บทที่ 12 กายาหยดวารีสวรรค์
“กายาหยดวารีสวรรค์!!!!!!”หวังเล่อเฉิงเอ่ยอย่างตกใจเพราะข้อมูลที่สมองเทพส่งเข้ามามันสุดยอดเป็นอย่างมาก
กายาหยดวารีสวรรค์นั้นจะเป็นประเภทสนับสนุนเพราะมันใช้พลังงานของร่างกายในการกลั่นหยดวารีสวรรค์เพื่อช่วยให้คนที่ดูดซับเข้าไปนั้นมีพลังปราณเพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้ทะลวงระดับได้อย่างรวดเร็ว มันมีประโยชน์จนถึงขอบเขตกำเนิดเซียนเลยทีเดียว แต่มันต้องใช้จำนวนมหาศาลถ้าจะใช้ในขอบเขตกำเนิดวิถีเต๋าขึ้นไป
“น้องข้าเป็นอะไรอย่างนั้นรึ”
“เจ้ารู้จักกายาพิเศษหรือไม่”หวังเล่อเฉิงเอ่ยถาม
“ข้าพอจะรู้อยู่บ้างว่ามีคนเกิดมาพร้อมกายหยาบที่พิเศษ”หวังซวนกล่าว
“ใช่ น้องสาวเจ้ามีกายาหยดวารีสวรรค์ มันจะมีหยดน้ำอยู่ในตัวเจ้าเจ้าเอาออกมาได้รึไม่”หวังเล่อเฉิงเอ่ยกับหวังซวนก่อนจะหันมาถามหวังซิน
“อะ….เอ่อ ก็มีหยดน้ำที่มาจากไหนไม่รู้อยู่ในห้วงจิตวิญญาณของข้าเหมือนกัน”หวังซวนกล่าวอย่างสงสัย
“เจ้าเอามันออกมาทีสิ”หวังเล่อเฉิงเอ่ย
“ได้สิ”หวังซวนกล่าวพร้อมปรากฎหยดน้ำในมือเล็กของนาง
“มันก็แค่หยดน้ำธรรมดานิ”หวังซวนเอ่ยอย่างงงวย
“เจ้าลองดูดซับมันดูสิ”ชายหนุ่มเอ่ยกับหวังซิน
วูบบบบบบ
“พะ..พลังปราณของข้าเพิ่มมากขึ้น”เด็กสาวเอ่ยอย่างตกใจ
“ไหนข้าลองบ้าง”หวังซวนลองดูดซับมันเข้าไปบ้าง
“เฮ้ยยย..เพิ่มจริงด้วย”หวังซวนเอ่ยอย่างตกใจ
“นี่แหละคือต้นเหตุที่นางไม่โตสักที เพราะกายาของนางจะดูดซับพลังงานจากร่างของนางไปสร้างเป็นหยดวารีสวรรค์”หวังเล่อเฉิงเอ่ย
“ถ้ามันดูดพลังกายข้าไปเรื่อยๆข้าก็ตายสิ”หวังซินกล่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า…เพราะเจ้าไม่มีพลังกายให้มันดูดซับเท่าไหร่มันเลยหยุดสร้างหยดวารีสวรรค์แล้ว”หวังเล่อเฉิงเอ่ยอย่างขบขัน
“แล้วข้าจะควบคุมมันได้รึปล่าว”หวังซินเอ่ยอย่างกังวล
“เจ้าก็ทำความเข้าใจกับพลังของตนเองและกินสมุนไพรเพิ่มพลังกายเยอะละๆ”หวังเล่อเฉิงเอ่ยออกมาพร้อมหยิบสมุนไพรให้ลองดู
งั่ม งั่ม
“อืมมมมม…ข้ารู้สึกว่ามันกำลังสร้างจริงด้วยละ”หวังซินเอ่ยอย่างยินดี
“แล้วเจ้ามีทั้งหมดกี่หยดละ”หวังซวนเอ่ยอย่างสงสัย
“ตอนนี้ข้ามีหยดวารีสวรรค์ 13 หยดถ้ารวมในมือนี่ก็ 14 หยด”หวังซินเอ่ยอย่างตื่นเต้นที่ตนมีสิ่งที่จะทำให้พลังของตนและพี่ชายเพิ่มขึ้น
“เจ้าใช้มันดีๆละแล้วก็อย่าให้ใครเห็นไม่งั้นเจ้าโดนจับไปสร้างมันทั้งวันแน่”หวังเล่อเฉิงกล่าวเตือน
“อืมม ขอบคุณท่านมาก..แล้วท่านไม่ต้องการรึ”หวังซินเอ่ยอย่างสงสัย
“ถ้าเจ้าจะให้ก็ขอสักหยดสองหยดก็ดี”
วิ้งงงงงง
ปรากฎหยดวารีสวรรค์ 3 หยดลอยมาทางชายหนุ่ม
“นี่ ข้าให้ตอบแทนเจ้า”หวังซินเอ่ยแล้วยิ้มหวานออกมา
“งั้นข้าไม่เกรงใจละนะ”หวังเล่อเฉิงส่งหยดวารีสวรรค์เข้าไปในแหวนมิติของตนแล้วคิดหาทางทำเงินได้มหาศาลฉับพลัน
“งั้นเจ้าสนใจทำธุรกิจกับข้าหรือไม่”หวังเล่อเฉิงกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ธุรกิจอะไรรึ?”หวังซินถาม
“ข้าจะทำโอสถเพิ่มพลังกายให้เจ้าแล้วเจ้าผลิตหยดวารีสวรรค์ออกมาแล้วข้าจะนำไปปรุงเป็นโอสถชนิดใหม่ที่ช่วยทะลวงได้ทุกขั้นในขอบเขตมนุษย์ แบ่งกำไรคนละครึ่งเจ้าว่าไง”หวังเล่อเฉิงเอ่ยแผนที่เพิ่งคิดได้ออกมา
“น่าสนใจดี ข้าเอาด้วย”หวังซินกล่าวตกลงอย่างรวดเร็ว
คนปกติใช้หยดวารีสวรรค์2-3หยดก็เลื่อนระดับไปสู่ขั้นก่อลมปราณแล้วแต่ชายหนุ่มนั้นไม่ใช่เมื่อตอนที่บรรลุระดับก่อเสริมกายาขั้นที่ 10 นั้นหวังเล่อเฉิงได้ใช้ทรัพยากรที่เพิ่มระดับพลังได้ในโบราณสถานรอบนอกเกือบหมดจนมีพลังเทียบเท่ากับก่อเสริมจิตขั้น 3
ดังนั้นชายหนุ่มจะต้องสะสมพลังปราณเกินระดับไปอีกนานเลยทีเดียวและตั้งแต่ระดับก่อเสริมปราณเป็นต้นไปจะเพิ่มระดับขั้นได้อย่างขึ้นมาก
เมื่อตกลงทุกอย่างเสร็จสิ้นทั้งสามก็เดินไปเที่ยวในเมืองจนตกดึก
“ท่านพ่อ ข้ากลับมาแล้ว”หวังเล่อเฉิงเอ่ยขึ้นพร้อมกับเปิดประตูห้องเข้ามา
“เฉิงเอ๋อ มาๆข้ากำลังคุยเรื่องงานประลองในพรุ่งนี้อยู่พอดีเลย”หวังหม่าเปาเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังคุยกับพ่อของตนอยู่
“ฮ่า ฮ่า เจ้าช่างโชคดียิ่งนักหลายปู่การประลองรอบนี้จะเข้าไปในมิติลึกลับของราชวงศ์ที่เปิดพอดี และมันต้องใช้เวลาอีก 100 ปีในการสะสมพลังเพื่อเปิดอีกรอบ”หวังหม่าเฉินเอ่ยอย่างยินดี
“แล้วมีกี่ตระกูลรึขอรับ ในการประลองครั้งนี้”หวังเล่อเฉิงเอ่ยอย่างสงสัย
“ครั้งนี้มากันครบทุกตระกูล คงเพราะอยากเข้าไปในมิติลึกลับนั่นแหละ”หวังหม่าเปาเอ่ย
“ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกี่คนขอรับ”หวังเล่อเฉิงเริ่มคิดจริงจังแล้วในเรื่องนี้
“112 คน รวมคนของราชวงศ์ด้วย”หวังหม่าเปาเอ่ยอย่างเคร่งเครียดเพราะครั้งนี้มีรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งของตระกูลต่างๆมากมายมาร่วมด้วย
แต่ก็ยังดีที่รุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งจริงๆยังอยู่ที่สำนักเพราะดูเหมือนว่าการประลองครั้งนี้จะเป็นการประลองแบบกลุ่มทั้งสำนักเลยต้องอยู่ทั้งหมด
“แล้วระดับพลังสูงสุดอยู่ที่ขั้นไหนรึขอรับ”หวังเล่อเฉิงถามอย่างเคร่งเครียดตาม
“จากสายข่าวของเรา จะเป็นตระกูลจื่อที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาตระกูลใหญ่หน่ะระดับก่อเสริมปราณขั้นที่ 4 และก็ยังมีตระกูลไท่ กับตระกูลเย่ ที่มีระดับก่อเสริมลมปราณขั้น 4 เหมือนกัน”หวังหม่าเฉินกล่าวด้วยใบหน้าที่หน้าเกลียด
เพราะมันมากกว่าของตระกูลของตนถึง 2 ขั้น
“เจ้าไหวแน่รึ”หวังหม่าเปาถามอย่างเป็นห่วง
“ถ้าข้าใส่ทั้งหมดน่าจะสู้กับขั้น 4 ได้อยู่บ้างแต่ข้ามีไม้เด็ด”หวังเล่อเฉิงกล่าวพร้อมนำโอสถระเบิดของตนขึ้นมา
“มันคืออะไรอย่างงั้นรึ”หวังหม่าเปาเอ่ยอย่างสงสัย
“ท่านคงรู้อยู่แล้วว่าข้าเป็นนักหลอมโอสถ…นี่คือโอสถที่ข้าหลอมขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจมันคือ โอสถระเบิด”หวังเล่อเฉิงเอ่ยอย่างภูมิใจ
“เรื่องนั้นข้าก็รู้อยู่หรอกว่าแต่มันทำอะไรได้งั้นรึ”หวังหม่าเปาถาม
“ท่านปู่ท่านสร้างม่านป้องกันทีแล้วมายืนรอรับอนุภาพของมันดู”หวังเล่อเฉิงเอ่ยพร้อมเตรียมปาโอสถของตนแล้ว
แวบบบบบบบ
“ฮ่า ฮ่า ข้าอยากเห็นแล้วสิว่ามันทำอะไรได้ มาข้าพร้อมแล้ว”
“ท่านพร้อมแล้วแน่นะท่านปู่”หวังเล่อเฉิงกล่าวเตือน
“เข้ามาเลย”
ฟิ้วววววววววว
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เสียงระเบิดดังสนั่นออกมาบนโรงเตี๊ยมแต่ดีที่วางม่านพลังแล้วทำให้เสียงออกไปไม่ดังมาก
ฟู่วววววววววววว
“แค่ก แค่ก อานุภาพรุนแรงจริงๆ ถ้าเป็นระดับก่อตันเถียน ขั้นต้นน่าจะเจ็บหนักเลยนะเนี่ย”หวังหม่าเฉินเอ่ยอย่างตกตะลึง
“ฮ่า ฮ่า เป็นไงละอาวุธลับของข้า”
“งั้นข้าคงไม่เป็นห่วงอะไรแล้วละ แล้วเจ้ายังเหลืออักกี่เม็ดงั้นรึ”หวังหม่าเฉินเอ่ยถาม
“ข้าหลอมมาเยอะ น่าจะเกือบ 100 เม็ดได้”หวังเล่อเฉิงเอ่ยอย่างสบายๆ
“ฮะ 100 เม็ด เอาไประเบิดตระกูลนึงล่มได้เลยนะนั่น!!”หวังหม่าเปาตกใจสุดขีด
“ฮ่า ฮ่า สมกับที่เป็นหลานข้า”
“เอาละเจ้าไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงลุยศึกหนัก”หวังหม่าเปากล่าวไล่ชายหนุ่มให้ไปนอนพักผ่อน
“ขอรับ ท่านพ่อข้าจะทำอย่างเต็มที่แน่นอน”หวังเล่อเฉิงเอ่ยจบก็เดินออกจากห้องไป
#ตอนนี้อาจจะดูบทพูดไม่ค่อยไหลลื่นเท่าไหร่เดี๋ยวตอนหน้าปรับแก้ให้มันดีขึ้นให้ครับ หรือถ้าว่างๆจะมาแก้ตอนนี้ใหม่