บทที่ 23 จัดการอย่างยุติธรรม
บทที่ 23 จัดการอย่างยุติธรรม
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่เส้าหวงแข็งค้าง
มองไปที่ตัวแทนของตระกูลเซี่ยด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันอย่างมีความสุข เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้าย
ตัวแทนของตระกูลเซี่ยกลับเปลี่ยนใจกระทันหัน?
“คุณเซี่ย ผมไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณ” เย่เส้าหวงลุกขึ้นยืนเพื่อถามเหตุผล
เซี่ยเหยียนฮวนเป็นชายวัยกลางคน ดันแว่นตาของตัวเองเบาๆ พูดอย่างสงบนิ่ง “ไม่ปิดบังคุณชายเย่ โปรเจ็กต์ของตระกูลเซี่ยที่เมืองฉาน สุดท้ายแล้วคุณชายสามเป็นคนตัดสินใจ เมื่อกี้คุณชายสามโทรมา คู่ค้าของตระกูลเซี่ยถูกตัดสินใจแล้ว ดังนั้น พวกเราได้แต่หวังว่าจะได้ร่วมมือกันในครั้งต่อไป”
สีหน้าของเย่เส้าหวงมืดมน
ถูกคนอื่นคาบไปกิน?
เขาค่อนข้างมั่นใจว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของทั้งสองตระกูล จะสามารถเข้าสู่ตลาดยาของเมืองฉานได้อย่างแข็งกร้าว ทำให้สถานะของเขาในตระกูลสูงขึ้น ยิ่งทำให้ความแข็งแกร่งโดยรวมของตระกูลเย่เพิ่มขึ้นอีกขั้น!
“ไม่ทราบว่า คุณชายเซี่ยเลือกตระกูลไหน?” เย่เส้าหวงถามด้วยความสงบ
เซี่ยเหยียนฮวนไม่ได้ปิดบัง “ตระกูลซ่ง”
หลังจากที่เซี่ยเหยียนฮวนหันหลังจากไป สีหน้าของเย่เส้าหวงก็มืดมน
มีแค่คนคนเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขา...ฉู่เฉิน ลูกเขยของตระกูลซ่ง
เพล้ง!
เย่เส้าหวงเหวี่ยงแก้วในมือลงบนพื้น สายตาของเขาดูเย็นชา “แกคิดว่าแกเอาใจตระกูลเซี่ยได้ แล้วฉัน… เย่เส้าหวงจะจัดการกับแกไม่ได้งั้นเหรอ? เฮอะ! ที่นี่คือเมืองฉาน ไม่ใช่เมืองหยาง!”
ห้องโถงของบ้านผู้นำตระกูลซ่ง
ฉู่เฉินกับเซี่ยเป่ยเดินออกมาพร้อมกัน ดึงดูดสายตาของทุกคน
“คุณชายเซี่ย อาหารเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ลองชิมอาหารบ้านๆ ของตระกูลซ่งเราดูนะคะ” ซูเยว่เซียนเดินเข้าไปต้อนรับ
“เรื่องน่ายินดีขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องดื่มสักแก้ว” เซี่ยเป่ยเหลือบมองฉู่เฉิน “นายดื่มเก่งไหม?”
ฉู่เฉินยิ้ม “ดื่มเป็นเพื่อนได้จนจบ”
“ดี” เซี่ยเป่ยหัวเราะเสียงดัง เขายิ่งรู้สึกว่า ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านของตระกูลซ่งคนนี้ เข้ากับเขามาก ใครกล้าบอกว่าฉู่เฉินเป็นคนปัญญาอ่อน เซี่ยเป่ยจะไม่ปล่อยเขาไปแน่
เรื่องน่ายินดี?
หัวใจของซ่งเสียหยางเต้นแรง
คนอื่นๆ ต่างก็กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
“ผมกับฉู่เฉินบรรลุข้อตกลงกันโดยพื้นฐานแล้ว” เซี่ยเป่ยไม่ปิดบัง ประกาศต่อหน้าสาธารณชน “ทั้งสองตระกูลของเราจะร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ รายละเอียดปลีกย่อย ทีมงานของผมจะติดต่อกับพวกคุณทีหลัง”
งานเลี้ยงครั้งนี้ ใครบางคนมีความสุข ใครบางคนมีความทุกข์
ฉู่เฉินพลิกสถานการณ์ ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนคุณชายเซี่ย เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคน ต้องรู้ว่า ก่อนวันนี้ ฉู่เฉินไม่เคยเข้าใกล้โต๊ะอาหารนี้เลย
ซ่งเหยียนนั่งอยู่ข้างๆ ฉู่เฉิน ใจของเธอยังคงไม่สงบ
ของขวัญวันเกิดชิ้นที่สามที่ฉู่เฉินมอบให้เธอ
กลายเป็นจริง!
ตอนที่เพิ่งนั่งลง ฉู่เฉินก็บอกกับซ่งเหยียนแล้วว่า ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย คนที่รับผิดชอบหลักของตระกูลซ่งคือ… ซ่งเหยียน
“ฉู่เฉิน” ซ่งชิวยกแก้วขึ้นมายืน สีหน้าจริงจัง “แก้วนี้ฉันยกให้นาย ขอบคุณมาก”
ซ่งชิวดื่มจนหมด
ฉู่เฉินมองไปที่ซ่งชิว ยกแก้วขึ้นดื่มพร้อมกับรอยยิ้ม
“ผลการตรวจสอบเข็มเงินออกมาแล้ว มีพิษร้ายแรง” ซ่งเหยียนพูดด้วยเสียงเบาๆ ในตอนนี้เธอก็ยังคงรู้สึกกลัว ถ้าเมื่อคืนฉู่เฉินไม่เตือน ผลลัพธ์คงจะไม่คาดคิด
สีหน้าของฉู่เฉินไม่เปลี่ยนแปลงเลย
เข็มเงินมีพิษหรือไม่มีพิษ เขามองออกตั้งแต่แรก ดังนั้นเมื่อคืนถึงได้เตือน ให้ตระกูลซ่งไปตรวจสอบว่าเข็มเงินมีพิษหรือเปล่า
“หึ! ไม่เห็นจะประหลาดใจเลย” หลินซิ่นผิงพึมพำ มองไปที่ฉู่เฉินด้วยความอิจฉา เขารับไม่ได้ ลูกเขยปัญญาอ่อนที่แต่งเข้าบ้าน ซึ่งไม่สามารถเข้าใกล้โต๊ะอาหารนี้ได้ตลอดห้าปี วันนี้กลับได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าพวกเขา “บางที เข็มเงินพวกนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเขาจริงๆ”
หลังจากที่กินอิ่ม เซี่ยเป่ยก็ออกจากตระกูลซ่งไป
ตระกูลซ่งมีธุรกิจมากมาย คนตระกูลซ่งต่างก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบเอาไว้มากมาย รวมถึงหลินซิ่นผิงกับโจวเจี้ยน ลูกเขยสองคนของตระกูลซ่ง พวกเขาต้องรับผิดชอบการติดต่อทางธุรกิจระหว่างตระกูลของตัวเองกับตระกูลซ่ง หลังจากที่เซี่ยเป่ยจากไป พวกเขาก็กลับไปทำงานที่บริษัท
“เหยียนเหยียน ภาระบนตัวลูกไม่น้อย ความร่วมมือกับตระกูลเซี่ย ต้องพึ่งพาลูกแล้ว” ซ่งเสียหยางมองไปที่ซ่งเหยียน พูดอย่างมีความหมาย
เขาอยากจะทำเอง แต่ในสัญญาที่ฉู่เฉินเซ็นกับตระกูลเซี่ย ความร่วมมือระหว่างสองตระกูล ฝ่ายตระกูลซ่งให้ซ่งเหยียนเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด
แม้ว่าซ่งเหยียนจะมีฉู่เฉินอยู่ข้างๆ แต่ในสายตาของซ่งเสียหยาง เหตุผลที่ความร่วมมือครั้งนี้สำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นเพราะฉู่เฉินเข้าตาคุณชายเซี่ย นี่สามารถพูดได้ว่า เป็นบุญคุณของคุณชายเซี่ย
รวมถึงอักษรพู่กันจีนแผ่นนั้นในห้องทำงาน
คุณชายเซี่ยยังมอบให้ฉู่เฉินไปเลย
รูม่านตาของซ่งเสียหยางหดเล็กลงทันที อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉู่เฉิน หรือว่าคุณชายเซี่ย ชอบผู้ชาย?
ซ่งเสียหยางสะดุ้งโดยไม่รู้ตัว เหลือบมองฉู่เฉิน...ต้องยอมรับว่า ไอ้เด็กคนนี้มีคุณสมบัติแบบนั้น
ซ่งเหยียนเองก็รู้สึกกดดันมาก เธอเพิ่งเรียนจบไม่นาน ตอนนี้กลับต้องรับผิดชอบโปรเจ็กต์ความร่วมมือที่สำคัญขนาดนี้ ซ่งเหยียนกังวลว่าความสามารถของตัวเองจะไม่เพียงพอ
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคืนเย่เส้าหวงประกาศว่าจะตัดตระกูลซ่งออกจากโปรเจ็กต์ความร่วมมือระหว่างสามตระกูล ในสถานการณ์แบบนี้ ความร่วมมือระหว่างตระกูลซ่งกับตระกูลเซี่ย ยิ่งห้ามมีข้อผิดพลาด
“ผมเชื่อว่า ซ่งเหยียนสามารถทำหน้าที่นี้ได้” ฉู่เฉินยืนอยู่ข้างๆ ซ่งเหยียน จับมือของซ่งเหยียน ดวงตาของเขามองไปที่ซ่งเหยียนอย่างอ่อนโยน “ใช่ไหม ภรรยา”
ทันใดนั้นซ่งเหยียนก็รู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต ชักมือกลับโดยสัญชาตญาณ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง...
แต่งงานมาห้าปี จับมือกันเป็นครั้งแรก!
ซ่งเหยียนไม่ทันได้ตั้งตัว ได้แต่จ้องไปที่ฉู่เฉิน แสดงความไม่พอใจ
ถึงแม้ว่าเธอจะปกป้องฉู่เฉินมาโดยตลอด นั่นก็เพราะว่า ถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะเป็นคนปัญญาอ่อน แต่เขาก็เป็นสามีของเธอในนาม แต่ในใจของซ่งเหยียน เธอไม่เคยคิดว่าฉู่เฉินจะเป็นผู้ชายที่เธอสามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้
ซ่งเหยียนเงยหน้าขึ้น มองไปที่หลายคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องโถง ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
“ได้ยินว่ามีแขกคนสำคัญมาเยือน ฉันก็เลยไม่กล้าเข้ามารบกวนพี่ใหญ่” ซ่งมู่หยาง ชายวัยกลางคน น้องชายของซ่งเสียหยาง
คุณปู่ซ่งมีลูกชายสองคน
สีหน้าของซ่งมู่หยางดูเย็นชา เจตนาร้าย จ้องไปที่ฉู่เฉิน “แต่ตอนนี้ ควรจะให้คำอธิบายกับฉันได้แล้ว”
ซ่งชิ่งเผิงที่อยู่ข้างๆ ซ่งมู่หยาง มองไปที่ฉู่เฉินด้วยความแค้น แถมยังมีรอยฟกช้ำ
“อาสอง หนูไม่เข้าใจความหมายของอา” ซ่งเหยียนเอ่ยปาก
“มันเข้าใจ” ซ่งมู่หยางชี้ไปที่ฉู่เฉิน พูดอย่างเย็นชา “ไม่ว่าจะเป็นคนปัญญาอ่อนจริงๆ หรือแกล้งบ้าก็เถอะ เมื่อคืนฉู่เฉินทำให้ลูกชายของฉันขายหน้า ทำให้เขาต้องเข้าโรงพยาบาล เรื่องนี้ ต่อให้ไปฟ้องคุณปู่ ฉู่เฉินก็ต้องรับผิดชอบกับชิ่งเผิงลูกชายของฉัน”
ซ่งเหยียนหันไปมองฉู่เฉิน “นายก็ตีเขาด้วยเหรอ?”
ท้ายที่สุดแล้ว ฉู่เฉินเป็นคนที่กล้าซ้อมเย่เส้าหวงข้างถนน
ถ้าซ้อมซ่งชิ่งเผิง เธอจะไม่แปลกใจเลย
ฉู่เฉินส่ายหน้า “ฉันไม่ได้ตีเขา” พูดจบ ฉู่เฉินก็มองไปที่ซ่งมู่หยาง “คุณหันหลังกลับไป เลี้ยวซ้าย คุณปู่กำลังอยู่ในห้องทำงาน”
สีหน้าของซ่งมู่หยางมืดมน
ไปฟ้องคุณปู่!
ประโยคนี้ เขาแค่พูดขู่เท่านั้น ถ้าให้เขาไปฟ้องจริงๆ เขาไม่มีทางกล้าไปรบกวนคุณปู่เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้
“ลุงใหญ่ ลุงพูดสิครับ” ซ่งชิ่งเผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ผมเชื่อว่า ลุงใหญ่จะจัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรม”
ซ่งเหยียนออกหน้าช่วยฉู่เฉิน ซ่งชิ่งเผิงเห็นจนชินแล้ว
แต่คนทั้งตระกูลฉู่ มีแค่ซ่งเหยียนคนเดียวที่ปกป้องฉู่เฉิน
ซ่งชิ่งเผิงก็ได้ยินเรื่องที่เมื่อคืนฉู่เฉินซ้อมหรงตงต่อหน้าสาธารณชน ทำให้ตระกูลซ่งเดือดร้อน
เขารอคอยให้ฉู่เฉินถูกขับไล่ออกจากตระกูลซ่ง แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้น สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้พ่อฟัง มาหาเรื่องถึงที่
ซ่งเสียหยางมีสีหน้าที่เคร่งขรึม
ซ่งชิ่งเผิงจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยความแค้น เขารู้ดีว่า แค่ฉู่เฉินก้าวออกจากประตูบ้านตระกูลซ่ง ก็อาจจะถูกฟันจนตาย
คนของหรงเย่ามวยไทยประกาศตั้งแต่เช้าแล้วว่า จะจัดการกับฉู่เฉิน
“เมื่อคืน ฉู่เฉินไม่ใช่แค่ทำให้เผิงเอ๋อขายหน้า แต่ยังทำให้ตระกูลเย่กับหรงซื่อกรุ๊ปไม่พอใจ ทำให้ตระกูลซ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก” ซ่งมู่หยางพูดอย่างช้าๆ “เผิงเอ๋อถูกทำร้ายเป็นเรื่องเล็ก ผลประโยชน์ของตระกูลซ่งเป็นเรื่องใหญ่ คนของตระกูลซ่งต่างก็รอคอยคำอธิบาย”
ครู่หนึ่งต่อมา
สีหน้าของซ่งเสียหยางค่อยๆ สงบลง
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เกี่ยวกับซ่งชิ่งเผิง ฉันก็พอรู้ เด็กๆ ทะเลาะกัน ฉันจะไม่วิจารณ์”
ไม่วิจารณ์ ก็หมายความว่า จะไม่เข้าไปยุ่ง
รูม่านตาของซ่งชิ่งเผิงหดเล็กลง เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้
“ส่วนผลประโยชน์ของตระกูล” ซ่งเสียหยางยิ้มออกมา “ยังไม่ทันได้แจ้งพวกเธออย่างเป็นทางการ ตระกูลซ่งกับตระกูลเซี่ยแห่งเมืองหยางบรรลุข้อตกลงกันแล้ว จะร่วมมือกันเข้าสู่ตลาดยาของเมืองฉาน ส่วนสัญญานี้ เป็นฉู่เฉินที่เซ็น”