บทที่ 27 ภาพลักษณ์ของเสด็จพ่อที่สมบูรณ์แบบไม่อาจเสียไปได้!
“ดินแดนซือเซียวเทียน นิกายเทียนเฟิงเยว่ ไป๋เฟิงซิน ได้พบตี้ฟู่ เป่ยเสวียนเทียนแล้ว!” ไป่เฟิงซินรีบก้าวไปข้างหน้าและทำความเคารพ
แม้ว่าเขาจะมาจากดินแดนชื่อเซียวเทียน แต่ก็ต้องเอ่ยทักทายหลินซวนก่อน.
อย่างไรก็ตามกล่าวตามจริง ในมุมมองของไป่เฟิงซิน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับตี้ฟู่ ของเป่ยเสวียนเทียน.
แม้นว่านิกายเฟิงเยว่ จะมีชื่อเสียงในชื่อเซียวเทียน แต่เมื่อเทียบกับตี้ฟู่ของเป่ยเสวียนเทียน ก็นับว่าแตกต่างกันไม่ต่างจากเมฆและโคลนเท่านั้น.
เมื่อเห็นไป่เฟิงซินทำความเคารพ หลินถงและคนอื่น ๆ ก็รีบทำความเคารพเช่นกัน
“ดินแดนซือเซียวเทียน นิกายกระบี่สวรรค์ยักษ์ หลินถง ได้พบตี้ฟู่เป่ยเสวียนเทียนแล้ว!”
“ดินแดนซือเซียวเทียน นิกายเมียวซวน,หวังเหวินหยางได้พบตี้ฟู่ เป่ยเสวียนเทียนแล้ว!”
-
เมื่อเห็นฉากนี้ ร่างกายของหลิงหรงก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อยอีกครั้ง
นางเงยหน้าขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับนาง
“แม้แต่ไป่เฟิงซินที่อหังการก่อนหน้ายังต้องเผยความเคารพต่อหน้าเขา”
"คนอย่างเขาคือการดำรงอยู่ที่สูงส่งอย่างแท้จริง"
“เมื่อเทียบเขากับไท่จื่อของอาณาจักรต้าเซี่ยล่ะ?”
หลิงหรงอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างลับ ๆ
สัญญาการแต่งงานดั้งเดิมไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ.
ทุกอย่างเป็นเพราะหัวหน้าตระกูลหลิง พ่อของนางที่คิดถึงประโยชน์ของตระกูล จึงบังคับให้นางผูกสัญญาแต่งงานกับไท่จื่อ.
โดยไม่คาดคิด หลังจากได้ยินว่าฐานบ่มเพาะของนางหายไปและรากวิญญาณไม่มีอีกแล้ว กษัตริย์ของต้าเซี่ยก็ส่งไท่จื่อมายกเลิกทันที.
พวกเขายังมีคุณสมบัติที่จะเรียกตัวเองว่าชนชั้นสูงได้อีกรึ? พวกเขาไม่ต่างจากวายร้ายชัด ๆ
ข้าเกรงว่าต่อหน้าตี้ฟู่ เป่ยเสวียนเทียน เขาไม่คู่ควรแม้แต่เป็นคนถือร้องเท้าด้วยซ้ำ!
"อืม " หลินซวนตอบเบา ๆ อย่างไม่แยแสนัก
ก่อนที่จะปรากฏตัวสัมผัสเทวะของเขาได้ปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ มาก่อนแล้ว.
เขารับรู้ถึงการข่มเหงหลิงหรงของไป่เฟิงซินก่อนแล้ว ดังนั้นเขา จึงไม่มีความประทับใจใด ๆ ต่อไป่เฟิงซินนัก
แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่ หลินซวน ก็เกิดมาพร้อมกับการดูถูกเหยียดหยาม พบเห็นผู้ที่ชอบรังแกคนอ่อนแอมาเป็นประจำ.
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่บอกว่าสัตว์อสูรทุกตัวมีแกนอสูร ท่านคิดว่าแกนอสูรของสัตว์อสูรตนนี้ซ่อนอยู่ที่ไหน?”
เสวียนจู่หันหน้ากลับไปหาหลินซวนและเอ่ยถาม
“แน่นอนว่ามันอยู่ในท้อง” หลินซวนลูบหัวเล็ก ๆ ของนาง
เสวียนซียังเอ่ยออกมาว่า: "เสด็จแม่บอกว่าแกนสัตว์อสูรมีประโยชน์มาก พวกมันสร้างขึ้นมา หรือว่า มันมีมาตั้งแต่เกิด?”
เสวียนหยู รีบเร่งยกมือเล็ก ๆ ของนางขึ้นแล้วเอ่ยออกมาว่า "ข้ารู้ ๆ มันมีมาตั้งแต่เกิด!"
เสวียนจู่ เสวียนซี และเสวียนหาน จ้องมองไปที่เสวียนหยูพร้อมกัน: "เจ้ารู้ได้อย่างไร"
เมื่อเห็นว่าพี่สาวทั้งสามไม่รู้เรื่องนี้ เสวียนโหยวที่เชิดหน้าเผยความภาคภูมิ และฮัมเพลง:
“เพราะอสรพิษเก้าลายในห้องของข้าให้กำเนิดแกนสัตว์อสูรมากมาย”
เสวียนจู่และคนอื่น ๆ ส่ายหน้าเมื่อได้ยินสิ่งนี้: "นั่นเห็นได้ชัด ๆ ว่าเป็นไข่งู!"
เสวียนหยูเอ่ยอย่างไม่มั่นใจ: "เป็นไปไม่ได้! ข้าถามอสรพิษเก้าลายครั้งที่แล้วว่า มันให้กำเนิดแกนสัตว์อสูรหรือไม่ และมันก็พยักหน้าตอบว่า ใช่!"
เสวียนจู่ปิดปากแล้วยิ้ม: "นั่นก็เพราะมันกลัวว่าจะถูกเจ้ารังแกต่างหากล่ะ!"
เสวียนซีส่ายหน้าและถอนหายใจ: "เสด็จแม่บอกว่าเดิมทีอสรพิษเก้าลายตัวนั้นดุร้ายมาก แต่ตอนนี้เจ้ารังแกมันไม่หยุด จนทำให้มันกลายเป็นเด็กดีไปแล้ว"
เสวียนหาน พยักหน้า: "ใช่ ๆ เมื่อพวกมันพบกับเสวียนหยู สัตว์อสูรเหล่านี้ดูน่าสงสารมาก!"
หลินซวน ฟังการสนทนาของบุตรสาวของเขา และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน
อารมณ์ ตงหวงจื่อโหยว กล่าวถึงแกนสัตว์อสูรให้บุตรสาวนางฟังเล็กน้อย แต่ไม่ได้อธิบายความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับแกนสัตว์อสูรให้พวกนางได้ฟังโดยละเอียด
ดูเหมือนว่าเมื่อข้ามีเวลา ข้าจะต้องบอกพวกนางเกี่ยวกับสัตว์อสูรอย่างละเอียดแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ไป๋เฟิงซินที่นำบางอย่างที่เป็นทรงกลมสีขาวบริสิทธิ์เท่ากับมือออกมา.
เป็นเป็นบางอย่างที่เป็นทรงกลมขนาดเท่ากับไข่ และมีแสงสีทอง เก้าจุดติดอยู่รอบ ๆ.
แม้นว่าจะอยู่ห่างออกมาไกล ก็ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งแผ่ออกมาจากมัน.
“ตี้ฟู่ นี่คือแกนอสูรของราชสีห์เหล็ก” ไป่เฟิงซินเอ่ย
เขารู้สึกว่า หลินซวน ในฐานะจักรพรรดิแห่งเป่ยเสวียนเทียน จะไม่ทำอะไรที่เหมือนกับการขุดแกนสัตว์อสูรออกมาด้วยตนเอง
เขาจึงใช้โอกาสนี้เพื่อนำแกนสัตว์อสูรออกมาเพื่อแสดงความโปรดปรานต่อหลินซวน
"ว้าว นั่นคือลักษณะของแกนสัตว์อสูร มันดูน่าสนใจมาก!" เสวียนจู่และคนอื่น ๆ ดูประหลาดใจ
หลินซวนยิ้มและเอ่ยออกมาว่า "ถ้าเจ้าชอบก็เอาไปเล่นเถอะ"
เสวียนจู พยักหน้าและนำแกนสัตว์อสูรมาจากไป่เฟิงซินมา.
จากนั้นเด็กหญิงทั้งสี่ก็รวมตัวกันรอบ ๆ และทุกคนก็ทำการศึกษาแกนสัตว์อสูรด้วยแววตาสนใจและสนุกสาน
หลินถงและคนอื่น ๆ ต่างก็มองไปที่แกนสัตว์อสูรด้วยความอิจฉา
แกนสัตว์อสูรของสัตว์อสูรลำดับที่เก้า ในโลกแห่งการฝึกฝนนั้นนับเป็นสมบัติอันล้ำค่าอย่างแน่นอน
หากสามารถขัดเกลาและดูดซับได้ ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะสามารถยกระดับอาณาจักรใหญ่ได้ ทว่าอย่างน้อยก็พัฒนาไปกว่าครึ่งอย่างแน่นอน.
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มันเป็นของตี้ฟู่แห่งเป่ยเสวียนเทียนอยู่แล้ว.
ไม่ว่าพวกเขาจะโลภแค่ไหน พวกเขาก็ไม่กล้าคิดหวังเลยสักนิด
ในขณะนั้น จู่ ๆ ร่างเล็ก ๆ ก็รีบวิ่งเข้าไปหาหลินซวนและคุกเข่าลงด้านหน้าเขา
หลิงหรงอ้อนวอน: "เรียนตี้ฟู่ ผู้น้อยหลิงหรง ขอให้ท่านช่วยเอ่ย เพื่อให้ข้าได้เข้าสู่อาณาจักรลับนี้ด้วยเถิด"
หลินซวน มองดูนางเล็กน้อย : "อาณาจักรลับนั้นอันตรายและไม่อาจคาดเดาได้ พวกเขาได้ชี้แจงให้เจ้าทราบแล้ว ทำไมเจ้าถึงต้องการเสี่ยงชีวิตเพื่อเข้าไป?"
การแสดงออกของไป่เฟิงซินและคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปทันที.
ปรากฏว่าสิ่งที่พวกเขาเอ่ยเมื่อกี้ทั้งหมด จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนล้วนแต่ได้ยิน.
ความสามารถของอีกฝ่าย ช่างน่าเกรงขามนัก!
“เพราะข้าต้องการให้ บิดาและมารดาของข้า สามารถยืนหยัดเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง! และให้ตระกูลหลิงได้รับศักดิ์ศรีคืนกลับมา!”
หลิงหรงโขกศีรษะของนางลงกับพื้นอย่างแรง: "ขอให้ตี้ฟู่ให้โอกาสข้าหน่อยเถอะ ถ้ามันสำเร็จ เด็กหญิงตัวเล็กสามารถที่จะตอบแทนด้วยชีวิตได้!"
หลินซวน เห็นว่ามีความดื้อรั้นและแรงผลักดันที่อธิบายไม่ได้ในสายตาของหลิงหรง
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินซวนได้เห็นความเชื่อมั่นไม่ย่อท้อในสายตาของผู้หญิงคนหนึ่ง
“นอกเหนือจากเหตุผลที่เจ้าเอ่ยถึง สิ่งที่เจ้าต้องการทำมากที่สุดคือ นำความสามารถกลับมา แล้วหักหน้ากษัตริย์ต้าเซี่ยและไท่จื่ออย่างงั้นรึ?” หลินซวนเอ่ยถามด้วยความคิดดังกล่าว.
หลิงหรงกลืนน้ำลาย: "ในตอนแรก ข้ามีความคิดดังกล่าวจริง ๆ"
“แต่หลังจากที่ได้พบกับตี้ฟู่แล้ว ข้าก็ไม่คิดว่าคนแบบพวกเขาคู่ควรกับความพยายามของข้า”
“เพราะฉะนั้น ข้าจึงล้มเลิกความคิดดังกล่าวไป”
หลินซวนพยักหน้า เขาเห็นว่าหลิงหรงไม่ได้โกหก
เมื่อมองไปที่ไป่เฟิงซินและคนอื่นๆ หลินซวนก็ถามว่า "พวกเจ้ามีอะไรจะเอ่ยหรือไม่?"
ไป๋เฟิงซินและคนอื่น ๆ รีบกล่าวออกมาทันที: "ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตี้ฟู่แล้ว!"
ต่อหน้าผู้แข็งแกร่ง ต่อให้มีความกล้าหาญอีกสิบเท่า พวกเขาก็ไม่กล้าเอ่ยขัด
หลินซวนจับตาดูหลิงหรง: "เอาล่ะ ข้าจะให้โอกาสเจ้า"
“ขอบพระทัยตี้ฟู่!” หลิงหรงรีบโค้งคำนับอย่างตื่นเต้น
หลินซวน พยักหน้าเล็กน้อยและละสายตาจากนางไป
เหตุผลที่เขาช่วยหลิงหลิงเพราะชื่นชมความเด็ดเดี่ยวของนาง.
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับบุตรสาวของเขา.
ท้ายที่สุดแล้ว พวกนางมีภาพลักษณ์ของเขาที่แข็งแกร่งน่าประทับอยู่ภายในใจ
หากเขาไม่ดำเนินการใด ๆ อะไรคือความแตกต่างระหว่างเขาและพวกไป่เฟิงซินที่ชื่นชอบข่มเหงคนอ่อนแอ?
ภาพลักษณ์ของเสด็จพ่อที่สมบูรณ์แบบ ไม่สามารถทำให้เสียไปได้ ต้องให้มันคงอยู่ในใจบุตรสาวตลอดไป!
แน่นอนว่าเมื่อเห็น หลินซวน ยื่นมือช่วยเหลืออีกฝ่าย ก็ทำให้เสวียนจู่ และบุตรสาวคนอื่น ๆ ต่างก็หัวเราะอย่างมีความสุข
“เสด็จพ่อเป็นคนดีมาก!”
"เอิ่ม!"
"เอ่อ ฮะ!"
"อืมมม!"
ไป๋เฟิงซินและคนอื่น ๆ หน้าแดงอย่างอธิบายไม่ถูก
ต่อหน้าตี้ฟู่ เวลานี้พวกเขาไม่อาจห้ามหลิงหรงได้.
เฮ้อ สุดท้ายแล้ว หลิงหรงนับว่ามีโชควาสนาเป็นอย่างมากที่ได้พบกับผู้สูงศักดิ์เช่นตี้ฟู่
ามกลางอารมณ์ที่สั่นไหวเป็นระลอกคลื่น.
ทันใดนั้นแสงสีทองที่หมุนวนก็ระเบิดออกมา พลังปราณทางจิตวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งก็ แผ่พุ่งออกมาจากม่านแสงสีทอง
“อาณาจักรลับเปิดแล้ว!”