ตอนที่9
“สุขภาพคุณพ่อช่วงนี้เป็นยังไงบ้างคะ”
ปรารีรู้ดีว่าพ่อของเธอช่วงนี้ก็สุขภาพไม่ค่อยดีเหมือนกันจึงถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็ยังปกติมีปวดข้อปวดเข่าตามประสาคนแก่น่ะ”
ตระการเข้าใจร่างกายตัวเองดีว่าทุกอย่างมันย่อมเสื่อมไปตามกาลเวลาเขาก็ดูแลสุขภาพของตัวเองดีเท่าที่จะทำได้แล้ว
“คุณพ่อไม่แก่สักนิดเลยนะคะยังหล่ออยู่เลย”
ปรารีรีบพูดปลอบใจพ่อของเธอว่าเขานั้นดูไม่แก่เลยสัดนิด
“ปากหวานกับพ่ออยู่เรื่อยเลยนะเราเนี่ย”
ตระการใช้มือจับหัวลูกสาวของเขาด้วยความเอ็นดูที่ช่างพูดเอาใจเก่งเสียจริง
“ไม่ได้พูดเล่นนะคะ...คุณพ่อยังดูหนุ่มอยู่เลยแบบนี้ถ้าหลานออกมาก็เลี้ยงได้สบายแน่เลย”
“เอ่อ...พ่อว่าจะถามเราเรื่องนี้อยู่พอดีนึกยังไงยอมตกลงรับปากแม่เราไป”
ตระการได้ยินปรารีพูดเรื่องนี้มาก็อยากจะถามลุกสาวของเขาอยู่เหมือนกันว่านึกอย่างไรถึงได้ไปรับปากกับแม่ตัวเองแบบนั้น
“ถามเป็นพี่ต้นเลยนะคะ...เปาก็แค่อยากให้ทุกคนมีความสุข...”
ปรารียิ้มเล็กน้อยคำถามนี้เป็นคำถามที่เธอเจอมาก่อนหน้านี้แล้วและเธอก็ยังยืนยันในคำตอบเดิมของเธอ
“แล้วเราล่ะจะมีความสุขเหรอ”
ตระการเห็นว่าดูลูกสาวของเขาจะห่วงแต่ความสุขของคนอื่นเขาอยากจะรู้ว่าหากเธอเลือกเดินทางที่ตั้งใจไว้แล้วเธอจะมีความสุขหรือเปล่า
“ทุกคนมีความสุขเปาก็มีความสุขค่ะ”
ปรารีตอบแบบไม่ต้องคิดเลยชีวิตนี้เธอจะไปมีความสุขเรื่องอะไรได้อีกนอกจากเธอเห็นครอบครัวเธอมีความสุขเธอก็สุขใจหัวใจพองโตแล้ว
“เรานี่นะ...”
ตระการโอบกอดลูกสาวของเขาหลวมๆดูท่าลูกสาวของเขาจะเป็นคนที่ช่างเสียสละเสียจริงไม่เสียใจเลยที่ได้รับเลี้ยงเธอมาตั้งแต่แบเบาะ
10 นาทีต่อมา
“ดูสองพ่อลูกสิคะเดินกอดกันกลมออกมาเลย”
มลฤดีหันไปเห็นสองพ่อลูกเดินกอดกันกลมเข้ามาในห้องก็อดเอ่ยปากแซวเล่นไม่ได้
“ว้า...แบบนี้ย่าก็ไม่มีใครสนใจแล้วสิ”
โสพิศเองก็ทำท่าทีเป็นงอนหลานสาวที่ตอนนี้ดูจะสนใจพ่อมากกว่าเธอเสียแล้ว
“ใครจะไม่สนใจคุณย่าล่ะคะ”
ปรารีรู้ว่าทุกคนอยากจะเรียกร้องความสนใจจากเธอเธอเองก็พร้อมจะสนใจทุกคนอยู่แล้ว
“55555”
วันนี้ทุกคนดูจะเฮฮาเป็นพิเศษเพราะมีเจ้าเปาน้อยอยู่ด้วยบ้านเลยสดใสขึ้นเยอะ
“ไปทานอาหารเช้ากันดีกว่านะ...โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว”
มลฤดีชวนทุกคนทานอาหารเช้าเพราะตอนนี้แม่ครัวได้เตรียมอาหารเช้าสำหรับทุกคนเรียบร้อยแล้ว
“คุณย่าทานเยอะๆเลยนะคะ”
วันนี้อาหารเช้าค่อนข้างจะเยอะเป็นพิเศษเพราะมลฤดีสั่งให้แม่ครัวทำไว้ต้อนรับปรารีโดยเฉพาะหญิงสาวเองก็ดูจะตื่นตาตื่นใจกับอาหารที่หลากหลายเสียเหลือเกินแต่ก็ไม่ลืมที่จะตักใส่จานคนอื่นก่อนจะใส่จานตัวเองเสมอ
“พี่ต้นบอกว่าฝากสวัสดีทุกคนด้วยค่ะ”
ปรารีพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตฤณภพฝากเธอมาสวัสดีทุกคนจึงรีบบอกเดี๋ยวถ้าหากเธอลืมเธอก็จะรู้สึกผิดไปอีก
“อ่อ..เเหรอ..แม่มลวันนี้มีไก่ตุ๋นของโปรดตาต้นนี่ฝากเจ้าเปาเอากลับไปให้ด้วยนะ”
วันนี้โสพิศไม่ลืมที่จะสั่งแม่ครัวให้ทำไก่ตุ๋นของโปรดหลานชายของเธอเอาไว้เพราะนานๆทีหลานชายเธอจะเข้ามาที่บ้านนี้ทีหากไม่ฝากไปก็คงจะไม่ได้ทาน
“ค่ะคุณแม่”
เย็นของวัน
วันทั้งวันหญิงสาวคอยป่วนคนทั้งบ้านให้มีรอยยิ้มจนตอนนี้ก็ได้เวลาที่เธอจะต้องกลับแล้ว
“บ๊าย..บายนะคะทุกคนไว้เปาจะมาหาใหม่นะคะ”
หญิงสาวขึ้นบนรถตู้คันหรูโบกไม้โบกมือให้คนที่บ้านยกใหญ่ปากยังยิ้มไม่หุบประตูรถตู้ก็ปิดลงวันนี้เป็นอีกวันที่เธอมีความสุขมากๆที่ได้ทำให้คนในบ้านได้ยิ้มได้หัวเราะเธอคิดว่าอีกไม่นานหากลูกของตฤณภพเกิดมาทุกคนคงได้มีรอยยิ้มมากกว่านี้แน่เธออยากจะให้ถึงวันนั้นเร็วๆเสียเหลือเกิน
18.30 น.
เพนท์เฮ้าส์
“ทำอะไรอยู่คะพี่ต้น”
เมื่อกลับมาถึงห้องปรารีก็วิ่งขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองเข้าไปที่ห้องทำงานของชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆห้องนอนของเขาทันทีเธอคิดถูกว่าเขาจะต้องอยู่ที่นี่ปแล้วก็ เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ
“กลับมาแล้วก็อย่ากวนฉันจะทำงาน”
//กลับมาก็โวยวายเลย//
ตฤณภพทำหน้าเซ็งเล็กน้อยที่ตอนนี้เขากำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการตรวจแฟ้มบัญชีแต่ก็ต้องมาเสียสมาธิกับยัยเด็กเสียงแจ๋วที่เอะอะโวยวายตั้งแต่มาถึง
“อะ..อ้าว...คุณย่าฝากไก่ตุ๋นมาให้พี่ต้นด้วยค่ะไปทานข้าวกันเลยไหมคะ”
//โดนอีกแล้ว..เฮ้อ..”
ปรารีหน้าเจื่อนเล็กน้อยและรีบบอกอีกฝ่ายว่าคุณย่าฝากขอโปรดมาให้พร้อมชวนเขาไปทาข้าวเพราะตอนนี้มันเป็นเวลาอาหารเย็น
“ฉันไม่หิวเธอทานไปก่อนเลยฉันจะทำงาน”
ตฤณภพยังคงจ้องใจจดใจจ่ออยู่กับเอกสารในมือพร้อมไล่ให้เธอไปทานก่อนได้เลยเพราะเขายังไม่มีอารมณ์มาทานอาหารตอนนี้
“งั้นเดี๋ยวเปาไปใส่ถ้วยเอามาให้ข้างบนนะคะ”
//เวลานี้มันเวลาอาหารยังจะดื้ออีก//
ปรารีไม่ได้สนใจคำพูดของชายหนุ่มแม้แต่น้อยเธออยากให้เขาทานอาหารให้ตรงเวลาแล้วก็ทานของที่คุณย่าอุตส่าห์ฝากมาด้วย
“นี่เธอ...ไม่ต้องฉันจะทำงานนน”
//โถ่..เอ้ย...เคยฟังอะไรบ้างไหมเนี่ย//
ตฤณภพหันมาบอกหญิงสาวอย่างจริงจังอีกทีว่าเขาไม่อยากทานตอนนี้แต่ดูท่าจะไม่ทันเสียแล้วเพราะเธอนั้นวิ่งลงไปเรียบร้อยแล้ว
10 นาทีต่อมา
“ทานข้าวกันค่ะ”
ปรารีเอากับข้าวอาหารลงไปอุ่นในไมโครเวฟไม่นานก็ยกถาดอาหารกับข้าวมาวางในห้องทำงานของเขา
“ฉันเคยบอกไม่ชอบให้กลิ่นอาหารอยู่ในห้องทำงาน”
//ยัยนี่คงจะสมองเสื่อมหรือยังไง//
ตฤณภพเคยบอกกับเธอไปแล้วว่าเขาไม่ชอบให้มีกลิ่นอาหารในห้องทำงานแต่เธอก็ยังจะยกมาทั้งถาดเขาละอยากจะเขกหัวเธอแรงๆสักทีจริงๆ
“ก็เวลานี้มันเวลาอาหารเย็นนี่คะ..ทานผิดเวลาเดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะนะคะ”
ปรารียังตีมึนทำเป็นไม่สนใจในเมื่อเวลานี้มันคือเวลาที่จะต้องทานยังไงเธอก็จะทำให้เขาทานให้ได้
“หื้มมม”
ตฤณภพไม่รู้จะพูดกับหญิงสาวอย่างไรดีดูเหมือนเขาพูดอะไรออกไปจะไม่เข้าหูเธอเลยสักนิด
“อะ..อ้ามมม”
“เธอ..อื้มมม..”
ปรารีอาศัยจังหวะที่ชายหนุ่มนั่งเผลอๆบีบคางของเขาให้อ้าปากออกพร้อมป้อนข้าวเข้าไปในปากของเขาทันทีโดยไม่ได้กลัวสายตาอำมหิตของเขาในตอนนี้แม้แต่น้อย
“พี่ต้นทำงานไปเลยค่ะเดี๋ยวเปาป้อนเอง...จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำงานไงคะ”
ปรีเห็นชายหนุ่มเอาแต่นั่งนิ่งจ้องมาที่เธออย่างไม่วางสายตาเธอจึงชี้ไปที่แฟ้มงานของเขาว่าให้เขานั้นทำต่อได้เลยเดี๋ยวเธอจะเป็นคนป้อนเขาเอง
“หึ้ยยย...ลงไปทานข้างล่างฉันไม่ทำแล้วงาน”
ตฤณภพกัดฟันกรอดหัวเสียอย่างมากดูหญิงสาวในตอนนี้จะไม่เกรงกลัวเขาเลยสักนิดจึงรีบเก็บแฟ้มเอกสารลงไปทานข้าวให้รู้แล้วรู้รอดไปเธอจะได้ไม่ต้องมากวนใจเขาอีก
“อิๆๆ”
//คนจะป้อนก็ไม่ชอบ555//
ปรารีแอบขำคนที่เดินหัวเสียออกนอกห้องไปอย่างเบาๆพร้อมยกถาดอาหารตามเขาลงไปอย่างผู้ชนะ