ตอนที่แล้วบทที่ 22 ไข่สีขาว???
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 การต่อสู้แย่งชิงสมบัติ

บทที่ 23 บรรลุเจตจำนงแห่งมิติ


ใจกลางป่าแห่งหนึ่งได้มีกลุ่มคน 6 คนกำลังต่อสู้กับสิงโตสามหางอยู่

โฮกกกกกกกกกก

“คราวนี้แหละผลเกล็ดมรกตต้องเป็นของเรา”ชายหนุ่มที่มีตราตระกูลจื่อเอ่ยพร้อมเร่งโจมตีสิงโตสามหางตัวเมีย

“จื่อชิว เจ้ารีบจัดการมันแล้วมาช่วยพวกข้าได้แล้ว”

“ขอรับ นายน้อย”ชายหนุ่มที่สู้อยู่กัยสิงโตตัวเมียที่มีระดับก่อลมปราณขั้นสูงได้นำม้วนอาคมออกมาแล้วใส่พลังปราณลงไปเต็มที่

“รับไปซะ อาคมหมื่นกระบี่พิชิตอสูร”กระบี่มากมายปรากฎออกมา มันมีพลังทำลายในระดับก่อตันเถียนขั้นสูงเลยทีเดียว

ตูมมมมมมมมมมมมม

กระบี่จำนวนนับหมื่นพุ่งเข้าใส่สิงโตสามหางเพศเมียตัวนั้นอย่างแรง

โฮกกกกกกกกก

สิงโตสามหางตัวผู้ที่กำลังพัวพันอยู่กับกลุ่มตระกูลจื่ออีกกลุ่มหนึ่งคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวที่ตัวเมียของมันโดยทำร้าย จึงบ้าคลั่งออกมาทำให้ระดับพลังที่อยู่ระดับก่อตันเถียนขั้นต้นเพิ่มเป็นขั้นกลาง

“จื่อชิว สังหารมันแล้วมาช่วยทางนี้เร็วเข้า”จื่อเทียนเฉินกำลังควบคุมม้วนอาคมกักขังที่ผู้อาวุโสภายในตระกูลได้ให้มา

เพล้งงงง

อาคมกักขังพังทลายลงจากความบ้าคลั่งของมันแต่ในจังหวะนั้นเองทุกคนในตระกูลจื่อก็เอาม้วนอาคมออกมาใหม่

“รับไปซะ!!!! อาคมดาราสังหาร”ปรากฎรูปดาวแฉกเรียงตามผู้ใช้ม้วนอาคมจนเป็นรูปดาว 5 แฉกแล้วเกิดการระเบิดอีกครั้ง

ตูมมมมมมมมมมม

โฮกกกกกกก

เสียงคำรามของสิงโตสามหางอ่อนแรงลงมาก

“ใช้ไพ่ตายปิดฉากมันซะ”เมื่อได้ยินจื่อเทียนเฉินกล่าวมาเช่นนั้นแต่ละคนก็เร่งเร้าลมปราณของแต่ละคนแล้วใช้วิชาที่รุนแรงที่สุดของตน

โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

สิงโตสามหางตัวผู้คำรามครั้งสุดท้ายก่อนจะสิ้นชีพไป

“จ่ายไปเยอะอยู่แต่ก็คุ้มค่า ถ้าได้ผลเกล็ดมรกตมา”จื่อเทียวเฉินเตรียมเดินไปในถ้ำของสิงโตสามหาง

โฮกกกกกกก

ผ่านไปไม่นานสิงโตสามหางตัวเมียก็สิ้นใจตามไป

แต่เมื่อจื่อเทียนเฉินกลับเข้ามาดูข้างในถ้ำของมันปรากฎว่ามันเหลืออยู่แค่ต้นไปแล้ว

“อ๊ากกกกกกกกกกก บัดซบ!!!! ผลเกล็ดมรกตมันหายไปไหน”จื่อเทียนเฉินหัวเสียเป็นอย่างมากจนทำลายถ้ำนั้นทิ้งไม่เหลือซาก


ส่วนทางด้านหวังเล่อเฉิงที่ไม่รู้ว่าตนไปทำให้ผู้อื่นโกรธแค้นเอาแล้ว ทั้งกลุ่มก็เดินทางมาถึงวิหารแห่งหนึ่งที่แตกต่างจากที่เซียนคนอื่นอยู่เพราะเซียนคนอื่นนั้นจะอยู่ที่คล้ายโบราณสถาน แต่ที่นี่นั้นเป็นวิหาร

“เรามาถึงแล้วละ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยพร้อมก้าวเข้าไปในวิหารมิติ

แต่เมื่อก้าวเข้าไปนั้นก็รู้สึกผิดปกติเพราะรอบๆตัวมันเหมือนถูกบิดไปมา

“หรือนี่คือพลังแห่งมิติ”หวังเล่อเฉิงจ้องมองไปรอบๆพร้อมใช้สมองเทพวิเคราะห์มัน

“บรรลุได้เพียงผิวเผินเท่านั้นสมแล้วที่เป็นพลังที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของกฎทั้งหมด”

หวังเล่อเฉิงเดินเข้าไปในมิติเรื่อยๆจนมาเจอกับห้องๆหนึ่งที่มีพลังมิติหนาแน่น

“ไม่เหมือนเซียนคนอื่นแฮะ แล้วข้าจะเข้าไปอย่างไรดีละเนี่ย”หวังเล่อเฉิงคิดแล้ววิเคราะห์มิติรอบๆไปเรื่อยๆเพื่อหาทางบรรลุเจตจำนงแห่งมิติ

“ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ทางเข้าข้าพอหาได้แล้ว”หวังเล่อเฉิงเดินไปตามช่องว่างมิติที่ตนเองสังเกตเห็น

หวังเล่อเฉิงสามารถเดินเข้าไปได้อย่างไม่ติดขัดอะไรจนมาถึงห้องโถงใหญ่ที่มีบัลลังก์ตั้งอยู่ตรงหน้าติดกับกำแพงที่คล้ายคลึงกับบัลลังก์ของกษัตริย์

“ท่านเซียนผ่ามิติข้ารู้ว่าท่านอยู่แถวนี้ได้โปรดออกมาพบข้าเถอะ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยออกกล่าวกับอากาศตรงหน้า

“โฮ่ โฮ่ เจ้าต้องการพบข้ามีเรื่ิองอะไรงั้นรึ”ปรากฎชายกลางคนกลางอากาศข้างๆบัลลังก์

“ข้ามาเพื่อตามหาเหล่าเซียนทั้งหลายแล้วจะสร้างกายหยาบให้ในอนาคตตามคำของของเซียนเพลิงโลกันตร์”

“โอ้ แล้วเจ้าหาพวกเราเจอครบรึยังละ”

“ถ้านับท่านด้วยก็เจอครบทุกคนแล้ว”

“แต่ต้องเสียใจด้วยสหายน้อย ที่ข้าจากไปจากที่นี่ไม่ได้”เซียนผ่ามิติคนเอ่ยด้วยความเศร้าใจ

“ทำไมงั้นรึ”

“เมื่อครั้งที่เซียนสวรรค์เหลียนจิวสร้างมิตินี้ขึ้นมาเขาได้นำสมบัติและทรัพยากรทั้งหมดมาไว้ที่นี่ แล้วจิตวิญญาณของข้าก็ผูกติดกับบัลลังก์นั่นจะคลายก็เมื่อมีคนได้รับการยอมรับจากมันแล้วสมบัติทั้งหมดที่เซียนสวรรค์เหลียนจิวนำมาเก็บไว้จะปะทุออกมาด้วย”

“งั้นข้าขอลองได้รึไม่”หวังเล่อเฉิงเชื่อมั่นว่าตนต้องทำให้บัลลังก์นั่นยอมรับได้เป็นแน่

“ได้สิ แต่ว่า1,000 กว่าปีที่ผ่านมานี้ไม่มีใครทำให้มันยอมรับได้สักคน”เซียนผ่ามิติสลดใจมากกว่าเดิม

“ไม่ลองไม่รู้..แล้วท่านมีแก่นวิถีรึไม่”หวังเล่อเฉิงถามอย่างคาดหวัง

“ก็มีอยู่ ข้าว่างมากจนทำแก่นวิถีมิติมาได้ตั้ง 2 ชิ้นแต่ทรัพยากรทั้งหมดของข้าก็หมดลงเพราะมันด้วยเช่นกัน”

“ข้าขอทั้งหมดเลยได้รึไม่”หวังเล่อเฉิงคิดจะให้อีกชิ้นกับเจียงอี้เฟย

“ก็ได้อยู่หรอกถ้าเจ้าทำให้บัลลังก์ยอมรับได้นะ”

หวังเล่อเฉิงได้ยินก็พุ่งไปที่หน้าบัลลังก์แล้วตรวจสอบดูอย่างรวดเร็ว

‘อืมมมม….สมบัติระดับเซียน มีไว้เพื่อตรวจสอบพรสวรรค์แต่ข้าไม่เคยทดสอบพรสวรรค์ของข้าด้วยแท่นศิลาตรวจสอบเลยด้วยซ้ำ’หวังเล่อเฉิงคิดแล้วจึงนั่งลงบนบัลลังก์

เพียงชั่วครู่ก็เกิดแสงรอบตัวหวังเล่อเฉิงขึ้น

แกร็กกกกกกกกก

แต่ปรากฎว่าวินาทีที่บัลลังก์นี้ส่งพลังเซียนเข้าไปตรวจสอบร่างกายก็โดนพลังจากสมองเทพตีกลับอย่างรุนแรงจนบัลลังก์แตกสลาย

“อะ…เอ่อ ท่าเซียนผ่ามิติอย่างนี้ถือว่าผ่านหรือไม่”

เซียนผ่ามิติยืนตาค้าง เพราะว่าแม้แต่เซียนสวรรค์เหลียนจิวเมื่อก่อนยังทำให้บัลลังก์ยอมรับได้เท่านั้นไม่ได้ทำลายมันจนสิ้นซากเช่นนี้

“อ่า….คงผ่านแหละเพราะว่าข้าไม่รู้สึกถึงการผูกมัดดวงจิตแล้ว”

“งั้นข้าขอแก่นวิถีมิติด้วย”

เซียนผ่ามิติจึงส่งแก่นวิถีมิติทั้งสองชิ้นไปให้ชายหนุ่ม

“แล้วท่านจะไปยังไงรึ คนอื่นมีสมบัติกักเก็บจิตวิญญาณกันแต่ท่านไม่เห็นจะมี”

“โอ้ไม่เป็นไรหรอกนำสมบัติกักเก็บจิตวิญญาณของเซียนบัณฑิตออกมาแล้วข้าจะไปอยู่กับสหายข้า”

หวังเล่อเฉิงจึงนำตำราเก่าแก่ออกมาแล้วเปิดมันขึ้น

วืดดดดดดดดดดดดด

“อ้อ...ข้าลืมบอกเจ้าอีก 2 เค่อมันจะส่งแสงขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วอีกวันถัดมามันจะปล่อยสมบัติมากมายออกมา มีคันฉ่องเทวะมิติด้วยจงนำมันมาให้ได้ละ”เซียนผ่ามิติเอ่ยก่อนจะเข้าไปข้างในตำรานั้นทันที

“เวรแล้วข้ามีเวลาอีกประมาณ 3 เค่อรวมเวลาที่คนอื่นจะเดินทางมาถึงด้วย”หวังเล่อเฉิงออกไปข้างนอกม่านมิติแล้วแจ้งเรื่องที่จะเกิดขึ้นแก่พรรคพวกของตน

“เอาละจำไว้ให้ดี คว้าอะไรได้คว้าให้หมดอย่าเหลือให้คนอื่นเป็นอันขาด แล้วก็อย่าปราณีศัตรูด้วย”หวังเล่อเฉิงเอ่ยแล้วส่งแหวนมิติระดับสูงถึงเซียนที่ได้มาจากเหล่าเซียน

“แน่นอนข้าไม่เหลือให้ใครแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เจียงฉางเทียนเริ่มไม่เหลือเค้าขององค์ชายแล้ว

“ข้าด้วยถ้าใครมาขวางข้าโดนข้าเผาแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”หวังซวนหลังจากระดับพลังเพิ่มขึ้นมาก็เป็นไปด้วย

“อี้เฟยเจ้าอยากเรียนรู้พลังมิติรึไม่”หวังเล่อเฉิงต้องถามนางดูก่อนเพราะนางอาจไม่ชอบก็เป็นได้

“แล้วท่านอยากให้ข้าฝึกรึไม่เจ้าค่ะ”

“ข้าก็อยากให้เจ้าฝึกนะ เพราะมันจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น”

“งั้นข้าก็จะฝึกเจ้าค่ะ”

“งั้นรับแก่นวิถีมิตินี่ไปอย่าพึ่งดูดซับตอนนี้เพราะเหลือเวลาไม่มากแล้ว ส่วนข้าขอตัวฝึกสักครู่”หวังเล่อเฉิงโยนแก่นวิถีมิติให้เจียงอี้เฟยแล้วหาที่นั่งดูดซับแก่นวิถีมิติ เพราะตนคิดจะใช้เส้นลมปราณดูดซับวิถีที่มีอยู่ในแก่นวิถี

คลื่นนนนนนนนน

ผ่านไป 1 เค่อหวังเล่อเฉิงก็รู้แจ้งเจตจำนงมิติถึงขั้น 5 แล้วแต่ก็ต้องหยุดเพียงแค่นั้นถึงหวังเล่อเฉิงจะเสียดายที่ต้องเร่งรีบดูดซับมันทำให้เจตจำนงสลายไปถึง 3 ส่วนเพราะตนใช้เส้นลมปราณของตนรีบดูดกลืนวิถีไม่งั้นไม่ทันคนอื่นมาแน่

“เอาละแค่ระดับ 5 ก็เพียงพอแล้ว สำหรับเจอศึกครั้งใหญ่นี้”

#ขอเปลี่ยนค่ายกลเป็นอาคมนะครับเพราะมันดูอ่านง่ายกว่า และ ผมไปไล่แก้ตอนเก่าให้หมดแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด