ตอนที่5 ภาระที่เพิ่มขึ้น
“ห๊า....คนนี่...เลือดเต็มเลยยย...ตายหรือยังเนี่ยย”
หญิงสาวเดินไปแหวกพงหญ้าดูด้วยแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องมาแล้วทำให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เจ้าขาวตามให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะเธอมาดูคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวเองตอนนี้นั่งมองร่างชายหนุ่มที่นอนหงายใบหน้าและศรีษะมีแต่เลือดอยู่เธอไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจึงเอื้อมมือจับชีพจรของเขาดูอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ยังไม่ตายนี่...”
หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่เขายังมีชีวิตอยู่เธอจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวของเขาไปรักษาอย่างเร็วที่สุดเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนอะไรมาถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้
โรงพยาบาลXXX
“คุณเป็นญาติกับคนไข้หรือเปล่าคะ”
“เอ่อ...คือฉันเป็นคนเจอเค้านอนสลบอยู่ที่ริมแม่น้ำน่ะค่ะ...ฉันไม่รู้จักเค้า”
น้ำเมยตอบพยาบาลไปตามความจริงเพราะเธอพึ่งจะเจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่เมื่อเช้านี้เองแถมน่าตาท่าทางชายหนุ่มจะไม่ใช่คนแถวนี้อีกด้วยเพราะหน้าลูกออกลูกครึ่งเสียขนาดนั้นแถวที่เธออยู่คงไม่มี
“งั้นเป็นไรค่ะ..เรื่องประวัติของคนไข้เดี๋ยวทางเราให้ทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”
“ค่ะๆ”
พยาบาลเห็นว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะหาประวัติของคนไข้ได้และอีกอย่างชายหนุ่มที่บาดเจ็บมาก็ไม่รู้ว่าเหตุนั้นเกิดจากอะไรทางโรงพยาบาลจึงต้องประสานงานกับตำรวจสืบหาประวัติของชายหนุ่มและตามหาญาติของคนไข้ต่อไป
“เอ่อ...แล้วตอนนี้ผู้ชายคนนั้นเค้าเป็นยังไงบ้างคะ”
“ตอนนี้คนไข้อาการยังทรงๆอยู่ค่ะคุณหมอกำลังดูอาการอยู่ในห้องฉุกเฉินอีกสักครู่น่าจะพาเข้าไปที่ห้องเอ็กซเรย์เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ค่ะ..ยังไงถ้ายังหาญาติของเค้าไม่เจอเดี๋ยวฉันขอรับเป็นเจ้าของไข้เองนะคะ”
“ค่ะ..ยังไงถ้าหาญาติของคนไข้ไม่เจอจริงๆเดี๋ยวดิฉันจะจัดการให้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำเมยเองวันนี้เธอก็ต้องงดขายขนมไปอีกหนึ่งวันเพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการช่วยชายหนุ่มตอนนี้เธอเองก็ยังไม่ได้กลับไปที่บ้านเพราะยังอยากรอฟังอาการของชายหนุ่มจากปากของหมอ
หญิงสาวคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าชายหนุ่มไม่มีญาติที่ไหนเธอก็จะขอรับเป็นเจ้าของไข้ของเขาเองเพราะเธอรู้ว่าคนที่อยู่ตัวคนเดียวเวลาเจ็บป่วยอะไรมันมักหาที่พึ่งลำบากเหมือนกับเธอนั่นเองเธอรู้สึกสงสารชายหนุ่มจับใจเพราะไม่รู้ว่าชายหนุ่มบาดเจ็บขนาดนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรแต่เท่าที่เธอดูอาการของเขาตอนที่เจอแล้วมันเหมือนการถูกทำร้ายมากกว่าการเกิดอุบัติเหตุ
18.00 น.
“หมอคะตกลงผู้ชายคนนั้นเค้าเป็นยังไงบ้างคะ”
น้ำเมยที่รอชายฟังข่าวอาการของชายหนุ่มอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดตอนนี้เธอเริ่มใจไม่ดีสักเท่าไรตั้งแต่ตอนรู้ว่าชายหนุ่มต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนและตอนที่เธอคุยกับตำรวจตอนนี้ตำรวจเองก็ยังไม่สามารถที่จะสืบค้นประวัติหรือติดต่อญาติของเขาได้เธอเองเลยต้องรับเป็นเจ้าของไข้อย่างที่ตั้งใจไว้
“หมอทำการผ่าตัดและทำแผลให้คนไข้เรียบร้อยแล้วนะครับตอนนี้ก็เหลือแค่ดูอาการของคนไข้ต่อไปแล้วก็รอคนไข้ฟื้นหลังจากนั้นหมอคงต้องเชคอีกทีครับว่าผลกระทบที่เกิดจากที่คนไข้ได้รับบาดเจ็บมามันจะมีผลอะไรอีกบ้างตอนนี้หมอเองไม่รับปากนะครับว่าเมื่อคนไข้ฟื้นขึ้นมาแล้วสมองของคนไข้จะเหมือนเดิมหรือเปล่าเพราะมันได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก”
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
หลังจากที่น้ำเมยคุยกับหมอเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงขออนุญาตหมอเข้าไปเยี่ยมชายหนุ่มก่อนกลับ
“เฮ้อ...โชคดีนะที่คุณยังรอดมาได้...”
น้ำเมยเปลี่ยนชุดฆ่าเชื้อเข้าเยี่ยมชายหนุ่มตอนนี้เธอเห็นหน้าของเขาชัดเจนขึ้นถึงแม้ว่ามันยังมีรอยแผลรอยช้ำอยู่บ้างก็ยังไม่สามารถบดบังใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาได้หญิงสาวยืนมองชายหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้มมีผ้าพันแผลอยู่ที่หัวอยู่ครูหนึ่งเธอโล่งใจที่ชายหนุ่มปลอดภัยแล้วในใจก็ภาวนาว่าให้ชายหนุ่มฟื้นขึ้นมาไวๆเพราะว่าเธอจะได้ถามที่ไปที่มาของเขาเสียที
“ฉันกลับก่อนนะคุณเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาเยี่ยมใหม่”
น้ำเมยเข้าเยี่ยมชายหนุ่มได้ครู่หนึ่งเมื่อได้เห็นว่าชายหนุ่มได้รับการรักษาที่ดีแล้วเธอก็โล่งใจและตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องกลับได้แล้วเพราะวันนี้เธอยุ่งมาทั้งวันหญิงสาวต้องรีบกลับไปทำขนมไว้เพื่อขายในวันพรุ่งนี้เพราะเธอรู้ว่าตอนนี้เธอยังต้องมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะไหนจะต้องมีเงินไว้สำรองระหว่างที่รักษาชายหนุ่มไหนจะต้องหาเงินเพื่อจ่ายดอกเบี้ยของเจ้าหนี้ที่ยายของเธอเอาบ้านไปจำนองเพื่อเอาเงินมาลงทุนตอนที่ยายเธอยังอยู่อีก
เช้าวันต่อมา
05.00 น.
“วันนี้ลงขนมน้อยจังเลยน้ำเมย”
ป้าบัวหญิงชราข้างบ้านของหญิงสาวที่จะมาตั้งแผงขายข้าวแกงข้างร้านขนมของเธอทุกวันวันนี้เห็นหญิงสาวลงขนมขายน้อยกว่าทุกวันอีกทั้งเมื่อวานยังไม่ได้มาขายอีกจึงถามไถ่กันตามประสาคนที่ค้าขายด้วยกัน
“พอดีเมื่อวานยุ่งๆเลยทำได้น้อยค่ะป้าบัว”
น้ำเมยตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้หญิงชราเช่นเคยแต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมากมายว่ายุ่งเพราะอะไรเพราะเธอไม่ได้มีเหตุผลที่จะต้องบอกกับคนอื่น
วันนี้น้ำเมยขายของหมดเร็วกว่าทุกวันที่เคยขายเพราะว่าวันนี้มีขนมแค่ไม่กี่อย่างและอย่างละไม่มากเมื่อหญิงสาวเก็บร้านเรียบร้อยแล้วเธอจึงกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะเข้าไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมชายหนุ่มที่เธอช่วยไว้เมื่อวาน
09.00 น.
ตอนนี้ชายหนุ่มถูกย้ายออกมาที่ห้องพักฟื้นเรียบร้อยแล้วเพราะอาการของเขาเริ่มดีขึ้นแล้ว
“วันนี้ยังโอเคกว่าเมื่อวานหน่อยนะคุณ..”
น้ำเมยเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มที่ตอนนี้ก็ยังนอนหลับอยู่เธอมองหน้าของเขาพร้อมอมยิ้มและกล่าวทักทายคนที่นอนนิ่งอยู่เพราะเธอเห็นว่าสีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าเมื่อวานอย่างมาก
น้ำเมยอยู่ดูชายหนุ่มอยู่ได้พักใหญ่ก็ได้เวลาทีเธอจะต้องกลับแล้วเพราะเธอยังมีธุระที่ต้องทำไหนจะต้องรีบไปซื้อของมาทำขนมขายและยังต้องลงมือทำขนมคนเดียวและยังมีงานบ้านที่ต้องจัดแจงอีกมากมายที่ยังค้างคาอยู่เธอจึงต้องรีบกลับ
3วันต่อมา
หลังจากน้ำเมยขายขนมตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็จะอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปเยี่ยมชายหนุ่มอยู่ทุกวันแล้วค่อยกลับมาจัดการงานของเธอต่อเธอทำแบบนี้มาสี่วันติดแล้ว