บทที่ 42 นี่คือทัศนคติที่เจ้าควรจะมีเมื่อเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจ!
“เป่ยเสวียนเทียน... จักรพรรดิ!”
ถังหยูตื่นตะลึง
เขาจินตนาการว่าคนในราชรถหยกต้องเป็นผู้ทรงเกียรติ
ไม่คาดคิดเลยว่าจะกลายเป็นสวามีของจักรพรรดินิเสวียนปิง.
นี่คือตัวตนที่น่าตื่นตะลึงโดยแท้จริง.
ต้องทำคุณงามความดีเท่าใดกัน ประเทศหลานอวิ๋นถึงได้นำจักรพรรดิมาที่นี่ได้?
อย่างไรก็ตามถังหยูก็ไม่คิดว่าอู๋จิงเซียนจะเอ่ยเรื่องไร้สาระแต่อย่างใด.
ท่าทางและกลิ่นอายของหลินซวนนั้น หาได้ยากยิ่งในโลกหล้า ดูโดดเด่นเหนือธรรมชาติทันทีที่ปรากฏขึ้น.
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ถังหยูก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวั่นเกรง ก้าวไปข้างหน้า และโค้งคำนับด้วยความเคารพต่อหน้าหลินซวน:
“ถังหยูแห่งอาณาจักรหลานอวิ๋น คารวะจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!”
แม้ว่าเพื่อไม่ให้หลินซวนดูแคลนถังหยูจึงไม่กล้าเอ่ยสถานะกษัตริย์ของเขาออกมา.
หลินซวนพยักหน้าเล็กน้อย
เขามองไปยังถังหยู เขาไม่เหมือนกับกษัตริย์ที่ขี้ขลาด ทว่าท่าทางของเขาก็ดูเป็นเพียงกษัตริย์ทั่วไปเช่นกัน.
คนเช่นนี้ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่น่าแปลกใจเลยว่าประเทศหลานอวิ๋นถึงเผ่าอัคคีกดขี่.
ด้านข้าง ป้าตู้หลินและมู่เกอตลอดจนเหล่าเผ่าอัคคีหลายพันคนที่มองหลินซวน พร้อมกับเผยความกังวลใจขึ้นมาทันที.
จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน
เพียงห้าคำนี้ก็กวาดล้างความเย่อหยิ่งของพวกเขาไปจนหมด.
แม้แต่เวลานี้รู้สึกตึงเครียดจนแทบไม่อาจซ่อนมันเอาไว้ได้.
เห็นชัดเจนว่าผู้ทรงเกียรติที่มายังพระราชวังหลานอวิ๋น ในครั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าพวกเขารุกรานประเทศหลานอวิ๋น.
ด้วยการสนับสนุนของอีกฝ่าย เผ่าอัคคีทั้งหมดก็ยากจะอยู่รอดได้.
หลังจากตั้งสติได้แล้ว.
ป้าตู้หลินที่รวบรวมความกล้า ก้าวไปด้านหน้า ยกมือขึ้นวางทาบอกโค้งคำนับให้กับหลินซวน.
“ป้าตูหลินเผ่าอัคคี คารวะจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!”
มู่เกอและนักรบคนอื่น ๆ ต่างก็โค้งคำนับแสดงความเคารพออกมาเช่นกัน“คารวะจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!”
พวกเขาทั้งหมดดูดุร้ายและทรงพลัง แต่ต่อหน้าหลินซวน พวกเขาแทบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
แม้แต่สัตว์อสูรที่ติดตามพวกเขาก็ยังก้มหัว ตื่นตระหนกภายใต้แรงกดดันที่อธิบายไม่ได้ที่แผ่ออกมา.
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว องค์รักษ์ของพระราชวังหลานอวิ๋นก็รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นในใจ
"ทันทีที่จักรพรรดิ์เป่ยเสวียนเทียนปรากฏ คนเหล่านี้ก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรเลย กระทั่งกลุ่มหลานเต่าเผ่าอัคคีที่บ้าคลั่งไดแต่หวาดกลัวมากจนหน้าซีดไปแล้ว!"
“จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนอยู่ที่นี่ พวกเราประเทศหลานอวิ๋นรอดแล้ว!”
“ตี้ฟู่ ข้าแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง!”
เหล่าองค์รักษ์ที่เอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวั่นเกรงและเคารพ.
“ตี้ฟู่เชิญ!”
ถังหยูรีบเชิญ นำหลินซวนและธิดา เข้ามาในห้องโถงใหญ่
และที่นั่งของ หลินซวน และเหล่าธิดา ก็คือบัลลังก์ทองคำของถังหยูอย่างไม่ต้องสงสัย.
นับเป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงทั้งสี่ได้นั่งบนบัลลังก์ทองคำ ขณะที่พวกนางมองทุกสิ่งรอบตัว ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเห็นว่ามีหัวมังกรทองอยู่บนที่วางแขนทั้งสองข้าง เสวียนซีและเสวียนหยูก็ขึ้นไปขี่ พร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข.
“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ ดูสิ พวกเรากำลังขี่มังกรอยู่!”
หลินซวนมองดูพวกนาง "สนุกไหม?"
"สนุกมาก!" สาวน้อยทั้งสองเผยท่าทางมีความสุขมาก
สำหรับเสวียนจู่ และ เสวียนหาน พวกนางยืนอยู่บนเก้าอี้มังกรและคลำไปมา ปากของนางพึมพำและครุ่นคิด
"เก้าอี้ตัวนี้น่าสนใจมาก แต่มันเล็กกว่าของเก้าอี้เสด็จแม่มาก"
“ใช่ ๆ เก้าอี้เสด็จแม่ดูเย็นไป แต่อันนี้ดูอุ่น”
เมื่อได้ยินคำเอ่ยของพวกนาง ถังหยูและคนอื่น ๆ ก็แสดงท่าทีตื่นตะลึง
ได้ยินคำพูดของธิดาของจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนที่เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาก็ทำให้พวกเขาสั่นสะท้าน!
ถังหยูก้าวไปด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วเอ่ยออกมาว่า“องค์หญิงน้อย เก้าอี้ของดินแดนเบื้องล่างจะเทียบกับของฝ่าบาทได้อย่างไร.”
“แต่หากองค์หญิงชอบ ก็สามารถเล่นได้ตามที่ต้องการ!”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสี่พยักหน้าพร้อมกัน ซึ่งทำให้ถังหยูดูใจชื้นขึ้นมา.
เขาบอกได้ว่าหลินซวน หลงใหลบุตรสาวอันล้ำค่าทั้งสี่เป็นอย่างมาก
ตราบใดที่พวกนางชอบที่นี่ หลินซวนจะช่วยเขาให้พ้นจากสถานการณ์ลำบากอย่างแน่นอน
ต่อมา.
ถังหยูเอ่ยอย่างเคร่งขรึม: "เรียนจักรพรรดิ์ ข้าขอร้องให้ท่านมอบความยุติธรรมให้อาณาจักรหลานอวิ๋นของพวกเราด้วยเถิด"
“ตราบเท่าที่เผ่าอัคคีไม่รุกรานประเทศพวกเรา พวกเราก็ยินดีที่จะอยู่อย่างสงบสุขกับพวกเขา และสามารถทำธุรกิจกับพวกเขาด้วย.
หลินซวนเหลือบมองถังหยูเล็กน้อยด้วยท่าทางนึกสนุก.
“เจ้ายินดีใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่ในสายตาของคนอื่น นี่อาจเป็นการแสดงความขี้ขลาด.
ป้าตู้หลินที่ก้าวเข้ามาในห้องโถงอย่างกล้าหาญ อดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกขาแข็งเกร็งไปเหมือนกัน.
คำพูดของหลินซวนที่ทำให้เขาต้องสูดหายใจลึก.
“เป็นไปได้ว่าจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนต้องการใช้กำลังกับเผ่าอัคคีของพวกเราอย่างงั้นรึ?”
ป้าตู้หลินเงยหน้าขึ้นมองหลินซวนบนบัลลังก์ทองคำด้วยท่าทางประหม่า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หากเป่ยเสวียนเทียน เคลื่อนไหว เผ่าอัคคีอาจถูกกวาดล้างในพริบตาเดียว.
เมื่อนึกถึงเรื่องดังกล่าว ป้าตู้หลินก็เร่งรีบก้าวออกมาด้านหน้า โค้งคำนับ “คำพูดของจักรพรรดิ ดูจริงจังเกินไป!”
“เผ่าอัคคีของพวกเรายินดีที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับประเทศหลานอวิ๋น และจะไม่รุกรานอีกฝ่ายนับจากวันนี้!”
ถังหยูที่จ้องมองป้าตู้หลินด้วยความประหลาดใจ.
เขาไม่คาดคิดเลยว่าป้าตู้หลินที่อหังการต่อหน้าเขาจะริเริ่มเอ่ยออกมาเช่นนี้.
นี่คือ...คืออำนาจของจักรพรรดิ์
หลินซวน เอ่ยอย่างสงบ: "เผ่าอัคคีของเจ้า ชอบรังแกผู้ที่อ่อนแอและแย่งชิงทรัพยากรทั้งหมดไป เป็นไปได้ว่าในโลหิตมีความก้าวร้าวแฝงอยู่"
“และข้ายังได้ยินมาว่า พวกเจ้าครอบครองพื้นที่หลายแห่ง สังหารผู้คนไปมากมาย ในช่วงหลายปีมานี้ แล้วข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร.”
ฟู่ ๆ~
หลินซวนที่จงใจควบคุมกลิ่นอายเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้สมบัติน้อยทั้งสี่ได้รับผลกระทบ.
แรงกดดันของจักรพรรดิที่น่าพรั่นพรึง เหมือนกับเทือกเขาใหญ่ยักษ์จากสวรรค์ทั้งเก้า กดทบทุกคนลงมาทันที.
ถังหยู ป้าตู้หลินและคนอื่น ๆ ที่รู้สึกหัวใจของพวกเขาหดเกร็ง.
แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวนี้ไม่อาจอธิบายออกมาได้ ทำให้พวกเขาแทบหายใจไม่ออก.
ป้าตู้หลินที่เร่งรีบเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว“ข้ายินดีสาบานในนามของเทพแห่งเปลวเพลิง ข้าจะทำตามที่กล่าวอย่างแน่นอน!”
“ไม่เพียงเท่านั้น ชนเผ่าของพวกเราก็จะคืนทรัพยากรทั้งหมดที่ปล้นไปจากประเทศหลานอวิ๋นตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วย!”
“นอกจากนี้ พวกเรายินดีที่จะเคลื่อนย้ายเผ่าของพวกเราไปยังทิศเหนือห่างออกไปเจ็ดพันกิโลเมตร รักษาระยะห่างจากชายแดนหลานอวิ๋น!”
เขากังวลมาก จนเสนอเงื่อนไขการชดเชยมากมายออกมาในคราวเดียว
เขาเชื่อว่าแม้แต่พี่ชายคนโตของเขา ป้าตู้ถูอยู่ที่นี่ ก็ต้องเอ่ยเช่นเดียวกับเขา.
เป็นเพราะรัศมีของอาณาจักรจักรพรรดิของ หลินซวน น่ากลัวมาก จนเขารู้สึกตัวเองเล็กกระจิดริดไม่ต่างจากมด
“ให้เวลาเจ้าสามวัน ถ้าเจ้าทำไม่ได้...” หลินซวนยิ้มเล็กน้อย แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน.
“เรียนจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน โปรดวางใจ พวกเราจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด แม้แต่อาจเสร็จในวันเดียว!”ป้าตู้หลินที่เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว.
หลินซวนพยักหน้าเล็กน้อย
นับจากนี้ เขาเชื่อว่าเผ่าอัคคีจะไม่กล้าก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายอีก.
นี่คือสิ่งที่เขามอบให้กับประเทศที่เขาอาศัยอยู่.
เมื่อได้รับอนุมัติจากหลินซวนแล้ว ป้าตู้หลินที่หันหลังกลับและออกจากห้องโถงอย่างรวดเร็ว.
ป้าตู้หลินที่แอบเช็ดเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกจากหน้าผาก.
“มารดาเถอะ มันจะโชคร้ายเกินไปแล้ว ข้าทำอะไรผิดพลาดถึงได้พบกับผู้ยิ่งใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้กัน?”
เขาที่ถอนหายใจยาว ก่อนที่จะเรียกมู่เกอและคนอื่น ๆ เดินทางออกไป.
หลังจากออกจากประตูวังหลวง มู่เกออดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมาว่า“รองหัวหน้า ท่านเสนอเงื่อนไขมากเกินไป พวกเราจะทำเสร็จวันเดียวได้อย่างงั้นรึ?”
“ทำไม่ได้ก็ต้องทำ!”ป้าตู้หลินเอ่ยเสียงดัง.
“แม้ว่าพี่ชายของข้าจะอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องเอ่ยเช่นเดียวกัน!”
"ท้ายที่สุด ต่อหน้าจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน ข้าไม่มีที่ว่างให้ได้ต่อรองเลย!"
“แทนที่จะปล่อยให้เขาเอ่ย เป็นการดีกว่าที่จะเริ่มเอ่ย แม้ว่าสถานการณ์จะร้ายแรง แต่นี่คือทัศนคติที่เจ้าควรมีเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่มีอำนาจมากกว่า!”
มู่เกอและคนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
วันนี้ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่า ความยิ่งใหญ่ของบุคคลสามารถสะกดผู้คนได้มากมายขนาดไหน.