[ตอนฟรี] ตอนที่ 195 : สงครามนองเลือด
หลังจากรออย่างกระวนกระวายมาหลายวัน ในที่สุด พวกเผ่าโบราณจากเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ก็บุกมาถึงประตูหน้าบ้าน
แม้จะรู้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่พอได้เห็นสิ่งมีชีวิตโบราณจำนวนมหาศาลที่กำลังไหลบ่าเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
กระทั่งมือของน่าหลานจ้านที่อยู่ในชายเสื้อยังสั่นระริกอย่างช่วยไม่ได้
ฉากที่แทบจะทำให้หัวใจหยุดเต้นนี้มอบทั้งความกดดันและความกลัวให้กับผู้คน
เหล่าผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างมีสีหน้าตื่นตระหนกและวิตกกังวล
สถานการณ์มันดูสิ้นหวังเสียจริง
แมงมุมปีศาจเทวะจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจปรากฏตัวขึ้นตัวแล้วตัวเล่า พวกมันแผ่กลิ่นอายอันชั่วร้ายออกมา และขาของพวกมันก็แหลมคมราวกับหอกดำสนิท
จากภูเขาศักดิ์สิทธิ์หินดาวตก เหล่ายักษ์หินวิ่งกระแทกเท้ามา ยามเท้าของพวกมันกระทบพื้น แผ่นดินจะสั่นสะเทือน ภูเขารอบๆ จะต้องถล่ม
จากภูเขาศักดิ์สิทธิ์แยกอัคคี เหล่าสิ่งมีชีวิตที่โอบล้อมไปด้วยเปลวเพลิงปรากฏตัว พวกมันคือเผ่าภูตไฟที่กำเนิดมาพร้อมกับสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับธาตุไฟ และที่สำคัญ พวกมันทรงพลังมาก
ยังมีเผ่าอินทรีฟ้าครามจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าครามด้วย แค่พวกมันกระพือปีกสีฟ้า พายุก็จะก่อตัวขึ้นมาในความว่างเปล่าทันที
นอกจากนี้ยังมีเผ่าโบราณอีกหลายสายพันธุ์จากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และตอนนี้พวกมันได้ล้อมยอดเขาโบราณไว้เรียบร้อยแล้ว
“นี่คือฐานที่มั่นสุดท้ายของเผ่าพันธุ์มนุษย์งั้นเหรอ? วันนี้แหละที่มันต้องถูกทำลาย!”
จากภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจ แมงมุมยักษ์สีทองตัวหนึ่งปรากฏ พร้อมกับแผ่กลิ่นอายนักบุญออกมา
“นั่นมัน...ทวดแมงมุมทองแห่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจ!” ผู้บ่มเพาะมนุษย์รุ่นเก่าหลายคนสูดหายใจลึกด้วยความกลัว
ทวดแมงมุมทองเป็นบรรพบุรุษที่ทรงพลังมากที่สุดของภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจ มันเร้นกายหลับใหลมานาน นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะปรากฏตัว
ทวดแมงมุมทองแค่ตัวเดียวอาจประมือกับนักบุญของมนุษย์ได้ถึงสองคนเลย
ท่ามกลางยักษ์หินจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์หินดาวตก ยอดฝีมือระดับนักบุญของพวกมันก็เอ่ยขึ้น “รีบทำลายที่มั่นของพวกมันได้แล้ว อย่าให้พวกมนุษย์มีความหวัง”
“ข้าเห็นด้วย ความวุ่นวายในสิบทวีปถือเป็นโอกาสดี ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เผ่าพันธุ์โบราณของพวกเราจะเรืองอำนาจแล้ว” นักบุญของเผ่าภูตไฟจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์แยกอัคคีกล่าว น้ำเสียงของมันแฝงไปด้วยจิตสังหารอันเยือกเย็น
เมื่อได้ยินคำพูดของเหล่านักบุญจากเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ ผู้บ่มเพาะฝั่งมนุษย์ถึงกับหน้าถอดสีกันหมด
ในสายตาของพวกมัน มนุษย์คงไม่ต่างอะไรไปจากแมลงตัวน้อยที่จะบี้ให้ตายตอนไหนก็ได้
ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มชุดคลุมสีเขียวก็เดินออกมาจากกลุ่มของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคราม
“ตระกูลน่าหลาน ยังจำข้าได้รึเปล่า?”
“ท่านคือ...หลินเฟิง!” น่าหลานลั่วซียกมือปิดริมฝีปากสีแดง ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจสุดขีด
ไม่ใช่ว่าหลินเฟิงบาดเจ็บสาหัสจนใกล้ตายเพราะจวินเซียวเหยางั้นหรือ?
ตามหลักแล้ว บาดแผลสาหัสขนาดนั้น มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะรอดมาเลย
เมื่อเห็นท่าทีตกตะลึงของคนตระกูลน่าหลาน หลินเฟิงก็ยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าว “ข้า หลินเฟิง จะตายก่อนได้ฆ่าจวินเซียวเหยาด้วยมือข้าเอง แล้วก็ล้างแค้นตระกูลน่าหลานได้ยังไง?”
สีหน้าที่เขาจ้องมองคนตระกูลน่าหลานเย็นชาสุดขีด
นิกายตงเฉวียนเป็นแค่หนึ่งในเป้าหมายในการแก้แค้นของหลินเฟิงเท่านั้น
เป้าหมายที่เขาอยากจะแก้แค้นจริงๆ คือจวินเซียวเหยากับตระกูลน่าหลานต่างหาก
เมื่อเห็นหลินเฟิงที่เดินออกมาจากกลุ่มของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคราม ฝั่งมนุษย์หลายคนถึงกับงง
ในฐานะที่เป็นมนุษย์ เหตุใดหลินเฟิงถึงไปเข้ากับพวกเผ่าโบราณ?
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้นำนิกายตงเฉวียนก็เข้าใจสถานการณ์ทันที เขากัดฟันตำหนิหลินเฟิงอย่างเย็นชา “หลินเฟิง เป็นเจ้านี่เอง!”
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมนิกายตงเฉวียนถึงแพ้อย่างราบคาบจากการลอบโจมตี
ปรากฏว่าเป็นหลินเฟิงนี่เองที่เป็นคนก่อปัญหา
หลินเฟิงแค่นเสียงและกล่าว “เจ้าพูดถูก ข้าเป็นคนนำภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าครามเข้าโจมตีพวกเจ้าก่อนเอง เพราะพวกเจ้ามันสมควรตาย!”
“หลินเฟิง เจ้าเดรัจฉาน ทั้งๆ ที่เป็นมนุษย์ แต่กลับไปสวามิภักดิ์กับพวกเผ่าโบราณ!”
“ใช่ แกไม่สมควรเรียกตัวเองว่ามนุษย์เลย!”
บนยอดเขาโบราณ ผู้บ่มเพาะหลายคนก่นด่าสาปแช่งหลินเฟิงไม่หยุด
สีหน้าของหลินเฟิงหม่นหมองลงเรื่อยๆ
เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากต้องพึ่งพาเผ่าโบราณ
หากไม่มีความช่วยเหลือจากเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ เขาก็คงแก้แค้นจวินเซียวเหยากับตระกูลน่าหลานไม่ได้
“เฮอะ อยากพูดอะไรก็พูดไป ยังไงพวกเจ้าก็เป็นแค่กลุ่มคนใกล้ตายเท่านั้น” หลินเฟิงหรี่ตามอง
ขณะนั้นเอง น่าหลานจ้านก็ก้าวออกไป เขากวาดตามองพวกเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด และเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “พวกท่านก่อเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ไม่กลัวหรือว่าจะทำให้นายน้อยขุ่นเคือง?”
คำพูดของน่าหลานจ้านทำให้เสียงอึกทึกครึกโครมเงียบลงชั่วครู่ กลายเป็นภาพที่หาชมได้ยาก
เผ่าโบราณทุกตนล้วนทราบดีว่า นายน้อย ในคำพูดของน่าหลานจ้านหมายถึงใคร
ในสายตาของเผ่าโบราณบางตนก็มีความกลัวอยู่
ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นถึงลูกหลานของขุมกำลังอมตะจากดินแดนอมตะ คงไม่มีใครที่จะไม่กลัวเขา
แต่เผ่าโบราณส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ดูหวาดกลัวแต่อย่างใด
“ลูกหลานของขุมกำลังอมตะลงมาแล้วมันยังไง? ตระกูลโบราณเหล่านั้นทำไม่ได้แม้แต่การควบคุมดินแดนเบื้องล่างทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีเผ่าโบราณระดับจักรพรรดิและขุมกำลังอื่นๆ คอยคานอำนาจอยู่” เสียงแหบแห้งของทวดแมงมุมทองจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจดังขึ้น
ถ้าพวกเขากลัวกันจริงๆ ก็คงไม่ก่อกบฏขึ้นมา
หลินเฟิงถึงกับพูดจาอย่างโอหัง “ถ้าจวินเซียวเหยามันกล้าโผล่มา หลินเฟิงคนนี้แหละที่จะเด็ดหัวมันไปปลอบประโลมวิญญาณของพี่น้องตระกูลหลินบนสวรรค์!”
“กล้าดียังไงถึงปองร้ายนายน้อย!” น่าหลานลั่วซีตะโกนเสียงแหลม
สำหรับนางแล้ว จวินเซียวเหยาคือบุคคลที่นางใฝ่ฝันและปรารถนา นางจะไม่ยอมให้ใครมาดูหมิ่นเขาเด็ดขาด
“น่าหลานลั่วซี นังสารเลว เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้อย่างสาสมทีหลัง!” หลินเฟิงเผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม
เดิมที หญิงสาวนางนี้ควรจะเป็นคู่หมั้นและคนคู่กายของเขา
แต่ตอนนี้นางกลับปกป้องผู้ชายคนอื่นสุดหัวใจ
ถึงจะมีความแค้นกับน่าหลานลั่วซีอยู่ แต่หลินเฟิงก็ยังทนไม่ได้อยู่ดีที่หัวใจของนางถูกผู้ชายคนอื่นชิงไป
“ไม่ต้องเสียเวลาคุยกับพวกมดปลวกแล้ว ฆ่าพวกมันซะ!”
หนึ่งในนักบุญของเผ่าอินทรีฟ้าครามลงมือ
ด้วยการนำของเขา ทั้งทวดแมงมุมทอง นักบุญเผ่าภูตไฟ และยอดฝีมือของเผ่าโบราณทั้งหมดก็เริ่มเคลื่อนไหว
ดึงผมเส้นเดียวสะท้านทั่วร่าง เพียงการเคลื่อนไหวเดียว สงครามโกลาหลก็ปะทุขึ้นทันที
“เปิดค่ายกล!” น่าหลานจ้านตะโกน
ทั่วทั้งตระกูลน่าหลานภายในบริเวณยอดเขาโบราณ ลวดลายอักขระนับไม่ถ้วนผุดขึ้นจากพื้นกลายเป็นวงแหวนเรืองแสงวงแล้ววงเล่า
มีทั้งค่ายกลป้องกันและค่ายกลจู่โจม
อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าของกองทัพอันแข็งแกร่งของเผ่าโบราณ ค่ายกลเหล่านี้ทำได้ดีที่สุดแค่ประวิงเวลาเท่านั้น และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับมือกับพวกมันได้อย่างสมบูรณ์
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่าพวกมัน! ฆ่าพวกเผ่าโบราณเหล่านี้ให้หมด!”
“สงครามครั้งนี้ ไม่ตายก็รอด แต่ถ้าเจ้ามัวแต่ถอย พวกเราได้ตายห่ากันหมดแน่!”
มนุษย์ทุกคนเริ่มการโต้กลับ เพราะถ้าขืนไม่สู้ ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่
“ไร้ประโยชน์!” เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นักบุญเผ่าภูตไฟเพียงโบกมือเบาๆ เปลวเพลิงแดงฉานสุดลูกหูลูกตาก็ลุกไหม้ไปทั่วท้องฟ้า
นักบุญของฝั่งมนุษย์ก็ลงมือเช่นกัน แต่ทั้งจำนวนและความแข็งแกร่งของพวกเขาต่างก็ด้อยกว่านักบุญของเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงทำได้แค่รับมืออย่างยากลำบาก
เคล็ดวิชาและทักษะโจมตีหลากหลายชนิดเข้าปะทะกัน ก่อให้เกิดคลื่นพลังอันมหาศาล
ยอดเขาโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ด้วยภูเขาเขียวขจี ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นผืนดินที่ไหม้เกรียมในพริบตา
ทหารปะทะทหาร ขุนพลปะทะขุนพล
เหล่านักบุญฝ่ายมนุษย์ที่มีจำนวนน้อยนิดกำลังดิ้นรนสุดความสามารถในการรับมือนักบุญของเผ่าโบราณ
ยอดฝีมือที่เหลือต่างก็ต่อสู้กันเป็นคู่ๆ
ส่วนหลินเฟิง เขามุ่งเป้าไปที่น่าหลานลั่วซีทันที
รากเหง้าของทุกสิ่งอย่างเริ่มต้นมาจากการถอนหมั้นของน่าหลานลั่วซี
ดังนั้น หลินเฟิงจึงอยากจะเอาชนะน่าหลานลั่วซี และทำให้นางต้องเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง!