ตอนที่8
“แอ้ๆๆๆ”
“โอโห ลูกสาวใครเนี่ยธุจ้าสวยจังเลยค่า”
“แอร๊ะ..” เจ้าก้อนเหมือนจะรู้ว่ามีคนชมยินคำชมจึงส่งเสียงเอิ้กอ้ากหัวเราะชอบใจใหญ่
“รู้ด้วยว่ามีคนชม..หนูรู้ใช่ไหมคะน่าฟัดจริงๆเลยยัยหนู” มือเรียวของดวงแขยื่นขยำพุงพุ้ยแพรชมพูเบาๆด้วยความเอ็นดู
“หนูพลอยหนูแก้วทีหลังไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหญิงแล้วนะจ้ะเรียกฉันว่าแม่เถอะจะ” ดวงแขว่าจะคุยกับสองสาวเรื่องนี้ตั้งแต่เจอกันวันนั้นแล้ว
“จะดีเหรอคะคุณหญิงคือพลอยคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไรค่ะ”
“ใช่ค่ะคุณหญิง” สองสาวหันมองหน้ากันด้วยท่าทีที่เกรงใจดวงแขไม่น้อย
“ไม่เหมาะอะไรกัน..ก็ฉันน่ะมีลูกชายแค่คนเดียวลูกสาวก็ไม่เคยมีแถมฉันยังอยากได้ยัยหนูชมพูมาเป็นหลานอีกด้วยมาเป็นลูกสาวแม่กันนะถือว่าเห็นใจคนแก่ขี้เหงาที่อยากมีลูกเยอะๆด้วยเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ..พลอยต้องขอบคุณมากๆเลยนะคะที่เอ็นดูพวกเรา” สองสาวจำต้องจำนนกับลูกอ้อนของดวงแข
“งั้นทีนี้ยัยหนูชมพูก็เป็นหลานยายแล้วสินะ..มาให้ยายอุ้มหน่อยเร็วคนเก่ง” พอสองสาวตอบรับความต้องการได้คุณหญิงก็ยิ้มปลื้มปริ่มก่อนจะยกสองแขนขออุ้มเจ้าก้อนกลมที่น่ารักน่าเอ็นดูที่อยู่กับลูกแก้ว
“..อื้มมม..หม่ำๆๆๆๆ” ดูท่าเจ้าก้อนกลมจะเข้าใจผิดคิดว่าคนขออุ้มจะยื่นอะไรให้เลยเอ่ยหม่ำๆขอของกินก่อนจะยัดกำปั้นเข้าปากเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนในที่นี้ได้เป็นอย่างดี
“สงสัยจะหิวสินะ...ดูซิเนี่ยกินเก่งจนตัวกลมหมดแล้ว” ดวงแขนึกเอ็นดูแพรชมพูเสมือนหลานเธอจริงๆจึงรู้สึกกระชุ่มกระชวยไม่น้อยที่จะมีหลานเล็กมาอยู่ด้วยต่อไปนี้เธอก็จะไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว
ทั้งพลอยไพลินและลูกแก้วต่างเกรงใจคุณหญิงดวงแขที่มาอาศัยบ้านเขายังไม่พอแถมจะยกฐานะให้พวกเธออีกทั้งสองเห็นว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไรเพราะกลัวว่าคนในบ้านจะมองไม่ดีจึงตอบปฏิเสธคุณหญิงไปแต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของคุณหญิงที่ดูว่าจะเหงาจริงๆทั้งสองจึงต้องจำใจยอมตอบตกลงคำขอของคุณหญิงดวงแขจนได้
ครู่ต่อมา
“ฉันว่าเราไปทานข้าวกันก่อนเถอะเดี๋ยวจะสาย” ดวงแขเอ่ยปากชวนทุกคนทานข้าววันนี้มีกับข้าวมากปกติเพราะทำเผื่อทุกคนที่มาอยู่ใหม่ด้วย
“หนูพลอยทานเลยนะคะ เดี๋ยวนมจะป้อนข้าวหนูชมพูให้เองค่ะ”
“จะดีเหรอคะนมนิดเดี๋ยวพลอยป้อนข้าวยัยหนูก่อนแล้วค่อยทานก็ได้ค่ะ” จากที่เกรงใจดวงแขมากแล้วตอนนี้ยังต้องมาเกรงใจนมนิดอีก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..นมกินตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะแล้วอีกอย่างคุณพลอยก็ต้องไปดูคุณพอลต่ออีกนมทำข้าวต้มหมูไว้ให้หนูชมพูแล้วด้วยค่ะ” พลอยไพลินเห็นมีจะขัดอะไรไม่ได้เพราะกลัวจะถูกหาว่าเธอหวงลูกอีกอย่างวันนี้หรือวันต่อๆไปนมนิดก็ต้องคอยดูแลลูกของเธออยู่แล้วจะสร้างความคุ้นเคยไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
“งั้นต้องรบกวนนมนิดด้วยนะคะ”
“ยินดีค่ะ” พูดจบนมนิดก็ไปอุ้มเจ้าก้อนมานั่งที่รถเข็นเด็กข้างๆโต๊ะทานข้าวแล้วก็ตักข้าวต้มที่กลิ่นหอมฉุยพลางใช้ปากเป่าให้ข้าวต้มเย็นลงก่อนป้อน..ยัยหนูชมพูดูท่าจะชอบข้าวต้มฝีมือนมนิดเอามากซะด้วยสิดูได้จากการประท้วงเมื่อนมนิดป้อนไม่ทันแล้วเจ้าตัวกลมก็เด้งตัวขย่มรถที่ตัวเองนั่งภาพตรงหน้าทำเอาคุณหญิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอ็นดูหลานคนใหม่คนนี้จริงๆ
“หนูชมพูนี่เหมือนคุณพอลตอนเด็กๆเลยนะคะคุณหญิง...ชอบกินข้าวต้มหมูพอป้อนไม่ทันก็ประท้วงน่าเอ็นดูจริงๆค่ะ”
พลอยไพลินชะงักค้างเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าพอลแต่คิดว่าคงไม่น่าจะใช่คนๆเดียวกับที่เธอคิดถึงอยู่ตลอดเพราะป่านนี้เขาคงแต่งงานเลี้ยงลูกมีความสุขกับคู่หมั้นของเขาไปแล้ว
“ก็ข้าวต้มของนมนิดทั้งอร่อยทั้งหอมเด็กคนไหนก็ชอบทานทั้งนั้นแหละจะ” ดวงแขเอ่ยเรื่องจริง
“อย่าว่าแต่เด็กเลยค่ะ แก้วได้กลิ่นแก้วยังอยากทานเลยค่ะ” ลูกแก้วที่ได้ชิมข้าวต้มในถ้วยแล้วจึงเอ่ยเสริมขึ้นมา
“หืม หนูแก้วปากหวานเดี๋ยวพรุ่งนี้นมจะทำหม้อใหญ่เผื่อทุกคนไปเลยค่ะ” โต๊ะอาหารวันนี้ดูสดชื่นกว่าทุกวันมีเสียงหัวเราะเฮฮาเพราะขำกับเด็กผู้หญิงตัวกลมบ้างและก็คุยกันบ้าง
ทำให้สีหน้าคุณหญิงวันนี้มีแต่รอยยิ้มอย่างเห็นได้ชัดทั้งลูกแก้วและพลอยไพลินเห็นคุณหญิงมีรอยยิ้มก็ใจชื้นขึ้นมาที่ทำให้คนที่เครียดกับลูกชายมีรอยยิ้มขึ้นมาได้บ้างและหวังว่าที่คุณหญิงจะได้เลี้ยงและได้อยู่กับยัยหนูชมพูคงทำให้คุณหญิงลืมเรื่อเครียดๆไปได้บ้างเหมือนกัน
ถึงวันนี้พลอยไพลินจะไม่เห็นลูกชายของคุณหญิงมาทานข้าวที่นี่แต่ก็รู้ว่าชื่อพอลเพราะได้ยินจากที่นมนิดเรียกและก็ไม่ได้คิดจะถามด้วยว่าทำไมลูกชายคุณหญิงถึงไม่มาทานข้าวก็คงจะเป็นอย่างที่คุณหญิงละนมนิดพูดจริงๆที่ลูกชายตัวดีของคุณหญิงเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องเธออยากจะเห็นหน้าชายคนนี้จริงๆวันๆอยู่ไปได้ยังไงแต่ในห้องดีแต่ทำตัวให้แม่เป็นห่วง
หลังจากที่ทุกคนทานข้าวเสร็จพลอยไพลินก็ขอตัวกลับมาปั๊มนมให้ลูกสาวตัวกลมพร้อมบอก Stock นมกับนมนิดว่าอยู่ตรงไหนจะได้หยิบถูกเมื่อลูกสาวของเธอร้องหิวนม
ครู่ต่อมา
พอจัดการธุระเสร็จแล้วเธอก็ปล่อยให้ลูกแก้วอยู่กับนมนิดช่วยกันเลี้ยงแพรชมพูส่วนเธอก็เข้ามาหาดวงแขเพื่อที่จะเข้ามาดูอาการลูกชายของคุณหญิงว่าอยู่ขั้นไหนและจะรักษาอย่างไรถึงเธอจะเป็นแค่พยาบาลแต่เพราะความใฝ่รู้เธอจึงชำนาญการรักษาทางกายภาพบำบัดและรักษาด้านอื่นๆเธอก็รักษาได้ดีอีกด้วย
“เรียบร้อยแล้วเหรอหนูพลอย”
“ค่ะคุณแม่พลอยพร้อมแล้วค่ะ” พลอยไพลินเอ่ยด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น
“ก่อนที่หนูพลอยจะเข้าไปเจอตาพอลแม่ขอพูดอะไรอย่างนึงได้ไหม” ดวงแขยื่นมือไปจับมือเรียวของพลอยไพลิน
“ไม่ว่าลูกชายแม่จะไม่ยอมยังไงขอให้หนูพลอยรักษาพี่เค้าให้หายได้ไหมแม่ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว” ดวงตาของดวงแขตอนนี้เริ่มไหวระริกเมื่อมองไปที่พลอยไพลินเธอหวังเป็นอย่างมากว่าพลอยไพลินจะรักษาลูกชายเธอจนหาย
“....” พลอยไพลินสัมผัสได้ถึงความห่วงลูกชายอย่างสุดหัวใจลูกชายของดวงแขคิดในใจว่านี่สินะความรู้สึกของแม่คนนึงแล้วลูกชายตัวปัญหาตอนนี้จะรู้ไหมว่าที่คนเป็นแม่ต้องเครียดอยู่ทุกวันนี้เพราะใคร