ตอนที่5
“เปา..”
“คุณแม่”
เมื่อทั้งสองเจอกันต่างคนต่างก็รีบสวมกอดกันอย่างคิดถึง
“ไปข้างในกันเถอะพี่เค้าอยู่ข้างใน”
มลฤดีรีบพาปรารีเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
“ตาต้นนี่อั่งเปา...น้องที่แม่รับเลี้ยงไง..น้องจะมาเป็นคนที่อุ้มท้อง”
มลฤดีรีบแนะนำตัวให้ลูกชายเธอได้รู้จักกับปรารีทันทีเพราะวันนี้เป็นวันที่ดีที่ทั้งสองได้เจอกันเสียที
“เธอ!!”
//นี่ฉันต้องเจอยัยบ้านี่อีกแล้วเหรอ//
จากที่เมื่อครู่ชายหนุ่มเกือบจะคุมอารมณ์เป็นปกติแล้วแต่เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวคนที่ทำให้เขาต้องเลอะเทอะเมื่อครู่ก็อารมณ์เสียขึ้นมาอีกรอบ
“ไฮ...แฮร่ๆๆ”
//หวังว่าเขาจะไม่ถือสานะ//
ปรารีเองก็ตกใจเหมือนกันเมื่อต้องเจอกับเขาอีกครั้งแถมเขายังคือคนที่เธอจะต้องอุ้มท้องลูกของเขาด้วยแบบนี้เขาจะเกลียดขี้หน้าเธอก่อนไหมนะ...หญิงสาวพยายามปั้นหน้ายิ้มยกมือโบกทักทายอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตรที่สุดเผื่อเขาจะลืมๆเรื่องเมื่อครู่ไปบ้าง
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
มลฤดีถามคนเป็นลูกชายของเธอว่าทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกับปรารีแบบนั้นทั้งที่พึ่งเจอกันครั้งแรก
“ยัยนี่แหละครับที่ซุ่มซ่ามทำผมเลอะเทอะกลับมา”
ชายหนุ่มพูดเสียงแข็งอย่างไม่พอใจ
“แฮร่...เปาขอโทษนะคะพี่ต้น”
ปรารียังไม่เลิกฉีกยิ้มส่งไปหาอีกฝ่ายและรีบขอโทษเขาอีกครั้ง
“หึ่.!!..ซุ่มซ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือ”
สายตาพิฆาตของเขาในตอนนี้ทำให้ปรารีต้องหุบยิ้มลงและหันไปเกาะคนเป็นแม่ให้ช่วย
“น้องคงไม่ได้ตั้งใจน่ะ”
มลฤดีช่วยปรารีพูดอีกแรงหวังว่าลูกชายเธอจะหายโกรธเสียที
“...หื้มม....แล้วเธอมารับอุ้มท้องให้ผมแฟนเธอไม่ว่าอะไรหรือไงครับคุณแม่”
//ต้องหาทางให้เอเปลี่ยนใจ..ถ้าลึกฉันออกมาปัญญาอ่อนเหมือนยัยนี่..ไม่อยากจะคิดเลย//
ตฤนภพไม่รู้ว่าแม่เขาไปส่งเสียเลี้ยงดูเด็กปัญญาอ่อนอย่างนี้ได้อย่างไรช่างเป็นคนที่ไม่เรียบร้อยเอาเสียเลยเขาเคยได้ข่าวว่าส่วนมากคุณย่าของเขาจะเป็นคนอบรมเลี้ยงดูเธอแต่ไม่เห็นจะได้นิสัยคุณย่าของเขามาสักนิดคนแบบนี้เนี่ยเหรอจะมาเป็นคนอุ้มท้องลูกของเขาหากลูกของเขานิสัยเหมือนเธอเขาไม่รู้ว่ามันจะน่าปวดหัวแค่ไหน
“เปาไม่มีแฟนค่ะ...เปาอุ้มท้องได้”
//อย่าเบี่ยงประเด็นเสียให้ยากเลยพี่ต้น//
“เอ่อ...คือเรื่องนี้...ผมคงต้องรออีกสักสองอาทิตย์ครับแม่เพราะว่าผมยังไม่ว่างไปพบหมอ”
//ยัยบ้าเอ้ย..เมื่อไรจะเลิกพูดเลิกทำหน้าเหมือนซาลาเปาสักที//
ตฤนภพยิ่งมองหน้ายิงสาวเขายิ่งโมโหดูเธอจะเต็มใจเสียเหลือเกินในการอุ้มท้องครั้งนี้เนี่ย...ตฤนภพเงียบไปครู่หนึ่งจึงหาข้องอ้างว่าตอนนี้เขายังไม่พร้อมทำอะไรทั้งนั้นพราะว่างานยุ่งอันที่จริงงานของเขามันก็ไม่เท่าไรหรอกแต่ก็อยากจะหาข้ออ้างเพื่อยื้อเวลาไปก็เท่านั้น
“ยังไงก็ได้จะแต่ขอแค่มีหลานให้แม่ก็พอ”
//อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้ว่าเราจะหาข้ออ้างนะตาต้น//
“แล้วเธอตรวจสุขภาพแล้วหรือไง....การจะอุ้มบุญต้องแข็งแรงมากๆ”
//หึ่...ตัวเท่าลูกหมาคงจะไม่ค้อยแข็งแรงล่ะสิ//
ตฤนภพหันไปเล่นงานเรื่องสุขภาพของปรารีข้อนี้ก็สำคัญหากเป็นคนไม่แข็งแรงก็คงจะอุ้มท้องไม่ได้แน่นอน
“เปาแข็งแรงดีค่ะถ้าพี่ต้นอยากให้เปาไปตรวจสุขภาพเปาก็จะไปค่ะ”
//เห็นแบบนี้ไอ้เปาคนนี้ก็แข็งแรงนะเว้ยยย...อยากจะตะโกนออกไปแบบนี้จัง..แต่ก็กลัวเสียมารยาท..แฮร่ๆ//
ปรารีตอบอย่างฉะฉานว่าเธอแข็งแรงดีเธอดูแลสุขภาพของเธอดีเสมอมาอยู่แล้วหากไปตรวจเธอก็เชื่อว่าหมอจะบอกว่าเธอแข็งแรง
“แต่ระหว่างนี้น้องจะอยู่กับลูกนะ”
//เอาสิอยากจะยื้อเวลาใช่ไหมจับอยู่ด้วยกันซะเลย//
มลฤดีรีบตัดบทเรื่องนี้ทั้งปรารีและตฤณภพเองก็ไม่รู้ว่าแม่เขาจะตัดสินใจแบบนี้มาก่อน
“คะ?...คุณแม่”
//อ้าว..คุณแม่ไมทำงี้คะ//
ปรารีถึงกับหน้าเหวอเพราะแม่เธอไม่เห็นบอกเธอก่อนเลยเรื่องนี้
“อะไรนะครับ”
//ใครจะอยากไปอยู่ใกล้ยัยนี่กันนะ//
ตฤณภพไม่อยากจะเชื่อในเรื่องที่แม่ของเขาพูดหากเธอไปอยู่กับเขามีหวังได้ปวดหัวตาย
“ตามนั้นแหละจะ...เพราะเพนท์เฮ้าส์ลูกใกล้กับโรงพยาบาลเวลาปรึกษาหมอจะได้สะดวก”
“...เอ่อ...”
“เดี๋ยวเปารอกลับพร้อมพี่เค้านะ...แม่ต้องไปก่อนพรุ่งนี้แม่จะให้คนมารับแล้วไปหาคุณย่า”
ตฤณภพและปรารีไม่ได้มีเวลาปฏิเสธอะไรทั้งนั้นเพราะแม่ของพวกเขารีบเดินออกไปก่อนอย่างรวดเร็วและไม่ฟังคำทัดทานอะไรทั้งนั้นด้วย
“เอ่อ...คุณแม่คะ??...อือออ”
//ทำไมทิ้งกันง่ายๆแบบนี้ล่ะคะคุณแม่....เปาจะโดนคนแถวนี้กินหัวไหมคะเนี่ย//
หลังจากที่มลฤดีออกไปแล้วปรารีเองก็รู้สึกว้าเหว่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ในห้องอย่างทำอะไรไม่ถูก
“จะยืนอีกนานไหม”
ตฤณภพรู้สึกขัดหูขัดตาทุกการกระทำของหญิงสาวเขาเห็นเธอยืนอยู่พักหนึ่งแล้วจึงต้องสั่งให้เธอหาที่นั่งเพราะเขาจะทำงานต่อไม่อยากรู้สึกรำคาญตาเวลาใครมายืนเกะกะในห้อง
“คะ”
//จะตะคอกเพื่ออออ//
“นั่งสิ..”
“เอ่อ..ค่ะ”
//พูดดีๆไม่เป็นหรือไง//
“......”
//ต้องให้สั่งทุกอย่างเลยหรือไงยัยนี่...ฉันต้องหิ้วเธอกลับที่พักด้วยจริงๆใช่ไหม??..เฮ้อออ..คุณแม่นะคุณแม่”