ตอนที่1
ดึกดื่นค่ำคืนอันเงียบสงัดในบ้านหลังใหญ่สุดหรูมีชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่บนเตียงนุ่มด้วยอาการทุรนทุรายสองมือบีบจิกอยู่กับขมับเหงื่อออกซิกสีหน้าเหยเกตัวบิดงอเหมือนกับกำลังฝันร้าย
"อะ...อ้าสส..อึก..เธอเป็น...ใครกันแน่"
และแล้วชายหนุ่มร่างสูงก็ตื่นจากความฝันแต่ความปวดหัวของเขาก็ยังคงอยู่ยิ่งพยายามนึกให้ออกว่าผู้หญิงที่เขาฝันเห็นทุกคืนคือใครก็นึกไม่ออกเสียที
"คุณชาวี!!"
หมอแดนเทพหมอหนุ่มวัย35เป็นหมอประจำตัวของชาวีมาเกือบสามปีแล้วตั้งแต่เขาเข้ารับการรักษาจากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นชนะพลก็จ้างเขาด้วยราคาแสนแพงให้ดูแลชายหนุ่มเป็นหมอประจำตัวเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
แดนเทพรีบเปิดประตูห้องที่มันสามารถเชื่อมถึงกันกับห้องเขาและชาวีออกพร้อมหยิบกระเป๋ายาและรีบฉีดยาระงับอาการปวดให้ชาวีทันที
ครู่ต่อมา
"ยังพยายามนึกอีกเหรอครับบอกแล้วไงหากมีอาการปวดหัวแบบนี้อีกให้เรียกผม"
แดนเทพนั่งรอดูอาการชายหนุ่มครู่หนึ่งจนเขาเป็นปกติดีด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพราะดูออกว่าอาการปวดหัวของเขาจะรุนแรงขึ้นทุกวันๆจนเขารู้สึกว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว
"ฉันอยากจะรู้ว่าคนที่อยู่ในฝันของฉันคือใคร"
ชาวีบอกกับหมอหนุ่มด้วยสีหน้าที่ยังพยายามครุ่นคิดแต่เรื่องความฝันในหัวของเขาก็เลือนลางลงไปทุกทีและผลอยหลับไปด้วยฤทธิ์ยาจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งไปถ้าหากเขาได้รับยาที่หมอแดนเทพฉีดให้
"อย่าพยายามอีกเลยครับความฝันก็คือความฝันพักผ่อนเถอะครับ"
แดนเทพมีสีหน้าไม่สบายใจอย่างมากเมื่อชายหนุ่มหลับลงแล้วเขาจึงเดินถือกระเป๋ายากลับไปที่ห้อง
เช้าวันต่อมา
คฤหาสน์xxx
"คุณพ่อคิดบ้าอะไรอยู่ครับถึงให้ไอ้ลูกนอกไส้นั่นมันบริหารงานในบริษัทใหญ่ของเราแบบนั้น"
ชนะภพลูกชายคนเดียวของชนะพลนักธุรกิจส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศและเป็นเจ้าของโรงสีหลายแห่งในประเทศอีกด้วย
ชนะภพชายหนุ่มวัยสามสิบปีลูกคุณหนูจอมเอาแต่ใจเพราะถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กนิสัยชอบเอาชนะทุกอย่างเรื่องเรียนเขาก็ไม่เคยตกเพราะต้องการจะเป็นที่หนึ่งและเรื่องอื่นๆด้วยเช่นกันตอนนี้เขาเป็นคนที่เล่นหุ้นเก่งที่สุดคนหนึ่งแต่เรื่องที่เขาต้องเข้ามาหาพ่อของเขาด้วยท่าทีไม่พอใจเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าพ่อของเขาดันให้ลูกนอกไส้อย่างชาวีบริหารบริษัทแม่ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่เขาควรจะได้เข้าบริหาร
"มันเรื่องของฉันรู้แค่ว่าฉันทำทุกอย่างก็เพื่อแกเท่านั้น"
ชนะพลชายวัยเกือบหกสิบเป็นนักธุรกิจที่เก่งหาคนเทียบยากคนหนึ่งก่อนที่เขาจะตัดสินใจทำอะไรลงไปเขาได้คิดไตร่ตรองมาถี่ถ้วนแล้ว
"เพื่อผมยังไงครับผมไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาจบมาคว้าเกียรตินิยมคุณพ่อไม่เห็นสนใจจะให้ผมเป็นผู้บริหารบ้างเลยแถมงานอะไรก็ไม่อยากจะให้ทำให้ลูกนอกไส้ของพ่อมันโชว์ฝีมืออยู่คนเดียว"
ชนะภพไม่เข้าใจคำพูดของคนเป็นพ่อเท่าไรเพราะการกระทำของเขามันย้อนแย้งกับคำพูด
"ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อแกอยู่บนกองเงินกองทองสบายๆไม่ชอบหรือไงหุ้นแกก็มีอยู่เต็มมือเอาเวลาไปดูแลหุ้นแกดีกว่า"
"มันไม่เหมือนกันนี่ครับพ่อแล้วคนอื่นจะมองผมยังไงที่พ่อตัวเองให้คนอื่นบริหารงานในบริษัทแทนลูกแท้ๆตัวเองเค้าจะมองว่าผมไม่เอาไหนน่ะสิครับพ่อ"
ชนะภพรู้สึกไม่ชอบหน้าชาวีตั้งแต่เมื่อเจอเมื่อสามปีก่อนแล้วที่จู่ๆก็มารู้ว่าพ่อตัวเองมีลูกบุญธรรมแถมส่งเสียตั้งแต่ยังเล็กโดยที่เขาไม่รู้เรื่องอีกด้วย
"สักวันแกจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำ"
ชนะพลเดินเข้ามาตบบ่าลูกชายคนเดียวของเขาด้วยสายตาที่ห่วงใย
"ผมว่าผมไม่น่าจะเข้าใจได้นะครับ"
ชนะภพกัดฟันกรอดเดินหนีออกไปอย่างรวดเร็วในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรจะเป็นของเขาพ่อของเขาก็ไปให้ชาวีดูแลแทนดังนั้นชีวิตของพ่อเขาก็ให้ลูกนอกไส้อย่างชาวีดูแลไปก็แล้วกัน
"ท่าทางคุณภพจะไม่พอใจเอามากๆเลยนะครับท่าน"
ธีราทรมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่สบายใจเขารู้ดีทุกอย่างว่าที่ชนะพลนายของเขาทำลงไปนั้นมีเหตุผล
"ปล่อยมันไปก่อน"
ชนะพลเห็นว่าวันนึงลูกชายของเขาจะเข้าใจเองว่าที่เขาทำไปทุกอย่างก็เพื่ิอลูกชายคนเดียวของเขาเท่านั้น
"ท่านครับหมอแดนเทพมาขอพบครับ"
บอดี้การ์ดหนุ่มมารายงานคนเป็นนายในห้องโถงใหญ่
"ให้เค้าตามฉันไปที่ห้องใต้ดิน"
ชนะพลไม่รู้ว่าแดนเทพมาหาเขาด้วยเรื่องอะไรแต่หากหมอหนุ่มมาถึงที่นี่ก็คงจะมีเรื่องด่วนจึงต้องให้ไปคุยในห้องใต้ดินของบ้าน
"ครับท่าน"
ครู่ต่อมา
ห้องใต้ดิน
"มีอะไรมาคุยกับฉันแต่เช้า"
ชนะพลถามแดนเทพด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"อาการของคุณชาวีดูจะหนักขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ได้รับยานี้ทุกครั้งนะครับท่านผมเกรงว่าร่างกายของคุณชาวีจะรับไม่ไหว"
แดนเทพพูดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
"ไม่ไหวก็ต้องไหวชาวีจะต้องจำเรื่องราวในอดีตอะไรไม่ได้ทั้งนั้นหากดูท่าว่าจะดื้อยาฉันจะให้หมอที่อังกฤษผสมตัวยาเข้าไปใหม่ให้แรงกว่าเดิมจะเอาไม่อยู่ก็ให้มันรู้ไป"
ชนะพลไม่สนใจอะไรทั้งนั้นว่าอาการชาวีเป็นอย่างไรเขาชุบเลี้ยงช่วยเหลือชาวีมาก็เพื่อจะใช้เป็นเครื่องมือออกหน้าทุกอย่างแทนเขาก็เท่านั้น
"แต่ผมกลัวว่าวันนึงมันจะมีผลต่อระบบประสาทนะครับท่านยิ่งท่านให้คุณชาวีมาบริหารงานแทนผมยิ่งกลัวว่าคุณชาวีจะมีอาการอะไรออกมาจนทำให้เค้าทำงานไม่ได้นะครับ"
แดนเทพรู้สึกว่าเขานั้นจะเป็นแพทย์ที่ไร้จรรยาบรรณขึ้นไปทุกวันจนเขารู้สึกผิดอยู่แทบทุกขณะ
"ฉันว่ากว่าจะถึงวันนั้นฉันก็คงไม่ใช้งานชาวีแล้วล่ะ....ดูท่าหมอจะห่วงคนไข้ของหมอจังเลยนะอย่าลืมสิว่าตัวเองเป็นคนของใครและจะต้องทำตามคำสั่งใคร"
ชนะพลเตือนให้แดนเทพได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่ช่วยเหลือครอบครัวแดนเทพเอาไว้หลายครั้งหลายคราและให้เขาได้รู้ว่าคนที่เขาควรจะเชื่อฟังคือใคร
"ครับ"
แดนเทพรับคำชนะพลคอตกเพราะเขาไม่มีทางเลือกอะไรเลย