ตอนที่5
"ปล่อยฉันนะคะท่านประธาน"
"ไม่ปล่อย"
ชาวีลากหญิงสาวมาคุยในห้องทำงานของเขา
"ปล่อยค่ะ"
เฌอริตายังพยายามแกะมือของชายหนุ่มออกจากตัวของเธอ
"ไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะหาเหตุผลที่มันฟังขึ้น"
"ก็บอกแล้วไงคะว่ามาดูความเรียบร้อย"
เฌอริตาแหงนหน้าไปมองคนตัวโตคิ้วขมวดอย่างไม่สบอารมณ์
ดวงตาของเธอทำให้ประธานหนุ่มชะงักงันเล็กน้อยเพราะเขารู้สึกคุ้นกับใบหน้าและแววตาของหญิงสาวแปลกๆพิกลทำให้เขาต้องปล่อยมือจากหญิงสาวอย่างง่ายดายเพราะอยู่ในช่วงที่กำลังเผลอ
"ขอโทษแล้วกันค่ะที่ฉันทำให้ท่านประธานไม่สบายใจแต่ฉันแค่ตรวจความเรียบร้อยจริงๆขอตัวนะคะ"
เฌอริตารีบจัดแจงเสื้อผ้าของเธอที่หลุดรุ่ยเกิดจากการดิ้นให้เป็นปกติแล้วจึงรีบวิ่งออกไปนอกห้องทันทีทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอึ้งอยู่คนเดียว
19.00 น.
คฤหาสน์หรู
"ฉันว่าจะลองทำธุรกิจใหม่ดูให้แกบริหารเพิ่มอีกสักอย่างไหวไหม"
ที่ชนะพลเรียกชาวีมาทานข้าวที่นี่ก็เพราะว่าต้องการคุยถึงเรื่องโปรเจคใหม่ที่เขาต้องการจะทำและให้ชาวีเป็นคนดูแลอีกหนึ่งอย่าง
"คุณพ่อจะให้ผมทำอะไรก็สั่งมาได้เลยครับ"
ชาวีพร้อมทำตามคำสั่งของชนะพลทุกอย่างอยู่แล้ว
"ฉันจะกว้านซื้อที่แถวชุมชนxxxทำเป็นสวนสนุกตรงนั้นทำเลดีเลย"
เรื่องนี้ชนะพลสั่งให้คนของเขาจัดการเข้าไปคุยกับชาวบ้านที่ชุมชนนั่นบางส่วนแล้ว
"แล้วชาวบ้านแถวนั้นเค้าจะอยู่ที่ไหนกันล่ะครับ"
“ชาวีเห็นว่าเรื่องนี้มันดูเหมือนจะเอาเปรียบคนที่อยู่ที่นั่นเกินไปหน่อย
"เราให้เงินพวกเค้าไปเดี๋ยวเค้าก็หาที่อยู่ใหม่กันเอง"
ชนะพลเรียกชาวีมาเพื่อให้รับทราบไม่ใช่มาขัดอะไรเขา
"ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ"
ชาวีไม่คิดว่าคนที่อยู่ที่นั่นกันมานานจะยอมขายที่ให้ง่ายๆ
"เอาน่าฉันให้คนของฉันจัดการเองแกก็ทำหน้าที่บริหารงานของแกไปเถอะ"
ชนะพลสั่งชาวีเสียงแข็ง
"ครับ"
ชาวีเองไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีนี้เท่าไรแต่เขาก็คงขัดอะไรไม่ได้อยู่ดี
บ้านxxx
02.00 น.
"เธอ.. "
ชาวีสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึกเขาฝันเห็นผู้หญิงคนเดิมซ้ำๆภาพของเธอมันกำลังชัดขึ้นแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเสียอย่างนั้น
"เฮ้อ..."
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาทำไมจะต้องฝันแบบนี้อยู่แทบทุกคืนและจู่ๆก็พลางนึกถึงใบหน้าของผู้ช่วยเลขาของเขาขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่มีเหตุผลแต่แล้วก็ต้องพยายามสลัดความคิดของตัวเองออกไปและล้มตัวข่มตานอนลงให้หลับไปอีกครั้ง
เช้าวันต่อมา
"นายครับงานเมื่อคืนเรียบร้อยดีครับ"
"อืม.."
ชนะพลนั่งฟังรายงานจากคนที่เขาสั่งให้ไปทำอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าพอใจในห้องลับของคฤหาสน์หรูของเขาพลางคิดว่าไม่นานการใหญ่ที่เขาคิดไว้นั้นจะสำเร็จในเร็ววัน
บริษัทxxx
"นี่มันอะไรกันคะพี่นุช"
เฌอริตาเข้ามาบริษัทในช่วงเช้าก็เห็นมีคนนอกเข้ามานั่งรอสีหน้าเคร่งเครียดในห้องรับแขกของบริษัทเต็มไปหมดโดยมีจิตรานุชยืนดูแลทุกคนอยู่
"ชาวบ้านที่ชุมชนxxxน่ะสิมารอคุยกับท่านประธานเพราะคิดว่าท่านสั่งคนไปเผาชุมชนไล่ที่น่ะ"
จิตรานุชหันมากระซิบกระซาบกับเฌอริตาโดยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
"ไล่ที่เหรอคะ"
เฌอริตาขมวดคิ้วสงสัย
"พี่ก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ได้แต่ฟังพวกชาวบ้านเล่ามาว่ามีคนของท่านประธานเราไปพูดคุยกว้านซื้อที่ดินจะทำเป็นสวนสนุก"
"แต่ท่านประธานเราพึ่งจะเข้ามาบริหารงานเองนะคะจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง"
เฌอริตาไม่ได้คิดเข้าข้างชาวีแต่เรื่องนี้เธอเห็นว่าชายหนุ่มพึ่งจะเข้ามาบริหารงานจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาไปหากว้านซื้อที่จากชาวบ้านทั้งที่เพิ่งจะมีอำนาจอยู่ในมือได้ไม่เท่าไหร่และคิดว่าคนที่คิดการใหญ่แบบนี้ได้น่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังชายหนุ่มมากกว่า
"พี่ก็จับต้นชนปลายเรื่องนี้ไม่ถูกเหมือนกันต้องรอให้ท่านประธานมาถึงที่นี่แล้วอธิบายทุกอย่างเอง"
จิตรานุชไม่อยากสรุปอะไรไปเองเพราะเธอไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าคนในครอบครัวของท่านประธานของเธอจะพูดคุยกันอย่างไรคงจะต้องรอให้ประธานหนุ่มมาชี้แจงด้วยตัวเองกับชาวบ้านจะดีกว่า
ครู่ต่อมา
ชาวีและแดนเทพรีบเข้ามาในบริษัทแต่เช้าเมื่อได้รับข่าวจากจิตรานุชว่ามีชาวบ้านมานั่งรออย่างไม่พอใจเพราะเมื่อคืนมีเหตุเพลิงไหม้ที่ชุมชนชาวบ้านจับได้ว่าเหตุนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเองแต่มันมีคนจงใจทำให้เกิดและชาวบ้านก็มุ่งประเด็นมาที่ประธานหนุ่มที่เข้ามาบริหารงานใหม่ว่าเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้
"คุณชาวีคุณทำกับพวกเราแบบนี้อย่าคิดว่าเราจะย้ายออกไปง่ายๆนะที่ดินของพวกเราก็จะไม่ยอมขายให้ง่ายๆด้วย"
เมื่อประธานหนุ่มมาถึงคนที่เป็นหัวหน้าชุมชนก็เริ่มตะโกนโหวกเหวกโวยวายใส่ประธานหนุ่มทันทีอย่างไม่พอใจ
"ใช่ๆ..อย่าเห็นแก่ตัวให้มากนักเลย"
"รังแกคนจนอย่างนี้ใช่ได้ที่ไหน"
เมื่อหัวหน้าชุมชนเริ่มแล้วชาวบ้านต่างก็เริ่มโวยวายกันอย่างเต็มที่อย่างไม่เกรงใจคนในบริษัท
"ใจเย็นๆก่อนครับทุกคนอย่าพึ่งโวยวายที่ทุกคนมาที่ีนี่เพื่อปรักปรำคุณชาวีโดยที่ไม่มีหลักฐานแบบนี้มันถูกต้องแล้วเหรอ"
แดนเทพรู้ว่าคนในชุมชนไม่ได้มีหลักฐานว่าพวกเขาเป็นคนทำแต่กลับมาปรักปรำแบบนี้มันไม่ถูกต้องเท่าไหร่
"ถึงไม่มีหลักฐานพวกเราก็เดาไม่ยากเพราะสามสี่วันมานี้ก็มีแต่คนของพวกคุณไปกว้านซื้อที่จากคนในชุมชนพอจะไม่ยอมขายให้ดีๆก็เล่นข่มขู่จนพวกเรากลัวกันหมดแบบนี้จะให้คิดว่าเป็นคนอื่นทำไปได้ยังไง"
เพราะพฤติกรรมคนของคนของที่นี่ส่งไปมันส่อให้พวกชาวบ้านเดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนทำให้เหตุนี้เกิด