ตอนที่2
บ้านxxx
"หมอไปไหนมาแต่เช้าครับ"
ชาวีนั่งจิบกาแฟตอนเช้าอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านเห็นว่าหมอแดนเทพพึ่งจะกลับเข้ามาจึงต้องถามว่าเขาไปไหนมาแต่เช้า
"เข้าไปเอายามาน่ะครับ"
แดนเทพวางกระเป๋ายาลงต่อหนุ่มชายหนุ่มทั้งนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยสีหน้าปกติ
"พรุ่งนี้ผมต้องไปทำงานแล้วไม่รู้ว่าไอ้อาการปวดหัวบ้าๆนี่มันจะกำเริบมาตอนไหนหมอไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายจริงๆเหรอ"
ชาวีบอกกับแดนเทพด้วยสีหน้าค่อนข้างเป็นกังวลเขาอยากจะรู้นักว่าไอ้โรคที่เขาเป็นอยู่มันคืออะไรกันแน่ไม่มีทางรักษาหายเลยจริงหรือ
"คือ...เรื่องนี้คงจะยากครับคงต้องใช้วิธีฉีดยาระงับแบบนี้ไปก่อนถ้าผมหาวิธีได้จะบอกก็แล้วกันนะครับ"
"อืม.."
แดนเทพตอบชายหนุ่มได้เพียงเท่านี้จริงๆ
ชาวีหนุ่มหล่อร่างสูงบึกบึนใบหน้าคมเข้มนัยตากลมโตหวานปานผู้หญิงเป็นลักษณะที่ผู้ชายน้อยคนจะมีแต่นั่นมันก็เป็นจุดเด่นของเขาชายหนุ่มเป็นลูกบุญธรรมของนักธุรกิจใหญ่ที่ส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศ
เขารู้สึกสงสัยทุกครั้งว่าทำไมเขาถึงยังจำเรื่องในอดีตไม่ได้เสียทีจำได้เพียงแค่เขาตื่นมาในโรงพยาบาลเมื่อประมาณสามปีก่อนแล้วก็มีหมอแดนเทพคอยรักษาและชนะพลที่บอกว่าเป็นพ่อบุญธรรมของเขาส่งเสียให้เขาได้เรียนตั้งแต่ยังเล็กแถมยังพาไปเรียนการบริหารจัดการเพิ่มเติมอีกสองปีเต็มๆและให้เขาเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ในตอนนี้ทั้งที่เขาก็ยังชอบมีอาการปวดหัวแปลกๆแบบนี้เป็นระยะๆพักหลังมานี้ยิ่งเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
บ้านxxx
14.00 น.
"คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ"
วาดจันทร์หญิงวัยกลางคนอายุเกือบ60แม่นมของเฌอริตาเห็นหญิงสาวกลับมาก็รีบเดินมาต้อนรับที่หน้าบ้านทั้งยังถามถึงเรื่องที่เธอไปสมัครงานว่าเรียบร้อยดีหรือไม่
"อืมม.."
หญิงสาวก้มหน้างุดด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
เฌอริตาหญิงสาวตัวเล็กสูงเพียง155เซนติเมตรแต่หุ่นของเธอก็เป็นทรงนาฬิกาทรายมีอกเอวตามที่ผู้หญิงควรจะมีหน้าตาจิ้มลิ้มคิ้วหนาตาเฉี่ยวมีลักยิ้มสองข้างของแก้มริมฝีปากบางแต่อวบอิ่มผิวขาวอมชมพูผมยาวสลวยดกดำทำให้ใบหน้าของเธอดูหวานโดดเด่นอย่างมาก
หญิงสาวเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอายุ29ปีเธอพึ่งจะกลับมาจากออสเตรเลียเมื่อไม่นานมานี้เพราะอยากกลับมาทำธุระสำคัญอะไรบางอย่าง
"ไม่ได้งานเหรอคะ"
วาดจันทร์เห็นสีหน้าคุณหนูของเธอก็เริ่มใจไม่ดี
"ไม่ใช่ค่ะ... ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีค่ะนม"
เฌอริตาแอบอมยิ้มกับอาการของวาดจันทร์
"คุณหนูทำนมตกอกตกใจหมด"
“ฮ่าๆๆ..”
"วันนี้คุณลินกับคุณปลายมาหาด้วยค่ะพวกเค้าไม่ได้บอกคุณหนูเหรอคะ"
วาดจันทร์เห็นว่าเพื่อนของคุณหนูของเธอมาเก้อจึงรีบอกให้ทราบ
"เหรอคะ...น่าจะเซอร์ไพรซ์มั้งคะเห็นไหมล่ะยัยเพื่อนพวกนี้มาก็ไม่บอกก่อน...แล้วมานานไหมคะ"
เฌอริตาขมวดคิ้วเล็กน้อยวิถีของเพื่อนเธอก็ชอบทำอะไรไม่บอกไม่กล่าวตลอด
"เล่นกับคุณหนูเล็กพักใหญ่แล้วก็กลับไปน่ะค่ะ"
"งั้นเหรอคะ...ไม่เป็นไรเดี๋ยววันหลังริตานัดกับพวกเธออีกทีก็ได้"
เฌอริตาเห็นทีจะต้องนัดเพื่อนๆเธอใหม่เสียแล้วหากจะมาไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้คงไม่เจอกันอีกแน่
"คุณหนูมาเหนื่อยๆทานน้ำก่อนค่ะ"
วาดจันทร์เห็นว่าคุณหนูของเธอพึ่งจะขับรถกลับมาอากาศตอนนี้ก็ค่อนข้างร้อนจึงรีบเอาน้ำเย็นๆมาให้หญิงสาวดื่ม
"ขอบคุณค่ะนม"
19.00 น.
"ฟังนิทานค่ะคุณแม่"
เฌอริตานั่งพิงหัวเตียงนุ่มโดยมีเฌอริมาลูกสาววัยเกือบสามขวบตากลมโตขนตางอนหวานแก้มยุ้ยตัวเป็นปล้องผิวอมชมพูของเธอนอนอยู่ที่ตัก
เด็กหญิงส่งเสียงใสออดอ้อนคนเป็นแม่ให้อ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง
"วันนี้อ่านเรื่องอะไรดีน้าาา.."
เฌอริตาหยิบหนังสือนิทานบนหัวนอนมาทำท่าเลือกต่อหน้าลูกสาวของเธอ
"ซินเดอเรล่าค่ะ"
เด็กหญิงชี้มือป้อมไปที่นิทานเรื่องโปรด
"เรื่องโปรดของลูกสาวแม่สินะคะ"
"ค่ะ..."
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.... "
เฌอริตาเริ่มอ่านนิทานเป็นภาษาอังกฤษและทำเสียงและท่าทางให้น่าตื่นเต้นตามแบบฉบับของการอ่านนิทานให้เด็กฟัง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
จุ้บบ
"ฝันดีนะคะลูกสาวแม่"
เฌอริตาอ่านนิทานยังไม่ทันจบดีเจ้าก้อนกลมน้อยของเธอก็ผลอยหลับปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว
ครู่ต่อมา
"แล้วหนูจะต้องหาหลักฐานมาให้ได้ค่ะว่าคุณพ่อโดนกระทำอะไรบ้าง"
เมื่อลูกสาวของเธอหลับสนิทดีแล้วหญิงสาวอยากดูก็มายืนอยู่ที่หน้ารูปภาพของพ่อเธอและพูดกับรูปภาพเบาๆด้วยแววตาที่แสนเศร้า
ตั้งแต่เด็กๆพ่อกับแม่ของเธอแยกกันอยู่ต่างคนต่างก็มีธุรกิจของตัวเองพ่อของเธอเปิดบริษัทส่งออกอาหารแปรรูปและผลิตข้าวสารส่งออกเรียกได้ว่าแทบจะเป็นอันดับหนึ่งของประเทศก็ว่าได้ส่วนแม่ของเธอก็มีอสังหามากมายให้คนเช่าอยู่เช่าทำกินจนไม่ต้องทำงานก็มีเงินมีทองใช้ไม่ขัดสนบวกกับสมบัติจากตระกูลแม่เธอที่ตกทอดลงมาทำให้มีใช้เหลือเฟือเพิ่มขึ้นไปอีก
เธอเป็นเด็กสองบ้านมาตั้งแต่จำความได้แต่ความรักที่พ่อกับแม่ให้เธอก็ไม่เคยขาดและเธอเองก็ไม่รู้สึกขาดด้วยรู้สึกเข้าใจด้วยซ้ำเมื่อได้มามีลูกเธอไม่ค่อยออกสังคมเท่าไรนักจึงไม่มีใครรู้จักเธอในฐานะไฮโซยกเว้นเพื่อนสนิทกับเธอเท่านั้น
เมื่อเธอเรียนจบแม่ของเธอก็ดันมาเสียด้วยโรคประจำตัวเธอจึงอยู่ที่บ้านหลังใหญ่กับแม่นมของเธอเพียงสองคนส่วนพ่อของเธอก็มาหาเธอบ้างเมื่อมีเวลา
แต่เมื่อเธอท้องและรู้ว่าพ่อของลูกเธอหายเข้ากลีบเมฆไปเธอจึงย้ายไปใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียและกลับมาเมื่อไม่นานมานี้เมื่อรู้ว่าพ่อของเธอตรอมใจตายเพราะธุรกิจพังหุ้นส่วนทั้งส่วนกลับหนีหายและเท่าที่เธอสืบมาคนเหล่านั้นไปร่วมลงทุนกับบริษัทของชนะพลบริษัทส่งออกข้าวสารที่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในตอนนี้เธอคิดว่าหากเธอเข้าไปทำงานในบริษัทนั้นได้เธอจะต้องหาทางเปิดโปงคนที่เล่นสกปรกกับพ่อเธอให้ได้