ตอนที่แล้วบทที่ 38 ตัวเอกสองคนหักหลังกัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 ตัวเอกเซียวเฉินถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง!

บทที่ 39 ตัวเอกเซียวเฉินหนีออกจากโรงพยาบาล!


บทที่ 39 ตัวเอกเซียวเฉินหนีออกจากโรงพยาบาล!

เมื่อถึงเวลาประมาณ 21.00 น. ตัวเอกเซียวเฉินลืมตาขึ้น

ในมือเขามีเข็มเงินสองเล่ม แทงเข้าตรงบริเวณซี่โครงตัวเอง

“ตอนนี้กระดูกซี่โครงยังไม่หายสนิท แต่ด้วยเข็มเทวะหุบเขากุ่ยของฉัน น่าจะทุเลาอาการไปได้มาก มันไม่เจ็บปวดอีกแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว!

“ถ้าไม่ออกไปตอนนี้ แล้วจะได้ออกไปเมื่อไหร่?”

ว่าจบ เขาก็ยกผ้าห่มขึ้น ใส่เสื้อคลุมตัวเอง และสวมรองเท้าแตะ หลีกเลี่ยงสายตาแพทย์และพยาบาล เดินกะโผลกกะเผลกออกจากโรงพยาบาลได้ในที่สุด

หลังจากผ่านไป 10 นาที พยาบาลที่มาตรวจห้องก็พบว่าคนหายไป

ขณะเดียวกัน หลินเป่ยฝานกำลังรับประทานอาหารค่ำกับซ่งหยูฉิงในร้านอาหารสุดหรู

ทุกวันนี้ แม้จะมีหลิวรู่เหมยเป็นก้างขวางคอและมักสร้างเรื่องยุ่งยาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างหลินเป่ยฝานกับซ่งหยูฉิงยังคงก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด พวกเขามักจะทานอาหารเย็นด้วยกัน

เรื่องจับมือถือแขนไม่ใช่อะไรที่น่าเคอะเขินอีกต่อไป หากพัฒนาไปอีกขั้น มันก็คือการกอดและจูบแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลินเป่ยฝานไม่รีบร้อน เขากำลังเพลิดเพลินกับความรู้สึกของการมีความรัก

ถึงยังไงผู้หญิงคนนี้ก็จะเป็นของเขาไม่ช้าก็เร็ว

ในตอนนั้นเอง หลินเป่ยฝานได้รับโทรศัพท์

“ขอโทษที ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน”

“นายไปเถอะ”

หลินเป่ยฝานมาที่ห้องน้ำใกล้ๆ กดรับสาย “ผมหลินเป่ยฝาน ไม่ทราบมีธุระอะไรรึเปล่า?”

เสียงที่เป็นกังวลดังมาจากในโทรศัพท์ “สวัสดีคุณหลิน ฉันเป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง! เมื่อครู่ตอนที่ฉันกำลังเดินตรวจคนไข้ ฉันพบว่าคุณเซียวเฉินหายตัวไป เลยตั้งใจโทรมาแจ้งให้ทราบ!”

“คนหาย? แล้วเขาไปไหน?” หลินเป่ยฝานตกใจ

“พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน! เราสงสัยว่าเขาแอบออกไปเอง เพราะเสื้อผ้าและรองเท้าส่วนตัวก็หายไปด้วย! ประเด็นคือตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัสมาก ไม่น่าจะขยับตัวได้ นี่เป็นเรื่องแปลกจริงๆ ตอนนี้ทางเรากำลังเริ่มค้นภาพจากกล้องวงจรปิด! ถ้าคุณมีข้อมูลเพิ่มเติม โปรดแจ้งให้ทางเราทราบ!”

“ตกลง ผมเข้าใจแล้ว!”

ทั้งสองฝ่ายวางสายโทรศัพท์

หลินเป่ยฝานยิ้ม ไม่จำเป็นต้องคิดมาก ตัวเอกเซียวเฉินคงตั้งใจหนี ไม่อยากอยู่ในโรงพยาบาลอีกต่อไป ตั้งใจสลัดหลุดการควบคุมของตัวเขา

ส่วนเรื่องอาการบาดเจ็บนั้น... อีกฝ่ายเป็นหมอเทวะ แล้วจะรักษาตัวเองไม่ได้เชียวหรือ?

“คงถึงเวลาขอพรอีกครั้ง!” หลินเป่ยฝานพูดในใจ ‘ฉันขอพรให้ ...’

แต่ในตอนนั้นเอง เขาเหลือบมองซ่งหยูฉิงซึ่งอยู่ไม่ไกล และพบว่าเธอลดน้ำหนักลงไปมาก จึงท่องในใจอย่างสงบ

‘ฉันขอพรให้สาวสวยน้ำหนัก 115 ปอนด์ล้มทับ!”

[ติ๊ง! คำขอประสบความสำเร็จ!]

หลินเป่ยฝานหัวเราะเบาๆ “เซียวเฉิน นายควรทำตัวเชื่อฟังซื่อสัตย์อยู่ในโรงพยาบาลไป อย่าคิดออกมาสร้างปัญหาให้ฉัน!”

จากนั้นเขาก็เริ่มเร่งฝีเท้าเดินไปทางซ่งหยูฉิง

แต่ในตอนนั้นเอง สาวสวยร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงพอดี อีกฝ่ายกำลังก้มศีรษะ และเดินอย่างเร่งรีบ เป็นผลให้เผลอเหยียบลงไปในแอ่งน้ำ พลาดท่าเสียหลักล้มใส่หลินเป่ยฝาน

“โอ้! ระวัง!”รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างหลัง หลินเป่ยฝานหันกลับมาอย่างรีบร้อน

และผลลัพธ์ คืออีกฝ่ายทิ้งตัวใส่ สองคนล้มไปด้วยกัน

ไอ๊ยะ! อีกแล้วเรอะ

หลินเป่ยฝานรู้สึกได้ถึงไออุ่นของหยกอันอ่อนนุ่มที่มีกลิ่นหอม แต่เมื่อลืมตาขึ้นเขาก็พบว่าเป็นคนรู้จัก “เป็นเธอนั่นเอง!”

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคือหนึ่งในสองบุปผางามแห่งเมืองโม่ไห่ ทั้งยังเป็นนางเอกคนที่สองอีกด้วย!

ฉู่รั่วเสวี่ยซีอีโอคนสวยของกลุ่มลี่เฉิง! ความงามและสติปัญญาของเธอไม่ด้อยไปกว่าซ่งหยูฉิง แต่เมื่อเทียบกับซ่งหยูฉิงที่อ่อนโยนและใจกว้าง เธอเป็นคนที่หยิ่งและค่อนข้างรั้น

นั่นเพราะภูมิหลังและอิทธิพลของอีกฝ่ายไม่ได้ด้อยกว่าเขาเลย มีทุนอันน่าภาคภูมิใจ

ในพล็อตเดิม  เธอคือคู่หูหญิงอย่างเป็นทางการของเทพสงครามเย่ซิงเฉิน แต่ตั้งแต่ที่หลินเป่ยฝานปรากฏตัว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ณ ตอนนี้ อีกฝ่ายก็จำหลินเป่ยฝานได้เช่นกัน เธออุทานขึ้นว่า “หลินเป่ยฝาน ทำไมถึงเป็นนาย แล้วนายมาที่นี่ทำไม?”

ทั้งเขาและเธอต่างเป็นบุคคลชั้นสูงแห่งเมืองโม่ไห่ แม้จะไม่สนิทกันแต่โดยพื้นฐานรู้จักกัน

“ฉันควรถามเธอมากกว่ามั้ง” หลินเป่ยฝานพูดพลางถอนหายใจ “แต่ตอนนี้ช่วยลุกออกจากตัวฉันก่อนได้ไหม?”

ใบหน้าของฉู่รั่วเสวี่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนขนาดนี้มาก่อน!

แต่คนแรกที่บังเอิญได้ใกล้ชิด ดันเป็นเพลย์บอยชื่อดังแห่งเมืองโม่ไห่อย่างหลินเป่ยฝาน! จึงรู้สึกแย่มาก!

กระนั้น พอได้ลองมองใบหน้าอันหมดจดของหลินเป่ยฝานแบบใกล้ชิด ลึกๆในใจเธอกลับรู้สึกว่าการล้มครั้งนี้ไม่ขาดทุน

แต่แล้วเธอก็ส่ายหัวทันที สลัดความคิดสกปรกนี่ทิ้งไป รีบลุกขึ้นด้วยแก้มแดง จ้องหลินเป่ยฝานอย่างดุเดือด กัดฟันขาวพูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม “เรื่องนี้อย่าไปพูดให้ใครฟังเด็ดขาด! ถ้าฉันรู้มาดูกันว่านายจะเป็นศพยังไง!”

“วางใจได้เลย เรื่องไหนที่ฉันขาดทุน ฉันไม่บอกคนอื่นหรอก” หลินเป่ยฝานรับประกัน

“นี่นาย ... ฮึ!” ฉู่รั่วเสวี่ยเดินหนีด้วยความหงุดหงิด แต่หลังจากก้าวมาได้สองก้าว เธอก็หันศีรษะกลับมาพูดว่า “เดี๋ยวก่อน!”

หลินเป่ยฝาน “มีอะไรอีกล่ะ?”

“ฉันได้ยินมาว่านายได้เข้าไปบริหารบริษัทหลินอินเวสเมนท์ แล้วผลเป็นยังไงบ้าง?”

“ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าดี เอาเป็นว่าไม่เลวแล้วกัน” หลินเป่ยฝานกล่าวอย่างถ่อมตน

เมื่อเทียบกับความพยายามในชีวิตก่อนหน้านี้ของตัวเอง สภาพปัจจุบันของบริษัทถือได้ว่าแค่เริ่มต้นเท่านั้น

“ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนาย พรุ่งนี้ไว้แวะไป หวังว่าจะได้เจอกัน”

ว่าจบ เธอก็หันหลังและรีบจากไป ไม่ต้องการสนทนาต่ออีกแม้แต่คำเดียว

หลินเป่ยฝานส่ายหัวแล้วพูดว่า “นิสัยยังเป็นเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด