ตอนที่แล้วบทที่ 28 ถ่ายทำ (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 ผู้เชี่ยวชาญ (2)

บทที่ 29 ผู้เชี่ยวชาญ (1)


บทที่ 29 ผู้เชี่ยวชาญ (1)

เช้าวันอาทิตย์

คังวูจินได้ลืมตาขึ้นในที่พักใกล้กับสถานที่ถ่ายทำ ‘สำนักงานนักสืบ’ เขารีบตรงไปที่สตูดิโอซีบลูทันที เพราะเขาได้รับโทรศัพท์จากทีมงานของ "ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยา" เป็นการประชุมที่ถูกกำหนดให้ต้องไปในอีกสามวันข้างหน้า ซึ่งเดิมทีพวกเขาจะประชุมกันตั้งแต่หลายวันก่อน แต่PDซงมันวูเลื่อนกำหนดการออกไป เพราะเขาเห็นกำหนดการถ่ายทำของคังวูจิน

ซึ่งหลังจากลงจากรถตู้จาก ‘สำนักงานนักสืบ’ คังวูจินก็ได้พบกับ PDซงมันวู นักเขียนพัคอึนมี ผู้จัดการฝ่ายผลิตและคนอื่น ๆ การประชุมเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการโดย PDซงมันวูก็เริ่มด้วยการเปิดเผยคอนเซ็ปต์สไตล์ของตัวละครองหัวหน้าพัค

"คุณคังวูจิน นี่คือคอนเซ็ปต์ชุดปกติของรองหัวหน้าพัค รวมไปถึงสถานที่ต่าง ๆ เช่น บ้านของเขา และคอนเซ็ปต์ที่ได้รับการยืนยันอื่น ๆ ลองดูทั้งหมดนี้สิครับ"

คังวูจินตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวละคร "รองหัวหน้าพัค" ทั้งเรื่องรูปลักษณ์และสถานที่พักอาศัย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นเพียงภาพแบบร่าง แต่ตอนนี้ได้รับการยืนยันแล้ว คังวูจินมองมันด้วยท่าทีที่ดูสงบนิ่ง

'ว้าว! รายละเอียดครบถ้วนมากขนาดนี้เลยเหรอ? แม้แต่ภาพสถานที่และบ้านก็ยังมีให้ดูด้วย เครื่องแต่งกายเปลี่ยนไปทุกครั้งเลย โครงสร้างการออกแบบคล้ายกันสินะ? พวกเขาคงต้องไปศึกษาวัสดุและแหล่งข้อมูลมากกว่ากว่าจะได้มาแบบนี้แน่'

เขาแอบทึ่งในใจ  คังวูจินฟังคอนเซปประมาณ 10 นาที จากนั้นนักเขียนพัคอึนมีจึงเข้ามารับช่วงต่อ และพวกเขาก็ย้ายไปประชุมบทละคร

"ก่อนอื่นนี่คือบทละครอย่างเป็นทางการสําหรับตอนที่ 3 และ 4 นักแสดงคนอื่นได้รับของพวกเขาไปแล้ว แต่ของคุณเลื่อนออกไปเพราะติดถ่ายทำ ‘สำนักงานนักสืบ’ ฉันรู้ว่าตารางงานของคุณแน่น แต่กรุณาอ่านบทวิเคราะห์อย่างละเอียดนะคะ”

ความวิตกกังวลปรากฏอยู่ในดวงตาของนักเขียนพัคอึนมี เธอเป็นกังวลเรื่องบทละครมาก ทว่าคังวูจินไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาสามารถเข้าใจทุกอย่างภายในวันเดียว

เขาจึงคุยโม้เล็กน้อย

“ไม่มีปัญหาครับ”

“จริงเหรอคะ?”

"ครับ คุณนักเขียน"

แววตาของนักเขียนพัคอึนมีมีเปลี่ยนจากความกังวลเป็นโล่งใจทันที เพราะตอนนี้ "ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล" มีบทละครอย่างเป็นทางการถึงตอนที่ 4 แล้ว คังวูจินไม่รู้เลยว่าบทละครฉบับร่างนั้นได้ดำเนินไปไกลกว่าตอนที่ 7 ด้วยซ้ำ ซึ่งตัวหน้าปกและรูปแบบของบทละครสําหรับตอนที่ 3 และ 4 เหมือนกับตอนที่ 1 ไม่มีผิด แน่นอนว่าบทละครทั้งหมดมีสี่เหลี่ยมสีดำติดอยู่

จากนั้น PDซงมันวูก็อธิบายให้คังวูจินฟัง

"รองหัวหน้าพัคจะปรากฏตัวจนถึงตอนที่ 4 แล้วจากไป แต่ก็มีบางฉากที่จะมีการย้อนอดีต ดังนั้นคุณควรอ่านถึงตอนที่ 6 นะครับ"

จํานวน 6 ตอน คิดเป็นตอนละ 3.5 ล้านวอน ก็เป็นเงิน 21 ล้านวอน ไม่ต้องคำนวณอะไรเพิ่มเติมแล้ว หากมีรีรันและอะไรอีก มันก็เป็นจำนวนเงินที่น่าทึ่งมากเลยทีเดียว

'การเป็นนักแสดงสุดยอด'

คังวูจินแอบดีใจ จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง คังวูจินต้องฟังการซ้อมบทพูดสำหรับตอนที่ 3 และ 4  มันค่อนข้างสนุกพอสมควร การเปรียบเทียบความคิดของผู้สร้างกับผู้กำกับฯ กับการตีความบทของเขานั้นมีค่ามากเป็นอย่างยิ่ง

ทันทีที่การประชุมเกี่ยวกับบทละครสิ้นสุดลง PDซงมันวูก็ยิ้มกริ่ม

"ดูเหมือนว่านักแสดงจะตื่นรู้ขึ้นมาเพราะคุณคังวูจินเลยนะครับ"

ตื่นตัว? ตื่นตัวอะไร? คังวูจินจึงถามออกไปด้วยความอยากรู้

“ตื่นตัวยังไงเหรอครัอ?”

"ก็เมื่อพวกเขาเห็นการแสดงของคุณระหว่างการอ่านบทละคร พวกเขาจึงรู้สึกถึงความกระตือรือร้นกันขึ้นมา กลัวว่าจะถูกบดบังจากตัวละครรองหัวหน้าพัค"

จากนั้นนักเขียนพัคอึนมีก็กล่าวเสริมในช่วงบท้ายของประโยคพร้อมยิ้มออกมา

"การถ่ายทำ 'สำนักงานนักสืบ' เป็นยังไงบ้างคะ? โอเคไหม?”

“ครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย”

"ฉันตั้งตารอดู 'สำนักงานนักสืบ' ด้วยเหมือนกัน บรรยากาศในกองถ่ายเป็นยังไงบ้าง? โอเคไหมคะ?”

ผมเกือบตายเลยล่ะ นี่เป็นความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาของคังวูจินมาก แต่เพราะต้องแสร้งรักภาพลักษณ์เอาไว้ เขาจึงได้แต่ต้องตอบไปแบบนิ่ง ๆ

"ก็ดีครับ"

"ดีเหรอคะ? คุณคังวูจิน คุณคงมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงมากเลยสินะคะ? ยังไงการถ่ายทํา 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ของเราจะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เพราะงั้นโปรดดูแลสุขภาพของคุณด้วยนะคะ ถึงคุณจะสุขภาพอยู่ดีแล้วก็เถอะ"

จะให้มีเวลาไหนมาดูแลตัวเองเนี่ย? คังวูจินได้แค่คิดว่าเขาต้องทน เขาประชุมเสร็จในช่วงบ่าย ขณะที่เขาเดินออกจากอาคาร เขาก็พึมพำกับตัวเองเบา ๆ

'วุ่นวายมาก แต่ฉันคงไหวแหละ'

ตอนนั้นเอง

- ตืด ตืด

เสียงสั่นยาวดังมาจากกระเป๋ากางเกงขนแกะที่คังวูจินสวมอยู่ สายเรียกเข้าผู้โทรมาคือคิมแดยอง พอคังวูจินเห็นเบอร์ ก็เหลือบมองไปรอบ ๆ ก่อนจะรับสาย

"อะไร?"

“เฮ้! คังวูจิน! ออกมาเดี๋ยวนี้! มาดื่มกันเถอะ พวกหนุ่ม ๆ รอกันแล้วนะ”

“ไม่เอา พวกนายดื่มกันเลยเถอะ”

“...นายยังแกล้งทำเป็นยุ่งอยู่เหรอ? ไอ้คนว่างงานจอมขี้เกียจเอ๊ย  นายยังหางานใหม่ไม่ได้เลยนะ”

“ขอบใจนะสำหรับคำติที่แฝงมาด้วยความเป็นห่วง แต่เงียบไปเลยไป”

"ว่าแต่นายทำอะไรอยู่ช่วงนี้?  ทำไมนายถึงทำตัวลึกลับแบบนี้ล่ะ? ไหงนายไม่โผล่หน้ามาเลยนะ?”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเจอกับเพื่อน ๆ แต่เอาจริง ๆ คังวูจินแทบไม่มีเวลาไปดื่มเลย มันไม่ใช่ข้ออ้างสักนิดเดียว เขายุ่งจริง ๆ

"เดี๋ยวไว้บอกทีหลังแล้วกัน บาย"

ตื๊ด

ทันทีที่เขาวางสาย คังวูจินที่กำลังคิดถึงคิมแดยองและเพื่อน ๆ ก็บ่นพึมพำกับตัวเอง

"ช่างเถอะ เดี๋ยวพวกมันก็จะได้เห็นกันทางทีวีอยู่ดีแหละ"

การปิดบังไว้แล้วค่อยเปิดเผยภายหลัง ยังดีกว่าการโกหกต่อหน้า นั่นแหละคือแผนของเขา

ประมาณเวลานี้เอง รถตู้จากบริษัทโปรดักชันที่มารับคังวูจินก็โผล่ออกมาจากที่จอดรถใต้ดิน ไม่มีเหตุผลอยู่แล้วที่เขาจะปฏิเสธคนพากลับบ้าน

ตึง!

ทันทีที่คังวูจินขึ้นไป รถตู้ก็ออกเดินทาง ทีมงานฝ่ายผลิตอยู่ที่นั่นด้วย ดังนั้นคังวูจินจึงกลับไปทำเป็นนิ่งเข้าไว้ จากนั้นเขาก็หยิบบทละครสำหรับตอนที่ 3 และ 4 ของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ขึ้นมา โดยเขาจ้องไปยังตอน 3

‘ฉันควรอ่านตอนที่ 3 ก่อนกลับบ้านไหมนะ?’

-ตึก!

ตอนนี้เขาไม่ลังเลที่เลยจะกดสี่เหลี่ยมสีดำ และในไม่ช้า คังวูจินก็จมดิ่งลงไปในมิติว่างเปล่าที่ไม่มีที่สิ้นสุด จากนั้นเขาก็ตรวจสอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวที่ลอยอยู่

“แสดงว่าบทละครที่เชื่อมต่อกันมันจะเรียงแบบนี้สินะ”

ตอนที่ 3 ของ "ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล" ถูกจัดวางให้มีขนาดเล็กภายใต้สี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวตอนที่ 1 ส่วนตอนที่ 2 ก็เหมือนกัน แสดงว่าถ้ามี 16 ตอน สี่เหลี่ยมสีขาวที่มองเห็นได้ยากนี้จะเรียงรายกัน 16 อัน การทำงานหรืออะไรเหมือนเดิมหมด เพียงแต่ขนาดของมันจะเล็กลง

คังวูจินเมื่อรู้บางอย่างใหม่แล้วจึงขยับนิ้วต่อ

- [คุณได้เลือก 5/บทละคร (ชื่อเรื่อง:ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล ตอนที่ 3 )']

[รายชื่อตัวละครที่มีให้อ่าน (ประสบการณ์)] ]

แล้วก็จากนั้น

[ "'E: รองหัวหน้าพัค' กำลังดำเนินการ······"]

คังวูจินถูกดูดเข้าไปในโลกที่ไม่คุ้นเคยของรองหัวหน้าพัคในตอนที่ 3

ต่อมาในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ที่อพาร์ทเมนท์ของของคังวูจิน

คังวูจินกลับไปที่อพาร์ทเมนท์ของเขาจนเกือบหลังเที่ยงคืน โชคดีที่ทีม 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ ขับรถพาเขากลับบ้าน ดังนั้นตลอดการเดินทางจึงสะดวกสบายยิ่ง แต่เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการถ่ายทำห้าวัน ปาร์ตี้ดื่มเมื่อคืนก่อนอีก แถมการประชุมเมื่อเช้านี้ มันจึงทำให้คังวูจินหมดแรงข้าวต้ม

"เฮ้อ"

ทันทีที่เขากลับถึงบ้าน เขาก็ล้มตัวลงบนเตียง

“······”

คังวูจินที่นอนนิ่งมา 3 นาทีแทบไม่ขยับเขยื้อน ไม่สิ ที่จริงเขาดิ้นพล่านไปทั่วเลย อาจเพราะมันคือความสงบสุขที่เขาปรารถนามานานหรือเปล่า? แม้แต่เสียงรบกวนจากห้องพักชั้นบนก็ดูเหมือนจะช่วยให้เขาสบายใจขึ้นมาก

เขาควรจะหลับไปแบบนี้เลยไหม?

ขณะที่เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ คังวูจินก็ขยับอีกครั้ง จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นนามบัตรกองหนึ่ง

"อา."

เป็นนามบัตรที่เขาได้รับในวันอ่านบท ใช่แล้ว สิ่งเหล่านั้นยังคงอยู่ที่นั่น เขาเก็บไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้ว ดังนั้นเขาจึงคงถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ

"เฮ้อ..."

แต่วินาทีนี้เอง แม้แต่การลุกขึ้นยืนก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไปสำหรับคังวูจิน ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือออกไปและคว้ากองนามบัตร รวมทั้งหมดเก้าใบ บริษัทบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ แต่มีบริษัทภาพยนตร์อยู่หนึ่งแห่ง เอาล่ะ ไหนขอดูซิ

“การเลือกสังกัดสินะ พื้นฐานเลยคงต้องตรวจสอบบริษัท”

เขาจำเป็นต้องไปพบกับบริษัทบันเทิงทั้งแปดแห่งจริง ๆ เหรอ? นั่นมันดูมากเกินไปหน่อยนะ แถมคงยุ่งยากด้วย ซึ่งนอกจากนี้ การที่คังวูจินเดินไปเยี่ยมชมแต่ละบริษัท ทั้งที่เขาแสดงทำตัวเป็นเย็นชา มันอาจจะดูไม่เหมาะนัก

"ตอนที่ฉันเจอพวกเขาในวันอ่านบท พวกเขาดูเหมือนจะรู้จักกันดี ถ้าฉันไปพบกับบริษัทสังกัดหลายแห่ง มันจะไม่เกิดข่าวลือขึ้นเหรอ?"

แม้ว่าเขาจะแค่ครุ่นคิด แต่เสียงพึมพำของคังวูจินก็เป็นการคาดเดาที่ถูกต้องแล้ว ในวงการบันเทิง ข่าวลือแพร่กระจายเร็วกว่าแสงเสียอีก อย่าลืมว่าวงการบันเทิงจะแพร่ข่าวเร็วมากหามีเรื่องน่านใจเกิดขึ้น ทำให้มีโอกาสสูงที่จะมีข่าวลือเชิงลบแพร่กระจายหากคังวูจินไปที่นั่นที่นี่

"การเปลี่ยนใจบ่อยเกินไป คงไม่ดีแน่"

มาถึงจุดนี้เอง คังวูจินก็หยุดมองที่นามบัตรที่คุ้นเคย

- บีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์

- ซีอีโอชเวซองกุน

มันคือบริษัทต้นสังกัดของฮงฮเยยอน ดาราดังระดับแถวหน้า

"อืม..."

จากนั้น คังวูจินก็พึมพำขณะที่เขาหยิบนามบัตรเล่น ในช่วงเวลาสั้น ๆ ความคิดหลายอย่างเกิดขึ้นในใจของเขา จริง ๆ แล้วคังวูจินไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับวงการบันเทิงเลย แม้ว่าเขาจะค้นข้อมูลของแต่ละบริษัท เขาก็คงไม่อาจตัดสินใจอะไรได้อยู่ดี

'แค่กังวลไปมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก'

ดูเหมือนเขาต้องไปลองด้วยตัวเอง

ช่วงบ่ายแก่ของวันเดียวกัน ที่กองถ่ายโฆษณา

มันเป็นโฆษณาเครื่องสำอาง ชุดกองถ่ายมีโต๊ะวางอยู่ตรงกลาง โดยมีเครื่องสำอางต่าง ๆ จัดวางอยู่บนโต๊ะ มีฮงฮเยยอนนั่งอยู่ในชุดสีขาว เธอแตะผลิตภัณฑ์หนึ่งลงบนลูกบอลและยิ้มให้กล้อง

“นำธรรมชาติมาสู่ผิวของคุณ”

ในขณะเดียวกัน ชายร่างท้วมคนหนึ่งกำลังดูจอภาพ ตะโกนใส่เครื่องขยายเสียง

"เอาล่ะ! ดีมากเลยครับ คุณฮงฮเยยอน! เราจะเปลี่ยนเครื่องสำอางและลองใหม่อีกครั้งนะครับ!”

ทีมงานจากทีมโฆษณารีบวิ่งไปที่โต๊ะที่ฮงฮเยยอนนั่งอยู่ เครื่องสำอางถูกแทนที่อย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้นเอง ช่างแต่งหน้าก็ได้แต่งหน้าของฮงฮเยยอนอย่างรวดเร็ว

ในยามนั้น

-ตุ้บ

ชายคุ้นหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในบริเวณที่ถ่ายทำ เขาคือซีอีโอชเวซองกุน ทันทีที่เธอเห็นเขา แม้หน้าของฮงฮเยยอนจะกำลังถูกช่างแต่งหน้าแต่งให้ แต่เธอก็เอ่ยปากออกมาว่า

“พี่มาแล้วเหรอ?”

ซีอีโอชเวซองกุนยกนิ้วโป้งให้เธอทันที

“เธอทำได้ยอดเยี่ยมมากเลยนะฮงฮเยยอน วันนี้เธอดูสวยมากเลยว่าไหม?”

"วันนี้มีอะไรถึงต้องชมขนาดนี้? พี่คงต้องมาขออะไรแน่เลยสินะ สารภาพมา มีอะไร?"

“ฮ่าฮ่าไม่มีอะไรจริง ๆ หรอก เอ่อ-แต่ตอนนี้พอเธอพูดฉันก็เริ่มคิดแล้วสิ ฮงฮเยยอน สนใจเป็นพรีเซ็นเตอร์ไก่ไหม ตอนนี้ 'สำนักงานนักสืบ' ก็จบแล้วนิ”

"ไม่เอา"

"เฮ้ย เธอฟังเงื่อนไขก่อนสิ"

"ถ้าฉันรับงานโฆษณาไก่ ฉันต้องกินไก่ของแบรนด์นั้นเท่านั้น มีไก่หลากหลายสายพันธุ์อยู่บนโลกใบนี้ ฉันไม่อยากทำหรอก"

ซีอีโอชเวซองกุนได้แต่ถอนหายใจยาว

“เธอรู้ไหมว่ามันมีค่าแค่ไหน เธอปฏิเสธมันเพราะแค่เรื่องรสชาติเนี่ยนะ?”

และตอนนั้นเอง

-♬♪

เสียงโทรศัพท์ของซีอีโอก็ดังขึ้น ขัดจังหวะการโต้เถียงที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นสายโทรจากเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ ซีอีโอชเวซองกุนจึงโบกมือบอกฮงฮเยยอนให้รอ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุย

“ครับ ผมชเวซองกุนเอง”

เสียงทุ้มของผู้ชายดังมาจากปลายสายอีกด้าน

“สวัสดีครับ ผมคังวูจินครับ”

ซีอีโอชเวซองกุนตกใจ ตาเบิกกว้าง เขาหันไปกระซิบกับฮงฮเยยอนว่า

‘เฮ้ คังวูจินโทรมา’

ฮงฮเยยอนลุกพรวดขึ้น

'อะไรนะ? รีบตอบไปเร็วสิ!'

เพราะอย่างนั้นเอง ซีอีโอชเวซองกุนจึงยิ้มและพูดว่า

“โอ้ คุณคังวูจิน ผมกำลังรอการติดต่อจากคุณอยู่พอดีเลยครับ”

“ขอโทษนะครับ พอดีก่อนหน้านี้ผมติดถ่ายหนังอยู่”

“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร”

“ผมอยากจะนัดเจอกันเพื่อคุยเรื่องสัญญา”

ทันใดนั้น ซีอีโอชเวซองกุนก็กำมือแน่น

“แน่นอนครับ เรามาเจอกันเถอะ! แต่มันดึกไปหน่อยแล้ว ไว้พรุ่งนี้ผมจะไปหาแถวบ้านคุณเอง”

แต่เสียงของคังวูจินทางโทรศัพท์นั้นค่อนข้างเรียบเฉยอย่างน่าเหลือเชื่อ

“ไม่ครับ ผมจะไปที่บีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์เอง”

ในวันที่ 16

วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านไปแล้ว และเช้าวันจันทร์ที่แสนวุ่นวายก็มาถึงเสียที เช่นเดียวกับภายในบีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีซัมซอง สำนักงานนั้นไม่ได้กว้างมาก แต่พนักงานประมาณสิบคนก็ต่างกำลังยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง

บรรยากาศภายในบีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์โดยทั่วไปนั้นเรียบร้อย

ภายในสำนักงานไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ บริษัทมีห้องทำงานของพนักงาน ห้องประชุม และห้องทำงานของซีอีโอ สิ่งเดียวที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ โปสเตอร์ของฮงฮเยวอนถูกติดอยู่ตามผนังสำนักงานประปราย

พนักงานของบีดับบลิวเอ็นเตอร์เทนเมนท์กำลังกระซิบกระซาบพูดคุยกันเบา ๆ

"ใครคือผู้ชายที่เพิ่งเข้าไปในห้องทำงานของซีอีโอ มีใครรู้จักเขาไหม?"

"เขาไม่ใช่คนจากบริษัทอื่นเหรอ?"

"เขาหล่อดีเหมือนกันนะ ดูมีออร่ามาก เหมือนนักแสดงเลย”

“หือ? นักแสดง ? มีอะไรเกิดขึ้น? ซีอีโอไม่ได้บอกเรา เขาเป็นพนักงานใหม่หรือเปล่า ?”

“ว้าว ในที่สุดนักแสดงคนที่สองของเราก็จะมาแล้วเหรอ?”

"แต่การเซ็นสัญญากับนักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียงมันออกจะเกินไปหน่อยไหม?"

คนที่เป็นจุดสนใจของเสียงกระซิบกระซาบนั้น กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานสำหรับสี่คน ในห้องทำงานของซีอีโอ เขาคือคังวูจินที่มีใบหน้าเย็นชา เขาแต่งตัวสบาย ๆ เสริมด้วยกางเกงยีนส์และเสื้อกันหนาว

‘ฉันต้องการโปสเตอร์ขนาดใหญ่นั่น’

ขณะจ้องมองโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของฮงฮเยยอนบนผนังด้านหน้าอย่างตั้งใจ ตอนนั้นเอง

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณคังวูจิน รับไปสิครับ”

ซีอีโอชเวซองกุนวางแก้วกาแฟไว้หน้าคังวูจิน ขณะที่คังวูจินกำลังมองโปสเตอร์อยู่นั้น เขาก็เรียกคืนสติอย่างรวดเร็ว

"ขอบคุณครับ"

ซีอีโอชเวซองกุนยังคงยิ้มนั่งตรงข้ามกับคังวูจิน หมุนนิ้วมือของตนไปมา

“มันเล็กไปหน่อยว่าไหมครับ? แต่สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพแล้ว มันก็ค่อนข้างใหญ่พอควรเลย ทุกอย่างคงต้องขอบคุณฮงฮเยยอนแหละครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”

แน่นอนว่าเป็นเพราะนักแสดงหญิงชั้นนำคนนี้ บริษัทแห่งนี้เลยอยู่ได้สินะ? คังวูจินนึกถึงข่าวเกี่ยวกับคนดังที่ซื้ออาคารมูลค่าหลายแสนล้านวอน จากนั้นจึงถามว่า

"แต่ทำไมต้องมีแค่ฮงฮเยยอนคนเดียวล่ะครับ?"

"ทำไมมีแค่คนเดียวเหรอครับ? "ก็…ผมมัวแต่เน้นไปที่ฮงฮเยยอน ยุ่งอยู่กับการสร้างงานให้บริษัท ผมยังแจกนามบัตรตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วย อย่างเช่น สถานีโทรทัศน์และบริษัทโปรดักชัน"

ซีอีโอชเวซองกุนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เขาเดินไปที่โต๊ะทำงาน หยิบแฟ้มใสออกมา แล้วกลับมานั่งลงตรงข้ามกับคังวูจินอีกครั้ง เขาคลายกระดุมสูทอย่างเคร่งขรึม

"คุณคังวูจิน คุณเคยเจอกับสังกัดมาบ้างยังครับ?"

คุณเป็นคนแรกเลย แต่เขาไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ คังวูจินจึงต้องไปอย่างอวดีเข้าไปในคำตอบอันสุภาพของเขา

"ผมว่าผมก็เจอมาเยอะอยู่ครับ"

“คงกำลังสับสนใช่ไหมล่ะครับ? แต่คุณต้องโฟกัสเข้าไว้ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับนักแสดงเลย”

ซีอีโอชเวซองกุนผู้ที่นำแฟ้มใสมาด้วย เลื่อนมันไปหาคังวูจินทันที

“นี่คือสัญญาที่เราเสนอให้คุณคังวูจิน แต่ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้น...”

ซีอีโอชเวซองกุนประสานมือ สบเข้ากับสายตาที่เย็นชาของคังวูจิน

“ผมคิดว่าเราควรจัดการเรื่องนี้ก่อน โบนัสเซ็นสัญญา นั่นคงจะทำให้การพูดคุยเรื่องสัญญาราบรื่นยิ่งขึ้น คุณบอกว่าสังกัดอื่นพูดถึง 'ข้อเสนอพิเศษ' ใช่ไหมครับ? ผมก็เตรียมบางอย่างไว้เหมือนกันครับ”

คังวูจินตกใจกับการพูดคุยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ เขาถึงกับรู้สึกอึ้งไปแล้ว

‘ว้าว คนนี้เขาพูดตรงไปตรงมามากเลยแฮะ ใจเย็น ๆ ก่อนสิคังวูจิน นายเองก็เคยผ่านประสบการณ์อะไรแบบนี้มาก่อนแล้ว’

จากนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างใจเย็นไป

“ได้โปรดพูดต่อเถอะครับ”

“คุณได้คิดราคาไว้ในใจอยู่หรือเปล่าครับ?”

เรื่องนี้เขาตอบได้ คังวูจินได้คํานวณจํานวนโบนัสการเซ็นสัญญาคร่าว ๆ มาแล้ว ซึ่งแหล่งที่มาของข้อมูลคือผู้กํากับชินดงชุน

'ผมคิดว่าคุณสามารถขอโบนัสการเซ็นสัญญาได้ประมาณ 20 ล้านวอนยังได้เลยนะ?'

นั่นหมายความว่า ค่าตัวเซ็นสัญญาเขาคือ 20 ล้านวอน แต่ว่าข้อมูลนี้มันจะถูกต้องจริง ๆ เหรอ? คังวูจินที่เดินทางมาไกลขนาดนี้ รู้สึกว่า 20 ล้านวอนเป็นเงินก้อนโตมหาศาล ไม่สิ มันเป็นจำนวนเงินที่มากจริง ๆ

'ฉันจะถูกไล่ออกเพราะเรียกร้องเงิน 20 ล้านวอนหรือเปล่านะ?'

หรือบางทีซีอีโออาจโกรธและจู่ ๆ ก็สาดกาแฟที่เขาดื่มใส่หน้าคังวูจินไหม?

แบบที่มันปรากฏในละครช่วงเช้าไง

ในทางกลับกัน ซีอีโอชเวซองกุนไม่ได้นึกถึงละครช่วงเช้าแบบคังวูจินเลย เขาแค่คิดเลขในหัวซ้ำ ๆ และกดเครื่องคิดเลขไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เขาไม่เหมือนคนอื่น เพราะเขามีผลงานมาแล้ว 2 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เขาจะต้องดังขึ้นอย่างแน่นอน ทุนที่ต้องใช้ในโบนัสการเซ็นสัญญาไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย สิ่งสําคัญคือการเซ็นสัญญากับเขาต่างหาก"

ซีอีโอชเวซองกุน ผู้ที่วางแผนทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ในวงการบันเทิง จะไม่มีวันยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจที่ขาดทุนเด็ดขาด

ในขณะเดียวกัน คังวูจินก็ตัดสินใจแล้ว

'แค่พูดสองล้านวอนอย่างใจเย็นสั้น ๆ ทำไปเลย ตะโกนออกมาพอ ถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่างมากก็แค่โดนสาดกาแฟไม่ใช่เหรอ? คิดซะว่าคือการล้างหน้าแล้วกัน"

ในไม่ช้า ขณะที่คังวูจินกำลังจะเอ่ยถึงเงินสองล้านวอนที่เขาตัดสินใจไว้ในหัว

"คุณคังวูจิน"

ซีอีโอชเวซองกุนดูจริงจัง หยุดความคิดเรื่องเงินสองล้านวอนของคังวูจินด้วยการเป็นฝ่ายพูดก่อน

"เอาสักสามสิบล้านดีไหมครับ?"

อะไรนะ? ได้ไง? คังวูจินตกใจกับตัวเลขที่ไม่คาดคิด ด้วยความนิ่งที่เขาซักซ้อมไว้ สีหน้าของเขาจึงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย แต่ใบหน้าของเขาสั่นเล็กน้อย ทว่ายามนั้นเอง คังวูจินก็ปากของเขาด้วยความประหลาดใจ

"สี่..."

เขากำลังจะถามว่า 'สามสิบล้านวอนงั้นเหรอ?!' แต่คังวูจินแทบจะหยุดปากตัวเองไว้ไม่อยู่จนเผลอส่งเสียงออกมา เขาเกือบจะถามออกไปโง่ ๆ แล้ว ตอนนี้เขาควรจะอยู่เฉย ๆ ไว้ก่อนสิ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกเกินไป ดังนั้นคังวูจินจึงพยายามอวดดีเข้าไว้

‘เกือบไปแล้ว ดีนะฉันยังตั้งสติทัน แต่ว่า 30 ล้านเลยงั้นเหรอ? มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?’

คังวูจินเริ่มกำลังคิดคําพูดของเขา ในขณะเดียวกัน ทางซีอีโอชเวซองกุนก็มองคังวูจินอย่างเงียบ ๆ พร้อมกำลังพยายามคาดเดาคำพูดของคังวูจินเมื่อครู่ที่ขาดห้วงไป

'...สี่งั้นเหรอ?'

ทันใดนั้น น้ำเสียงที่หนักแน่นของเขาก็ดังขึ้น

"ตกลงครับ ได้ครับ สี่สิบล้านวอน เราจัดการให้ได้เลย"

*****

[40 ล้านวอน = 1 ล้านบาท++]

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแค่ในThai-novelและMy-Novelเท่านั้น

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด