ตอนที่แล้วบทที่ 29 ผู้เชี่ยวชาญ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 ผู้เชี่ยวชาญ (3)

บทที่ 30 ผู้เชี่ยวชาญ (2)


บทที่ 30 ผู้เชี่ยวชาญ (2)

. .

. .

อะไรนะ? สี่สิบล้านวอน? คังวูจินไม่สามารถซ่อนความตกใจของเขาได้ เขาค่อนข้างประหลาดใจกับเงินสามสิบล้านวอนมากแล้ว แต่ทันใดนั้นมันก็กระโดดขึ้นไปอีกสิบล้านวอน มีบางอย่างผิดพลาดอีกแล้ว ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นแบบนี้ได้กัน? คังวูจินอยากจะถามออกไปตรง ๆ ด้วยความตะลึง

แต่สําหรับซีอีโอชเวซองกุน คังวูจินถือเป็นนักแสดงอัจฉริยะ

การถามถึงค่าตัวของตัวเอง ยิ่งทำให้ซีอีโอชเวซองกุนยิ้มออกมาเท่านั้น แม้ว่าคังวูจินจะยังคงรู้สึกตกใจ แต่เขาก็ยังคงทำหน้านิ่งเฉยของเขาไว้ให้มากที่สุด และทวนคำตอบของซีอีโอชเวซองกุนด้วยเสียงเบา

"สี่สิบล้านวอนเหรอครับ?"

"ใช่ครับ สำหรับคุณคังวูจินมันเป็นไปได้ครับ"

คังวูจินรู้สึกชาไปหมด นี่พูดจริงใช่ไหม? ตอนที่เขาทำงานที่บริษัทออกแบบ เงินสิบล้านวอนเป็นเงินก้อนที่ต้องใช้เวลาทั้งปีถึงจะเก็บได้ ตอนนี้มันกลับปรากฏขึ้นมาภายในไม่กี่วินาที มันน่าตกใจมาก แต่แม้จะตกใจ คังวูจินก็ต้องพยายามใจเย็น

ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

'คน ๆ นี้คงกำลังเข้าใจผิดไปเองมั้ง'

ตอนนี้เขาต้องต่อบทสนทนาต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรยืดยาว ความผิดพลาดในการพูดจะเป็นศัตรูในอนาคต ประโยคที่ไม่รอบคอบอาจทำให้ดูเป็นคนเหลวไหลได้

'แต่ละวินาทีเหมือนเดินบนน้ำแข็งบางอยู่ชัด ๆ'

แม้ไม่มีใครรู้ แต่ภายในใจของคังวูจินกำลังต่อสู้กับศึกหนัก เขากำลังพยายามคิดคำตอบที่ดูดีและเจ๋งที่สุดออกมา

“ผมสงสัยน่ะครับว่าทำไมคุณถึงได้กำหนดเงินจำนวนนั้นขึ้นมา”

ซีอีโอชเวซองกุนประสานมืออย่างเคร่งขรึม เขาดูไม่แปลกใจเลยและยังอธิบายว่า

“...จริง ๆ แล้ว เทรนด์สมัยนี้คือการหลีกเลี่ยงโบนัสตอนเซ็นสัญญาครับ ดาราดังบางคนยังไม่รับเลยด้วยซ้ำ พวกเขาส่วนใหญ่เลือกที่จะรับบ้านหรืออย่างอื่นแทน”

“จริงเหรอครับ?”

“ดารานักแสดงหน้าใหม่ที่แจ้งเกิดด้วยภาพยนตร์หรือละครดังไม่กี่เรื่องก็เช่นกันครับ พอย้ายสังกัดหลังจากสัญญา 7 ปี พวกเขาก็จะเอารถหรูนำเขาจากต่างประเทศเป็นโบนัสตอนเซ็นสัญญาให้แทน”

“ครับ เรื่องนั้นผมพอจะรู้อยู่บ้าง”

“ประเด็นสำคัญที่สุดคือช่วง ‘การย้ายสังกัด’ โบนัสตอนเซ็นสัญญาส่วนใหญ่จะมอบให้เมื่อศิลปินย้ายสังกัดกัน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือไอดอล มันแทบจะไม่มีใครได้รับโบนัสตอนเซ็นสัญญาฉบับแรกเลย เพราะทุกคนเริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกหัด แต่ถ้าคน ๆ นั้นเก่งก็อาจจะมีเงินค่าขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ประมาณนั้นครับ”

ในไม่ช้า ซีอีโอชเวซองกุนก็ชี้ไปที่คังวูจินที่ยังคงนิ่งเฉย

"แต่คุณคังวูจิน คุณเป็นคนพิเศษกว่าทุกคนที่ผมกล่าวถึงมา คุณแทบจะไม่มีใครรู้จักเลย มีผลงานแค่สองเรื่อง และเรื่องหนึ่งเป็นหนังสั้น แต่ก็นับว่าไม่เคยมีกรณีแบบนี้มาก่อน คุณรู้ใช่ไหมครับ?”

“พูดต่อเถอะครับ”

“แต่ถ้าจะพูดตามตรง ต่อสาธารณะ คุณก็ยังเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง พออยู่ในวงการบันเทิง เงินทองย่อมมาจากการเป็นที่รู้จัก ถ้าสังกัดอื่นเห็นโบนัสตอนเซ็นสัญญานี้ พวกเขาคงคิดว่าเราบ้าไปแล้ว เพราะคุณยังไม่มีชื่อเสียงเลย แต่คนที่เคยเห็นคุณตอนอ่านบทละคร พวกเขายินดีที่จะลงทุนแน่ เพราะพวกเขาต่างมองเห็นความหวังในอนาคต”

“…”

“สุดท้ายแล้ว มันก็อยู่ที่ว่าคุณจะมีชื่อเสียงได้มากแค่ไหน ไม่มีใครสนหรอกครับว่าจะมีสังกัดหรือไม่มีสังกัด”

ซีอีโอชเวซองกุนหยุดชั่วขณะ

“คุณคังวูจิน การแสดงของคุณยอดเยี่ยมมาก ผมประทับใจฝีมือการแสดงของคุณ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยล่ะครับ”

เขาสรุปคําอธิบายของเขา

“ผมดีใจนะครับที่คุณมาร่วมงานกับ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ แถมคุณยังทำให้ผู้กำกับและนักเขียนถึงกับหลงใหลได้ แต่ว่าอนาคตในวงการบันเทิงนั้นไม่แน่นอนเสมอไป ถ้า 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ล้มเหลว ชื่อเสียงของคุณก็ยังคงมืดมัว ส่วน 'สำนักงานนักสืบ' เป็นหนังสั้น ดังนั้นคนทั่วไปคงแทบจะไม่ได้ดูเลย”

เขาพูดไม่ผิด มีเพียงคังวูจินเท่านั้นที่รู้ว่าผลงานเรื่องพวกนี้จะดังหรือไม่

“แล้วลองคิดดูสิครับ ผมและสังกัดอื่น ๆ ที่ติดต่อคุณคังวูจินพร้อมยอมจ่ายโบนัสตอนเซ็นสัญญาสี่สิบล้านวอนให้กับคนธรรมดาคนหนึ่ง ทั้งที่มันไม่แน่นอนแบบนี้ ต่อให้มีทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมของคังวูจิน แต่สังกัดอื่น ๆ ก็คงจะไม่เสนอเงินมากกว่าสี่สิบหรือห้าสิบล้านวอนแน่ บางสังกัดหลายสังกัดอาจจะต้องขออนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงด้วยซ้ำไป”

อ่า การโดนปฏิเสธมันชวนหงุดหงิดจริง ๆ คังวูจินลอบเห็นด้วยในใจ จากนั้นซีอีโอชเวซองกุนจึงดึงแฟ้มใสที่เขาเอามาด้วยออกมาอย่างรวดเร็ว  มันเป็นเอกสารสัญญา

“แต่จริง ๆ แล้วโบนัสตอนเซ็นสัญญามันไม่สำคัญขนาดนั้นหรอกครับ ในสถานการณ์แบบนี้  มันเป็นแค่การแสดงความมีน้ำใจหรือการแสดงความชื่นชมต่อการแสดงของคุณคังวูจินเท่านั้น  ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้ครับ อย่างที่คุณรู้...”

ในไม่ช้า ประธานชเวซองกุนก็ชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของสัญญาด้วยนิ้วชี้ของเขา

“มันคืออัตราส่วนแบ่งรายได้และระยะเวลาสัญญา”

เข้าใจแล้ว คังวูจิพอจะเริ่มเข้าใจเรื่องนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเขาเองก็ต้องคุยโม้สักหน่อยบ้างสินะ เอาล่ะ เอาคำพูดที่ผู้กำกับชินดงชุนเคยพูดมาใช้ก็พอ คังวูจินจึงเริ่มกล่าวขึ้นมา

“คุณไม่จำเป็นต้องมาลงทุน เงิน เวลา และการศึกษาให้กับผมสินะครับ”

ซีอีโอชเวซองกุนที่กำลังยิ้มพยักหน้าเห็นด้วย

“ถูกต้อง นั่นเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่สำหรับทุกสังกัดเลย ทว่าเมื่อคุณเติบโตในวงการ คุณก็จำเป็นต้องมีสังกัดอยู่ครับ”

“ครับ”

“ครั้งหนึ่งผมเองก็คิดเรื่องพวกนี้อยู่ อะไรจะดึงดูดคุณคังวูจินได้ นอกเหนือจากโบนัสตอนเซ็นสัญญา ลองให้ไปชิมลางดูดีไหม? ผมก็คิดอย่างนั้นแหละ ว่าแต่คุณเข้าใจแนวโน้มของตลาดหรือเปล่าครับ?”

ซีอีโอชเวซองกุนที่ถามอย่างตามใจชอบ ก็เลื่อนสัญญาไปทางคังวูจิน

"อัตราการจ่ายมาตรฐานสําหรับนักแสดงที่ไม่รู้จักซึ่งผ่านการเป็นเด็กฝึกหัดอยู่ที่ประมาณ 5:5 ถึง 6:4 แต่คุณคังวูจินคุณเป็นคนที่พร้อมทุกอย่าง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสังกัดไม่จําเป็นต้องเสียเงินแม้แต่วอนเดียว"

เขาเน้นย้ำเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"อัตราการจ่ายในสัญาคือ 9:1 แน่นอนว่าพวกเราคือ 1 และระยะเวลาสัญญา 1 ปี"

นี่มันอะไรกัน? เงื่อนไขสุดโต่งพวกนี้? ในตอนนั้นซีอีโอชเวซองกุนก็เริ่มพูดเรื่องสำคัญออกมา

"สรุปง่าย ๆ มันก็แค่เหมือนการให้คุณลองชิมลางกับทางบีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ดูว่ามาอยู่กับสังกัดเราจัเป็นยังไง ส่วนเรื่องตัดสินใจว่าจะขยายสัญญาต่อไหมหลังจากผ่านไปหนึ่งปี เรื่องนี้แล้วแต่คุณเลยครับ"

ในการจะตอบคำถามนี้ คังวูจินลดสายตาลงไปมองสัญญาและตอบเบา ๆ ไปว่า

"ช่วยอธิบายสัญญาหน่อยครับ"

ขณะเดียวกัน ในกองถ่ายละคร

ฉากที่แบ่งเป็นหลายส่วนอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการถ่ายทำแล้ว ที่นี่มีPDซงมันวูอยู่ เขากำลังคอยตรวจสอบสถานการณ์ต่าง ๆ ของฉากในกองถ่ายอย่างแข็งขัน

"เสียงตรงนี้ ไม่ได้ยินกันเหรอ? มันดังเอี๊ยดอ๊าดอยู่ใช่ไหม?"

จากนั้นเอง

– ตืด ตืด♬♪

โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น PDซงมันวูหลังจากตรวจสอบผู้โทรแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่สนใจ

"อา- หัวหน้าชเว คุณเองก็มาดูนักแสดงในวันอ่านบทด้วยใช่ไหมครับ?”

หลังจากคำถามของPDดังขึ้น เสียงผู้ชายดังมาทางโทรศัพท์หรือก็คือคุณชเว หัวหน้าค่ายหนังยักษ์ใหญ่ 'บ็อกซ์มูฟวี' ได้ดังตอบกลับมาจากปลายสายครับ

"ใช่คือ คือว่าคุณPD เอ่อ-คุณพอมีเบอร์โทรศัพท์ของคนที่สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในห้องอ่านบทไหมครับ อ่า คุณคังวูจิน ช่วยบอกเบอร์โทรเขามาได้ไหมครับ?”

"เบอร์โทร?"

"ครับ อันที่จริงผมให้นามบัตรเขาตอนอ่านบทละคร แต่เขาไม่ได้ติดต่อผมมาเป็นสัปดาห์แล้ว ผมแน่ใจว่าขาเห็นชื่อบริษัทภาพยนตร์ของเราแล้วแหละ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มันเกิดขึ้น…”

PDซงมันวูหัวเราะเบา ๆ ราวกับว่าเขาเข้าใจ

“เอาแค่ชื่อไปดชว์อย่างเดียวเขาก็ไม่ขยับหรอกครับ เขาค่อนข้างเป็นพวกหัวแข็ง  แต่ว่าการให้เบอร์เขาไปมันจะดูไม่เหมาะสมหรือเปล่านะครับ?”

"ขอโทษด้วยครับ คือว่าผมรีบมาก"

"อืม ผมก็แน่ใจว่าเขาไม่ได้เมินเฉยต่อบ็อกซ์มูฟวี่หรอก เขาต้องมีเหตุผลอยู่แน่ ๆ "

ขณะที่PDซงมันวูพูดจบ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของเขา

‘บ็อกซ์มูฟวี่ติดต่อคังวูจินแล้วนี่ พวกเขายังไม่ได้เริ่มโปรเจคกับผู้กำกับคนนั้นอีกเหรอ?'

PDซงมันวูนึกถึงบทความที่เขาเพิ่งอ่าน ผู้กำกับชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของประเทศเพิ่งเริ่มโปรเจคใหญ่กับบ็อกซ์มูฟวี่ เมื่อพิจารณาตามช่วงเวลา มันก็ควรต้องถ่ายทำแล้วสิ แต่สาเหตุที่ยังไม่ถ่ายทำ…คำตอบนั้นค่อนข้างเรียบง่าย

'พวกเขาพยายามคว้าตัวคังวูจินหรือเปล่า?'

เป็นไปได้สูงทีเดียว

'ถ้าคังวูจินเข้าร่วมโปรเจคของผู้กำกับคนนั้น... มันคงจะทำให้หนังเรื่องนี้กลับกลายเป็นไม่ธรรมดาเลย"

PDซงมันวูกำลังนึกบทภาพยนต์นี้ไว้ในหัว จู่ ๆ เขาก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา

"ถ้าคุณรีบขนาดนั้น ให้ผมลองถามคังวูจินให้ไหม?"

ไม่กี่สิบนาทีต่อมา กลับมาที่สำนักงานของบีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์

คังวูจินและซีอีโอชเวซองกุนนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ซีอีโอชเวชองกุนกำลังอธิบายสัญญากับคังวูจินอย่างละเอียด เขาค่อนข้างกระตือรือร้นมาก ทาง คังวูจินก็ตั้งใจฟังคำอธิบาย แต่ยังลอบสังเกตซีอีโอชเวซองกุนอย่างถี่ถ้วน

‘ไม่รู้แฮะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาคงกำลังเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่า? บางทีอาจเป็นฝีมือของฮงฮเยยอนด้วยก็ได้แฮะ'

เธอคงได้ใช้อิทธิพลของเธอด้วยเช่นกันแน่ เพราะไม่มีทางเลยที่เขาจะได้เงื่อนไขเหล่านี้ถ้าเขาไปอยู่กับสังกัดอื่น เมื่อไตร่ตรองดูแล้ว มันก็คงไม่มีที่ไหนที่มีเงื่อนไขดีกว่าที่นี่ ที่บีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่คังวูจินคิด

คิดดูสิว่าเขาจะได้ ‘ประสบการณ์’ และอัตราส่วน 9: 1 อีกทั้งยังมีเรื่องสัญญา 1 ปีอีก

สัญญาเบื้องต้นตัวนี้ มันถูกจัดทำขึ้นเพื่อคังวูจินโดยเฉพาะ

‘ดีแล้วที่มีคนรู้จักอยู่บ้าง เป็นโบนัสที่ได้พูดคุยสื่อสารกับคุณฮงฮเยยอนสินะ’

วงการบันเทิงเป็นสิ่งที่คังวูจินไม่คุ้นเคย ถ้าแม้แต่สังกัดที่จะเข้าไปอยู่ด้วยยังไม่คุ้นเคย ความเหนื่อยก็จะยิ่งทวีคูณ แต่ว่าเขาต้องเล่นตามเกมไปก่อนใช่ไหมนะ? ถ้าเกิดไปอยู่กับสังกัดที่เขารู้สึกสบายใจกว่า มันย่อมเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ?

คังวูจินตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยที่ซีอีโอชเวซองกุนไม่รู้

หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที การบรรยายสรุปอย่างกระตือรือร้นของซีอีโอชเวซองกุนก็จบลง เขามองไปที่คังวูจินที่อยู่ตรงข้ามกับเขาแล้วถามว่า

"คุณคิดว่ายังไงครับ? ผมขอยืนยันว่าผมจะทำให้ดีที่สุดเลยครับ”

ตอนนี้ ขออยู่ที่นี่ก่อนแล้วกัน

“……”

คังวูจินไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เกิดความเงียบในบทสนทนา เขาเอ่ยปากพูดออกมาอีกครั้งในอีกหนึ่งนาทีต่อมา

“คุณซีอีโอครับ ผมขอเพิ่มข้อเสนอ 2 ข้อได้ไหมครับ?”

"...พูดมาได้เลยครับ"

"ข้อแรกคืออย่าถามเกี่ยวกับอดีตของผม และข้อสองคือ ผมขอทำงานเฉพาะโปรเจคที่ผมอยากทำเท่านั้น"

“ที่ผ่านมา… ผมพอจะรู้คร่าว ๆ จากฮงฮเยยอนแล้วล่ะครับ คงมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นสินะครับ เรื่องโปรเจคที่พูดมานี้ หมายความว่าผมไม่ควรเสนอแนะอะไรเลยเหรอครับ?”

"ไม่ใช่ครับ ผมแค่ต้องการตัดสินใจเรื่องโปรเจคด้วยตัวเองเท่านั้น"

สรุปง่าย ๆ ก็คือ เขาต้องการมีสิทธิ์ตัดสินใจเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ ซีอีโอชเวซองกุนดูเหมือนจะไม่ติดอะไร ถ้าเขาบอกว่าจะไม่รับงานเลย มันคงจะเป็นปัญหากับเขามากวว่า แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น มันอะไรก็ได้ ซีอีโอชเวซองกุนจึงยิ้มออกมาด้วยความยินดีน

"ทั้งสองข้อเป็นไปได้ครับ เราสามารถเพิ่มรายการเหล่านี้ลงในสัญญาได้เลยครับ"

ทันทีที่เขาได้ยินคำตอบ คังวูจินก็ยื่นมือออกไป เขามองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าจริงจัง

"ผมหวังว่าเราจะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นนะครับ"

ดวงตาของซีอีโอชเวซองกุนเบิกกว้างเล็กน้อยขณะที่เขาจับมือกับคังวูจินและถามว่า

“หมายความว่าคุณจะเซ็นสัญญากับผมเหรอครับ?”

“ใช่ครับ”

ในชั่วพริบตา ปากของซีอีโอชเวซองกุนยิ้มกว้างจนจรดหู เขาดูพึงพอใจอย่างยิ่ง

"ฮ่าฮ่าฮ่า! โอเค โอเค เข้าใจแล้วครับ ผมหัวเราะเสียงดังไปหน่อย นานแล้วนะที่ผมไม่ได้รู้สึกมีความสุขขนาดนี้”

จากนั้น ซีอีโอชเวซองกุนก็ลงมืออย่างรวดเร็ว เขารีบยื่นสัญญาฉบับแก้ไขให้กับคังวูจิน

ควั่บ

“ยินดีต้อนรับสู่บีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ในฐานะนักแสดงคนที่สองของเรานะครับ”

คังวูจินเซ็นสัญญา ชีวิตเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่เข้าสังกัด ในเวลาเดียวกัน คังวูจินก็หยิบนามบัตรที่เขานำมาด้วยออกมาและถามบางอย่างที่เขาอยากรู้

“ผมได้รับนามบัตรนี้ในวันอ่านบท พวกเขาบอกให้ผมติดต่อพวกเขาไป แต่อันนี้เป็นบริษัทภาพยนตร์ ไม่ใช่บริษัทตัวแทน”

เมื่อได้รับนามบัตร รอยยิ้มของชเวซองกุนก็ยกกว้างขึ้น

“ฮ่าฮ่า น่าทึ่งมากอะไรขนาดนี้ครับ? ผมไม่คิดว่าจะมีงานเข้ามาพร้อมกับสัญญา ไหนผมขอดูหน่อยนะครับว่าบริษัทภาพยนต์ไหน?”

ทันใดนั้น ดวงตาของซีอีโอชเวซองกุนเบิกกว้างขึ้น

'บริษัทบ็อกซ์มูฟวี่เหรอ??'

บ็อกซ์มูฟวี่เป็นบริษัทใหญ่  ชเวซองกุนรีบพลิกนามบัตรกลับด้าน ชื่อของเจ้าของนามบัตรอยู่บนนามบัตร

'หัวหน้าฝ่ายผลิตชเวโดมิน PDฝ่ายผลิต เขาคือนักปั้นตัวจริงของบ็อกซ์มูฟวี่ แต่เขามางานอ่านบทด้วยเหรอครับ?'

ทันใดนั้น ความคิดบางอย่างคล้ายถูกจุดติดประกายในหัวของเขา

"อ๋อ ผู้กำกับวูฮยอนกู คุณรู้จักเขาไหมครับ? เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับชั้นแนวหน้าของประเทศเรา เขาคนนี้กำลังจะทำผลงานชิ้นต่อไปกับบ็อกซ์มูฟวี่ ผู้กำกับวูฮยอนกูและหัวหน้าชเวโดมินก็สนิทกัน อา! แสดงว่า... หัวหน้าชเวโดมินกำลังวางแผนดันคุณคังวูจินเข้าไปในภาพยนต์ของผู้กำกับวูฮยอนกูหรือเปล่านะ?"

ซีอีโอชเวซองกุนที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งได้สบตากับคังวูจินที่ไร้อารมณ์

"คุณคังวูจิน คงจะดีถ้าได้พบกับหัวหน้าชเวโดมินคนนี้ ไม่สิ เราต้องไปพบเขาให้ได้”

ทันใดนั้นเอง

- ตืด ตืด

โทรศัพท์ของคังวูจินดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าและผู้โทรคือPDซงมันวู ดูเหมือนว่าซีอีโอชเวซองกุนเหมือนจะพยักหน้าในขณะที่เขาทำท่าทางรับสาย  ในไม่ช้าคังวูจินก็จึงเอาโทรศัพท์แนบหู

"ครับคุณPD"

เสียงของ PDซงมันวูดังมาทางโทรศัพท์

“คุณคังวูจิน คุณน่าจะได้รับนามบัตรจากบ็อกซ์มูฟวี่แล้วใช่ไหมครับ?”

"ใช่ครับ แต่คุณรู้ได้ยังไงว่า..."

“หัวหน้าชเวโดมินโทรหาผม เขาขอเบอร์ของคุณน่ะครับ ผมเลยบอกว่าไม่ได้ แต่ผมบอกว่าจะลองถามคุณให้ดู”

จังหวะเวลาพอดีเลยอะไรขนดานี้? พวกเขาเพิ่งคุยกันเรื่องนี้อยู่เลย ในขณะเดียวกัน PDซงมันวูก็พูดผ่านโทรศัพท์ออกมา

"คุณคังวูจิน ผมรู้ว่าคุณจะจัดการเรื่องพวกนี้เอง แต่การได้เจอกับบริษัทภาพยนตร์สักครั้งก็คงไม่เลว มันไม่เลวร้ายหรอกครับ อีกฝ่ายเป็นถึงบริษัทใหญ่ด้วย”

"ครับคุณPD ผมจะติดต่อพวกเขาเอง"

"เข้าใจแล้วครับ งั้นผมจะติดต่อคุณอีกที"

ติ๊ด

ทันทีที่สายวางไป คังวูจินก็เล่าเรื่องที่คุยโทรศัพท์ให้ซีอีโอชเวซองกุนฟังคร่าว ๆ  ชเวซองกุนซึ่งตอนนี้เป็นผู้จัดการของคังวูจินจึงรีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ผมจะโทรหาหัวหน้าชเวโดมินเดี๋ยวนี้เลยครับ”

จากนั้น ซีอีโอชเวซองกุนก็กำลังคุยโทรศัพท์กับอีกฝ่าย

“คุณให้นามบัตรคุณคังวูจินของเราใช่ไหมครับ? อ๋อ เดี๋ยวผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังตอนเจอกัน ฮ่าฮ่า ใช่ครับ”

เขาดูเหมือนจะแปลกใจเล็กน้อย

“หือ? คุณอยากเจอเขาเดี๋ยวนี้เลยเหรอครับ??”

สองชั่วโมงต่อมา  ตอนช่วงเที่ยงที่ บริษัทภาพยนตร์บ๊อกซ์มูฟวี่

บริษัทภาพยนตร์บ๊อกซ์มูฟวี่ตั้งอยู่บนชั้น 7 ถึง 9 ของตึกแห่งหนึ่งในย่านนนฮยอนดง มีโปสเตอร์หนังจำนวนมากประดับอยู่ตามทางเดินและผนังสำนักงานของแต่ละชั้น

ทุกเรื่องล้วนเป็นภาพยนตร์ที่ผลิตโดยบ๊อกซ์มูฟวี่

คังวูจินและซีอีโอชเวซองกุนอยู่ในห้องประชุมขนาดกลางบนชั้น 8  ทั้งสองนั่งอยู่กลางโต๊ะรูปตัว 'ᄃ' คังวูจินแอบมองโปสเตอร์ภาพยนตร์บนผนังห้องประชุม

ตอนนั้นเอง

"เขามาสายนะ"

ซีอีโอชเวซองกุนเคาะนิ้วบนโต๊ะด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย  เพราะหัวหน้าชเวโดมินควรจะมาถึงตั้งแต่ 30 นาทีที่แล้ว

"ทั้งที่ก่อนหน้านี้เอาแต่เอะอะว่าติดต่อคุณคังวูจินไม่ได้"

30 นาทีถือว่าเกินไปหน่อยแล้ว ชัดเจนว่ามันเป็นการมาสายโดยตั้งใจ ถึงอย่างนั้น ซีอีโอชเวซองกุนก็ถอดแว่นออกแล้วถอนหายใจเบา ๆ

ตอนนี้เอง

เอี๊ยด..

ประตูกระจกของห้องประชุมเปิดออกและมีชายร่างเตี้ยคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาคือหัวหน้าชเวโดมิน

"ฮ่า โอ้ ผมขอโทษนะครับ พอดีมีธุระเร่งด่วนนิดหน่อยระหว่างทาง"

หัวหน้าชเวโดมินแก้ตัวด้วยท่าทีเฉยเมย ขณะที่คังวูจินกลับรู้สึกหงุดหงิดภายในใจ

'อ่า ประโยคแบบนี้ชักน่าหน่ายใจจริงนะ ตอนอยู่บริษัทออกแบบฉันก็ได้ยินประโยคนี้บ่อยมากเลย จนแทบจะเป็น PTSD แล้วเนี่ย'

หลังจากทักทายกันสั้น ๆ หัวหน้าชเวโดมินก็ยิ้มให้กับคังวูจินที่หน้าไร้ความรู้สึก

"ในที่สุดเราก็ได้พบกัน คุณคังวูจินใช่ไหมครับ? ผมรอคุณมาตั้งนานแล้ว”

"ผมมีงานถ่ายครับ"

"อ้าว เหรอ? สงสัยจังหวะไม่ดีเลยสินะครับ  ฮ่า ๆ ผมค่อนข้างจะเสียใจหน่อยแฮะที่ไม่มีการติดต่อกันมาเลยเกินอาทิตย์ ผมนึกว่านักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มสร้างผลงานกำลังเมินผมอยู่เลย”

แม้จะยิ้มอย่างร่าเริง แต่คังวูจินก็สัมผัสได้อย่างรวดเร็วว่า หัวหน้าชเวโดมินรู้สึกไม่พอใจกับน้ำเสียงของเขา

จากนั้นหัวหน้าชเวโดมินก็วางชุดเอกสารไว้บนโต๊ะ

"ผมเล่าเรื่องนี้ให้ผู้กํากับฟังทั้งหมด แต่ผมเกือบโดนด่าเพราะผมไม่สามารถติดต่อกับคุณคังวูจินได้เลย อ่า ผมไม่ได้โทษคุณนะครับ"

ซีอีโอชเวซองกุนถามกับหัวหน้าชเวโดมินที่กำลังโบกมือเบา ๆ

“ขอโทษนะครับหัวหน้าชเว แต่ผู้กำกับที่คุณเพิ่งพูดถึงคือผู้กำกับวูฮยอนกูหรือเปล่าครับ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวหน้าชเวโดมินก็ก็หยักไหล่ทันที

"ใช่แล้ว ถูกต้องเลยครับ เป็นผู้กำกับวูฮยอนกู  ไม่มีอะไรต้องปิดบังเลยเพราะมันเป็นข่าวไปแล้ว อืม คุณคังวูจิน คุณจะต้องคัดเลือกนักแสดงนะครับ แต่ว่าถ้าพิจารณาจากการแสดงที่ผมเคยเห็นแล้ว ผมเชื่อว่าคุณจะเหนือกว่าทุกคนแน่ มันไม่ยากเลยครับ"

มุมปากของหัวหน้าชเวโดมินยกขึ้นขณะที่เขาเลื่อนกองเอกสารไปข้างหน้า

“นี่คือบท ลองเอาไปดูสิครับ”

คังวูจินที่หยิบบทขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ ตรวจสอบหน้าปกบทละครของผู้กำกับวูฮยอนกูก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นเขาก็พลิกหน้าแรกอย่างไม่ตั้งใจ ระหว่างนี้ซีอีโอชเวซองกุนก็กำลังคิดอะไรบางอย่าง

'หัวหน้าชเวโดมินกําลังผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังเลยงั้นเหรอ? ถ้าคังวูจินร่วมงานของผู้กำกับวูฮยอนกูต่อจาก 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' จากนี้คง...'

ในตอนนี้เองที่หัวหน้าชเวโดมินอธิบายอย่างมั่นใจ

"แน่นอนว่าเราไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนเงินทุนเลยครับ นี่คือโปรเจกต์ถัดไปของผู้กำกับวูฮยอนกู นักลงทุนจึงเข้าแถวเพื่อทุ่มเงินให้เรา"

ระหว่างพูดคุยกัน คังวูจินก็พลิกหน้าบทภาพยนต์ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ใส่ใจ เขาดูเหมือนกำลังอ่านผ่าน ๆ และพลิกหน้าไปโดยไม่ตั้งใจ ซีอีโอชเวซองกุนซึ่งกําลังดูเขาอยู่ก็ลูบคางของเขา

'หัวหน้าชเวโดมินเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่อย่างว่า งานก็คืองาน โอกาสทองแบบนี้เราปล่อยหลุดมือไม่ได้หรอก ถ้าเขาดันขนาดนี้ เราก็ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้'

เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำหน้าที่ของตัวเอง ตอนนี้เอง คังวูจินยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วเลื่อนไปด้านข้างของบทภาพยนต์สรุปนั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

จากนั้น หลังจากนิ่งไปพักใหญ่

คังวูจินลังเลสักพักแล้วครางเสียงออกมาเบา ๆ

"อืม..."

ซีอีโอชเวซองกุนโน้มตัวไปหาคังวูจินแล้วกระซิบว่า

"คุณคังวูจิน ไม่ว่ายังไงนี่ก็คือโอกาสที่เราต้องคว้าไว้…จริง ๆ แล้ว สถานการณ์แบบนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นกับมือใหม่หรือนักแสดงที่ไม่มีใครรู้จักหรอกนะครับ”

"อย่างนั้นเหรอครับ?"

"ครับ มันคือโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับผู้กำกับมือฉมังอย่างวูฮยอนกู เพราะงั้นรับไปก่อนเถอะนะครับ"

ทว่าคําตอบที่ตามมาของคังวูจินนั้นกลับดูเด็ดขาดมาก

"อ๋อ งั้นรบกวนปฏิเสธไปให้ทีนะครับ"

*****

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด