ตอนที่3
เช้าวันต่อมา
“ตื่นเร็วแกฉันหิวไปหารัยกินกัน”
พาฝันรีบตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเพราะตอนนี้เธอเริ่มหิวมากซึ่งเป็นผลจากการที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่มื้อเที่ยงเมื่อวานเมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องของเพลงพิณอย่างรวดเร็วเพราะประตูด้านในห้องมันสามารถทะลุถึงกันได้
“อื้มมมมม….ขอนอนอีกนิดนะแกอากาศกำลังดีเลยแกหิวก็ไปหาอะไรกินก่อนเลยเผื่อฉันด้วย”
เพลงพิณตอบเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการงัวเงียวันนี้อากาศดีเธอจึงอยากจะนอนต่ออีกสักพัก
“โถ่…ยัยขี้เซาเอ้ยฉันไปคนเดียวก็ได้”
พาฝันถึงกับบ่นอุกในความขี้เซาของเพื่อนเธอในเมื่อไม่ยอมตื่นเธอไปหาอะไรทานคนเดียวก็ได้
11.00 น.
“ไปไหนของเธอกันนะยัยฝันโทรก็ไม่ติด”
เพลงพิณตื่นขึ้นมาในช่วงสายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเช้าพอดีเธอจำได้ว่าเมื่อเช้าพาฝันชวนเธอไปหาอะไรทานแล้วพอเธอไม่ตื่นเพื่อนของเธอก็จำใจจะต้องไปคนเดียวเธอจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวในห้องเพราะคิดว่าน่าจะกลับมาแล้วแต่กลับไม่มี
“หูยยยยสเต็คหมูของโปรดฉัน…”
เมื่อเพลงพิณหาพาฝันในห้องไม่เจอเธอจึงเดินลงมาหาที่ด้านล่างคิดว่าเพื่อนเธออาจจะนั่งเล่นอยู่ที่ข้างล่างก็ได้แต่เมื่อลงมาเธอไม่เห็นเพื่อนสาวของเธอกลับเห็นแต่จานสเต็คที่น่าจะพึ่งทำเสร็จมาหมาดๆวางอยู่ที่โต้ะพร้อมฝาครอบอาหารครอบอยู่หญิงสาวจึงต้องกลืนน้ำลายในทันทีคิดว่าเพื่อนของเธอก็เก่งเหมือนกันนะที่ในป่าในเขาแบบนี้กลับหาร้านสเต็คแล้วซื้อมาฝากเธอได้
“แล้วเจ้าตัวไปไหนล่ะเนี่ยยย…อุตส่าห์จะขอบคุณซะหน่อย”
เพลงพิณมองซ้ายมองขวาหาเพื่อนสาวของเธอแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาเธอจึงแสร้งพูดดังๆขึ้นมาเผื่อเจ้าตัวจะได้ยินพร้อมเปิดฝาครอบอาหารแล้วนั่งที่เก้าอี้เตรียมหั่นสเต็คชิ้นโตทานทันที
“มาแอบกินอาหารคนอื่นโดยที่ไม่ขออนุญาตแบบนี้เค้าเรียกว่าขโมยหรือป่าวคุณ”
ดินแดนเองเจอพาฝันตั้งแต่เมื่อเช้าที่เธอลงมาแล้วพอได้พูดคุยกันจึงรู้ว่าใครเป็นใครและคนที่นอนขี้เซาอยู่ข้างบนเป็นใครด้วยพร้อมคำรับสารภาพว่าทั้งคู่ทำอาหารไม่เป็นเขาเองที่พึ่งลงจากดอยมาก็ต้องโชว์ฝีมือการทำอาหารให้พาฝันทานเมื่อหญิงสาวทานเรียบร้อยแล้วก็บอกเขาอีกว่าให้ทำสเต็คหมูของโปรดของเพื่อนสาวเธอที่นอนอยู่ข้างบนหนึ่งที่เพราะคาดว่าเมื่อเพื่อนของเธอตื่นขึ้นมาคงจะหิวใส้กริ่วเป็นแน่
พาฝันเองเมื่อเห็นว่าข้างนอกอากาศดีเธอเลยขอไปเดินเล่นข้างนอกแล้วพร้อมถามเขาว่าที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยๆตรงไหนบ้างเขาเลยบอกว่าถ้าเดินออกไปทางหลังบ้านจะมีไร่มีรักที่มีพืชพันธ์หลากหลายอยู่ตรงนั้นก็พอจะเป็นที่ที่จะทำให้หญิงสาวได้เจริญหูเจริญตาได้บ้าง
“อร้าย…..อีตาบ้าเข้ามาได้ยังไงเนี่ยไอ้โรคจิตออกไปจากบ้านนี้เลยนะ”
เพลงพิณหันไปตามเสียงภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องส่งเสียงกรี๊ดโวยวายพร้อมเอามือปิดหน้าทันทีเธอพอจะจำได้ว่าคนที่เดินลงมาเป็นใครแต่เขามาทำอะไรที่นี่ล่ะแถมยังพันแค่ผ้าขนหนูที่ช่วงล่างเดินอยู่ในบ้านนี้อยู่อีก
“หึ….คุณเป็นเจ้าของบ้านหรอถึงมาไล่ผม”
ชายหนุ่มจงใจเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่ใช้มือปิดหน้าอยู่เขาตลกภาพตรงหน้าตอนนี้เหลือเกินไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนากะอีแค่ผู้ชายถอดเสื้อเนี่ย
“ทำไมฉันจะไล่ไม่ได้ก็ฉัน…ฉัน..เป็น..เป็นแฟนเจ้าของบ้านนี่ถ้าเค้ารู้ว่าคุณมาบุกรุกในบ้านเค้าแล้วมาทำอนาจารแบบนี้เค้าไม่ปล่อยคุณไว้แน่”
หญิงสาวลืมไปเสียสนิทว่าที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเธอเลยใช้มุขเป็นแฟนเจ้าของบ้านทนละกันอย่างน้อยก็น่าจะทำให้ผู้ชายที่ยืนเป็นชีเปลือยอยู่ตรงหน้าสลดได้บ้าง
“เป็นแฟนเจ้าของบ้าน….อ๋ออ..อย่างนั้นแฟนคุณเค้าอยู่ไหนล่ะผมไม่ยักจะเห็น”
ชายหนุ่มตะลึงเล็กน้อยที่จู่ๆหญิงสาวมาบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้านเธอเองโกหกไม่เนียนเลยสักนิดก็เจ้าของบ้านยืนโทนโท่อยู่เธอยังไม่รู้จักเลยแถมยังออกปากไล่เขาอีกเขาจึงขอลองแกล้งเล่นตามเกมส์เธอหน่อยแล้วกัน
“นี่คุณ…คุ้นนนจะขึ้นไปไหนลงมาเดี๋ยวนี้นะ”
หลังจากที่หญิงสาวอ้ำอึ้งเรื่องแฟนอยู่นานในเมื่อเธอให้คำตอบเรื่องแฟนของเธอไม่ได้ชายหนุ่มจงใจเดินขึ้นห้องของตัวเองและทำเป็นไม่สนใจหญิงสาวทำเอาเธอต้องวิ่งตามเข้ามาในห้องของเขา
“นี่คุณขึ้นมาบนนี้ได้ยังไง…”
หญิงสาวรีบวิ่งมาดึงแขนชายหนุ่มเพราะคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันดูล้ำเส้นและไร้มารยาทเกินไปในเมื่อบ้านตัวเองก็ไม่ใช่ยังจะมาทำอะไรตามอำเภอใจที่นี่อีก
“ทำไมผมจะขึ้นมาไม่ได้ก็ผมจะอาบน้ำ…และ…ผม เป็น เจ้า ของ บ้าน คนที่คุณบอกว่าเป็นแฟนเมื่อกี้”
อันที่จริงชายหนุ่มตั้งใจจะอาบน้ำตั้งนานแล้วแต่ลืมไปว่าตนเองลืมมือถืออยู่ด้านล่างเลยจะลงไปหยิบด้วยความเคยชินที่อยู่คนเดียวและไม่คิดว่าหญิงสาวจะนั่งอยู่ด้านล่างเขาจึงพันผ้าขนหนูผืนเดียวลงมาเมื่อเห็นอาการของหญิงสาวเขาจึงขอแกล้งเธอสักนิดแต่ตอนนี้เขาคิดว่ามันหมดเวลาที่เขาจะล้อเล่นกับเธอแล้วเพราะเขาเหนื่อยอยากพักผ่อนจึงบอกความจริงกับเธอว่าเขาเป็นเจ้าของบ้าน