บทที่ 24 การต่อสู้แย่งชิงสมบัติ
“เอาละ พวกเจ้ารับนี่ไปแล้วเตรียมโยนตามข้าที่ข้าสั่ง”หวังเล่อเฉิงนำโอสถระเบิดของตนออกมาเป็นจำนวนมากแล้วแจกจ่ายให้แก่พรรคพวกของตน
“อีกสักพักก็คงมากันแล้ว เราหลบกันก่อนเหลือเวลาอีก 11 ชั่วยามก่อนที่สมบัติจะปะทุออกมา”
หวังเล่อเฉิงจึงทดสอบฉีกมิติด้วยเจตจำนงของตนดูก็พบว่าสามารถให้คนเจ้าไปอยู่ได้ 10 คนเลยทีเดียว
“หึหึหึ เอาละเข้ามาในมิตินี้แล้วเตรียมรับทรัพย์กันเถอะ”หวังเล่อเฉิงแสยะยิ้มออกมา
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ
“เอาละพวกเราซุ่มรออยู่แถวนอกวิหารก่อน ต้องสมบัติปรากฎออกมาแน่ๆ”หนึ่งในกลุ่มคนที่มีตราตระกูลจุนเอ่ย
ผ่านไปไม่นานก็มีอีกหลายกลุ่มเข้ามาแต่ทั้งหมดก็ซุ่มรอจังหวะกันหมดแต่ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงมิติที่หวังเล่อเฉิงสร้างเลยแม้แต่น้อย
เช้าวันถัดมาอีก 1 ชั่วยามก็จะเริ่มการปะทุของสมบัติแล้วกลุ่มทั้งหมดที่เข้ามาภายในมิติลี้ลับนี้ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่เกือบทั้งหมดซึ่งรวมถึงกลุ่มขององค์ชายจากอีก 3 อาณาจักรด้วย
“พวกมันรอดมาได้แฮะ ขนาดลอบโจมตีแต่ผู้ติดตามมันน่าจะตายหมด”หวังเล่อเฉิงคิดแผนที่จะทำให้องค์ชายทั้งสามกลายเป็นผีเฝ้ามิตินี้
หวังเล่อเฉิงยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมาแล้วจ้องไปยังกลุ่มขององค์ชายเหล่านั้น
เมื่อใกล้เวลาที่จะเริ่มการปะทุแล้วหวังเล่อเฟิงก็ปลดปนึกสายเลือดตนออกแล้วแฝงลมปราณธาตุลมเข้าไปแล้วส่งออกไปนอกมิติข้างนอกวิหาร
ปกติการที่ผู้บ่มเพาะจะเปลี่ยนปราณเป็นธาตุต่างๆได้นั้นต้องมีความเข้าใจในธาตุนั้นๆจนบรรลุเจตจำนงจึงจะสามารถใช้ได้อย่างอิสระที่คนทั่วไปใช้พลังธาตุได้นั้นเพราะวิชาที่ใช้แต่ที่หวังเล่อเฉิงใช้ได้ทุกธาตุนั้นเพราะมีปราณธรรมชาติที่เป็นต้นกำเนิดของธาตุ
เมื่อส่งควันจากสายเลือดที่แฝงไว้ด้วยปราณธาตุลมแล้วนั้นข้างนอกก็เกิดพายุพัดโหมกระหน่ำจนสร้างเป็นลมหมุนขนาดใหญ่ขึ้นมา
“เฮ้ย เฮ้ย!!! พายุนี่มันมาจากให้”ข้างนอกตอนนี้ได้พัดพาก้อนหินต้นไม้ที่มีขนาดเบาขึ้นมาเต็มไปหมดแต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของหวังเล่อเฉิง
ปุงงงงงงงง!!! ปุงงงงง!!!! ปุงงงงงงง!!!!!
สมบัติได้ปะทุออกมาจากใต้บัลลังก์แล้วหวังเล่อเฉิงก็เริ่มแผนขั้นต่อไปทันที
“โยนโอสถระเบิดเข้ามาเลย!!!!”เมื่อได้ยินทุกคนก็ส่งโอสถระเบิดผ่านช่องว่างมิติเพื่อส่งเข้าไปในลมหมุน
“เอาละได้เวลาแสดงดอกไม้ไฟแล้ว”หวังเล่อเฉงกล่าวจบก็ดีดนิ้วเบาๆ
ตูมมมมมมมมมม!!!! ตูมมมมมมม!!!!
เกิดการระเบิดในลมหมุนทำให้ในลมหมุนเกิดไฟขึ้นมาแล้วระเบิดเศษหินต่างๆออกไปรอบๆพร้อมสร้างควันออกมาเป็นจำนวนมาก
“ไป!!”เมื่อได้ยินหวังเล่อเฉิงเอ่ยทุกคนก็พุ่งออกไปจากมิติแล้วไล่เก็บสมบัติขณะที่คนอื่นกำลังโดนควันบดบังและเศษหินกระจายไปรอบๆทำให้ยังเข้ามาเก็บไม่ได้
ที่หวังเล่อเฉิงไม่สามารถฉีกมิติข้างๆสมบัติแล้วเก็บของได้ก็เพราะตอนนี้เพิ่งเข้าใจในเจตจำนงมิติและยังใช้มิติหลบซ่อนตัวอยู่จึงเป็นเรื่องยากที่จะเปิดมิติเพื่อเก็บสมบัติ
“หมดแล้ว!! หวังเล่อเฉิงเอาไงต่อ”เจียงฉางเทียนกล่าว
“กลับมารวมกันก่อนรอระลอก 2”ผ่านไปสักครู่ทุกคนก็มารวมกันแล้วฉีกมิติเพื่อเข้าไปหลบซ่อนอีกครั้ง
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก6ระลอกจนหมดไปครึ่งวันแล้วแต่ที่คนอื่นยังเข้ามาเอาสมบัติไม่ได้นั้นเพราะพวกเขาและสมบัติอยู่ข้างในวิหารจึงได้เปรียบ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเราได้สมบัติมาทั้งหมดใน 6 ระลอกนี้เลย ดูหน้าพวกมันตอนที่เห็นสมบัติหายไปต่อหน้าสิ”หวังซวนหัวเราะร่า
“น่าจะเหลืออีกไม่กี่ระลอกแล้ว คันฉ่องเทวะมิติยังไม่ปรากฎออกมาเลยน่าจะออกมาในระลอกสุดท้ายซึ่งต้องปะทะกันแน่ๆ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยอย่างเคร่งเครียด
“ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นจริงๆ ข้า หวังซวน ฉางเทียนจะรับมือพวกที่จะเข้ามาเอาสมบัติเองน่าจะไหวเพราะพวกมันคงไม่มีระดับถึง 8 ด้วยซ้ำ ส่วนอีกสองคนไปเก็บสมบัติให้เยอะที่สุดเน้นสมบัติที่มีรูปร่างเป็นคันฉ่องด้วย”
ปุงงงงงงง!! ปุงงงง!!!
“เก็บมาให้หมด”ทุกคนในกลุ่มก็เริ่มเก็บสมบัติกันอีกครั้งแต่คราวนี้มีคนสามารถเข้ามาแย่งสมบัติกับกลุ่มของหวังเล่อเฉิงได้แล้วแต่ก็เป็นแค่สมบัติระดับต่ำเท่านั้นเนื่องจากสมบัติระดับสูงนั้นจะเข้าแหวนมิติของคนในกลุ่มเรียบร้อยเพราะดักรออยู่หน้าหลุมที่สมบัติปะทุแล้ว
ระลอกนี้ก็ยังไม่มีใครบุกเข้ามาในวิหารได้คงเพราะพลังมิติที่ปิดทางเข้าอยู่หนาแน่นมาก
ปุงงงงงงง!!! ปุงงงงงงงง!! ปุงงงงงง!!!
เมื่อเริ่มระลอกที่แปดกำแพงมิติก็สั่นไหวอย่างรุนแรง
“มีคนพบกำแพงทางเข้าวิหารแล้วทุกคนเตรียมรับมือ”หวังเล่อเฉิงพยายามส่งควันสีดำออกไปข้างนอกให้ได้มากที่สุดซึ่งก็เป็นผลสำหรับการสร้างความรำคาญ
เพล้งงงงงงงงงง!!!
เมื่อกำแพงแตกแล้วสักพักก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามา 9 กลุ่ม
“โจมตี!!!”สิ้นเสียงของหวังเล่อเฉิงทุกคนก็ใช้วิชาที่ทรงพลังที่สุดออกมาทันที
ตูมมมมมมมมม!!!
“สำเร็จหรือไม่”หวังซวนเอ่ยพร้อมจ้องไปยังกลุ่มควันข้างหน้า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในที่สุดก็เจอตัวแกแล้ว”องค์ชายหมิงฟ่านเดินออกมาจากกลุ่มควันไหลเวียนลมปราณพร้อมสู้
“โอ้ พวกแกนี่ตายยากจริงๆโดนไปเต็มๆขนาดนั้นยังรอดมาได้”
“แก!!…ถ้าแกไม่เล่นทีเผลอคิดหรอว่าจะสร้างแผลให้ข้าได้”
“แล้วผู้ติดตามผู้ซื่อสัตย์หายไปไหนหมดละ”
“กะ…แก หุบปาก!!!”องค์ชายหมิงฟ่านเถียงไม่ออกนั่นก็เพราะว่าที่มันรอดเป็นเพราะใช้ร่างของผู้ติดตามมารับวิชาของหวังเล่อเฉิงไว้
“ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว ใครเร็วใครได้”อีกกลุ่มที่ออกมาจากควันพร้อมอักขระค่ายกลสีฟ้ารอบๆตัวพวกมัน
ฟึ่บบ!!! ตูมมมมมมมม!!
หวังเล่อเฉิงไม่รอช้าพุ่งไปปล่อยหมัดใส่องค์ชายฟ่านหมิงเต็มแรงจนปลิวออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมหันไปหาองค์ชายอีกสองคนแล้วปล่อยวิชาฝ่ามือใส่อีกครั้ง
“อั่กก...บัดซบ!!”องค์ชายหมิงฟ่านที่ตอนนี้มีระดับพลังก่อลมปราณขั้นที่ 7 ปลิวออกไปเพียงหมัดธรรมดาของหวังเล่อเฉิง
ฟิ้ววววววววว!!!
“อั่ก/อั่กกก”สักครู่องค์ชายอีกสองคนก็ปลิวไปที่เดียวกับองค์ชายหมิงฟ่านถึงจะเร้าพลังปราณมาหุ้มกายไว้นั้นแต่ก็ยังไม่สามารถรับวิชาฝ่ามือที่ใส่พลังเต็มสิบส่วนของหวังเล่อเฉิงได้
อีกทางฝั่งนั้นจางฉางเทียนกับหวังซวนก็ไล่ต้อนกลุ่มที่เหลือไปได้เช่นกัน
“ยุ่งยากแล้วแฮะเยอะว่าที่คิด”ตอนนี้มีทั้งหมด 12 กลุ่มแล้ว ทั้ง 72 คนต่างมีระดับต่ำสุดอยู่ที่ก่อลมปราณขั้นที่ 4 ทั้งสิ้น
“ไม่ต้องออมมือแล้วฆ่าพวกมันได้เลย”หวังเล่อเฉิงตะโกนบอกพร้อมนำดาบสวรรค์ปราบมารออกมาถือไว้พร้อมเร่งเร้าเจตจำนงทั้งหมดออกมาพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนทั้งหมด
“รูปแบบค่ายกลป้องกันผืนปฐพี”คนตระกูลจื่อเรียงค่ายกลพร้อมรับการโจมตีจากเจตจำนงทั้งหมดของหวังเล่อเฉิง
ทุกกลุ่มต่างก็เร่งพลังมาป้องกันเจตจำนงเพราะเมื่อโดนเจตจำนงทำร้ายการจะรักษานั้นจะยากกว่าปกติเพราะต้องขับเจตจำนงออกก่อนถึงจะรักษาได้
“ข้ารับมือ 30 คนเองที่เหลือพวกเจ้าเลือกได้เลย”หวังเล่อเฉิงเอ่ยพร้อมกับปลดปล่อยพลังจิตสีฟ้าของตนออกมาอย่างรุนแรง
“เวรละ ระดับพลังจิตสีฟ้าถอยๆๆ”เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นก็ถอยทันทีเพราะบุกเข้ามาในถิ่นของนักอาคมเป็นความคิดฆ่าตัวตายอย่างแน่นอนโดยเฉพาะนักวางอาคมที่มีระดับพลังมากกว่าพวกตน
“สายไปแล้ว”หวังเล่อเฉิงคำรามออกมาพร้อมใช้พลังจิตของตนเต็มที่
วิ้งงงงง วิ้งงงงงงง วิ้งงงงงง
ปรากฎอักขระทั่วเต็มทั้งพื้น พร้อมกับส่งแรงกดดันออกมาทั้งยังปิดทางเข้าไว้อีกด้วย นี่เป็นค่ายกลระดับสีฟ้าที่เขาแอบติดตั้งไว้ตั้งแต่เริ่มการปะทุแล้วเพียงแค่มันใช้เวลาเตรียมตัวนานแต่ก็คุ้มค่าต่อการผนึกพื้นที่วิหาร
ครื่นนนนนนนนนนนน
แรงกดดันทับลงมาที่กลุ่มคนทั้งหมดทำให้เคลื่อนที่ได้ลำบากมากขึ้นแต่ทั้งกลุ่มของหวังเล่อเฉิงไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย
ปุงงงงงงงง!!! ปุงงงงง!! ปุงงงงงงงงง!!
เสียงการปะทุระลอกที่ 9 ออกมาซึ่งเหลืออีกรอกเดียวก็จะหมดแล้ว ในระลอกที่ 8 นั้นเก็บสมบัติระดับสูงมาได้พอสมควรแต่มีหลุดออกไปนอกวิหารจำนวนมากซึ่งเป็นของระดับต่ำและกลางบางชิ้น
“เราต้องเอาสมบัติกลับไปให้ได้องค์ชายทั้ง 3 ที่โดนแรงกดดันพร้อมอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายดีฝืนลุกขึ้นมาพร้อมถือโอสถสีดำแดงในมือ
“โอสถต้องห้าม!!!! อย่าให้พวกมันได้ใช้”หวังเล่อเฉิงเร่งตะโกนออกมาเพื่อเข้าไปขวัดขวางมิเช่นนั้นมันต้องมีระดับพลังเทียบเท่าก่อตันเถียนแน่แม้พลังจิตของหวังเล่อเฉิงจะเป็นสีฟ้าแล้วแต่ก็ต้องใช้เวลาในการลงอาคมจึงมิสามารถสู้ไหวแน่
เจียงอี้เฟยที่กำลังเห็บสมบัติอยู่ก็อยุดทำหน้าที่แล้วพุ่งไปพร้อมกระบี่ในมือใส่องค์ชายทั้งสามอาณาจักรทันที
สวบบบบบ!!
ผู้ติดตามที่ยังเหลือรอดคนหนึ่งมารับกระบี่แทนเจ้านายของพวกตนไว้
“ฮ่า ฮ่า ไม่ทันแล้ว”องค์ชายหมิงฟ่านหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งแล้วกลืนโอสถลงไป
บึ้มมมมมมมมม!!!!!
คลื่นพลังขององค์ชายทั้งสามกระจายออกมากระทบกับคนทั้งหมดแต่แรงกดดันจากค่ายกลก็ยังใช้งานได้ต่อเพราะมีระดับเดียวกัน
“ซวยแล้ว”หวังเล่อเฉิงเตรียมถอยแล้วเปลี่ยนเป็นการลอบโจมตีแทนเพราะถ้าปะทะซึ่งๆหน้าตนเสียท่าแน่
ฉึก ฉึก ฉึก
แขน ขา ของหวังเล่อเฉิงโดนโซ่ที่โผล่มาจากอากาศแทงเข้าไปพร้อมจับให้อยู่กับที่
“ตายซะ ย๊ากกกกกก”องค์ชายและเหล่าตระกูลใหญ่ต่างก็อัดพลังเข้ามาโจมตีหวังเล่อเฉิง
ตูมมมมมมมมมมมมมมม!!!