวกเราก็คงจะหล่อเหลาและแข็งแกร่งมากขึ้นเหมือนบุตรชายของข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ทั้งสองนั้นหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“ข้าขอตัวเตรียมพร้อมสำหรับการประลองก่อนนะขอรับ”หวังเล่อเฉิงกล่าวลาเสร็จก็เดินเพื่อไปเตรียมตัวสำหรับการประลองที่มีตัวแปรมากมายในครั้งนี้
