บทที่ 22 ไข่สีขาว???
วืดดดดดดดดด
ข้อมูลของไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์ไหลเข้ามาในหัวของหวังเล่อเฉิง
‘ของดีจริงด้วยแฮะ แต่เพศชายก็ใช้ได้แต่แค่มันมีสรรพคุณช่วยให้อ่อนเยาว์ลงผิวพรรณสวยขึ้นและยังช่วยเพิ่มพลังปราณได้มากมายอีกด้วยแต่ต้องรออีกหนึ่งเดือนถึงจะดูดซับอีกรอบได้’
“ขอบคุณมากขอรับ”
“มันมีฝาหอยอยู่ใต้บ่อด้วยเป็นที่สร้างมุกสวรรค์พิสุทธิ์มันจะเพิ่มทุก 100 ปี แต่ถ้ามีสถานที่ที่ปราณหนาแน่นเวลาก็จะลดลงด้วย ส่วนน้ำในบ่อเอาถ้าดื่มจะฟื้นฟูพลังปราณและร่างกายได้ดีมาก”หญิงสาวบรรยายสรรพคุณออกมา
“ถ้างั้นข้าขอกลับออกไปแล้วนำไข่มุกที่ท่านอยู่ไปเลยนะครับ”
“อื้อ..ได้สิแล้วก็สุดท้ายช่วยดูแลไข่ที่อยู่ใต้บ่อน้ำให้ข้าด้วยละ มันเป็นของสหายข้าเจ้าต้องดูแลมันเสมือนเป็นครอบครัวของเจ้า”หญิงสาวยิ้มออกมาแต่เหมือนมันจะเป็นรอยยิ้มที่เจ็บปวดแฝงมาด้วย
“ข้าสัญญาครับ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยแล้วถอนจิตของตนออกมา
หวังเล่อเฉิงจึงเรียกทุกคนเข้ามาเพื่อดูดซับพลังจากไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์
“เอาไปคนละลูกเท่านั้นถ้าเกิน 1 ลูกพวกเจ้าอาจตายได้ แล้วก็อี้เฟยใช้พลังจากไข่มุกนี่บรรลุขั้น 10 แล้วใช้หยดวารีสวรรค์ต่อเพื่อทะลวงเข้าสู่ขั้นก่อลมปราณถ้าเกินก็บ่มเพาะต่อไปได้เลยอย่างพวกเราไม่ต้องกังวลเรื่องรากฐานไม่มั่นคงถ้าบรรลุขั้น 10”
“เจ้าค่ะ”เจียงอี้เฟยเอ่ยพร้อมนำของทุกอย่างออกมาเริ่มบ่มเพาะ
“หวังซิน เจ้าสามารถใช้น้ำในบ่อสร้างหยดวารีสวรรค์ออกมาสัก 100 หยด”
“อื้อ ท่านไม่ต้องให้โอสถข้าก็ได้ต่อจากนี้ถ้าท่านต้องการข้าจะให้ท่านโดยไม่บ่นแน่นอน”
“ดีมาก ต่อจากนี้พวกเจ้าสองพี่น้องจะเป็นหนึ่งในพรรคพวกของข้า”
เมื่อออกคำสั่งให้ทุกคนแล้วหวังเล่อเฉิงก็หยิบไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์มาเม็ดนึงแล้วดูดซับเข้าไปทันที
วูบบบบบบบบบบบบ
‘พลังปราณมหาศาลมากถึงว่าจะต้องเว้นระยะเวลาเป็นเดือนเพื่อจะดูดซับได้อีกรอบ’
ปุงงงงงงงงง
หวังเล่อเฉิงบรรลุระดับก่อลมปราณอย่างรวดเร็วแต่ยังเหลือพลังในไข่มุกอีกเยอะจึงดูดซับเข้าอย่างไปต่อเนื่อง
สิ่งปฏิกูลไหลออกมาทางรูขุมขนทั่วร่างกายของชายหนุ่ม
ปุงงงงงงง
บรรลุระดับก่อลมปราณขั้นที่ 2 ยังเหลือลมปราณอีกนิด
ฟึ่บ
หวังเล่อเฉิงนำหยดวารีสวรรค์ออกมา 10 หยดแล้วดูดซับต่อทันที
วูบบบบบบบบบบบบ
‘ขาดอีกนิดเดียว 10 หยดยังไม่พอ’หวังเล่อเฉิงคำนวณพลังปราณที่ต้องใช้อย่างรวดเร็ว
“หวังซิน!!!! ขออีก 5 หยด”
ฟึ่บ
หยดวารีสวรรค์ 5 หยดลอยมาตรงหน้าหวังเล่อเฉิงแล้วดูดซับต่อ
ปุงงงงงงงงง
ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 3
วิ้งงงงงงงงงงง
แสงสีฟ้าแผ่ออกมาจากร่างของหวังเล่อเฉิง
“ฮ่า ฮ่า ข้าบรรลุระดับก่อลมปราณขั้นที่ 3 แถมพลังจิตยังเป็นขั้นสีฟ้าแล้วด้วย”หวังเล่อเฉิงนั่งปรับสภาพลมปราณสักครู่แล้วเปลี่ยนปราณเป็นธาตุวารีแล้วล้างตัวเอาสิ่งปฏิกูลออกไป
ปุงงงงงงง ปุงงงงง ปุงงงง ปุงงงง
เสียงทะลวงระดับดังขึ้นอีกหลายครั้งจากทางทุกคนและทุกคนสิ่งปฏิกูลไหลออกมาจากร่างกายหมดทุกคน
เมื่อเห็นเจียงอี้เฟยทะลวงเสร็จหวังเล่อเฉิงก็เดินเข้าไปล้างตัวเจียงอี้เฟยระหว่างที่นางปรับสภาพลมปราณ
ซู่วววววววว
หลังจากล้างทั่วทั้งตัวเสร็จก็ปรากฎหญิงสาวที่งดงามรางเทพยดาลงมาจุติความงดงามของนางนั้นเพิ่มขึ้นจนเหนือกว่าภรรยาของเซียนสวรรค์เหลียนจิวเสียอีก
เมื่อปรับสภาพลมปราณเสร็จนางก็ยกยิ้มขึ้นมาให้หวังเล่อเฉิง มันงดงามจนแสบตาเลยทีเดียว
“ข้ามาถึงระดับก่อลมปราณขั้นที่ 2 เจ้าค่ะ”
“อืมมมม เก่งมาก”หวังเล่อเฉิงลูบหัวนางอย่างเอ็นดู
ส่วนคนรอบๆนั้นก็มองไปที่ชายหนุ่มอย่างรู้สึกแย่ในใจที่ไม่มีคนรัก
“ท่านหวังเล่อเฉิงหล่อเหลากว่าแต่ก่อนจนกลายเป็นเทพบุตรไปแล้ว”หวังซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“ส่วนน้องสาวข้าก็กลายเป็นเทพธิดาไปแล้ว ช่างงดงามมากจริงๆ”เจียงฉางเทียนเอ่ยชมด้วยเช่นกันแล้วจึงหันมามองหน้ากัน
“เฮ้ย ทำไมพวกเจ้าทั้งสองคนเปลี่ยนไปขนาดนี้”
“ท่านก็ด้วย”หวังซวนกล่าวแล้วนำกระจกออกมาจากแหวนมิติแล้วดูรูปร่างของตน
“ฮ่า ฮ่า ข้าช่างหล่อเหลากว่าแต่ก่อนยิ่งนัก”
“ท่านพี่ ข้าก็ด้วยข้าช่างงดงามจริงๆ...ข้างดงามได้ไม่เท่าเจียงอี้เฟยเลย”หวังซินเอ่ยอย่างสลดใจ
“น่าๆ เจ้าอย่าเอาตัวไปเทียบกับ2 คนนั้นคราวนี้เจ้าจะกลายเป็นสาวงามประจำตระกูลแน่”
ส่วนทางฝั่งองค์ชายนั้น
“ยะฮู้วววววว ข้าช่างหล่อเหลายิ่งนัก ครานี้สาวๆต้องหลงข้ามากกว่าเดิมแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เจียงฉางเทียนกระโดดไปมาแล้วตะโกนไปทั่ว
“เอาละพอก่อน พวกเจ้าทะลวงไปถึงขั้นไหนกันแล้ว”หวังเล่อเฉิงเอ่ยขึ้น
“ข้าระดับก่อลมปราณขั้นที่ 9”เจียงฉางเทียนเอ่ย
“ข้าระดับก่อลมปราณขั้นที่ 6”หวังซวนเอ่ย
“ส่วนข้าระดับก่อลมปราณขั้นที่ 7”ที่หวังซินเพิ่มระดับได้มากกว่านั้นเพราะเส้นลมปราณของนางเป็นระดับสวรรค์
แต่ของทั้งสองนั้นเป็นระดับนภาทั้งคู่หวังเล่อเฉิงสามารถเปลี่ยนเส้นลมปราณให้ใหม่ได้แต่ตอนนี้ยังไม่จำเป็นขนาดนั้น
“ถือว่าดีมากเอาละ รอข้าตรงนี้ก่อน”หวังเล่อเฉิงเก็บไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์อีก 7 เม็ดที่เหลือเข้าแหวนมิติแล้วดูดน้ำในสระใส่ขวดโอสถที่ตนมีหมดบ่อ
ทั้งหมดได้ประมาณ 1200 ขวด แล้วจึงเห็นไข่สีขาวฝังอยู่ใต้บ่อพร้อมค่ายกลดูดซับปราณ
หวังเล่อเฉิงจึงเข้าไปทำลายค่ายกลและหยิบไข่ใบนั้นขึ้นมาลูบ
วูบบบบบบบบบบ
ไข่ใบนั้นดูดพลังปราณธรรมชาติของหวังเล่อเฉิงเข้าไปจนชายหนุ่มแปลกใจเพราะที่มันดูดไม่ใช่ปราณปกติแต่เป็นปราณธรรมชาติ มันยังดูดต่อไปเรื่อยๆจนปราณของหวังเล่อเฉิงจะหมดจนต้องรีบใช้เส้นลมปราณดูดปราณรอบๆตัวมาใช้จนเหนื่อยหอบ
เมื่อเห็นหวังเล่อเฉิงสีหน้าใบดีเจียงอี้เฟยจึงเข้าไปถ่ายลมปราณลงไปช่วยด้วย
วูบบบบบบบบบบบบบ
ดูดไปได้อีกสักพักก็หยุดดูดลงโชคดีที่พลังปราณของเจียงอี้เฟยไม่หมดตัวเพราะถ้าหมดเป็นปัญหาแน่เพราะต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานมาก
ไม่เหมือนหวังเล่อเฉิงที่ดูดซับปราณเข้ามาได้เลยแถมบริสุทธิ์เป็นอย่างมากเพราะมีกายากลั่นสวรรค์กลั่นปราณที่ดูดเข้ามาให้
แต่ไข่ก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้นคงต้องรออีกสักพัก
เมื่อเห็นเช่นนั้นหวังเล่อเฉิงก็เตรียมไปโบราณสถานที่สุดท้ายที่เป็นที่อยู่ของเซียนผ่ามิติตามที่เหล่าเซียนบอกมา
หวังเล่อเฉิงหวังกับที่นั่นไว้มากเพราะตนอยากได้แก่นวิถีมิติแต่ก็ไม่ใช่เซียนทุกคนที่มีแก่นวิถี เพราะมันต้องเข้าใจในวิถีนั้นอย่างลึกซึ้งและใช้พลังปราณจำนวนมากในการสร้างมันขึ้นมา
เซียนทั้ง 19 คนที่ตนไปเจอมาก็ได้แก่นวิถีแค่ 4 อันเท่านั้นคือ แก่นวิถีเพลิง แก่นวิถีเหมันต์ แก่นวิถีอัสนี แก่นวิถีนภา
เพราะถ้าตนได้แก่นวิถีมิติมาด้วยสมองเทพอาจจะช่วยให้บรรลุเจตจำนงมิติระดับ 6 เลยก็เป็นได้