บทที่ 42 ที่ดินผืนนั้นมันจะกลายเป็นขุมทรัพย์ในอนาคต!
บทที่ 42 ที่ดินผืนนั้นมันจะกลายเป็นขุมทรัพย์ในอนาคต!
“5,000 ล้าน? ตอนนี้ฉันยังมีอยู่ในมือแค่ 3,000 ล้าน ให้เวลาฉันอีกหน่อย ไม่ถึงเดือนก็น่าจะระดมเงินได้เกิน 5,000 ล้านหยวน” หลินเป่ยฝานยิ้ม
ฉู่รั่วเสวี่ยประหลาดใจมาก “เห~ นายจะหาได้ทันจริงๆเหรอ ไม่ใช่ว่าคงไปขอพ่อหรอกนะ?”
“ประธานฉู่ ... คุณเข้าใจรองประธานหลินผิดแล้ว!” ประธานบริษัทหลินอินเวสเมนท์หัวเราะ “เงินที่มีอยู่ตอนนี้ ทั้งหมดเป็นรองประธานหลินที่หามาได้เมื่อครึ่งเดือนก่อน! เขาเข้าร่วมกับบริษัทเราโดยมีเงินทุนแค่ 100 ล้าน! แต่ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน เขาผ่านพ้นการลงทุนซื้อขายอันน่าอัศจรรย์ พลิกทุนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้าน! รองประธานหลินของเราเป็นยอดฝีมือชั้นนำอย่างไม่ต้องสงสัย!”
ฉู่รั่วเสวี่ยอ้าปากค้าง “ในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน เปลี่ยนเงินร้อยล้านเป็นสามพันล้าน!”
นั่นเรียกได้เลยว่าปาฏิหาริย์ เธอไม่เคยได้ยินอะไรบ้าๆ แบบนี้มาก่อน!
เพลย์บอยที่อยู่ตรงหน้าฉัน น่าทึ่งไม่น้อยเลยนี่นา!
หลินเป่ยฝานกล่าวอย่างถ่อมตน “ฉันไม่ได้ทำคนเดียว ทั้งหมดเป็นผลมาจากการทำงานหนักของทุกคน! รวมถึงสหายเย่ของพวกเรา เขาคือฮีโร่ที่แท้จริง ถ้าไม่มีเขาเราก็ไม่มีวันนี้ เขาสมควรได้รับเครดิตทั้งหมด!”
พอเอ่ยประโยคนี้จบ ทุกคนก็ยิ่งชื่นชมหลินเป่ยฝานมากเข้าไปอีก
ทำได้ถึงขขนาดนี้ แต่ยังคงเจียมเนื้อเจียมตัว และไม่ลืมเลือนพนักงานทุกคน รวมถึงสหาย
ได้ติดตามผู้นำเช่นนี้ นับว่ามีอนาคตสดใส!
“รองประธานอย่าได้ถ่อมตัวเลย”
“สหายเย่มีส่วนร่วมมากก็จริง แต่คุณก็มีส่วนร่วมไม่แพ้กัน!”
“เพราะความใจกว้างของคุณ ยินดีมอบเงินลงทุนให้เขา ทุกอย่างถึงเกิดขึ้น!”
“ม้าจะวิ่งเป็นพันลี้ไม่ได้หากขาดคนขี่มัน!”
“บุคคลที่ฉันชื่นชมมากที่สุดในชีวิต นอกจากท่านประธานใหญ่หลิน ก็เป็นคุณนั่นแหละ ฮ่า ฮ่า!”
……
ดูสีหน้าของทุกคน มันไม่ได้หลอกลวงเสแสร้ง ฉู่รั่วเสวี่ยถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมา เพ่งมองหลินเป่ยฝานอีกรอบ ราวกับว่าได้รู้จักเขาในมุมใหม่
“นายทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ ดูท่าในเมืองโม่ไห่เราจะมีคนที่โดดเด่นเพิ่มขึ้นอีกแล้ว”
“ก็ยังสู้คนที่โดดเด่นแต่แรกอย่างประธานฉู่ไม่ได้อยู่ดี เธอแบกรับภาระครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แถมเมื่อเข้ามาทำงานยังสร้างสีสันได้มากมาย น่าชื่นชมกว่าฉันซะอีก” หลินเป่ยฝานตอบรับคำชม ขณะเดียวกันก็ชมอีกฝ่ายกลับไปด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง
“เรื่องที่ดินผืนนั้น ...” ฉู่รั่วเสวี่ยจมอยู่กับความคิด “เพราะว่าเกี่ยวข้องกับเม็ดเงินค่อนข้างมาก ฉันคงให้คำตอบที่ชัดเจนกับนายตอนนี้ไม่ได้! ขอเวลาฉันสามวัน ... ฉันจะให้คำตอบนายภายในสามวัน!”
“ไม่มีปัญหา” หลินเป่ยฝานพยักหน้า
หลังจากพูดคุยเรื่องธุรกิจ ฉู่รั่วเสวี่ยก็รีบกลับไป และทันทีที่ถึงบริษัท เธอก็ออกคำสั่ง “ตรวจสอบหลินเป่ยฝานกับบริษัทหลินอินเวสเมนท์ให้ฉันที ว่าภายในเวลาครึ่งเดือน เขาทำเงินได้ 3,000 ล้านตามที่พูดจริงๆรึเปล่า”
“รับทราบท่านประธานฉู่!” เลขาพยักหน้า
“นอกจากนี้ ช่วยตรวจสอบที่ดินผืนนั้นให้ฉันอีกรอบ ดูว่ามันมีมูลค่าอะไรอยู่เบื้องหลังหรือมีสิ่งที่เรายังไม่พบอีกรึเปล่า!”
“เรื่องนั้น ... ประธานฉู่ พวกเราตรวจสอบจนชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ? และจนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่มีมูลค่าเพิ่มใดๆ ราคารวมยังคงอยู่ระหว่าง 5 - 6 พันล้าน!” เลขาสับสน
ฉู่รั่วเสวี่ยส่ายหัว “คุณไม่เข้าใจ! ถ้าทีมของหลินเป่ยฝานใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนทำเงินได้สามพันล้านจริงๆ มันก็พิสูจน์ได้ว่าอีกฝ่ายมีสายตาเฉียบแหลมในการลงทุน! แล้วพวกเขาจะหวังครอบครองที่ดินที่มีมูลค่าการเติบโตเล็กน้อยได้ยังไง?”
“อีกฝ่ายกล้าเอาเงินมาลงทุน แสดงว่าที่ดินผืนนี้มีมูลค่าเพิ่มแน่นอน แต่เป็นข้อมูลที่พวกเรายังไม่รู้! นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันถ่วงเวลาเขา รีบใช้เวลาสามวันนี้ตรวจสอบให้แน่ชัด ก่อนที่เราจะต่อรองราคากัน!”
“ประธานฉู่ฉลาดจริงๆ พวกเราจะรีบดำเนินการทันที!” ว่าจบเลขาก็ถอยออกไป
อีกด้านหนึ่ง หลิวรู่เหมยก็ถามด้วยความสับสนไม่แพ้กัน “ทำไมจู่ๆ คุณถึงอยากซื้อที่ดิน?”
ในมุมมองของเธอ การใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อที่ดินเป็นการทำให้ทุนจม ถึงมีกำไรแน่ๆแต่มันทำให้ขาดเงินหมุน
ซึ่งด้วยความเร็วในการทำเงินทุกวันนี้ของบริษัท หากยังทำต่อไปเรื่อยๆไม่ถึงสองสามเดือน พวกเธอก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นี่มันกำไรกว่าการซื้อที่ดินเก็บไว้ซะอีก
นอกเสียจากว่าที่ดินผืนนั้นสามารถเพิ่มราคาเป็นสองสามเท่าในเวลาไม่กี่เดือน
“คุณจะไม่เชื่อผมก็ได้นะ แต่ต่อไปจะเข้าใจเอง” หลินเป่ยฝานส่ายหัว ไม่ได้อธิบายอะไรมาก
ว่ากันตามจริง ที่ดินผืนนี้ตั้งอยู่ในบริเวณชานเมือง และดูไม่มีมูลค่าอะไร
แต่ไม่กี่เดือนต่อมา ทางรัฐบาลจะเลือกที่ดินผืนนั้น ก่อตั้งเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติเพื่อมุ่งเน้นไปที่การสร้าง
มูลค่าของที่ดินผืนนั้นก็จะพุ่งสูงขึ้นทันที!
นอกจากนี้ หากสามารถสร้างเขตพิเศษล้อมรอบที่ดินผืนนั้น มันจะทำเงินแก่พวกตนเป็นมูลค่านับหมื่นล้านทุกปี ถือเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่า!
ในเมื่อมันสามารถทำเงินให้มากขนาดนั้น ถ้าไม่เข้าไปยึดครองมันตอนนี้ แล้วจะให้เข้าไปยึดครองตอนไหน?