ตอนที่1
บ้านเดชณรงค์
20.00
กว่าเพลงพิณและพาฝันจะเดินทางมาถึงที่บ้านเดชณรงค์ก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มเพราะหนทางที่ทั้งสองเดินทางเข้ามามันช่างยากลำบากเหลือเกินอีกทั้งสัมภาระของทั้งสองยังพะลุงพะลังอีก
“นี่ยัยเพลงฉันไม่คิดว่าแม่แกจะหาที่อยู่ที่มันช่างเข้าถึงได้ยากลำบากขนาดนี้เลย”
พาฝันเดินบ่นอุกเมื่อลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาถึงหน้าบ้านกว่ารถสองแถวจะมาส่งเธอถึงหน้าปากทางบ้านก็เล่นเอาพวกเธอทั้งสองหัวฟูยุ่งเหยิงกันเลยทีเดียวถ้าหญิงสาวไม่ติดว่าสงสารเพื่อนที่กำลังอกหักอยู่มีหวังที่กันดารแบบนี้เธอก็ไม่ขอมาด้วยหรอก
“เอาน่ายัยฝันแล้วแกจะให้ฉันทำยังไงไม่อย่างนั้นคุณแม่ฉันก็ไม่ยอมให้มาอยู่ที่นี่อยู่ดีอะ”
เพลงพิณพูดพร้อมหยิบกุญแจออกมาเพื่อไขประตูบ้าน
“เสร็จหรือยังแกยุงจะหามฉันไปกินในป่าแล้วเนี่ยนี่ถ้าขาสวยๆของฉันลายมันเป็นเพราะแกเลยยัยเพลง”
พาฝันใช้มือปัดยุงที่รายล้อมเธอมือเป็นพัลวันยุงที่นี่เยอะมากซะจนแทบจะหามตัวเธอไปได้อยู่แล้ว
“แล้วเปิดไฟตรงไหนล่ะเนี่ย...นี่แกเจ้าของบ้านเขาไม่คิดจะมาดูมาแลแขกบ้างหรือไง”
เมื่อเพลงพิณไขกุญแจเปิดเข้ามาในบ้านได้ทั้งสองก็รีบเดินหาสวิทช์ไฟกันทันทีพาฝันรู้สึกแปลกใจที่เจ้าของบ้านไม่คิดจะห่วงใยแขกที่มาพักบ้านตัวเองเลยหรือไงว่าจะหยิบจะจับอะไรถูกมั้ย
“คุณแม่ฉันโทรมาบอกว่าวันนี้พี่เค้าไม่ว่างน่าจะมาพรุ่งนี้เช้าเพราะติดธุระน่ะ”
พิมพาโทรบอกเพลงพิณตั้งแต่เมื่อหญิงสาวมาถึงสนามบินแล้วว่าวันนี้ลูกชายของเพื่อนแม่เธอที่เป็นเจ้าของบ้านไม่ว่างแล้ววันนี้ก็ไม่น่าจะกลับบ้านด้วยเพราะติดธุระจึงให้เธอหาทางเข้าบ้านกันไปก่อนกุญแจที่เธอได้มาก็ได้มาจากน้าดรุณีเพื่อนของแม่เธอที่เป็นคนส่งมาให้นี่แหละแต่เธอเองก็ยังไม่เคยเห็นลูกชายเขาเหมือนกันแม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จักเพราะตอนที่เคยเจอกันต่างคนก็ต่างรีบไม่ได้มีเวลาซักไซร้อะไรกันมากนัก
“พี่เค้าหรอ.....เค้าเป็นผู้ชายใช่ป่ะแล้วหล่อมั้ยอะแกอายุเท่าไร”
พาฝันยื่นหน้ามาใกล้ๆกับเพื่อนสาวด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามแบบของเธอ
“ฉันก็ไม่รู้อะแกไม่เคยเห็นหน้าแถมชื่อยังไม่รู้จักอีกด้วย”
เพลงพิณตอบไปตามความจริงเพราะเธอเองก็ไม่เคยเห็นแถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายของเพื่อนแม่เธอชื่อว่าอะไรอายุเท่าไร
“อ้าว....แล้วแม่แกไม่บอกเลยหรือไง”
พาฝันรู้สึกงงกับเพื่อนสาวของเธอที่จะมาอาศัยอยู่บ้านของเขาทั้งทีแต่กลับไม่รู้จักเจ้าของบ้าน
“ฉันก็ไม่เห็นคุณแม่จะบอกอะไรกว่าจะอนุญาติให้มาที่นี่ฉันก็ขอร้องแทบเป็นแทบตายแล้วฉันก็ไม่กล้าจะถามอะไรคุณแม่มากนักหรอกแก”
ด้วยความที่เพลงพิณเองอยากมาที่ใจจะขาดเพราะอยากตัดขาดจากโลกภายนอกสักพักเธอขอมารักษาแผลใจที่นี่สักระยะเมื่อคนเป็นแม่ยอมให้มาแต่มีข้อแม้ว่าต้องมาอยู่ที่นี่เธอจึงตอบตกลงในทันทีเพราะกลัวว่าแม่ของเธอจะเปลี่ยนใจโดยที่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อเลยสักนิด
“อืมมมมม...งั้นช่างเถอะเดี๋ยวก็คงได้เจอ”
พาฝันเห็นว่าในเมื่อไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านเป็นใครก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็คงได้เจอกันเอง
“นี่อะไรอะ....”
พาฝันหยิบโพสอิทที่แปะอยู่บนโต้ะตรงหน้าที่พวกเธอนั่งอยู่เลยหยิบขึ้นมาอ่าน
“ผมต้องขอโทษพวกคุณที่ไม่ได้อยู่ต้อนรับนะครับผมติดธุระด่วนจริงๆห้องของพวกคุณอยู่ทางซ้ายมือถัดจากบันไดมีสองห้องผมทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้วส่วนอาหารสดผมซื้อเตรียมไว้ที่ตู้เย็นในครัวเรียบร้อยแล้วพวกคุณจะทานอะไรก็ตามสบายเลยนะครับ…..โหหหหโคตรเอาใจใส่อะแก”
พาฝันอ่านข้อความไปยิ้มไปคิดว่าชายหนุ่มเจ้าของบ้านคงเป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่นอย่างดีเสียดายที่วันนี้ยังไม่มีโอกาสได้เจอเขาเสียนี่
“หรอ…เอาใจใส่…..แกลืมอะไรไปหรือป่าวยัยฝันว่าพวกเราทำกับข้าวไม่เป็น”
เพลงพิณถึงกับกรอกตามองบนแล้วถอนหายใจเธอไม่รู้จะซึ้งดีมั้ยที่ชายหนุ่มเจ้าของบ้านซื้ออาหารสดไว้ให้แต่พวกเธอดันทำกับข้าวไม่เป็น
“เออ…จริงด้วยฉันลืมไปเลยอ่า”
จากที่พาฝันทำหน้าซึ้งอยู่เมื่อครู่เมื่อฟังคำพูดของเพื่อนสาวที่ทำหน้าเซ็งอยู่ข้างๆถึงกับต้องเปลี่ยนสีหน้ากะทันหันเธอลืมไปซะสนิทเลยจริงๆว่าพวกเธอสองคนเป็นลูกคุณหนูไม่เคยทำกับข้าวและก็หยิบจับอุปกรณ์ในครัวไม่เป็นเลยด้วย
“งั้นคืนนี้เราคงต้องนอนกันพร้อมความหิวไปก่อนแล้วแหละแกพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
“เฮ้อออ”
พาฝันทำหน้าเศร้าบอกกับเพลงพิณทำเอาหญิงสาวต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ดูท่าว่าการที่พวกเธอมาพักผ่อนอยู่ที่นี่มันจะไม่สบายอย่างที่คิดซะแล้วสิ
ทั้งสองต่างแยกย้ายกันนอนคนละห้องที่ชายหนุ่มได้เตรียมไว้ให้พาฝันเมื่อหัวถึงหมอนก็ฟุบหลับลงในทันทีเพราะตอนนี้เธอเพลียมากเหลือเกินไอ้เรื่องความหิวของเธอขอเอาไว้ก่อนพรุ่งนี้เธอจะกินให้แหลกลานชดเชยกับวันนี้ที่เธออดมาตั้งแต่มื้อกลางวัน
ทางด้านเพลงพิณเมื่อลากกระเป๋าเข้าห้องของเธอด้วยความที่ทั้งเพลียและหิวหญิงสาวรีบเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อเธอมองรอบๆห้องก็คิดว่าคนที่ตกแต่งห้องนี้ต้องเป็นคนที่มีรสนิยมพอสมควรดูจากการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่คุมโทนและการจัดวางก็ยังดูทันสมัยอีกด้วย
หญิงสาวเดินสำรวจสักพักก็เข้าไปอาบน้ำแล้วหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต้ะขึ้นมาอ่านเมื่อหญิงสาวเลือกหยิบดูที่กองหนังสือก็พบว่าหนังสือที่วางอยู่มีแต่หนังสือที่เกี่ยวกับป่าเขาและพันธ์สัตว์ต่างๆแถมยังมีพวกวิธีทำเกษตรกรรมที่ไม่ใช้สารเคมีอีกด้วยเธอคิดว่าคงจะเป็นของเจ้าของบ้านนี้แหงๆเพราะเธอก็ได้รู้มาบ้างว่าเมื่อลูกชายของน้าดรุณีเพื่อนของแม่เธอมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ
ตอนนี้เธอก็ยังสงสัยอยู่ว่าคนที่จบเมืองนอกเมืองนาแถมที่บ้านก็มีธุรกิจใหญ่โตทำไมถึงเลือกใช้ชีวิตแบบนี้หญิงสาวรีบสลัดความคิดออกจากหัวในเมื่อเธอเป็นแค่คนที่มาอาศัยจะไปอยากรู้เรื่องอะไรของเจ้าของบ้านพลันสายตาก็เหลือบมองไปที่หน้าต่างที่มีแสงของดวงจันทร์และดวงดาวสลัวๆผ่านเข้ามาเธอเองจึงรีบเดินออกไปชะโงกมองนอกหน้าต่าง