ตอนที่6
13.00 น.
ครอกกกๆๆ
“เอ่อ..พี่ต้นคะ??”
//ไม่หิวหรือไงนะ...ใส้ฉันจะขาดแล้วเนี่ยย//
ปรารีเห็นว่ามันเลยเที่ยงมาจนบ่ายแล้วชายหนุ่มก็ไม่เห็นจะไปทานข้าวกลางวันเสียทีเธอรอจนหิวใสจะขาดแล้วจึงตัดสินใจทักถามเพราะเธอทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
“อะไรของเธออีก..”
ตฤภพเงยหน้าขึ้นมาจากการมองโน๊ตบุ๊คเล็กน้อยอย่างไม่พอใจไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไรอีก
“เปาหิวค่ะ....พี่ต้นไม่ทานข้าวกลางวันเหรอคะ??”
“หื้มมมม”
ชายหนุ่มส่ายหัวพร้อมยกข้อมือดูนาฬิการาคาแพงของเขาก็เห็นว่านี่มันเลยเวลาทานอาหารกลางวันมาแล้วจริงๆเขาเองก็ทำงานเพลินไปหน่อย
“เดี๋ยวฉันโทบอกคุณชัยให้สั่งอาหารมาให้เธอจะทานอะไร...”
ตฤนภพไม่ได้คิดที่จะออกไปทานอาหารที่ไหนอยู่แล้วเพราะปกติเขาก็จะสั่งให้ผู้ช่วยของเขาไปซื้อเข้ามาทานในห้องนี้ในห้องของเขาจึงมีโซนทานอาหารแยกออกไปเพื่อไม่ให้มีกลิ่นอาหารเวลาทำงาน
เขามองหญิงสาวอย่างรอคำตอบจะโทรบอกธวัชชัยทีเดียว
“ขอเป็น...เอ่อ...เอาแบบที่พี่ต้นทานก็ได้ค่ะ”
“โอเค”
หลังจากที่ตฤณภพใช้สั่งให้ธวัชชัยจัดการเรื่องอาหารได้ไม่นานอาหารก็มากองอยู่บนโต๊ะทานอาหารเรียบร้อยแล้ว
“หูย..น่าทานมากเลยค่ะ”
ปรารีหยิบไก่ทอดที่หั่นเป็นชิ้นๆมาเข้าปากด้วยความหิวโดยที่เธอยังไม่ได้นั่งลงดีๆ
“นี่เธอทำไมไม่ใช้ช้อน...แล้วทำไมไม่นั่งทานดีๆนั่งลงเดี๋ยวนี้”
//มารยาทคือศูนย์เลยผู้หญิงคนนี้//
ตฤณภพไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวจะหยิบอาหารเข้าปากทั้งที่ยังไม่ได้นั่งลงบนโต๊ะดีๆแถมช้อนก็มีวางอยู่ข้างๆก็ยังไม่ใช้สิ่งที่หญิงสาวทำมันเป็นอะไรที่เขาไม่โอเคมากๆ...เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอตั้งหลายปีเท่าที่รู้มาและเธอเป็นเด็ก...คนที่เด็กกว่าเขาทำมารยาทแบบนี้ใส่ผู้ใหญ่กันหรืออย่างไรเขาอยากจะกลับไปถามคุณย่าของเขาเสียจริงว่าอบรมเธอมาอย่างไร
“เอ่อ..ค่ะ”
//เยอะอะไรขนาดนี้เนี่ย//
ปรารีพึ่งนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าเธอเป็นคนที่เข้าระเบียบขนาดไหนจึงรีบนั่งลงตามที่เขาสั่งและแกะกล่องอาหารทานอย่างเชื่องช้าไม่มูมมามทั้งที่หิวจนไส้กริ่วหมดแล้ว
“ของพี่ต้นน่าทานจังเลยค่ะ”
//ต้องพยายามเป็นมิตร...อิๆ//
“อืมม...บนโต๊ะอาหารควรจะเงียบเป็นดีที่สุด”
ตฤณภพส่งสายตาที่มองดูก็ยังเหมือนมีดที่คมกริบไปยังอีกฝ่ายพร้อมสินมารยาทบนโต๊ะอาหารกับเธอ
“ค่ะ”
//....//
ปรารีก้มหน้างุดเหมือนเธอจะพยายามเป็นมิตรกับเขาเท่าไรแต่ดูเหมือนว่าวิธีของเธอไม่ได้ถูกใจเขาเลยสักอย่าง
ช่วงเย็นของวัน
“นี่เธอตื่น...ตื่น..”
ตฤณภพจัดการงานเสร็จก็เดินเข้ามาหาหญิงสาวที่หลับอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าระอาเพราะถ้าหากโซฟาในห้องทำงานของเขามันใหญ่เท่าเตียงเธอก็คงจะเลื้อยไปทั่วแล้ว
“อืม..”
ปรารีสะลึมสะลือตื่นมาอย่างงงๆเพราะเธอยังรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มตาทั้งสองข้างของเธอเลยทำท่าจะหลับต่อ
“จะกลับไหมหรือจะนอนที่นี่”
ชายหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อยกับท่าทางขี้เซาของเธอทั้งพูดเสียงดังขึ้นมาขู่เธอพร้อมเดินออกไปอย่างไม่สนใจ
“กลับๆค่ะ”
//ใครจะอยากนอนที่นี่กันล่ะ//
ปรารีตาเบิกโพรงรีบตบหน้าตัวเองเบาๆให้ตื่นแล้วหิ้วกระเป๋าเป้ของเธอตามหลังเขาไปอย่างรวดเร็ว
เพนท์เฮ้าส์
“ของพี่ต้นทั้งสองชั้นเลยเหรอคะ”
//นั่นมุมนั่งเล่น....นั่นระเบียงกระจก...หูยพรมรงนั้นมันช่างสวยอะไรอย่างนี้นะ...แม่จะสำรวจให้ทุกซอกทุกมุมเลย//
ปรารีขึ้นมาบนเพนท์เฮ้าส์หรูของชายหนุ่มตั้งแต่ก้าวเข้ามาเธอก็อดมองความอลังการของที่นี่ไม่ได้มันใหญ่ดกว่าที่เธอเคยอยู่หลายเท่าแถมยังมีตั้งสองชั้นที่เชื่อมถึงกันในการออกแบบที่ทันสมัยอีกต่างหากการตกแต่งก็เรียบง่ายน่าอยู่แถมยังมีพวกต้นไม้ฟอกอากาศวางอยู่ในบางมุมอย่างดูดีอีกด้วย..
“อืมม...ห้องเธออยู่ชั้นล่างตรงนี้ส่วนฉันพักอยู่ข้างบนถ้ามีอะไรให้โทรเข้าใจใช่ไหม”
ตฤณภพเดินเข้าห้องมาถึงหน้าบันไดหรูที่เชื่อมยังชั้นบนก็หันมาหาหญิงสาวด้วยหน้าตาที่เฉยชาเช่นเดิมเขายกมือมาเสมอหน้าหญิงสาวพร้อมชี้นิ้วไปที่หน้าของเธอที่อยู่ระดับอกของเขากำชับเธอในเรื่องที่อยู่ของเธอและของเขา
“เข้าใจค่ะ..”
ปรารีพยักหน้าหงึกหงักให้อีกฝ่ายทราบว่าเธอนั้นเข้าใจดี
“อยู่ที่นี่ทำตัวให้เรียบร้อยฉันชอบความเป็นระเบียบและความเป็นส่วนตัวเธอเข้าใจใช่ไหม”
อีกเรื่องที่เขาต้องสั่งกำชับเธอเอาไว้ก่อนก็คือเรื่องความเป็นส่วนตัวและระเบียบในห้องนี้
“รับทราบค่ะ”
“ฉันจะไปพักผ่อน...ถึงเวลาอาหารเย็นฉันจะลงมา”
หลังจากที่ตกลงกันเข้าใจแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้อง
5 นาทีต่อมา
“อร๊ายยยยยยยยย”
“หืมม...ยัยบ้าเอ้ยย”
ตฤณภพเดินลงมาหาน้ำดื่มในห้องครัวด้านล่างจู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้องขึ้นมาจงรีบวิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นพร้อมส่ายหัวว่าเขาคิดไม่ผิดว่าเธอจะต้องทำเรื่องอะไรสักอย่างให้เขาปวดหัวแน่
ปังๆๆ
“มีอะไรหรือเปล่าคะพี่ต้น”
ปรารีได้ยินเสียงเคาะประตูดังเอะอะจึงรีบวิ่งมาเปิดประตูหน้าตาตื่นเมื่อเปิดออกมาเห็นชายหนุ่มยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่เหมือนมีเรื่องคอขาดบาดตายเธอจึงต้องถามให้หายคาใจว่าเขามีเรื่องอะไรอีก
“แล้วเมื่อกี้เธอส่งเสียงอะไร”
ตฤณภพเห็นหน้าหญิงสาวก็รู้ทันทีว่าเธอคงจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำผิดอะไรจึงกดเสียงต่ำถามเธอเพราะเขากำลังคุมอารมณ์โมโหของตัวเองอยู่
“อ๋อ..เปล่าค่ะ..โทษทีเปาตื่นเต้นกับวิวระเบียงห้องไปหน่อยค่ะ”
ปรารีรู้แล้วว่าที่สีหน้าเขาเป็นแบบนี้เพราะอะไรใครจะคิดว่าเขาจะได้ยินกันเล่าเธอเพียงแค่ตื่นเต้นกับความสวยงามในห้องเธอก็เท่านั้น
“ฮื้มมม....ถ้าฉันได้ยินเธอกรี้ดอีกรอบฉันจะจับเธอโยนตรงระเบียงลงไปข้างล่างเลยคอยดู”
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่...พร้อมใช้มือแกร่งบีบปลายคางของหญิงสาวอย่างหมั่นไส้พร้อมพ่นคำขู่อย่างเหลืออด
“เอ่อ..เปา..เปา..ไม่ทำแล้วล่ะค่ะ..ขออนุญาตปิดห้องนะคะ”
//คงไม่ทำจริงๆใช่ไหม...ดูหน้าแล้วท่าจะเอาจริงแฮะ//
ปรารีถึงกับหน้าเหวออ้าปากค้างดูท่าแล้วเหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้แค่ขู่เธอจึงรีบรับปากกับเขาว่าเธอจะไม่ทำอีกและรีบขอตัวปิดห้องล็อกกลอนอย่างแน่นหนา