ตอนที่4 ยืมเงิน
หลังจากวันนั้น 1 อาทิตย์
เอิงเอยใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโดของชายหนุ่มเหมือนเช่นเคยแต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าชายหนุ่มจะมาอยู่ที่นี่กับเธอตามที่เขาพูดในวันนั้นซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสบายใจมาเป็นอาทิตย์หญิงสาวคิดว่าวันนั้นเขาคงจะแค่แกล้งขู่เธอเล่นๆเท่านั้นคนอย่างเขาไม่ชอบหน้าเธอขนาดนั้นคงจะไม่อยากมาอยู่กับเธอสักเท่าไร
Rrrrrrrr
17.00 น.
“ค่ะคุณแม่”
เอิงเอยทำกับข้าวอยู่ในครัวได้สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าเป็นเบอของใครโชว์ขึ้นมาเธอเองไม่ได้อยากจะรับเลยสักนิดแต่คิดไปคิดมาโดยนิสัยของแม่เลี้ยงเธอแล้วถ้าเธอยังดึงดันที่จะไม่รับอยู่แบบนั้นแม่เลี้ยงใจยักษ์ของเธอคงโทรจิกเธอไม่หยุดเป็นแน่
“เอยต้องช่วยแม่ด้วยนะลูกตอนนี้เจ้าหนี้มันจะเอาชีวิตแม่ถ้าแม่ไม่เอาเงินไปให้มันสามแสนภายในคืนนี้...ฮือๆๆๆ”
“อะไรนะคะ”
เมื่อเอิงเอยได้ยินที่แม่เลี้ยงเธอเอ่ยขึ้นมาเมื่อเธอกดรับสายเธอถึงกับใช้มือกุมขมับทันทีเธอรู้ได้โดยทันทีว่าน้ำเสียงที่แม่เลี้ยงของเธอพูดดีด้วยแบบนี้จะต้องมีเรื่องให้เธอช่วยแน่นอนซึ่งมันก็เป็นแบบที่เธอคิดจริงๆ
“แล้วเงินสินสอดของเอยหมดแล้วเหรอคะคุณแม่”
หญิงสาวถามถึงเงินสินสอดของเธอที่แม่เลี้ยงของเธอได้ไปทั้งหมดหลังจากหักลบกลบหนี้บ้านของเธอแล้วก็น่าจะเหลือหลายล้านอยู่แต่ภายในระยะไม่กี่เดือนแม่ของเธอเอาไปทำอะไรหมดเธอคิดในใจแล้วจึงจึงถามขึ้น
“คือ...คือ...เอ่อเงินที่ได้มาแม่เองก็ใช้จ่ายในบ้านน่ะหละลูกหาหมอบ้างพี่สาวเราก็ขอเงินเอาไปทำทุนบ้างก็เลยหมดนะลูกเอยต้องช่วยแม่นะสามีเอยเค้าก็รวยไม่ใช่เหรอขอเค้าสักสามแสนให้แม่เค้าคงจะไม่ว่าอะไรหรอกมั้งถือว่าช่วยแม่นะเอย...ฮือๆๆแม่ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครแล้ว...ฮือๆๆๆๆ”
“เอ่อ...คือออ...เอยจะลองถามพี่หมอให้นะคะคุณแม่แล้วยังไงเดี๋ยวเอยโทรกลับนะคะ”
“ขอบใจมากลูก...ครั้งนี้แม่จะรบกวนเอยเป็นครั้งสุดท้าย..”
เมื่อวางสายได้หญิงสาวถึงกับหมดอารมณ์ที่จะทำอาหารของเธอต่อตอนนี้เธอเองก็ไม่ได้เจอสามีของเธอเป็นอาทิตย์แล้วขนาดโทรคุยกันยังไม่เคยเลยแล้วเธอจะแบกหน้าที่ไหนไปขอยืมเงินเขาล่ะเนี่ยแต่เมื่อนึกถึงน้ำเสียงที่โทรมาอ้อนวอนขอร้องเธอแล้วเธอเองก็อดที่จะช่วยเหลือแม่เลี้ยงของเธอไม่ได้อย่างน้อยตอนที่พ่อของเธอยังอยู่แม่เลี้ยงของเธอก็ยังเลี้ยงดูเธอดีอยู่เหมือนกัน
18.00 น.
หลังจากที่อัคนีออกจากการเป็นหมอประจำที่คลินิกเขาเองก็ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจเต็มตัวเพราะต้องรับช่วงต่อจากแอนเดรียสพ่อของเขาแต่ทุกคนก็ยังเรียกชายหนุ่มว่าหมอติดปากกันอยู่โดยเฉพาะเอิงเอยเองหญิงสาวก็ยังเรียกเขาว่าพี่หมอแทนการเรียกชื่อของเขา
แอนเดรียสเองต้องการวางมือจากงานทั้งหมดและก็เห็นว่าลูกชายของตนเองนั้นมีครอบครัวเรียบร้อยแล้วเขาจึงไม่ได้ห่วงอะไรตอนนี้เขาเองก็ใช้ชีวิตวัยเกษียณท่องเที่ยวและเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกชายของเขาบ้างก็เท่านั้นเอง
Rrrrr
“มีอะไรเหรอคุณ”
อัคนีมองเบอมือถือที่โทรเข้ามาหาเขาเองอยู่ครู่หนึ่งในใจคิดว่าเจ้าของเบออาจจะกดผิดหรือเปล่าเพราะปกติน้อยครั้งมากที่เอิงเอยจะโทรเขา
“เอ่อ...พี่หมอคะคือเอยอยากจะขอยืมเงินสักสามแสนค่ะ...พอดีว่าเอยมีธุระต้องรีบใช้ค่ะ”
“โอเค..เดี๋ยวผมโอนให้”
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากสุดท้ายโทรหาเขาก็เพราะว่าเธอต้องการเงินแค่นั้นเองแล้วเงินที่ได้ไปเป็นค่าสินสอดเธอเอาไปทำอะไรหมดเขาได้แค่คิดในใจแต่ก็ไม่ได้ถามออกไปเงินแค่สามแสนตอนนี้เขาให้เธอได้แบบสบายๆอยู่แล้วอันที่จริงเขาให้เธอได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่เธอไม่เคยเอ่ยปากขอเขานั้นเอง
“อีกไม่นานเดี๋ยวเอยจะหามาใช้คืนพี่หมอนะคะ...ขอบคุณมากค่ะพี่หมอ”
หลังจากที่หญิงสาววางสายไปเขาก็จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอทันทีโยไม่ได้ใส่ใจว่าหญิงสาวจะเอาไปทำอะไรเขาเองก็ไม่ใช่คนที่ใจดำขนาดจะไม่ดูดำดูดีคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาแม้จะไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของคนที่บ้านเธอก็เถอะ
“เฮ้อ...อย่างน้อยเค้าก็ไม่ใจดำกับเรานะ”
เมื่อวางสายจากชายหนุ่มได้เอิงเอยถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่คราแรกคิดว่าเขาจะไม่ช่วยเธอแล้วซะอีกเพราะตั้งแต่ที่ทะเลาะกันวันนั้นเธอเองก็พึ่งจะมีโอกาสคุยกับเขานี่แหละเธอเองก็นึกละอายใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆโทรไปยืมเงินของเขาดื้อๆแบบนั้นแต่จะทำยังไงได้เพราะตอนนี้เธอเองก็ไม่ได้มีทางเลือก
เมื่อวางสายจากชายหนุ่มคนเป็นสามีเธอก็โทรหาอมราแม่เลี้ยงของเธอทันทีว่าเธอเองได้เงินที่จะใช้หนี้ให้เลี้ยงเธอแล้ว
แต่อมรากลับใช้ให้หญิงสาวเข้าไปที่บ่อนการพนันแล้วเอาเงินนั้นไปให้เจ้าหนี้ของเธอเองแทนที่จะเป็นตัวเธอเองเข้าไปจ่ายเงินโดยให้เหตุผลกับหญิงสาวว่าเธอกลัวเจ้าหนี้พวกนั้นไปแล้วเธอรู้ว่ายังไงเอิงเอยก็ต้องยอมช่วยเธออยู่แล้วซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ