ตอนที่แล้วบทที่ 99 สำนักเสินเจี้ยนให้กำเนิดมังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 101 หยางเสิน!

บทที่ 100 ไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ใด


แต่มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่เขาไม่เห็น นั่นคือหูซิง ครั้นคิดได้ดังนั้นเขาก็เผยยิ้มมุมปาก มาตรว่าหูซิงเพลานี้ คงกำลังทุบหน้าดินอยู่เรือนเขาเป็นแน่

ซึ่งก็เป็นดั่งหยางเสี่ยวเทียนคาดไว้ เพราะในเวลานี้ หูซิงกำลังขุดดินอยู่ในสนามหญ้าหน้าลานด้วยความเกรี้ยวโกรธทวียิ่ง

หลินหยงและเฉินหยวนที่เพิ่งมาถึงหลังจากฝ่าแสงอันเจิดจรัสของปราณกระบี่

ทั้งสองรีบปรี่เข้าหาหยางเสี่ยวเทียน ด้วยสีหน้าท่าทางตะลีตะลานอย่างตื่นเต้น

เฉกเช่นเดียวกับวานนี้ เฉินหยวนพ่นคำถามหาหยางเสี่ยวเทียนด้วยความกังวลทันที ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้างหรือไม่

หยางเสี่ยวเทียนส่ายศีรษะแล้วยกมือประสานกำหมัดบอกกล่าวว่าไม่เป็นไร

เมื่อได้รู้ว่าหยางเสี่ยวเทียนสบายดี ทั้งสองคนก็ถึงกับยกมือขึ้นทาบอกผ่อนลม ด้วยรู้สึกโล่งใจพร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นสำราญใจยิ่ง

ครู่ต่อมา หยางเสี่ยวเทียนก็กล่าวลาผู้อาวุโสทั้งสอง ก่อนจากไปเขาก็ยังมิลืมหันเหลือบมองเฉิงเป้ยเป้ยซึ่งนางก็มิได้ถอนสายตาจากเขาแต่อย่างใด

เขาเพียงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ส่งให้เฉิงเป้ยเป้ย เมื่อนางเห็นทีท่าเช่นนั้นก็ถึงกับมุ่ยหน้าด้วยความหงุดหงิดเป็นที่สุด ชิงชังเป็นที่สุด

จากนั้น หยางเสี่ยวเทียนก็ขยับร่างผอมออกจากจัตุรัสร้อยกระบี่ภายใต้การจ้องมองของทุกคนเช่นเคย

……

ขณะเขากำลังเดินถึงจวน ก็พลันประสบพบเข้ากับหลินหยวนผู้ยืนรอเขาอยู่หน้าประตูทางเข้าจวนได้สักพักแล้ว

ซึ่งทันทีที่หลินหยวนเห็นหยางเสี่ยวเทียน เขาก็เผยยิ้มให้กับใบหน้าของเด็กน้อยที่กำลังประหลาดใจทันใด หลินหยวนมาหาเขาเพื่อจะรบเร้าเรื่องการแข่งขันหลอมโอสถอีกงั้นหรือ

“ขอแสดงความยินดีกับนายน้อยหยาง ที่สามารถหยั่งรู้ศิลากระบี่ได้ถึงสามเล่ม” หลินหยวนยกมือประสานหมัดของเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มจากระยะไกล

หยางเสี่ยวเทียนยกมือประสานหมัดแน่นและกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม “ท่านราชครูหลินชมกันเกินไปแล้ว” จากนั้นเขาก็เชิญหลินหยวนเข้ามานั่งสนทนาในจวน

หลินหยวนซึ่งได้รับคำเชิญเช่นนั้น ก็พลางยินดีมีสำราญที่หยางเสี่ยวเทียนตอนรับเขาขนาดเชื้อเชิญเข้าจวน “ถ้าเช่นนั้น ข้าต้องขอรบกวนนายน้อยแล้ว”

เมื่อทั้งสองมาถึงห้องโถงด้านหน้าแล้วนั่งลง อัตและอาลีก็ยกชาจิตวิญญาณคุณภาพสูงออกมาต้อนรับ เพียงหลินหยวนยกใส่ปากจิบหนึ่ง ดวงตาเขาได้พลันเบิกกว้างทันที

เขารีบยกซดจนหมดขณะรับรู้ถึงรสชาติจากชาในมือเพียงจิบนิดๆ หลังได้ดื่มมัน หลินหยวนก็เริ่มรู้สึกสบายกาย พร้อมไม่ลืมเปิดปากถามหยางเสี่ยวเทียนด้วยใคร่รู้มากยิ่ง

“นายน้อยหยาง เจ้าซื้อชาแห่งจิตวิญญาณนี้ที่ไหน”

หยางเสี่ยวเทียนยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าทำมันขึ้นมาเอง หากท่านราชครูหลินชอบดื่มมัน ไว้มาคราหน้า ข้าจะเตรียมให้ท่านหนึ่งชั่งนำกลับไปด้วย”

หลินหยวนรีบลุกขึ้นยืนยกมือประสานหมัดแน่น และขอบคุณหยางเสี่ยวเทียนก่อนจะถามเกี่ยวกับการแข่งขันหลอมโอสถ

“ท่านราชครูหลินไม่ต้องเป็นกังวล ครั้นถึงเวลาข้าจะเข้าร่วมแน่นอน” หยางเสี่ยวเทียนตอบด้วยรอยยิ้ม

เนื่องจาก ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันหลอมโอสถ จะสามารถเข้าแช่ตัวในสระโอสถพันปีเพื่อบ่มเพาะพลังยุทธ์ให้แข็งแกร่งได้ จึงเป็นรางวัลการแข่งขันที่ล้ำค่าใช่น้อย

และที่สำคัญสุด คือหูซิงก็เข้าร่วมด้วย

ในเมื่อครานี้ มีรายชื่อหูซิงเข้าร่วมการแข่งขันอีกคน เขาจำต้องขอลองเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเสียหน่อย

เขายังคงจำเหตุการณ์หน้าประตูสำนักเมื่อเดือนก่อนได้อย่างชัดเจน ที่หูซิงบอก “น้ำหน้าอย่างเจ้าน่ะหรือ จะเอาชนะข้าในอีกสองปี” 

วาจาเช่นนี้ จะมิให้เขาแค้นเคืองได้อย่างไร

ครั้นได้ยินว่าหยางเสี่ยวเทียนยืนยันจะเข้าร่วม ใบหน้าของหลินหยวนก็เต็มไปด้วยความสุขพลางกล่าวว่า “ขอบคุณนายน้อยหยาง หากนายน้อยหยางเข้าร่วมการแข่งขันหลอมโอสถครั้งนี้ วันแข่งจะต้องสนุกแน่นอน”

หยางเสี่ยวเทียนโบกมือปัดด้วยรอยยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าควรเป็นผู้กล่าวขอบคุณท่านราชครูหลินมากกว่า”

เมื่อมองดูหลินหยวนที่อยู่ตรงหน้า หัวใจหยางเสี่ยวเทียนก็พลางสั่นไหวหลังนึกถึงสิ่งหนึ่ง ที่หลินหยวนจะพอให้คำตอบแก่เขาได้ “ท่านราชครูหลิน ท่านพอจะรู้เรื่องไฟศักดิ์สิทธิ์ไหม”

หลินหยวนชะงักกึก นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นยิ้มเจื่อนๆ พลางกล่าวว่าน้ำเสียงฟังติดขัด “ข้าพอรู้เกี่ยวกับไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่บ้าง”

จากนั้น เขามองหยางเสี่ยวเทียนแล้วยิ้ม “นายน้อยหยางสนใจไฟศักดิ์สิทธิ์กระนั้นหรือ อย่างไรก็ตาม ไฟศักดิ์สิทธิ์นั้นควบคุมได้ยากยิ่ง แม้นจะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน แต่ก็มิมีใครสามารถพิชิตมันได้สำเร็จ”

“ท่านราชครูหลินรู้ว่าไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหนเช่นนั้นหรือ” หยางเสี่ยวเทียนลุกพรวดขึ้นอย่างกระตือรือร้น

หลินหยวนส่ายศีรษะพลางกล่าวว่า “ตัวข้านั้นไม่รู้ แต่ข้าก็พอรู้จักผู้ที่สามารถบอกเจ้าได้”

“จริงหรือ” หยางเสี่ยวเทียนอุทานด้วยตื่นเต้น รู้สึกยินดียิ่งที่ได้ยินดังนั้น “ข้าใคร่สงสัยนัก ว่าท่านราชครูหลิน กำลังกล่าวถึงผู้ใด”

“เขาคือเฉินฉางชิง ผู้อาวุโสของตำหนักกระบี่แห่งสำนักเสินเจี้ยนเจ้า และเขายังเป็นหนึ่งในห้าเซียนกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่ของสำนักเสินเจี้ยนเช่นกัน”

หลินหยวนมิได้คิดปิดบังแต่อย่างใด เขากล่าวเสริมว่า “เขาเป็นผู้ที่รู้เรื่องไฟศักดิ์สิทธิ์ศมากสุด แต่ไม่เคยออกจากตำหนักกระบี่มาหลายปีแล้ว เพราะยุ่งอยู่กับการศึกษาศาสตร์แห่งวิถีกระบี่สูงสุด หากจะเข้าพบเขานั้นมันไม่ง่ายเลย”

“เว้นแต่ว่าเจ้า จะสามารถหยั่งรู้ศิลากระบี่ถึงสิบเล่มเสียก่อน”

“ศิลากระบี่สิบเล่มงั้นหรือ” หยางเสี่ยวเทียนไหวตัวขึ้นทันทีด้วยความตกใจ

หลินหยวนพยักหน้า “นี่เป็นกฎของสำนักเสินเจี้ยนที่มีมาช้านาน ต้องแตกฉานศิลากระบี่สิบเล่มขึ้นไปเท่านั้น เจ้าจึงจะเข้าพบกับผู้อาวุโสทั้งห้าของสำนักเสินเจี้ยนได้”

แตกฉานศิลากระบี่สิบเล่มขึ้นไปงั้นรึ? หยางเสี่ยวเทียนคิดกับตัวเอง

ดูเหมือนว่าข้า จำเป็นต้องเร่งการหยั่งรู้ศิลากระบี่เสียแล้วสิ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด