[ตอนฟรี] ตอนที่ 194 : กลับทวีปสวรรค์เร้นลับ
บนทวีปสวรรค์เร้นลับ ไฟสงครามโหมกระหน่ำและหมอกควันตลบอบอวล
เหล่าเผ่าพันธุ์โบราณ นำโดยภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคราม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจ และภูเขาศักดิ์สิทธิ์หินดาวตก พวกมันพากันออกมาจากเขตกลางต้องห้ามและไล่สังหารผู้คนอย่างไร้ความปรานี
แม้แต่นิกายสำคัญของมนุษย์อย่างนิกายตงเฉวียนก็ถูกทำลายจนสิ้นซากเพียงชั่วข้ามคืน
เพียงพริบตา มนุษย์ทั่วทั้งทวีปสวรรค์เร้นลับก็รู้สึกหวาดผวา
ราวกับว่าตัวเองกลายเป็นปลาบนเขียงที่รอวันถูกเชือด
และความจริงก็เป็นเช่นนั้น ทุกสถานที่ที่เผ่าโบราณผ่านไป แม้แต่หญ้าสักต้นก็ไม่มีให้เห็น
มนุษย์เพศชายทั้งหมดจะถูกสังหาร ส่วนเพศหญิงจะถูกนำไปเป็นทาส
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ได้บีบให้เหล่าผู้บ่มเพาะต้องรีบหาที่พึ่งพิง
ตระกูลน่าหลานจึงกลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนหวังพึ่งมากที่สุดไปโดยปริยาย
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ยังไงตระกูลน่าหลานก็มีความสัมพันธ์กับบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลโบราณจากดินแดนอมตะ
ต่อให้พวกเผ่าโบราณกร่างมากแค่ไหน แต่พวกมันก็ต้องเกรงกลัวบุตรพระเจ้าจากตระกูลโบราณแห่งดินแดนอมตะอยู่บ้างกระมัง?
ในขณะที่เหล่ามนุษย์กำลังนึกหาทางรอดอยู่ในใจ
สถานการณ์กลับเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมากพอสมควร
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคราม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์หินดาวตก และเผ่าโบราณเผ่าอื่น พวกมันทั้งหมดต่างมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ของตระกูลน่าหลานอย่างพร้อมเพรียง
และดูจากท่าทีของพวกมันแล้ว ดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวเลยด้วยซ้ำ
นี่ทำให้ผู้บ่มเพาะหลายคนขวัญเสีย
เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าจะเป็นผู้สืบทอดของขุมกำลังอมตะแห่งดินแดนอมตะก็ตาม?
ในตอนนี้ กองกำลังมากมายของมนุษย์ต่างมารวมตัวกัน ณ ยอดเขาโบราณที่ตระกูลน่าหลานตั้งอยู่
เมื่อทราบข่าว ตระกูลน่าหลานก็รู้สึกเคร่งเครียดเช่นกัน
สถานการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว
“ดูเหมือนว่าพวกเผ่าโบราณจากเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์กำลังเดินทัพมาที่ตระกูลของพวกเรา นี่ถือเป็นมหันตภัยที่เลวร้ายมาก”
ภายในห้องโถงประจำตระกูลน่าหลาน น่าหลานจ้านถอนหายใจหนัก
ในตอนนี้ ตระกูลน่าหลานกลายเป็นตระกูลที่รุ่งโรจน์ที่สุดบนทวีปสวรรค์เร้นลับอย่างแท้จริง
แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงสาขาดินแดนเบื้องล่างยังต้องยอมสยบต่อตระกูลน่าหลาน
ทว่า ถึงจะมีการผนึกกำลังของตระกูลน่าหลาน แดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง และกองกำลังต่างๆ ของมนุษย์ในเวลานี้
หรือต่อให้พวกเขาร่วมมือกันเป็นอย่างดี มันก็ยากอย่างยิ่งที่จะประจันหน้ากับเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์
ทุกเผ่าพันธุ์จากเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ล้วนทรงพลังมหาศาล และมีนักบุญประจำการอยู่หลายคน
ถ้านับจำนวนนักบุญของเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ละก็ จำนวนจะต้องเกินเลขสองหลักอย่างแน่นอน
ในขณะที่ฝั่งของมนุษย์นั้น จนถึงบัดนี้ ตัวเลขยังไม่เคยเกินสิบคนเลย
หนึ่งในสาเหตุหลักก็คือ การโจมตีของเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป
นักบุญและกึ่งนักบุญบางคนของฝั่งมนุษย์จึงถูกเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์ล้อมสังหารโดยไม่ทันตั้งตัว สุดท้ายก็ตกตายด้วยความเจ็บแค้นในที่สุด
ดังนั้น หากสงครามครั้งนี้เกิดขึ้น ตระกูลน่าหลานจะต้องตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ถึงขีดสุดแน่นอน
ในขณะที่สถานการณ์บนทวีปสวรรค์เร้นลับกำลังตึงเครียด เสถียรภาพของทวีปดวงดาวกลับดีขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากพายุที่วุ่นวายในแดนมืดผ่านพ้นไป ทั่วทั้งทวีปดวงดาวก็สงบลงโดยสมบูรณ์
จวินเซียวเหยาเองก็นำทรัพยากรต่างๆ ที่รวบรวมมาจากคลังสมบัติของพระราชวังแห่งดวงดาวแจกจ่ายให้กับนิกายเสวียนเทียนด้วย
ทรัพยากรพวกนี้จะเสริมสร้างรากฐานและความแข็งแกร่งให้กับนิกายเสวียนเทียนได้มหาศาล
ระหว่างนั้นเอง เจ้านิกายเสวียนเทียนก็ได้แจ้งข่าวบางอย่างให้จวินเซียวเหยารู้
ภายในทวีปมังกรแฝง มีข่าวมาจากราชวงศ์ต้ายิ่นว่าเผ่าคนบาปเริ่มลุกฮือและก่อความวุ่นวายไปทั่วทุกหนแห่ง
โชคยังดีที่รากฐานของราชวงศ์ต้ายิ่นนั้น ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาห้ากองกำลังพันธมิตร
ดังนั้น มันคงไม่มีวิกฤตครั้งใหญ่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้
แต่หากยังเฉื่อยชาอยู่อีก เหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจเกิดขึ้นก็ได้
“เข้าใจแล้ว รอให้ข้าจัดการธุระเล็กๆ น้อยๆ บนทวีปสวรรค์เร้นลับเสร็จก่อน แล้วข้าค่อยไปทวีปมังกรแฝงทีหลัง” จวินเซียวเหยากล่าว
ธุระเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาหมายถึงก็คือการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากหลินเฟิงนั่นเอง
เมื่อเรื่องราวบนทวีปดวงดาวสิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์
จวินเซียวเหยาจึงนำเจ้าราชสีห์เก้าเศียร อี้ยวี่ ซู่จื่อฉง และบรรพชนตงเฉวียนไปที่ค่ายกลเคลื่อนย้าย
ด้วยพลังของค่ายกลเคลื่อนย้าย จวินเซียวเหยาและพรรคพวกจึงกลับมาที่ทวีปสวรรค์เร้นลับอีกครั้ง
พวกเขาเดินทางออกจากมหาสมุทรไร้ขอบเขตและขึ้นฝั่งได้ในที่สุด
แต่ในขณะที่จวินเซียวเหยาก้าวเท้าขึ้นฝั่ง แสงเงาก็สว่างวาบในดวงตาของเขา
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง” จวินเซียวเหยาพึมพำ
“นายท่าน มีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ?” ซู่จื่อฉงถาม
“ข้าได้กลิ่นผงดินปืนลอยมากับสายลมน่ะ” จวินเซียวเหยากล่าว
ต่อมา เมื่อพวกเขาเดินทางผ่านเมืองและสำนักนิกายต่างๆ พวกเขาก็ค้นพบว่าสถานที่ทุกแห่งล้วนกลายเป็นซากปรักหักพังจนหมด
“นี่มันอะไร? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” บรรพชนตงเฉวียนและคนอื่นๆ รู้สึกสับสน
โดยเฉพาะบรรพชนตงเฉวียน เพราะทวีปสวรรค์เร้นลับถือได้ว่าเป็นบ้านเกิดของเขา
การที่บ้านเกิดเมืองนอนมีสภาพเป็นแบบนี้ มันทำให้เขาค่อนข้างโมโห
ผ่านไปสักพัก อี้ยวี่ก็พบผู้รอดชีวิต
เมื่อผู้รอดชีวิตคนนั้นเห็นจวินเซียวเหยาและคนอื่นๆ เขาก็ดูตกใจและพูดตะกุกตะกัก “ท่าน...ท่านคือ…บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินใช่รึเปล่า?”
“อืม มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” จวินเซียวเหยาถาม
เมื่อได้ยินจวินเซียวเหยายืนยันว่าเป็นตัวเอง ผู้รอดชีวิตคนนั้นก็ดีใจจนร้องไห้สะอื้น
“ตายหมด ทั้งศิษย์พี่ ศิษย์น้อง ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ข้า พวกเขาตายกันหมด!” ผู้รอดชีวิตคนนั้นร้องไห้คร่ำครวญ
“เล่าทุกอย่างให้ข้าฟังหน่อย” จวินเซียวเหยากล่าว
จากนั้น ผู้รอดชีวิตคนนั้นก็เล่าเรื่องราวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบนทวีปสวรรค์เร้นลับในช่วงที่ผ่านมาให้จวินเซียวเหยาฟัง
“แบบนี้นี่เอง เขตกลางต้องห้าม เทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์” จวินเซียวเหยาพึมพำ
“น่าแค้นใจจริงๆ พวกเผ่าโบราณจากเขตกลางต้องห้ามข้ามเส้นเกินไปแล้ว!” บรรพชนตงเฉวียนโกรธจนหน้าแดง
ยิ่งตอนที่ได้ยินข่าวการล่มสลายของนิกายตงเฉวียน บรรพชนตงเฉวียนถึงกับกัดฟันกรามแน่น และอยากจะทำลายพวกเผ่าโบราณเหล่านั้นให้สิ้นซาก
“ไปตระกูลน่าหลานกันเถอะ” จวินเซียวเหยายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไร้ซึ่งความแปรปรวน
ในสายตาของจวินเซียวเหยา ความทุกข์ทรมานของสรรพสิ่งในดินแดนเบื้องล่างจากไฟสงคราม ไม่ต่างอะไรจากการเห็นมดตัวน้อยถูกฆ่าเลย
แต่ไม่ว่ายังไง จวินเซียวเหยาเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน
ยิ่งไปกว่านั้น นิกายตงเฉวียนคือนิกายที่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขา และออกไปล้างบางตระกูลหลิน
ดังนั้น จวินเซียวเหยาจึงไม่อาจเพิกเฉยได้
“คราวนี้หลินเฟิงร่วมมือกับเผ่าโบราณงั้นเหรอ? ดูเหมือนจะมีโชคอยู่บ้าง แต่ก็น่าเสียดาย...” จวินเซียวเหยาส่ายหน้าเบาๆ
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าพวกมันเป็นแค่เผ่าโบราณระดับราชาในดินแดนเบื้องล่าง ต่อให้เป็นเผ่าโบราณระดับจักรพรรดิมาเอง พวกมันก็ไม่มีทางปกป้องหลินเฟิงไว้ได้
จากนั้นจวินเซียวเหยาและคนอื่นๆ ก็ออกเดินทางไปยังตระกูลน่าหลานด้วยความเร็วสูงสุด
ในเวลานี้ ตระกูลน่าหลานอยู่ในสภาวะสงครามเต็มรูปแบบแล้ว
ไกลออกไป ควันดำทมิฬเริ่มปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
มาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนบนผืนดิน ราวกับหนังกลองที่ถูกตี
“พวกมัน...พวกมันมากันแล้ว!”
บนยอดเขาโบราณ เสียงโหวกเหวกโวยวายของผู้บ่มเพาะสักคนดังขึ้น
บนท้องฟ้าและเส้นขอบฟ้าอันไกลโพ้น คลื่นสีดำทะมึนกำลังซัดเข้ามา
ถ้าเพ่งดูให้ดี จะเห็นได้ว่าพวกมันคือสิ่งมีชีวิตเผ่าโบราณตัวแล้วตัวเล่า
และไม่ได้มีแค่เผ่าพันธุ์เดียวด้วย
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคราม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์หินดาวตก ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แยกอัคคี...
เผ่าพันธุ์ต่างๆ จากเทือกเขาโบราณศักดิ์สิทธิ์มารวมตัวกัน กลายเป็นกองทัพอันเกรียงไกรที่พร้อมจะทำลายสวรรค์และโลก และกวาดล้างศัตรูให้สิ้นซาก
น่าหลานจ้าน ผู้นำนิกายตงเฉวียน และผู้นำเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกมากมายต่างปรากฏตัวขึ้น
นักบุญบางคนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็เผยตัวออกมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จำนวนของพวกเขาก็มีน้อยมาก และทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียด
น่าหลานลั่วซีก็ออกมารับศึกด้วยเหมือนกัน ใบหน้าอันงดงามของนางไร้ซึ่งความกลัว และแฝงไปด้วยร่องรอยของความมุ่งมั่น
นางไม่อยากให้จวินเซียวเหยาดูถูกนาง และคิดว่านางเป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอ