ตอนที่10
3 เดือนผ่านไปไวเหมือนในนิยาย
เขาใหญ่
มีนชญาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ส่งให้ลูกค้าหญิงสาวเพิ่งจะเปิดร้านได้สองเดือนกว่าๆแต่เมื่อทำการตลาดออนไลน์ไปด้วยตอนนี้เลยเริ่มมีลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายอีกทั้งฝีมือของหญิงสาวก็เป็นที่บอกต่อกันอีกด้วยรูปแบบการจัดก็แปลกตาไปจากร้านอื่นอยู่มากราคาก็ย่อมเยานับว่าการเปิดร้านครั้งนี้เป็นผลสำเร็จของเธออย่างมากอีกหนึ่งเรื่อง
ตอนนี้เธอพึ่งจะรับลูกจ้างมาอีกสองคนเพราะทำคนเดียวคงไม่ทันอีกอย่างอนาคตเธอก็ต้องรับอยู่แล้วเพราะสิ่งที่เธอคิดไว้คือเธอก็คงจะต้องดูแลลูกน้อยอีกเลยรับเสียตอนนี้เลยจะดีกว่า
Rrrrrrrrrr
“ว่าไงแน็ทตี้ฉันกำลังจัดดอกไม้ส่งลูกค้าอยู่มีไรพูดมาด่วน” ในขณะที่มีนชญายุ่งๆอยู่นั้นก็มีสายจากแน็ทตี้เพื่อนของเธอโทรเข้ามาหญิงสาวจึงกดรับทันทีพร้อมเอียงคอแนบมือถือไว้ระหว่างหูและไหล่เพราะมือทั้งสองยังต้องหยิบจับจัดช่อดอกไม้หญิงสาวจึงรีบให้เพื่อนของเธอคุยมาว่ามีอะไรเพราะถ้าไม่สำคัญมันก็คงจะรบกวนเวลาเธออย่างมาก
“บอสฉันกำลังกลับมาแล้วด่วนพอไหมข่าวนี้”
“หา...เอ่อ...ด่วนมาก...งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหาแกเลย” จากเสียงปลายสายบอกข่าวดีทำให้หญิงสาวต้องละมือจากการจัดดอกไม้แล้วเดินออกมาคุยที่หลังร้านทันทีหญิงสาวลืมไปเสียสนิทว่ามันเป็นเวลาสามเดือนแล้วที่ชายหนุ่มนั้นกลับไปที่อิตาลีพร้อมบอกกับเพื่อนของเธอว่าเธอจะรีบเข้าไปหาเพื่อนเธอพรุ่งนี้เลย
“โอเค...ให้ไวเพราะฉันจะต้องมีแม่บ้านก่อนที่บอสฉันจะกลับมาถึง”
“รู้แล้วน่า” หลังจากที่มีนชญาคุยกับเพื่อนของเธอเรียบร้อยแล้วเธอจึงเข้าไปจัดการงานในร้านต่อในใจของเธอตอนนี้ไม่ได้กังวลเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องการเป็นแม่บ้านเธอไม่รู้ว่าเธอจะทำหน้าที่นี้ได้ดีขนาดไหนหวังว่าอย่าเพิ่งให้ชายหนุ่มไล่ออกก่อนแผนจะสำเร็จก็แล้วกัน
เช้าวันต่อมา
“เดินทางดีๆนะคะพี่มีน” วุ้นเส้นเด็กสาวอายุ19เห็นว่ามีนชญากำลังลากกระเป๋าลงมาจากชั้นบนเธอเลยมาช่วยมีนชญาเจ้านายสาวของเธอลากมาที่หน้าบ้านพร้อมบอกกับเจ้านายสาวด้วยสายตาเศร้าๆว่าให้เธอนั้นเดินทางดีๆเพราะรู้ว่าเจ้านายสาวจะเดินทางไปทำธุระค่อนข้างนานแต่เธอก็ไม่รู้ว่าธุระอะไรเหมือนกัน
“ดูแลร้านกันให้ดีๆล่ะแล้วพี่จะติดต่อมาเป็นระยะๆ” มีนชญาบอกกับเด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองฝากให้ดูแลร้านดีๆเธอบอกกับทั้งสองว่ามีธุระที่ต้องจัดการค่อนข้างจะนานเลยต้องวานให้ทั้งสองดูแลแทนเธอเห็นว่าทั้งสองเป็นงานหมดแล้วจึงไม่ห่วงอะไรมากเดี๋ยวเธอจะติดต่อกลับมาเองเป็นระยะ
“ค่ะพี่มีน/ครับพี่มีน” วุ้นเส้นเด็กสาวที่พึ่งจะเรียนจบม.ปลายเธอไม่มีเงินเรียนต่อเลยดรอปเรียนไว้ก่อนเพื่อมาหารายได้เสริมหญิงสาวเข้ามาทำงานที่ร้านมีนชญาได้เกือบเดือนแล้วหลังจากร้านเปิดไม่นานเธอก็เข้ามาสมัครเลยพร้อมทั้งพาไวไวน้องชายของเธอมาทำงานด้วยเพราะเห็นว่ามีนชญานั้นอยากจะได้คนที่ขับรถเป็นเพื่อส่งของให้ลูกค้าวุ้นเส้นเห็นว่าน้องชายเธอนั้นก็ดรอปเรียนเหมือนกันเลยชวนกันมาทำงานที่นี่
มีนชญารับทั้งสองไว้เพราะเห็นว่าเป็นเด็กดีแล้วอีกอย่างก็ขยันทั้งคู่ดูไปดูมาจะขยันกว่าเธออีกเสียด้วยมีนชญาจึงไว้ใจให้ดูแลร้านแทนเธอได้นั่นเอง
14.00 น.
“แกเอาของไปเก็บในห้องก่อนเดี๋ยวฉันพาไปดูบ้านที่แกจะต้องดูแล”
“โอเค” เมื่อมีนชญาเดินทางมาถึงคอนโดของแน็ทตี้เขาก็ให้หญิงสาวนั้นเอาของไปเก็บให้เรียบร้อยเพราะว่าเขาจะพาหญิงสาวไปดูบ้านของโดมินิคที่พึ่งตกแต่งเสร็จเรียบร้อยก่อนหน้านี้เมื่อหนึ่งอาทิตย์เพื่ออธิบายให้เพื่อนสาวของเขารู้ว่าเธอจะต้องดูแลอะไรตรงไหนทำอย่างไรบ้างนั่นเอง
20 นาทีผ่านไป
“เนี่ยเหรอบ้านคุณโดมินิค...ฉันคิดว่าจะหลังใหญ่กว่านี้ซะอีก” แน็ทตี้ขับรถพามีนชญามาดูบ้านของเจ้านายหนุ่มของเขาคราแรกมีนชญาคิดว่ามันจะใหญ่โตสมฐานะของโดมินิคจนเธอน่าจะเหนื่อยในการทำความสะอาดเสียอีกแต่นี่บ้านค่อนข้างที่จะไม่ใหญ่มากแต่ก็มีพื้นที่รอบๆบ้านกว้างขวางเหมือนบ้านที่เธอซื้อไว้ที่เขาใหญ่เลยแถมยังร่มรื่นมากอีกด้วย
“โอ้ย..บอสฉันเค้าคงไม่สร้างใหญ่หรอกย่ะ...เพราะเค้าอยู่ไม่นานอยากมากก็แค่โครงการเสร็จแล้วก็ปล่อยขายต่อในราคาถูกๆ” แน็ทตี้จำต้องอธิบายให้เพื่อนสาวของเขาฟังว่าเจ้านายของเขานั้นไม่ได้คิดจะสร้างบ้านหลังใหญ่เพื่ออยู่ชั่วคราวแต่สร้างแค่พออยู่ได้และค่อนข้างสะดวกสบายก็พอเพราะเขาอยู่ไม่นานเมื่อจบงานก็ขายต่อเป็นปกติแบบนี้แทบทุกงานอยู่แล้ว
“ตามเข้ามา...อ้อ..พรมเช็ดเท้าหน้าบ้านต้องเปลี่ยนทุกวันรู้มัย”
“อ่อ..โอเค” แน็ทตี้เปิดประตูบ้านพาเพื่อนสาวของเขาเข้าชมในบ้านเขานึกขึ้นได้ว่าคนที่เป็นแม่บ้านของบ้านหลังนี้จะต้องละเอียดสะอาดทำงานทุกอย่างได้ด้วยคนเดียวเพราะเจ้านายหนุ่มของเขาไม่ค่อยชอบให้มีคนเดินเพ่นพล่านในบ้านที่เป็นส่วนตัวเยอะเกินไป
เมื่อเข้ามาเขาเห็นพรมเช็ดเท้าเป็นอันดับแรกเขาจึงค่อยๆบอกหญิงสาวไปเรื่อยๆเกี่ยวกับการดูแลบ้านหลังนี้
“กระจกก็ต้องห้ามมีรอยเด็ดขาดถ้าเป็นไปได้แกต้องเช็ดทุกวัน” แน็ทตี้มองไปผนังกำแพงที่เป็นกระจกพร้อมหันไปบอกกับมีนชญาว่าเจ้านายหนุ่มของเขาชอบกระจกที่ใสตลอดเวลาถ้าเป็นไปได้ควรที่จะเช็ดทุกวัน
“โหย...ทำไมเนี๊ยบจัง...นี่ฉันต้องตื่นมาทำงานบ้านตั้งแต่กี่โมงเนี่ย” มีนชญาถึงกับเริ่มท้อใจแล้วกับการมาเป็นแม่บ้านของที่นี่เพราะอีแค่พรมที่เปลี่ยนทุกวันยังไม่เท่าไรแต่กระจกที่จะต้องเช็ดทุกวันเธอมองไปมันไม่ใช่น้อยๆเพราะบ้านนี้เป็นกระจกใสแทบทั้งหลังแบบนี้เธอต้องตื่นมาทำงานบ้านตั้งแต่กี่โมงกันหญิงสาวพยายามคำนวณเวลาอยู่ในใจด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวอยู่
“อย่าพึ่งบ่นฉันพึ่งบอกแค่สองอย่างเองยังมีอีกเยอะบอกจบแล้วค่อยบ่นทีเดียว” แน็ทตี้ถึงกับต้องขำในสีหน้าของเพื่อนสาวเขานี่ขนาดเขาบอกการจัดการบ้านหลังนี้กับเธอเพียงสองข้อใบหน้าหญิงสาวก็ห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัดพร้อมบอกกับเธอว่ามันยังมีอีกเยอะที่เขายังไม่ได้บอก