ตอนที่1 ท่านประธานจอมโหด
โรงแรมXXX
08.00น.
“อุ้ปป...แหวะ...”
น้ำเมยมาถึงที่ทำงานได้สักพักก็เกิดอาการเวียนหัวคลื่นไส้ขึ้นมาดื้อๆเสียอย่างนั้นทำเอาเธอวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันเธอไม่คิดว่าอาการที่เป็นตอนที่ตื่นนอนมันจะยังไม่หาย
“โอเคไหมแก...นี่ฉันว่าวันนี้เลิกงานแล้วไปหาหมอหน่อยเถอะ”
อิงฟ้าเห็นเพื่อนสาวของเธอคลื่นไส้อาเจียนอยู่บ่อยๆเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วและดูว่าอาการมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยเธอเองบอกให้น้ำเมยไปหาหมอหลายครั้งแล้วแต่หญิงสาวก็กลัวว่ามันจะเสียงานเสียเงินเสียเวลาจนเธอเห็นท่าไม่ดีแล้วยังไงวันนี้เธอก็ต้องลากเพื่อนของเธอไปให้หมอตรวจให้ได้
อิงฟ้าและน้ำเมยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆพึ่งจะมาแยกย้ายกันตอนเรียนจบ ม.6 เพราะว่าอิงฟ้าต้องมาเรียนต่ออยู่ที่กรุงเทพกับแม่ส่วนน้ำเมยหลังจากจบ ม.6 แล้วก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลยเพราะหญิงสาวเองอยู่กับยายเพียงสองคนและยายของเธอก็มีอาชีพเพียงแค่ขายขนมหวานเธอจึงไม่อยากสร้างภาระให้กับยายของเธออีกอย่างยายของน้ำเมยเองก็แก่มากแล้วหญิงสาวจึงตัดสินใจให้ยายของเธอพักแล้วเธอเองเป็นคนมาขายแทนจนวันนึงยายของน้ำเมยเสียหญิงสาวจึงเหลือตัวคนเดียว
จนอยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน้าเธอได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้เธอไม่รู้ว่าเขาบาดเจ็บมาจากอะไรเพราะหลังจากที่ชายหนุ่มฟื้นเขาได้ความจำเสื่อมหญิงสาวจำต้องช่วยเหลือให้ที่พักและดูแลเขาไปก่อน
พอนานวันเข้าหญิงชายอยู่ใกล้กันทำให้ก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาแต่ด้วยโชคชะตาที่ไม่เป็นใจกับหญิงสาวจู่ๆวันนึงชายหนุ่มก็ได้หายสาบสูญจากชีวิตของเธอไปแถมบ้านและที่ดินของเธอก็ถูกยึดจากเจ้าหนี้นอกระบบที่ยายของเธอได้เอาที่ดินไปจำนองไว้ทำให้น้ำเมยกลายเป็นคนไม่มีที่อยู่และที่ทำกิน
โชคดีที่อิงฟ้ากลับไปเที่ยวที่บ้านเกิดของเธอทำให้เจอกับน้ำเมยอิงฟ้าเห็นว่าน้ำเมยมีฝีมือในการทำขนมหวานและอีกอย่างที่ทำงานของเธอก็พึ่งจะมีเชฟขนมหวานลาออกไปอิงฟ้าจึงชวนน้ำเมยมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพมหานครเมืองใหญ่ที่จะให้ชีวิตใหม่แก่น้ำเมยได้
เมื่อน้ำเมยได้เข้ามาทำงานที่โรงแรมในฐานะเชฟขนมหวานเป็นลูกน้องในแผนกของอิงฟ้าได้ไม่นานก็ทำให้ชื่อเสียงของของหวานที่โรงแรมแห่งนี้เลื่องลือเป็นอย่างมากเหมือนเป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรมนี้ไปเลย
ไม่ว่านักท่องเที่ยวที่ไหนมาก็ต้องมาชิมขนมหวานที่โรงแรมนี้กันทุกรายทำให้ตอนนี้ทั้งอิงฟ้าและน้ำเมยต่างก็ได้รับคำชมอย่างไม่ขาดปาก
“พวกเธอท่านประธานจะมาแล้วเตรียมตัวออกไปต้อนรับกันได้แล้วเร็วถ้าใครช้าพี่บอกไว้ก่อนว่าท่านดุมากเลยขอบอก”
นุดีหัวหน้าฝ่ายบุคคลรีบเดินมาตามพนักงานทุกคนให้ไปเตรียมตัวรอต้อนรับท่านประทานที่เข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรกหลังจากที่หายไปเกือบหกเดือน
นุดีเองรู้กิตติศัพท์ของท่านประธานดีว่าเนี้ยบแค่ไหนดังนั้นเธอเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลต้องเตรียมการให้พร้อมไม่อย่างนั้นเธอจะโดนดุเอาได้
“ไหวไหมแกพี่นุดีเรียกแล้ว”
อิงฟ้าถามน้ำเมยที่ยืนหน้าซีดจนแทบไม่มีเลือดฝาด
“ไหวอยู่แก..ว่าแต่ท่านประธานเราก็เจออยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ”
น้ำเมยหันมาถามอิงฟ้าด้วยสีหน้าสงสัยเพราะเธอเองไม่เข้าใจว่าเมื่อก่อนพวกเธอยังไม่ต้องออกไปต้อนรับท่านประทานทุกวันเลยแต่ทำไมวันนี้ทุกคนกลับลุกลี้ลุกลนในการเตรียมตัวต้อนรับกันนัก
“นั่นแค่คนที่รักษาการแต่ท่านประทานคนนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนว่าเค้าหายไปไหนมาหลายเดือนแล้วแต่ฉันจะบอกให้แกรู้ไว้เลยนะว่าคุณมาคัสทั้งโหดทั้งเจ้าระเบียบมากเลยขอบอกไปเร็วแก”
อิงฟ้าพูดไปด้วยพลางเดินจูงมือน้ำเมยที่เดินหน้าซีดไปด้วยเพราะถ้าหากพวกเธอยังคงไปช้าคงจะโดนสายตาและวาทะที่เชือดเฉือนอีกเป็นแน่เพราะอิงฟ้าเคยโดนมาแล้วสมัยที่เข้ามาทำงานใหม่ๆ
อิงฟ้าและน้ำเมยเดินมาถึงจุดตรงหน้าโรงแรมที่มีพนักงานแทบทุกแผนกยืนเรียงแถวกันอยู่เมื่อยืนได้ไม่นานก็มีรถตู้หรูสีดำขับมาจอกที่หน้าโรงแรมทันใดนั้นเองพนักงานทุกคนที่ตอนแรกต่างจัดระเบียบเครื่องแต่งกายและยังคุยเสียงจอกแจกจอแจกันอยู่กลับนิ่งเงียบพร้อมทั้งยืนตัวตรงพร้อมกันทั้งหมดอย่างกับมีรีโมทกดสั่ง
น้ำเมยเองเมื่อเห็นพนักงานทุกคนยืนนิ่งงันเป็นระเบียบมันทำให้เธอต้องทำตามอัตโนมัติโดยที่ไม่มีใครสั่งเธอคิดในใจว่าท่านประธานคนนี้คงจะโหดหน้าดูไม่เช่นนั้นทุกคนคงไม่มีอาการเช่นนี้
“ยินดีต้อนรับการกลับมานะคะท่านประธาน”
“ครับ”
เมื่อชายใส่สูทสีดำของแบรนด์ดังตัวสูงดูมีสง่าน่าเกรงขามลงมาจากรถได้นุดีฝ่ายบุคคลก็กล่าวคำต้อนรับโดยทันทีพนักงานทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาโค้งคำนับให้กับชายหนุ่มที่ทุกคนต่างรู้กันว่าคือท่านประธานใหญ่ของโรงแรมนี้และเป็นหุ้นส่วนของโรงแรมอีกมากมายหลายแห่ง
มีเพียงน้ำเมยเท่านั้นที่ยังยืนตัวตรงอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นท่านประธานหนุ่มเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองว่าชายหนุ่มที่เธอเฝ้าคอยและตามหามาตลอดตอนนี้เขาจะยืนอยู่ที่ตรงหน้าของเธอ