ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 18 วาดกระบี่นับพัน
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 18 วาดกระบี่นับพัน
ยามเช้า
สายลมเย็นพัดมาเป็นระลอกราวกับจะมาหาเรื่อง
อาณาเขตตระกูลหลัว
ในลานแห่งหนึ่ง
หลัวจิ่วเกอ กำลังถือกระบี่ยาวเปื้อนสนิมซึ่งดูเหมือนจะชำรุดอยู่ในมือ
แกว่งไปมาอย่างช้า ๆ
ในตอนแรก วิถีการแกว่งกระบี่ยาวดูยุ่งเหยิงสับสน เหมือนเป็นการแกว่งไปมาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
แต่เมื่อเวลาผ่านไป
กระบี่ยาวเปื้อนสนิมในมือของหลัวจิ่วเกอ ก็ราวกับมีชีวิตขึ้นมา ราวกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของแขนของเขา
เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว
ราวกับกำลังเต้นระบำอยู่ในห้วงอวกาศอย่างมีความสุขอย่างยิ่ง
เช่นเดียวกัน เมื่อการแกว่งกระบี่ดำเนินต่อไป
และเมื่อเวลาผ่านพ้นไป
อำนาจกระบี่บนร่างของหลัวจิ่วเกอ ซึ่งแต่เดิมนั้นอ่อนแออย่างมาก
ทันใดนั้น ก็กลับยิ่งเฉียบคมขึ้น ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
"ฟู่......"
"นี่คือความเข้าใจต่อเต๋ากระบี่จากการเฝ้าดูชายหนุ่มในเศษเสี้ยวกฎกระบี่ฝึกฝนหรือ?"
"ช่างละเมียดละไมยิ่งนัก!"
จนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูง
ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นและร้อนแรงขึ้นทีละน้อย
หลัวจิ่วเกอจึงค่อย ๆ วางกระบี่เปื้อนสนิมในมือลง
ก่อนอื่นเขาหยิบผ้าผืนหนึ่งออกมา เช็ดกระบี่อย่างทะนุถนอม
หลังจากนั้น ก็เหน็บกระบี่ไว้ที่เอว
ส่วนตัวเขาเองก็เดินไปในอาณาเขตตระกูลหลัว
......
"มาเร็วเข้า ไล่ตามข้ามาสิ…”
"เข้ามา"
"ตามไม่ทัน เจ้าตามข้าไม่ทันหรอก"
ในขณะนี้
สิ่งที่เห็นได้คือ
เด็ก ๆ ในอาณาเขตตระกูลหลัว ซึ่งอายุยังน้อยกำลังวิ่งเล่นกันอยู่
ส่วนผู้อาวุโสในอาณาเขตตระกูลหลัว
ก็นั่งอยู่บนหน้าประตูอย่างเอกเขนก
หรือไม่ก็มาชุมนุมกันเป็นกลุ่ม
พูดคุยเล่นกันอย่างผ่อนคลาย
แน่นอนว่า ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในห้อง
หรือไม่ก็ข้างนอกเรือน
สูดซับปราณวิญญาณที่หลั่งไหลอยู่ในห้วงอากาศอย่างเต็มที่
ดูเหมือนจะอยากจะทำทุกอย่างเท่าที่ตนเองทำได้
เพื่อเพิ่มพูนฐานพลังยุทธ์
ดังนั้น จึงเสริมความแข็งแกร่งให้ตระกูลหลัว
ด้วยเหตุนี้ พลังอำนาจที่สามารถปกป้องตระกูลหลัว และข่มขู่คนอื่นได้ก็เกิดขึ้น
......
"หืม?"
ระหว่างที่เดินอยู่
หลัวจิ่วเกอก็หยุดเดิน
ในทิศทางนั้นก่อนหน้านี้ ในตำแหน่งที่อยู่ก่อนหน้านี้
เด็กหนุ่มที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความอ่อนเยาว์คนก่อนหน้า ผุดขึ้นมาในสายตาของหลัวจิ่วเกออีกครั้ง
"2,998......"
"2,999......"
"3,000......"
เมื่อนับถึงสามพัน
เสียงก็ขาดหายไปโดยกะทันหัน
หลังจากนั้น ก็มีเสียงดังกึกก้อง
เด็กหนุ่มล้มลงบนพื้น
ทรวงอกตะเกียกตะกายอย่างรุนแรง หายใจหอบเอาอากาศเข้าปอดเป็นจำนวนมาก
"ยังเป็นเด็กหนุ่มคนนั้นอีกหรือ?"
"พยายามไม่เลว......"
เขาหัวเราะพลางส่ายหน้า หลัวจิ่วเกอก็จากไป
การฝึกฝนคนรุ่นหลัง
การเพิ่มพูนพลังอำนาจของตระกูล
ไม่อาจเกิดขึ้นภายในชั่วข้ามคืน และก็ไม่ได้ง่ายดายเหมือนในจินตนาการ
"เร่งรัดไม่ได้......"
"เรื่องนี้ เร่งรัดไม่ได้......"
เขาพึมพำเบา ๆ
ในไม่ช้า หลัวจิ่วเกอก็กลับไปที่ลานของตนเอง
ก่อนอื่นก็รดของเหลววิญญาณให้กับรากวิญญาณที่ปลูกในสวนวิญญาณขนาด 3 หมู่
จากนั้น ก็นั่งขัดสมาธิลงบนพื้น เริ่มการฝึกฝนวันใหม่
......
ผ่านไปหนึ่งวันในชั่วพริบตา
"ขอบเขตกายาเต๋า 2 สวรรค์......ทะลวงผ่าน!!"
เสียงดังลั่น
ในอาณาเขตตระกูลหลัว
ในลานบางแห่งซึ่งหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายโบราณ
ทันใดนั้น มีปราณเซียนมหาศาลทะลักออกมา
และหากสังเกตอย่างละเอียด
ก็จะพบว่า หลัวจิ่วเกอกำลังหลับตานั่งขัดสมาธิอยู่กลางลาน
ด้านหน้าของเขา มีแก่นเทวะจอมเทพลอยอยู่ด้วย
เมื่อเวลาผ่านไป
ราวห้านาทีต่อมา
หลัวจิ่วเกอ จึงค่อย ๆ ลืมตาที่ดำสนิทและลึกลับขึ้นอย่างช้า ๆ
ถอนหายใจออกมาทางจมูกเป็นไอขุ่น
"นี่คือพลังที่ควบคุมโดยขอบเขตกายาเต๋า 2 สวรรค์หรือ?"
"ดูเหมือนว่า จะแข็งแกร่งกว่าขอบเขตกายาเต๋า 1 สวรรค์อีกหลายเท่า......"
เขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลในร่างกายแล้วก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ ยืดกล้ามเนื้อ
จากนั้น ก็เดินออกไปอีกครั้งตามลำพังในอาณาเขตตระกูลหลัว
จนกระทั่ง เขามาถึงมุมหนึ่งตามความทรงจำ
เสียงที่ฟังดูอ่อนเยาว์ ก็ดังขึ้นที่ข้างหูของเขาอีกครั้ง
"3,998......"
"3,999......"
"4,000......"
หลังจากเพิ่มจำนวนการวาดกระบี่อีกประมาณพันครั้ง
ในที่สุดเด็กหนุ่มที่มีผมสั้นสีดำ แม้ใบหน้าจะดูอ่อนเยาว์ แต่มีแต่ความมุ่งมั่นและความปรารถนาเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตา
ก็ล้มลงบนพื้นในที่สุด
วาดกระบี่ไม้ไปถึงสี่พันครั้ง
เขาใช้พลังทั้งหมดที่เหลือจนหมดสิ้น
......
เด็กหนุ่มชื่อ หลัวฮ่วย
ตั้งแต่เล็กก็ใช้ชีวิตในตระกูลหลัวอย่างสุขสบายไร้กังวล
ยิ่งกว่านั้น ในช่วงนี้เขาได้ยินตำนานต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับบรรพบุรุษ
หลัวฮ่วยมีความเลื่อมใสต่อบรรพบุรุษตระกูลหลัวที่พลังลึกล้ำเหลือคณานับของเขาอย่างมาก
เขาคิดว่าบรรพบุรุษคือผู้พิทักษ์ของตระกูลหลัว
เขาคิดว่าตราบใดที่ยังมีบรรพบุรุษอยู่
ตระกูลหลัวจะต้องเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
แต่หลังจากเผชิญวิกฤตครั้งก่อน
ทันใดนั้น หลัวฮ่วยก็พบว่าเขาคิดผิดไปแล้ว
ความสามารถของบรรพบุรุษมีจำกัด
บรรพบุรุษ
สุดท้ายก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ก็เหนื่อยเป็นเช่นกัน
ครั้งก่อนนั้น บรรพบุรุษสามารถรับมือได้
แล้วครั้งต่อไปล่ะ? ครั้งต่อ ๆ ไปล่ะ? ครั้งต่อ ๆ ไปอีกล่ะ?
บรรพบุรุษยังจะรับมือไหวอยู่หรือ?
ดังนั้น นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา
หลัวฮ่วยน้อยก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย
เขาไม่ค่อยชอบหัวเราะแล้ว
เขากลายเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูดจา
เขากลายเป็น...คนที่ชอบไปซ่อนตัวอยู่มุมไหนสักมุมคนเดียว แอบกำกระบี่ไม้ในมือแล้ววาดกระบี่อย่างหนักหน่วง
เขากลายเป็นคน...
ที่ปรารถนาพลังอำนาจอันแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
เพื่อปกป้องผู้คนในตระกูลหลัว
ปกป้องทั้งตระกูลหลัว
รวมทั้ง ปกป้องบรรพบุรุษของเขา
ให้บรรพบุรุษได้มีชีวิตอย่างสงบสุข
เพียงแต่ เมื่อเวลาผ่านไป หลัวฮ่วยก็ค่อย ๆ รู้สึกว่าตัวเองดูจะไร้เดียงสาเกินไปหน่อย
พลังอำนาจอันทรงพลัง
มันได้มาง่าย ๆ ที่ไหนกัน
ฝึกฝนอยู่คนเดียวอย่างยากลำบากหลายวันหลายคืน แต่ฐานพลังยุทธ์กลับไม่ค่อยพัฒนาเท่าไร
นี่ทำให้หลัวฮ่วยอดใคร่ครวญไม่ได้
เขายังมีความสามารถที่จะปกป้องตระกูลหลัวได้อยู่อีกหรือ?
"หลัวฮ่วยเอ๋ย หลัวฮ่วย เจ้าไม่มีประโยชน์อะไรเลย!!"
"แค่นี้ ยังจะคิดจะปกป้องตระกูลหลัวอีกหรือ?"
"ยังจะคิดช่วยบรรพบุรุษหรือ?"
"อย่าฝันไปเลย......"
เด็กชายที่นอนหมดแรงอยู่บนพื้น กัดฟันแน่น
ร่างกายกระตุกเล็กน้อย
ดวงตาแดงก่ำ
น้ำตาไหลออกมาอย่างอ่อนแอ