บทที่ 21 บ่อมุกสวรรค์พิสุทธิ์
อ๊ากกกกกกกก
เสียงชายหนุ่มผู้หนึ่งที่โดนคลื่นดาบผ่าตัดแขนของตนออกไปร้องดังออกมา
“โว้วว ข้าแค่มาลองวิชาที่ได้มากจากเซียนดาบเทวะแต่นี่มันเล่นกินลมปราณข้าหมดตัวแถมไม่พออีกด้วยดีนะที่ข้ามีเส้นลมปราณกลืนกิน”
“ท่านหวังเล่อเฉิง!!!”หวังซวนพี่ชายของหวังซินเอ่ยอย่างตกใจที่เห็นชายคนนี้ตรงหน้า
“โอ้ ข้าไม่นึกว่าพวกเจ้าจะอยู่ด้วยกันนะเนี่ยแถมข้ายังเป็นห่วงคู่ค้าของข้าด้วยว่าจะสบายดีรึปล่าว”
“ข้าขอโทษ เจ้าค่ะท่านหวังเล่อเฉิงที่เอาหยดวารีสวรรค์ออกมาให้พวกมันเห็น”หวังซินเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวข้าเก็บกวาดเอง”พูดจบหวังเล่อเฉิงก็เดินไปหากลุ่มของตระกูลชิง ที่ตอนนี้ตายไป 2 จากวิชาเมื่อครู่แถมแต่ละคนยังอยู่ระดับก่อลมปราณขั้น 3 กันหมดแล้วด้วยยกเว้นชิงเจียงที่อยู่ขั้น 4 แต่ก็สลบกันหมด
“ฉางเทียนฝากดูแลพวกเขาด้วย”หวังเล่อเฉิงเอ่ยบอกเจียงฉางเทียนพร้อมโยนโอสถฟื้นฟูสภาพแบบใหม่ที่ตนหลอมขึ้นมามันทั้งฟื้นฟูลมปราณและร่างกาย
“อี้เฟย มาหาข้าหน่อย”
“เจ้าค่ะ”เจียงอี้เฟยรีบวิ่งไปหาหวังเล่อเฉิงที่ยืนอยู่หน้ากลุ่มของตระกูลชิง
ฟึ่บ
หวังเล่อเฉิงนำกระบี่ออกมาแล้วโยนให้เจียงอี้เฟย
“เจ้าปลิดชีพพวกมันซะ”
“แอ๊ะ?? ให้ข้าหรอเจ้าคะ”
“ใช่แล้ว เจ้าต้องสังหารคนบ้างเส้นทางของการบ่มเพาะต้องมีการนองเลือดอยู่แล้ว ข้าควรฝึกจิตใจเจ้าให้เข้มแข็งมากกว่านี้”
“อะ…เอ่ออ ได้เจ้าค่ะ”เจียงอี้เฟยเอ่ยอย่างมุ่งมั่นแล้วจับกระบี่จากพื้นขึ้นมา
เจียงอี้เฟยแขนสั่นพั่บพั่บ แต่ก็ยังก้าวเดินไปหาพวกมันเรื่อยๆ
“เอาละ แค่แทงลงไปซะแค่นี้เองแล้วเจ้าจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกมันในอนาคต”
เมื่อหญิงสาวได้ยินก็รวบรวมความกล้าแล้วแทงออกไปใส่ผู้ติดตามของชิงเจียง
ฉึก
เสียงแทงดาบลงไปบนตัวของดังขึ้น
“เรียบร้อยมันตายแล้วแค่นี้เอง จัดการให้หมดเลยเหลือชิงเจียงไว้ให้ข้า”เมื่อเห็นหญิงสาวฆ่าไปแล้วหวังเล่อเฉิงก็ยกมือขึ้นทำอะไรบางอย่าง
เจียงอี้เฟยเมื่อได้ลองฆ่าคนดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมากมายขนาดนั้นจึงฆ่าผู้ติดตามของชิงเจียงทิ้งทั้งหมด
“ทำได้ดีมาก อี้เฟย”หวังเล่อเฉิงเดินเข้ามาลูบหัวให้กำลังใจเจียงอี้เฟย
“เอาละ ส่วนเจ้านี่ต้องปลุกขึ้นมาก่อน”หวังเล่อเฉิงเปลี่ยนปราณธรรมชาติของตนเป็นวารีแล้วสาดใส่หน้าชิงเจียง
“เฮือกก..เจ้า ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรข้าตระกูลชิงไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่”ชิงเจียงที่ตื่นขึ้นมาก็ข่มขู่ก่อนเลย
“หึ หึ ถ้าฆ่าเจ้าทิ้งก็ไม่มีใครรู้แล้ว”หวังเล่อเฉิงทำสีหน้าที่ชั่วร้ายออกมา
“จะ..เจ้า ถ้าเจ้าสังหารข้าในวิญญาณของข้ามีอุปกรณ์ที่จะส่งภาพก่อนตายไปให้ตระกูลอยู่”
“คิดว่าข้าไม่รู้งั้นเรอะ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยพร้อมกับแสดงเสี้ยวจิตวิญญาณของทั้ง 5 ในมือของตน
“จะ…เจ้า ทำได้ยังไง ยะ..อย่าฆ่าข้า เจ้าอยากได้อะไรข้าสามารถหามาให้เจ้าได้”ชิงเจียงเอ่ยอย่างหวาดหลัวจนมีอะไรแฉะๆตรงกางเกงด้วย
“ไม่ละข้าหาเองได้ ลาขาดละ”
ฉัวะ ตุ่บ
หัวของชิงเจียงหลุดออกจากบ่าแล้วใช้ปราณธรรมชาติดึงวิญญาณของมันมาเก็บไว้
“เอาละ เดินทางต่อได้ เจ้าสามารถมากับพวกเราได้นะ”
“พวกข้าไปด้วยครับ”หวังซวนเอ่ยอย่างรวดเร็วหลังได้รับคำเชิญ
ทั้งกลุ่มจึงเดินทางต่อไปโบราณสถานที่ต่อไป
“ทำไมระดับพลังของพวกเจ้าเพิ่มมาน้อยจังละ”หวังเล่อเฉิงถามเมื่อตรวสอบระดับพลังของทั้งสองพี่น้องอยู่ที่ระดับก่อลมปราณขั้นที่ 2
“พวกข้าโดนหลายกลุ่มไล่ล่าหน่ะ”หวังซวนเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย
“ทำไมรึ”
“เป็นเพราะข้านำหยดวารีสวรรค์ออกมาหน่ะ”หวังซินรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
“แล้วพวกมันรู้หรือไม่ว่ามันสร้างมาจากเจ้า”
“ไม่ ข้าบอกไปว่ามันเป็นสมบัติ”
“ดีแล้วละเดี๋ยวข้าจัดการให้ แล้วเจ้ามีเหลือตอนนี้อยู่กี่หยดรึ”
“ข้าเจอสมุนไพรเสริมพลังกายเยอะเลยทำให้ตอนนี้มี 36 หยดแล้ว”หวังซินยิ้มดีใจออกมา
“เอามาให้ข้า 22 หยดแล้วข้าจะให้โอสถที่น่าจะสร้างได้อีก 25 หยด”
“อื้อ ได้สิ”หวังซินนำหยดวารีสวรรค์ออกมาแล้วส่งไปยังหวังเล่อเฉิง
“อี้เฟยรับไป 15 หยดรอข้าบอกค่อยใช้”
ตอนนี้หวังเล่อเฉิงมีหยดวารีสวรรค์อยู่ที่ตัว 10 หยดของเก่าชายหนุ่มยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครรึเจ้าคะ”หวังซินเอ่ยถาม
“องค์หญิงของอาณาจักรเราเอง”
“เหหหห แล้วพวกท่านเป็นอะไรกันรึเจ้าคะ”หวังซินถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ข้าให้นางตอบ”
“อ๊ะ อะ….เอ่อออออ คือออ”เจียงอี้เฟยตอบไม่ทันครบก็หันหน้าที่แดงก่ำหนี
“โอ้ อย่างงี้นี่เอง”หวังซินหัวเราะคิกคัก
“พอเถอะ ข้าเหลือมี่ต้องไปอีก 2 ที่ก็ครบภารกิจแล้ว”
ทั้งกลุ่มใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วยามก็มาถึงโบราณสถานที่แตกต่างจากที่อื่นมาก มันดูสะอาดตาและเป็นสีขาวทั้งตัวสถานที่ขนาดใหญ่
“จากที่เซียนคนอื่นบอกมาที่นี่คือที่อยู่ของเซียนที่เซียนคนอื่นบอกว่าเป็นคนรักของเซียนสวรรค์เหลียนจิว”
มันก็ดูสมกับฐานะดีแถมยังใหญ่โตมากซะด้วย
หวังเล่อเฉิงก็เดินไปหาห้องโถงใหญ่เหมือนที่ทำตอนไปหาเซียนทุกคนแล้วพังอาคมทิ้ง
แต่อาคมอันนี้มันดูแข็งแกร่งมากหวังเล่อเฉิงมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำถึงมันจะผ่านมาแล้วอักขระก็ยังดูสมบูรณ์
“คงต้องเหนื่อยอีกแล้วสิ”หวังเล่อเฉิงเร้าพลังจิตที่เป็นสีม่วงอมฟ้าแล้วลงอาคมใส่ม้วนอาคมเพื่อจะได้ลงอาคมอื่นต่อได้
หวังเล่อเฉิงลงอาคมมากมายใช้เวลาไป 2 ชั่วยามถึงจะเสร็จ
เพล้งงงงงง
ลมปราณที่หนาแน่นมากกระจายออกมาจนพวกของกวังเล่อเฉิงรู้สึกสบายตัวเลยทีเดียว
“หวังเล่อเฉิงข้างในมันคืออะไรงั้นรึขนาดอยู่ไกลยังสดชื่นขนาดนี้”เจียงฉางเทียนเอ่ยอย่างตื่นเต้น
“ข้าขอเข้าไปดูก่อน”หวังเล่อเฉิงนำดาบสวรรค์ปราบมารออกมาแล้วเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง
หวังเล่อเฉิงเดินเข้าไปสักพักก็เจอกับไข่มุกวางอยู่บนโต๊ะแล้วข้างหลังยังมีบ่อน้ำที่มีสีขาวใสมีมุกลอยอยู่ข้างบนน้ำจำนวน 12 เม็ด
หวังเล่อเฉิงหยิบไข่มุกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วส่งพลังจิตของตนเข้าไป
ฟึ่บ
ครั้งนี้ตนโผล่มายังกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงามแล้วมีกระท่อมหลังเล็กๆตังอยู่บนเนินเขา
หวังเล่อเฉิงเดินเข้าไปทางกระท่อมนั้นอย่างช้าๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านก็พบกับหญิงสาวที่มีความสวยงามยิ่งกว่าเจียงอี้เฟยเสียด้วยซ้ำแต่ครั้งนี้ชายหนุ่มมีภูมิต้านทานบ้างแล้วจึงไม่ยืนอึ้งเงียบไปอีก
“คารวะผู้อาวุโส”
“ข้าดูเหมือนคนแก่ขนาดนั้นเลยรึ”หญิงสาวคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“ท่านคงเป็นภรรยาของเซียนสวรรค์เหลียนจิวสินะครับ”หญิงสาวได้ยินก็ตกใจที่เด็กตรงหน้ารู้เรื่องของตน
เหมือนหวังเล่อเฉิงรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรจึงตอบกลับไป
“ข้าถูกไหว้วานจากเซียนเพลิงโลกันตร์ และ เซียนเหมันต์เยือกแข็ง ให้มาหาตัวพวกท่านให้ครบแล้วสร้างกายใหม่่ให้ครับ”
“โอ้ๆแล้วเจ้าเจอกี่คนแล้วละ”
“เหลือเพียงท่านและเซียนผ่ามิติครับ เอ่อออ…ข้าขอถามได้ไหมครับว่าบ่อข้างนอกมันคือบ่ออะไร”
“มันมีไข่มุกกี่ลูกแล้วละ”หญิงสาวไม่ตอบแต่ถามกลับมาแทน
“ประมาณ 12 ลูกครับ”
“เฮ้ออออ ผ่านมา 1,000 กว่าปีแล้วสินะ”หญิงสาวพลันรำลึกถึงอะไรบางอย่างก่อนจะเอ่ยออกมา
“เจ้าเอาไปได้เลย มันคือไข่มุกสวรรค์พิสุทธิ์เป็นของดีมากแก่หญิงสาว”