ตอนที่4
“ห๊า…..”
หญิงสาวตะลึงจนอ้าปากหวอไม่คิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอและเขามาพบกันอีกแถมยังต้องมาอยู่บ้านเดียวกันอีกเนี่ยนะมีหวังเธอประสาทกินตายแล้วเรื่องเมื่อกี้ที่เธอพูดไปล่ะก็โป้ะแตกน่ะสิหญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบรู้สึกหน้าแตกจนไปไม่เป็นเมื่อโดนชายหนุ่มแซวเรื่องที่เธอบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้าน
“อะ…เอ่อ..แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าฉันก็คิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิตน่ะสิ….งั้นชะ..ไปแล่วววว”
หญิงสาวยกมือเกาหัวแกลกๆแก้เขินและรีบตีเนียนจะเดินออกจากห้องของชายหนุ่มแต่ก็ไม่ทันเพราะมือของชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอไว้ซะอยู่เลย
“อะไรอีกเล่า”
หญิงสาวชะงักหันมาถามชายหนุ่มแบบไม่กล้าสบตาเพราะเธอรู้ว่าเธอผิดแถมด่าเขาไว้เยอะด้วยทั้งบ้าทั้งโรคจิต
“คุณเจอกับผมทีไรนี่ผมต้องเป็นคนที่ทั้งบ้าและโรคจิตตลอดเลยนะ…นี่จะไปทั้งที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักคำเลยเนี่ยนะ”
ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆแกมประชดหญิงสาวยิ่งเห็นสีหน้าเธอรู้สึกผิดเขายิ่งคิดว่ายิ่งน่าแกล้ง
“งั้นฉันขอโทษก็ได้….จะปล่อยได้หรือยังฉันหิวจะแย่แล้ว”
หญิงสาวพูดเสียงแผ่วทั้งยังแอบเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มอีกแต่ก็มองได้แวบเดียวเธอเองก็ต้องก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้สายตาของเธอมองเห็นแผงอกของเขาอีก
“ยัง…พูดกับผมทำไมไม่มองหน้าล่ะคุณ…เมื่อกี้ยังบอกว่าผมเป็นแฟนอยู่เลยจู่ๆไม่กล้ามองแฟนซะงั้น”
ชายหนุ่มยังคงใช้คำพูดแกล้งแกมประชดหญิงสาวก็เพราะปากเขาเป็นแบบนี้ไงจึงได้รับฉายาว่าปากปีจอ
“แฟนเฟินอะไรเล่า…ฉันก็แค่พูดเพื่อปกป้องตัวเองไปงั้น..จะปล่อยได้หรือยังก็บอกว่าหิว…ได้ยินมั้ยว่าหิวอ่ะ”
หญิงสาวเริ่มอารมณ์เสียเพราะชายหนุ่มยังแกล้งพูดใส่เธอไม่เลิกบวกกับความหิวความโมโหมันก็เลยเพิ่มเป็นทวีคูณ
“อืมมม…ผมไม่แกล้งคุณละผมก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน…เอาเป็นว่าอาหารจานที่คุณจะกินเมื่อกี้ผมเป็นคนทำให้คุณแล้วก็เพื่อนของคุณเค้ากินเรียบร้อยแล้วแล้วก็ฝากผมบอกคุณว่าจะไปเดินเที่ยวชมวิวแถวนี้สักพักอีกเดี๋ยวคงกลับ”
ชายหนุ่มปล่อยแขนหญิงสาวพร้อมบอกเรื่องอาหารที่เขาทำไว้ให้และเรื่องที่พาฝันฝากบอกกับหญิงสาวแล้วเขาเองจึงเดินลอยหน้าลอยตาเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สนใจคนที่ยืนอึ้งอยู่ในห้องของเขา
“ทำอาหารเป็นด้วยหรอ”
หญิงสาวเดินลงมาจากในห้องของชายหนุ่มอย่างงงๆไม่คิดว่าอาหารที่หน้าตาเหมือนสั่งมาจากภัตตาคารจะเป็นฝีมือของชายหนุ่มแต่ยังไงตอนนี้เธอก็คงต้องพึ่งอาหารฝีมือของเขาไปก่อนแล้วแหละก่อนที่ท้องของเธอจะร้องหนักไปกว่านี้
ทางด้านพาฝันเมื่อหญิงสาวเดินเตร็ดเตร่ชมวิวมาเรื่อยๆจนตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆแล้วเธอก็ยังเพลิดเพลินตื่นเต้นกับการชมวิวสวยๆอยู่เลยตอนนี้เธอรู้สึกปวดเท้านิดหน่อยเป็นเพราะรองเท้าที่เธอใส่เป็นส้นสูงบวกกับผืนดินที่ไม่สม่ำเสมอทำให้เธอเดินลำบากขึ้นไปอีกหญิงสาวคิดในใจว่าเป็นความไม่รอบคอบของเธอแท้ๆที่ไม่ได้หยิบรองเท้าแตะหรือผ้าใบมาด้วยเพราะปกติเธอชินแต่กับการใส่ส้นสูงแถมเสื้อผ้าที่เธอเอามาใส่ก็ดูว่าจะไม่เข้ากับป่ากับเขาเลยสักนิดเหมือนวันนี้ที่เธอเลือกชุดเดรสรัดรูปสีแดงมาใส่มันทำให้เธอเดินเหินบนทางที่ชันลำบากเหลือเกินแต่เพราะความอยากที่จะเดินเที่ยวอุปสรรคแค่ไหนก็ขัดขวางเธอไม่ได้อยู่ดี
“ว้าวสวยจังเลย”
หญิงสาวเดินลัดเนินเขามานิดหน่อยก็เห็นเป็นทุ่งนาและพืชผักน่าจะเป็นสวนผสมที่ดูน่าจะเป็นการทำเกษตรพอเพียงที่จัดพื้นที่ได้อย่างลงตัวที่สุดที่นี่ที่เธอเห็นถึงจะเป็นพื้นที่น้อยๆแต่มันก็ดูเหมือนคนละโลกกับชีวิตที่เธอเคยอยู่ยิ่งมองไปยิ่งเห็นฝูงควายที่มันกำลังเล็มหญิงอยู่ละชาวนาที่กำลังปักดำมันช่างเป็นภาพที่เธอประทับใจยิ่งนักติดตรงมือถือเธอแบตหมดนี่แหละไม่อย่างนั้นเธอคงจะต้องหยิบขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้แล้ว
“พ่อเลี้ยงครับนั่นผู้หญิงชุดแดงที่ไหนมาครับน่ะ”
อัคคีหันไปมองตามเสียงที่ลุงสมหมายบอกเขามองออกไปก็เห็นผู้หญิงสาวร่างเล็กที่ใส่ชุดแดงยืนชื่นชมบรรยากาศอยู่เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงยืนส่ายหัวก็เธอช่างแต่งตัวไม่ได้เข้ากับสถานที่เอาเสียเลยว่าแต่เธอมาจากไหนกันนะเพราะที่นี่น้อยคนนักที่จะเข้ามาที่นี่ได้ถ้าไม่ใช่คนงานในไร่
“ผมว่าต้องรีบไปบอกเธอให้ออกไปจากตรงนั้นก่อนนะครับผมกล้วว่าควายจะตื่น”
สมหมายทำหน้ากังวลเมื่อเริ่มเห็นควายของเขาที่เล็มหญ้าอยู่ที่ผืนดินอีกแปลงเริ่มที่จะหันมองเธอเป็นตาเดียวกันแล้ว
“นั่นไงครับพ่อเลี้ยงผมว่าแล้วววววววว”
สมหมายร้องลั่นเป็นอย่างที่เขาคิดไม่ผิดเพราะเจ้าควายสามตัวที่เขาเลี้ยงไว้เร่มที่จะกรูกันเข้าไปหาหญิงสาวใส่ชุดแดงแล้ว
“หือออ….อะไรอ่า....ทำไมน้องควายวิ่งมาทางนี้ล่ะ.......ไม่นะอร๊ายย”
หลังจากที่หญิงสาวยืนชื่นชมบรรยากาศอยู่ดีๆจู่ๆพวกควายที่ยืนเล็มหญ้าอยู่เมื่อครู่กลับพากันวิ่งดิ่งตรงมาทางเธอทำเอาเธอต้องรีบวิ่งหนีเจ้าละหวั่นทั้งชุดละรองเท้าเธอช่างเป็นอุปสรรคต่อการวิ่งยิ่งนักเธอสัญญาว่าตรบใดที่ต้องอยู่ทีนี่จะไม่ใส่ไอ้ชุดบ้าๆกับรองเท้าส้นสูงนี้อีกแล้ว
“ลุงสมหมายไปไล่ต้อนฝูงควายนะครับเด่ยวผมจะรีบไปช่วยเธอ”
อัคคีรีบตะโกนบอกลุงสมหมายที่ตอนนี้กำลังรีบวิ่งตามควายอยู่ส่วนเขาเองก็วิ่งตามหญิงสาวเช่นกันเขาเองนึกโมโหหญิงสาวชุดแดงชะมัดเพราะทำให้พวกเขาวุ่นวายกันไปหมด
“ว้ายช่วยด้วยยยยยย.....โอ้ยยยย”
พาฝันหลับหูหลับตาวิ่งเธอคงลืมไปว่าไอ้ที่เธอวิ่งอยู่น่ะมันบนคันนาที่พวกชาวนากำลังปักดำกันอยู่ทำให้เธอพลาดก้าวลื่นไถลลงไปนอนอยู่ในผืนนาเรียบร้อย
“ว้ายยน้องควายยอย่ามาขวิดพี่นะพี่กลัวแล้ววว”
“นี่คุณผมเป็นคนไม่ใช่ควาย....ลืมตามองสิ”
ชายหนุ่มเริ่มฉุนอีกครั้งเขาอุตสาห์มาช่วยเธอแท้ๆกลับมาว่าเขาเป็นควายไอ้ควายมันไปหมดแล้วเพราะลุงสมหมายวิ่งมาต้อนไว้ทันก่อนที่มันจะเข้ามาถึงตัวเธอ