บทที่ 20 ฉันถาม นายตอบ
ภูเขามีรูปร่างเปรียบเสมือนงูยักษ์ที่คดเคี้ยวนอนอยู่บนพื้น ในป่าอันเขียวชอุ่มมีร่างสองร่างกำลังเดินตามกันอยู่
"ยังโกรธฉันอยู่เหรอ?"
เกาเถิงเดินนำฟางเหมิง เขาหันหน้าไปทางเธอและเดินถอยหลัง
"ฉันไม่ได้โกรธ!"
"โอ้ จริงหรอ"
ฟางเหมิงโกรธกะทันหัน “มีอะไรอีก? ฉันบอกว่าไม่โกรธก็คือไม่โกรธ!”
"แบบนี้โกรธแน่นอน"
"เกาเถิง!"
ฟางเหมิงขึ้นเสียง
"เรียกฉันมีอะไรงั้นหรอ?"
"นายน่ารำคาญมาก!"
ฟางเหมิงเดินเลี่ยงผ่านเกาเถิงด้วยความโกรธและสะบัดผมของเธอ
"ฟางเหมิง ช้าก่อน!"
น้ำเสียงของเกาเถิงจู่ๆก็จริงจังขึ้นทันที
ฟางเหมิงหยุดกะทันหัน มองไปรอบๆอย่างระมัดระวังและถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "นายพบอะไร"
"ไม่ ฉันแค่บอกเธอว่าอย่าเดินไปเร็วเกิน"
"...เกาเถิง!!"
ฟางเหมิงกรีดร้องเสียงดัง ทำให้ฝูงนกตกใจบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
อารมณ์ของเธอไม่สามารถควบคุมได้
"ฉันอยู่ใกล้ๆไม่ต้องตะโกนขนาดนี้ก็ได้"
"อา!"
ฟางเหมิงต่อยและเตะต้นไม้ใหญ่เพื่อระบายความหงุดหงิดของเธอ
เกาเถิงเฝ้าดูเงียบๆและพบว่ามันสนุกมาก
ฟางเหมิงใช้เวลานานในการสงบสติอารมณ์ และอารมณ์ของเธอก็สงบลงมาก
"มือเธอเจ็บหรือเปล่า?" เกาเถิงถามด้วยรอยยิ้ม
ฟางเหมิงกัดฟันแล้วพูดว่า "ไม่! มันไม่เจ็บ!"
"แต่มีเลือดออกนะ"
"บอกว่าไม่เจ็บก็คือไม่เจ็บไง!"
"โอ้ แข็งแกร่งจริงๆ"
เกาเถิงยกนิ้วให้
ฟางเหมิงไม่สนใจเขาและเดินไปข้างหน้าต่อไป
"ว่าแต่เธอรู้ไหมว่าจะไปที่ไหน" เกาเถิงกล่าวในภายหลังว่า"อย่าปล่อยให้อารมณ์มาควบคุมความคิด เธอต้องมีสติตลอดเวลา"
ฟางเหมิงหยุดฝีเท้า เธอรู้สึกว่าคำพูดของเกาเถิงมีความหมายมาก
เธอหันกลับมาขมวดคิ้ว
"ฉันคิดมากไปหรือว่าเขาเตือนฉันจริงๆ"
เกาเถิงรู้ว่าฟางเหมิงกำลังคิดอะไรอยู่ จึงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "เธอเดาถูกแล้ว ฉันแค่กำลังสอนบทเรียนให้กับเธอ หากถูกอิทธิพลจากอารมณ์ครอบงำ มันจะนำอันตรายมาสู่ตัวเธอ"
"หึ! ไม่ต้องห่วงฉันหรอก!"
ฟางเหมิงได้เก็บบทเรียนไว้ในใจ แต่ปากของเธอปฏิเสธไป
"ตามฉันมา ฉันได้กลิ่นบางอย่าง"
หลังจากพูดจบเกาเถิงก็เดินไปทางทิศตะวันออก
ฟางเหมิงเม้มริมฝีปากแล้วเดินตามไป
เมื่อเดินไปเกาเถิงก็หันหน้าแล้วพูดว่า"ทำไมเธอถึงต้องอยู่ไกลจากฉันขนาดนี้"
ฟางเหมิงหันหน้าไปทางด้านข้างด้วยสายตาหลบเลี่ยง "ไม่... ฉันแค่ไม่อยากเข้าใกล้นาย!"
เกาเถิงยิ้มแล้วพูดว่า "เธอกลัวว่าฉันจะดมกลิ่นของเธอเหรอ?"
"หุบปาก!"
ฟางเหมิงจ้องมองด้วยความโกรธ แม้แต่หูของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะปฏิบัติตัวกับเธอเเหมือนป็นดอกไม้ไร้กลิ่นเอง”
คราวนี้ฟางเหมิงทนไม่ไหวอีกต่อไป "เกาเถิง! ฉันจะจัดการนาย!"
เธอแยกเขี้ยวและกางกรงเล็บออกมา จากนั้นจึงจับคอของเกาเถิงด้วยมือทั้งสองข้าง และเขย่าอย่างแรง
เกาเถิงเป็นเหมือนหุ่นเชิดปล่อยให้ฟางเหมิงระบายออกมา
ผ่านไปไม่กี่นาที
ทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไปและระยะห่างระหว่างฟางเหมิงกับเกาเถิงก็ไกลออกไปอีก 4 เมตร
ในทันใดนั้นเอง
เกาเถิงหยุดเดิน
เขาสูดดมและขมวดคิ้ว "มีกลิ่นเลือดที่แรงมากๆ"
ฟางเหมิงจับขาของเธอโดยไม่รู้ตัว
“ฉันไม่ได้หมายถึงเธอ” เกาเถิงหันหน้าแล้วพูดว่า "เธอได้กลิ่นเลือดหรือเปล่า?"
ฟางเหมิงสูดดม ใช่แล้วมีกลิ่นเลือดในอากาศจริงๆ
"แถมยังมีกลิ่นเหม็นอีกด้วย"
เกาเถิงเดินไปตามกลิ่นที่ลอยอยู่และหลังจากนั้นไม่นานก็เห็นศพห้อยลงมาจากต้นไม้โดยมีเชือกพันรอบคอ เขาตายไปนานแล้ว
ก่อนเข้ามาภูเขาจิ่วหลง เกาเถิงเคยเห็นภาพของคนๆนี้ นั่นคือพ่อตาของหลิวชิง
“ในตอนแรกฉันคิดว่าพวกเขาตกอยู่ในอันตรายและหลงป่า แต่กลับกลายเป็นว่า …”
เกาเถิงถอนหายใจและควบคุมเหรียญด้วยพลังจิตเพื่อตัดเชือก
เมื่อศพกำลังจะตกลงมา ก็มีพลังที่มองไม่เห็นจับร่างเอาไว้และค่อยๆนำลงมาสู่พื้นอย่างนุ่มนวล
เมื่อเดินเข้าไปดูศพก็พบร่องรอยการต่อสู้อย่างชัดเจน เขาถูกทุบตีจนตายและนำมาแขวนคอไว้
มองดูรอยเท้ารอบๆ อีกฝ่ายคงมีคนมากมาย
ฟางเหมิงมองไปรอบๆและไม่พบร่างของภรรยาหลิวชิง
“เรามาฝังศพกันก่อนเพื่อไม่ให้สัตว์ป่ากิน เมื่อเราพบภรรยาของหลิวชิง เราจะนำศพลงจากภูเขา”
ฟางเหมิงเห็นด้วย ทั้งสองก็ขุดหลุมด้วยกันและฝังศพอย่างเร่งรีบ
"เดินตามรอยเท้านี้ไปกันต่อเถอะ"
เกาเถิงค้นหากลิ่นและเดินไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้พวกเขาอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาจิ่วหลงแล้ว มีแมลงพิษและสัตว์ดุร้ายมากมายโจมตีระหว่างทาง แต่ด้วยพลังของผู้ปลุกความสามารถสัตว์ป่าพวกนี้จึงถูกจัดการอย่างง่ายดาย
“เธอถูกพาตัวไปที่ไหนกันแน่?
รู้สึกเหมือนยังมีหนทางอีกยาวไกล
โชคดีที่ฝนไม่ตก ไม่อย่างนั้นคงแย่มาก
หัวใจของฟางเหมิงหนักอึ้ง สถานการณ์ภรรยาของหลิวชิงอาจไม่ดีนัก
หลังจากนั้นอีกสองชั่วโมง ทั้งสองก็พบบ้านหลายหลังที่สร้างด้วยไม้และเหล็กตั้งอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีกลิ่นสารเคมีฟุ้งกระจาย
นี้คือสถานที่ผลิตยาพิษ?
หรือสถานที่ที่ผลิตยาปลอมงั้นเหรอ?
เกาเถิงรู้สึกว่าที่นี่ทำทั้ง 2 อย่าง
ท้ายที่สุดยา 2 ตัวนี้ล้วนทำกำไรมหาศาล
ทั้งสองนั่งยองๆอยู่หลังพุ่มไม้ มองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างเงียบๆ
“ภรรยาของหลิวชิงถูกจับมาที่นี่หรอ?” ฟางเหมิงถาม
เกาเถิงตอบว่า "มันควรจะเป็นเช่นนั้น"
ฟางเหมิงปล่อยออร่าสังหารไปทั่วร่างกายของเธอและกำลังจะพุ่งไป แต่ถูกแขนของเกาเถิงหยุดไว้
“อย่ารีบ พวกเราต้องจับใครสักคนและถามเกี่ยวกับสถานการณ์ หากมีผู้ปลุกความสามารถที่แข็งแกร่งมากอยู่ข้างใน อย่าว่าแต่ช่วยเธอคนนั้นเลย แม้แต่พวกเราก็คงไม่รอด”
ฟางเหมิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนั่งลงอีกครั้งกำหมัดของเธอแล้วพูดว่า "ฉันรู้สึกว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมในตอนนี้ และพวกเราต้องช่วยเธอให้เร็วที่สุด"
“ฉันเข้าใจ แต่ในเวลาแบบนี้เราจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์ เธอลืมสิ่งที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ไปแล้วหรอ?”
ฟางเหมิงพึมพำ: "อย่าปล่อยให้อารมณ์มาควบคุมความคิดของตัวเอง ฉันจำได้..."
"ชู่..."
นิ้วชี้กดลงบนริมฝีปากของเธอ ทำให้ทั้งคู่หยุดการเคลื่อนไหวและเงียบลง
มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
เขาแบกปืน AK-47 ไว้บนหลัง มีบุหรี่อยู่ในปากและเดินตรงไปยังที่ซ่อนของทั้งสองคน
เมื่อพิจารณาแล้วชายคนนี้คงยังไม่ได้สังเกตเห็นทั้งสองคนเลย
“ฉันรู้แล้วว่าต้องทำยังไง” เกาเถิงกระซิบ
"ทำยังไง?" ฟางเหมิงถามอย่างสงสัย
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็เห็นชายคนนั้นหันหลังให้เธอกับเกาเถิงและเริ่มปลดเข็มขัดของเขา...
"ฮี่ฮี่"
เกาเถิงหัวเราะอย่างชั่วร้ายแต่เขายังไม่ลงมือทำอะไร
"นายกำลังรออะไรอยู่?"
ฟางเหมิงสะกิดเกาเถิงด้วยข้อศอกของเธอ
“ไม่ต้องห่วง รอให้เขาถอนมาได้ครึ่งทาง...ฮิฮิฮิ...”
ฟางเหมิงกลอกตา "นายมันเลวมาก"
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็รีบวิ่งออกไปราวกับสายฟ้าแลบ ปิดปากชายคนนั้นด้วยมือข้างเดียว แล้วลากเขาเข้าไปในพุ่มไม้
กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วจนไม่มีใครเห็นการเคลื่อนไหวเลย
“หุบปาก อย่าตะโกน!”
หลังจากดึงชายคนนี้ไปในพุ่มไม้ เธอก็จับมีดออกมาจากขาของชายคนนั้น และจี้คอของเขา
ชายคนนั้นรีบยกมือขึ้นเพื่อยอมจำนน
“ฉันถาม นายตอบ ได้ยินชัดเจนใช่ไหม”
ผู้ชายคนนี้พยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว