บทที่ 13 มิติลี้ลับ
วันต่อมาหวังเล่อเฉิงได้เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วชายหนุ่มมั่นใจว่ารอดแน่นอนแต่ไม่รู้จะติดอันดับหรือปล่าวแต่หวังเล่อเฉิงคิดจะปลดผนึกสายเลือดไปส่งหายนะให้คนอื่นแน่นอน
“เอาละข้าเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว….ใครที่มันจะมาหาเรื่องข้าละก็คิดผิดแล้วละ หึ หึ หึ”
ขณะกำลังคิดกับตัวเองอยู่นั้นบิดาของเขาก็มาหา
“เฉิงเอ๋อ มิติที่จะเข้าไปในคราวนี้นั้นจะมีโบราณสถานลี้ลับมากมายที่มีมรดกหรือไม่ก็ทรัพสมบัติมากมายและมีเวลาให้ 3 เดือน”
“ท่านพ่อ แล้วจะจัดแข่งกันระหว่างตระกูลได้ยังไงรึ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยอย่างสงสัย
“ดูเหมือนทางราชวงศ์จะมีตราสลักที่เมื่อสังหารสัตว์อสูรแล้วจะมีคะแนนขึ้นมาตามระดับหน่ะ”
“แล้วพวกเขาไปเอามาจากไหนงั้นรึ??”
“เห็นว่าบรรพบุรุษของราชวงศ์ได้มาตอนได้มิติลี้ลับมาหน่ะ”หวังหม่าเปาเอ่ยอย่างแคลงใจ
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เฉิงเอ๋อ…ไปเตรียมออกเดินทางได้แล้วมิติลี้ลับจะเปิดในยามซื่อ(9.00-10.59)แล้ว”หวังหม่าเอ่ย
“ขอรับท่านพ่อ”หวังเล่อเฉิงเก็บของทุกอย่างใส่แหวนมิติระดับกลางของตนที่ได้มาจากการขายโอสถเป็นจำนวนมาก
มันมีพื้นที่เก็บประมาณบ้านขนาดย่อมๆเลยทีเดียว
ผ่านไป 1 ชั่วยามทุกตระกูลก็มาพร้อมกันที่หน้าทางเข้ามิติลี้ลับที่อยู่ในเขตพระราชวังกันครบทุกตระกูล
แต่ในขณะที่กำลังแจกตราไม้ที่มีสลักคำว่าเจียงให้ทุกตระกูลอีกประมาณครึ่งก้านธูปมิติจะเปิดนั้นได้มีเรือเหาะขนาดใหญ่ 3 ลำปรากฎขึ้น
“สวัสดีชาวราชวงศ์เจียงทั้งหลาย…พวกข้าขอเข้าไปด้วยสิ”ชายที่สวมชุดคลุมมังกรทองบนเรือเหาะลำหนึ่งที่สง่างามเป็นอย่างมากกล่าว
“ใช่ๆ ราชวงศ์เจียงมีของดีก็ต้องแบ่งปันพวกเราบ้างสิ”ชายที่รูปร่างน่าเกรงขามและปล่อยกลิ่นอายอันสูงส่งอีกคนเอ่ยขึ้นเช่นกัน
“พวกเจ้า!!!! นี่เป็นมิติของราชวงศ์ข้าพวกเจ้ามีสิทธิ์อะไร”ชายรูปร่างสูงโปร่งปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงศักดิ์ออกมาบนที่นั่งตรงข้ามกับทางเข้ามิติ
“ฮ่า ฮ่า เจียงเว่ย ถ้าเจ้าไม่ให้ก็ไม่เป็นไรพวกข้านำทหารมาล้อมรอบอาณาจักรของเจ้าไว้แล้ว”ชายอีกคนเอ่ยพร้อมด้วยรัศมีที่น่าเกรงขาม
“พวกเจ้าทั้งสามราชวงศ์จะทำเช่นนี้จริงรึ”เจียงเว่ยผู้เป็นกษัตริย์ปกครองของอาณาจักรแห่งนี้เอ่ยอย่างเคร่งเครียด
“เจ้าก็ลองคิดดูสิว่าเจ้าจะสูญเสียอะไรบ้าง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ชายชุดคลุมมังกรกล่าว
จางเว่ยคิดหนักและจนในที่สุดก็ยอมให้เข้าไป
“ได้ ราชวงศ์ละ 20 คนเท่านั้น”เจียงเว่ยเอ่ยอย่างเคียดแค้น
“ฮ่า ฮ่า ต้องอย่างนี้สิสหายเจียง”ชายที่มีรูปร่างน่าเกรงขามเอ่ย
ฟิ้วววววว
ตราไม้ลอยไปทาง 3 ราชวงศ์อย่างละ 20 ชิ้น
ตราไม้นี้ไม่ได้นับคะแนนอย่างเดียวเท่านั้นแต่มันคือตราที่สามารถทำให้ผ่านเขตแดนเข้าไปในมิติได้
เมื่อเตรียมพร้อมเสร็จทุกอย่างก็ถึงเวลาพอดี
“เอาละถ้าพร้อมกันแล้วเข้าไปได้ ขอให้ทุกคนโชคดี”เจียงเว่ยเอ่ยเสียงดังด้วยการใช้ปราณขยายเสียง
วูบบบบบบบบ
ประตูมิติเปิดออกมาเป็นน้ำวนขนาดยักษ์
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
ทุกคนกระโดเข้าไปน้ำวนมิติที่เปิดออกทันที
“ท่านพ่อข้าไปแล้วนะขอรัับ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยแล้วกระโดดตามเข้าไป
แวบบบบบบบ
ฟึ่บบ
“ข้ามาอยู่ที่ไหนเนี่ย”รอบๆหวังเล่อเฉิงเต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย
“ข้าน่าจะตามหาหวังซินและหวังซวน ข้าจะให้พวกเขาตายไม่ได้เพราะยังไม่ได้เริ่มธุรกิจกันเลย”ในมิตินี้นั้นจะแยกทุกๆคนออกจากกัน
“เอาหล่ะเริ่มหาโบราณสถานกันเลยดีกว่า”
หวังเล่อเฉิงปลดเริ่มผนึกสายเลือดของตน
ครื่นนนนนนนน
หินถล่มลงมาจากภูเขาด้านหลังชายหนุ่ม
“เอาละเว้ยยยย…ปลดผนึกปุปซวยปัป”หวังเล่อเฉิงตะโกนพร้อมแผ่นหนีอย่างรวดเร็ว
แต่ยังไม่ทันไปไหนก็เกิดเสียงคำรามของสัตว์อสูรหลายตัวดังขึ้น
โฮกกกกกกกกกกกกก
สัตว์อสูรระดับต่ำหลายชนิดวิ่งหนีหินถล่มตามชายหนุ่มมาอย่างมหาศาล
“จากข้อมูลที่สมองเทพส่งมาให้ตราไม้นี่จะกักเก็บวิญญาณของสัตว์อสูรที่เราฆ่าเองเท่านั้นแต่ข้าสามารถดึงวิญญาณมายัดใส่มันได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”หวังเล่อเฉิงวิ่งเร็วขึ้นและปล่อยเปลวเพลิงล้อมรอบทางหนีของสัตว์อสูร
โฮกกกกกกก
สัตว์อสูรระดับต่ำหลายตัวไม่สามารถหนีออกมาจากเพลิงที่เกิดจากปราณธรรมชาติได้จึงติดอยู่ในวงล้อมเพลิงแล้วโดนหินถล่มทับลงมาตายทันที
“ฮ่า ฮ่า ถล่มลงมาอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า”หวังเล่อเฉิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับใช้ปราณธรรมชาติชักนำวิญญาณของสัตว์อสูรที่ตายไปเจ้ามาในตรา
ถ้าใช้ปราณธรรมดาละก็จะส่งผลร้ายต่อวิญญาณแทน เพราะปราณธรรมชาตินั้นเป็นปราณแรกเริ่มให้เกิดสิ่งมีชีวิตทำให้เป็นมิตรต่อทุกสิ่งทุกอย่างทั่วทั้งเอกภพนี้
ส่วนปราณปกติมี่มนุษย์ใช้นั้นเกิดจากการใช้เส้นลมปราณดูดซับปราณในธรรมชาติเข้ามาแต่ไม่บริสุทธิ์จึงเปลี่ยนเป็นพลังปราณปกติแทน
เส้นลมปราณกลืนกินของชายหนุ่มนั้นเป็นการกลืนกินเข้าไปแล้วปล่อยออกมาเสมือนบังคับปราณธรรมชาติให้อยู่ใต้อาณัติของตนอย่างสมบูรณ์
วิ้งงงงงงงง
แสงทอประกายออกมาจากตราไม้ของหวังเล่อเฉิงพร้อมกับเลขที่ปรากฎออกมา
“1,200 คะแนน!!!”หวังเล่อเฉิงตกใจกับคะแนนที่เพิ่มขึ้นมามาก
ตราไม้จะนับคะแนนดังนี้
อสูรระดับก่อเสริมกายา 10 คะแนน
อสูรระดับก่อเสริมจิต 50 คะแนน
อสูรระดับก่อเสริมลมปราณ 100 คะแนน
อสูรระดับก่อตันเถียน 1,000 คะแนน
จากที่เห็นคงมีอสูรระดับก่อเสริมจิตตายมากมายเป็นแน่เพราะตอนนี้เพลิงธรรมชาติของชามหนุ่มสามารถเผาระดับก่อเสริมลมปราณได้เลย
ชายหนุ่มเก็บแก่นอสูรที่ตายลงจากเพลิงและหินถล่มอย่างบ้าคลั่ง
“ได้เวลาออกล่าแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”หวังเล่อเฉิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและล่าสัตว์อสูรพร้อมเก็บแก่นอสูรทั้งหมดเข้าแหวนมิติ
“ข้าจะหาโบราณสถานยังไงดี”หวังเล่อเฉิงคิดขณะทะยานไปมาบนต้นไม้และสังหารสัตว์อสูร
ปังงงงง
โครมมมมมมม
ตูมมมมมมมมมมมมมมม
เสียงระเบิดดังขึ้นไกลๆในมางทิศตะวันตก
“มีคนกำลังสู้กันอยู่ด้วยแหะ ไปดูหน่อยดีกว่าเผื่อเก็บเกี่ยวอะไรได้”ชายหนุ่มพุ่งตามไปทางเสียงปะทะอย่างรวดเร็ว
“พะ....พวก เจ้าอย่าเข้ามานะ!!!!เสียงหญิงสาวตะโกนขึ้นอย่างดังจนหวังเล่อเฉิงที่กำลังจะมาถึงได้ยินเสียง
“หึ หึ อย่าตะโกนเสียงดังไปเลยองค์หญิงใครมาก็ช่วยเจ้าไม่ได้หรอก”ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ย
“พวกเจ้า!!!! พระบิดาของข้าก็ยินยอมให้พวกเจ้าเข้ามาด้วยแล้วพวกเจ้าจะเอาอะไรอีก”หญิงสาวกล่าวด้วยความหวาดกลัว
“องค์ชายหมิงฟ่าน ท่านรีบจัดการนังนี่เถอะถ้าคนอื่นมาเห็นจะเกิดเรื่องยุ่งยากเอาได้”ชายหนุ่มในกลุ่มอีกคนเอ่ย
“โอ้!! แล้วถ้าข้ามาเห็นเข้าแล้วละ”เสียงหวังเล่อเฉิงดังขึ้นจากบนต้นไม้