ตอนที่แล้วบทที่ 17 รังแกรุ่นพี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 19 ภูเขาจิ่วหลง

บทที่ 18 โลกต้องการคนจน


จ้าวเหลียงตกตะลึงอย่างมาก

เขาจะรังแกเด็กใหม่ แต่กลับถูกทุบตีเสียเอง

เด็กใหม่ในปัจจุบันพวกเขานิสัยเสียขนาดนั้นเลยเหรอ?

เขาต้องการที่จะต่อสู้กลับ แต่เกาเถิงไม่ให้โอกาสเขาเลย เกาเถิงยกร่างของจ้าวเหลียงทุบร่างเข้ากับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนถนนคอนกรีต

กระดูกของจ้าวเหลียงแตกเป็นเสี่ยงๆรุนแรงจนเขาไม่มีพลังที่จะต้านทานได้เลย

จ้าวเหลียงทำได้เพียงจ้องมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า

ท้องฟ้าของหลิวฮุนสดใสเป็นพิเศษ

ทันใดนั้นความเจ็บปวด สับสน ตกตะลึง ก็โผล่เข้ามาในใจของเขา

เกาเถิงรู้สึกว่ามันน่าเบื่อมาก เขาโบกมือราวกับไล่แมลงและพูดกับเพื่อนร่วมทีมทั้งสองของจ้าวเหลียงว่า "พาเขาออกไป ฉันสนุกมากพอแล้ว"

ทั้งสองคนนี้ตกตะลึงจนไม่สามารถกลับมามีสติได้เป็นเวลานาน

“เฮ้ ยังมีสติอยู่หรือเปล่า?”

เสียงของเกาเถิงดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา วิญญาณของพวกเขาก็กลับมาจึงได้สติอีกครั้ง

“นาย...นายจะทำอะไร?”

ทั้งสองคนตื่นตระหนกและร่างกายของพวกเขาก็ตั้งท่าป้องกัน

“หยุดสร้างปัญหากับฉันได้แล้ว พวกเธอแค่พาเพื่อนร่วมทีมออกไปจากที่นี่ซะ”

ทั้งสองมองหน้ากันและเห็นความโกรธในดวงตาของกันและกัน ช่างน่าละอายจริงๆ!

"อา~"

จ้าวเหลียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด รูปร่างและหน้าตาของเขายับเยินมาก คาดว่ามีกระดูกเพียงไม่กี่ชิ้นที่ยังไม่หัก

ทันใดนั้นความโกรธในสายตาของทั้งสองก็ลดลงและพวกเขาก็เต็มไปด้วยความนิ่งเฉย

พวกเขาอุ้มจ้าวเหลียงขึ้นบนหลังอย่างรวดเร็วและหายไปในพริบตา

จากนั้นฟางเหมิงก็ได้สติจากการตกใจ เธอกลืนน้ำลายแล้วถามว่า "เกาเถิงนายแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วเหรอ?"

เกาเถิงพูดด้วยความประหลาดใจ: "ทำไมเธอยังมีคำถาม?”

"เรื่องเมื่อกี้มันชัดเจนไม่พอเหรอ?"

"แต่... ความแข็งแกร่งของนายพัฒนาขึ้นเร็วเกินไป..."

"เร็ว?" เกาเถิงรู้สึกประหลาดใจในตอนแรก จากนั้นจึงพูดอย่างสงบว่า "ฉันคิดว่ามันปกติมาก ฉันอาจต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองปีกว่าจะถึงระดับ S"

ริมฝีปากของฟางเหมิงเม้มเป็นรอย

เธอไม่สามารถเอาชนะเกาเถิงได้ ไม่เช่นนั้นเธอคงจะถูกฆ่าโดยชายผู้นี้ไปหลายร้อยครั้ง

“เกาเถิง ฉันมีเรื่องจะถามนาย”

การแสดงออกของฟางเหมิงเริ่มจริงจัง

เกาเถิงกล่าวว่า "ฉันรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร เธออยากจะถามฉันว่าฉันฝึกอย่างไร ให้ฉันช่วยสอนวิธีการของฉันได้ไหม"

ดวงตาของฟางเหมิงแสดงความคาดหวัง "แล้วสอนฉันได้หรือเปล่า?"

เกาเถิงโบกมือ “อย่าคิดมากฉันไม่เคยฝึกฝนอย่างจริงจังมาก่อน อย่างที่ฉันบอกเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันเป็นอัจฉริยะและการฝึกเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวังได้”

ฟางเหมิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มสุภาพ

เธออยากจะทุบตีใครสักคน

"พวกเราไปทำภารกิจให้เสร็จกันเถอะ"

ฟางเหมิงยอมแพ้เธอถอนหายใจ ชี้ไปที่เฉินหยวนผู้น่าสงสารแล้วถามว่า"แล้วเขาล่ะ?"

เกาเถิงเกาหัว "ถ้าเธอไม่พูดฉันคงจะลืมเขาไปแล้ว คงจะลำบากหากพาเขาไปด้วย เธอรอฉันอยู่ที่นี่ก็แล้วกันฉันจะไปจัดการภารกิจเอง"

"ฉันอยากไปด้วย" ฟางเหมิงกล่าว"ช่องว่างระหว่างนายกับฉันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหากเป็นแบบนี้ฉันจะเป็นเพียงแค่ตัวถ่วงของนาย"

"ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้"

"ฉันก็ต้องคิดอยู่แล้ว“ฟางเหมิงยิ้มอย่างขมขืน”ตอนนี้นายบังคับให้ฉันต้องแข็งแกร่งเพื่อตามนายให้ทัน"

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ถึงยังไงเธอก็เป็นตัวถ่วงอยู่แล้ว ลองคิดถึงภารกิจแรกของพวกเรา…”

ก่อนที่คำพูดของเกาเถิงจะจบ ฟางเหมิงก็จากไปด้วยความโกรธ

ผู้ชายคนนี้น่ารำคาญจริงๆ

ไม่นานหลังจากนั้นฟางเหมิงก็กลับมาพร้อมกับเลือดสองสามหยดบนใบหน้าของเธอ

หลังจากระบายออกไปเธอก็รู้สึกดีขึ้นมาก

"จบเรื่องแล้วงั้นหรอ?"

ฟางเหมิงพยักหน้า “ใช่”

"งั้นไปกันเถอะ"

เกาเถิงลากแขนของเฉินหยวนเหมือนหมูที่ตายไปแล้ว

"เจ็บ..มันเจ็บ...."

เฉินหยวนตะโกนเขามีบาดแผลเต็มตัว และพฤติกรรมหยาบๆของเกาเถิงดูเหมือนกำลังจะฆ่าเขา

“มันก็แน่นอนอยู่แล้ว หากนายไม่เจ็บนายก็คงเป็นศพ”

“นายฆ่าฉันซะเถอะ!”

เกาเถิงหยุดชั่วคราว มองไปที่ฟางเหมิงแล้วพูดว่า "สำนักงานความมั่นคงบอกว่าจะต้องจับทั้งเป็นหรือเปล่า?"

ฟางเหมิงส่ายหัว "เพราะผู้ปลุกความสามารถเป็นอันตรายต่อสังคมมาก หากถูกหมายจับโดยสำนักงานความมั่นคง สามารถจับพวกเขาทั้งเป็นหรือตายได้"

“ฉัน... ฉันแค่พูดไร้สาระได้โปรดอย่าจริงจังเลย”

เฉินหยวนขอร้องอย่างสมเพช ทำให้คนที่อยู่ในหลิวฮุนรู้สึกสงสารเขาอย่างมาก

เกาเถิงและฟางเหมิงมองหน้ากัน ยิ้มแล้วเดินออกไป

เมื่อเดินออกจากถนนหลิวฮุนจะมีถนนใหญ่อยู่ด้านนอก ที่นี่เป็นเขตเมืองที่คนพลุกพล่านและเจริญ

สวรรค์และนรกอยู่ห่างกันเพียงแค่นิดเดียว

ฟางเหมิงกล่าวด้วยอารมณ์บางอย่าง: "หากสำนักงานความมั่นคงต้องการแก้ไขปัญหาที่หลิวฮุน พวกเขาสามารถทำได้หรือเปล่า?"

“แต่โลกต้องการคนจน” เกาเถิงกล่าว "ให้ฉันวิเคราะห์คุณประโยชน์ให้เธอเถอะ”

ข้อที่ 1 คือมีการกำหนดชนชั้นอย่างชัดเจน ทำให้ชนชั้นสูงรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า

ข้อที่ 2 คือกระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของผู้คน หากไม่อยากมีชีวิตที่ย่ำแย่ก็ต้องทำงานอย่างหนักทุกวัน

ข้อที่ 3 ความยากจนก่อให้เกิดอาชญากรรมและทำลายความมั่นคงทางสังคม หากทุกที่มีแต่ความสงบสุข สันติภาพ ความดี ก็จะไม่มีเหตุผลที่ต้องมีสำนักงานความมั่นคงอีกต่อไป

ฟางเหมิงกล่าวว่า "นายคิดในแง่ร้ายเกินไป ไม่แน่บางทีคนจากหลิวฮุนแม้จะได้อยู่ในเมืองที่เจริญ แต่ที่นั่นอาจจะกลายเป็นหลิวฮุนอีกแห่งนึง"

เกาเถิงกลอกตา "ความคิดเห็นของเธอไม่ได้ดีไปกว่าของฉันมากนักหรอก"

ฟางเหมิงยิ้ม “ความคิดของพวกเราบางทีอาจจะเป็นความจริง”

“อะไรนะ? เธอคิดว่าสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปเป็นเรื่องตลกเหรอ?

"ฉันพูดจริงจังนะ!"

เกาเถิงปล่อยมือเฉินหยวน ชายคนนั้นเจ็บปวดมากจนเขาตกอยู่ในอาการโคม่า เขากล่าวต่อว่า "ฉันฝากชายคนนี้ให้เธอจัดการ แล้วเจอกันในภารกิจต่อไป"

ทั้งสองกล่าวคำอำลาซึ่งกันและกัน หลังจากที่ฟางเหมิงส่งภารกิจทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอก็นำเงินทั้งหมดโอนไปให้เกาเถิง

เธอรู้สึกว่าเฉินหยวนถูกจัดการโดยเกาเถิงเพียงคนเดียว เธอไม่มีเหตุผลที่จะรับเงินนี้

เกาเถิงคิดว่าเธอคงรู้ตัวเองดี จึงชื่นชมเธอด้วยความโล่งใจอย่างยิ่ง

เมือได้รับคำชมฟางเหมิงดูมีความสุขมาก วางสายโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดีบางทีเธออาจจะไปดื่มเฉลิมฉลอง

ไม่นานก็ถึงวันรุ่งขึ้น

เกาเถิงได้รับความสามารถใหม่ [ไวต่อกลิ่น] หลังจากใช้ความสามารถนี้ การดมกลิ่นของเกาเถิงเพิ่มขึ้นอย่างมากเปรียบเสมือนสุนัขตำรวจ

หลังทานอาหารเช้าฟางเหมิงไม่ได้โทรมา เธอคงหาภารกิจที่เหมาะสมไม่ได้

เกาเถิงตัดสินใจอุทิศเวลาให้กับการฝึกซ้อม วิดพื้น แบ็คอัพ สควอช กระโดด มวย..

ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน

หลังจากที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น เกาเถิงก็เปลี่ยนไปมากจริงๆ เขาใช้เวลาฝึกหนึ่งชั่วโมงผ่านไป สองชั่วโมงผ่านไป เขายังคงกระฉับกระเฉงและไม่รู้สึกเหนื่อยล้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด