บทที่ 22 ชายหนุ่มอัจฉริยะอันดับหนึ่งทางตอนใต้

บทที่ 22 ชายหนุ่มอัจฉริยะอันดับหนึ่งทางตอนใต้

“ฉู่เฉิน นายรีบเซ็นชื่อเร็วเข้า พวกเรายังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องคุยกัน” เซี่ยเป่ยเร่ง

ฉู่เฉินหยิบพู่กันขึ้นมา เดินเข้าไป ที่มุมล่างสุด เขียนชื่อของตัวเองอย่างระมัดระวัง ทีละคำ

ซ่งฉางชิงเหลือบมอง เขาแอบส่ายหน้าเบาๆ

เป็นคนรุ่นใหม่เหมือนกัน ทำไมถึงได้ต่างกันขนาดนี้

แต่… ด้วยของขวัญชิ้นใหญ่ของคุณชายเซี่ย ตระกูลซ่งจำเป็นต้องเก็บลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนนี้เอาไว้ก่อน

ซ่งฉางชิงรู้สึกว่าอักษรพู่กันจีนแผ่นนี้ดีมาก โอกาสที่จะถูกเลือกเป็น ‘คำอวยพร’ ในงานเชิดสิงโตเด็ดไฉ่ชิงของเมืองจินถานมีไม่น้อย

นี่เป็นโอกาสดีที่ตระกูลซ่งจะได้แสดงตัวต่อหน้าผู้อาวุโสหวง บางทีหลังจากถูกเลือกแล้ว ถ้าผู้อาวุโสหวงอารมณ์ดี อาจจะมอบผลประโยชน์อะไรบางอย่างให้กับตระกูลซ่ง

“คุณชายเซี่ย เชิญครับ”

ซ่งเสียหยางเข้าใจความหมายของคุณปู่

ห้องโถงของบ้านผู้นำตระกูลซ่ง

ทุกคนเห็นฉู่เฉินกับเซี่ยเป่ยเดินเข้ามาพร้อมกัน พูดคุยกันอย่างมีความสุข สีหน้าของพวกเขายิ่งประหลาดใจ

พวกเขายังคงคิดไม่ออกว่า ฉู่เฉินกับคุณชายตระกูลเซี่ยมีความสัมพันธ์กันได้ยังไง?

ซ่งเหยียนก็มองดูเช่นกัน

มีแค่เธอรู้อยู่คนเดียวว่า ฉู่เฉินกลับมาเป็นปกติแล้ว หรือว่า ฉู่เฉินรู้จักกับคุณชายตระกูลเซี่ยตั้งแต่ห้าปีก่อน?

ซ่งเหยียนส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว

ถ้าฉู่เฉินมีสถานะแบบนั้นจริงๆ ตลอดห้าปีที่แต่งเข้าตระกูลซ่ง ทำไมถึงไม่เห็นใครมาตามหาฉู่เฉิน

ฉู่เฉินเหมือนกับโผล่ขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่สามารถสืบหาภูมิหลังของเขาได้

ดังนั้นคนตระกูลซ่งถึงได้มั่นใจว่า ฉู่เฉินเป็นแค่คนเร่ร่อน ถ้าไม่ใช่เพราะซ่งเหยียนชนเขา บางทีเขาอาจจะหนาวตายอยู่ข้างถนนแล้ว

“คุณชายเซี่ย เชิญทางนี้ครับ” ซ่งเสียหยางโบกมือ พาเซี่ยเป่ยกับฉู่เฉินเดินผ่านห้องโถง ไปที่ห้องประชุมเล็กห้องหนึ่งข้างๆ

ประตูห้องประชุมปิดลงอย่างเบาๆ

ซ่งเสียหยางยืนอยู่ข้างนอก สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากห้องโถง “เอาแผนการของเรามา”

หลินซิ่นผิงไม่อยากจะเชื่อ “คุณชายเซี่ยจะคุยเรื่องความร่วมมือกับฉู่เฉินจริงๆ เหรอ?”

“คุณพ่อ เอกสารการหย่าฉบับใหม่มาถึงแล้วค่ะ” ซ่งชิ่งถือมันอยู่ในมือ

“ฉีกทิ้ง” ซ่งเสียหยางกล่าว

ใบหน้าของซ่งชิ่งแข็งค้างไปเลย

“คุณพ่อ ถึงแม้ว่าคุณชายเซี่ยจะยอมคุยกับฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ยังไม่ออก...” ซ่งหยุนรู้สึกงุนงง

“ฉันบอกให้ฉีก ก็ฉีกทิ้งสิ!” ซ่งเสียหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ต่อให้คุยเรื่องความร่วมมือไม่สำเร็จ แค่อักษรพู่กันจีนแผ่นนี้ที่คุณชายเซี่ยมอบให้ฉู่เฉิน อย่างน้อย ก่อนงานฉลองของเมืองจินถาน ฉู่เฉินก็ต้องยังคงเป็นลูกเขยของตระกูลซ่ง

ตอนนี้ถ้าจะหย่า คุณปู่จะเป็นคนแรกที่ไม่ยอม

สีหน้าซ่งชิวเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เมื่อคืนเขาบอกด้วยตัวเองว่า ฉู่เฉินซ้อมเย่เส้าหวง

ตามหลักเหตุผลแล้ว คุณพ่อควรจะหยิบเอกสารการหย่าไปฟาดหน้าฉู่เฉินสิ?

หลินซิ่นผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “เมื่อคืนผมกลับไปถึงบ้าน ผมก็ได้รับข่าวว่า ตระกูลเซี่ยสนใจที่จะเข้าสู่วงการยาของเมืองฉานจริงๆ แต่นอกจากคุณชายสามเซี่ยแล้ว ตระกูลเซี่ยยังส่งทีมงานอีกทีมหนึ่งมา ตอนนี้ พวกเขาน่าจะอยู่ที่โรงแรมหวงถิง คงกำลังคุยเรื่องความร่วมมือระหว่างสองตระกูลกับคุณชายเย่ พูดตามตรง พวกเราสู้ตระกูลเย่ไม่ได้หรอก”

“คุณพ่อ เมื่อคืนเป็นเพราะพวกเราไม่ได้ให้ไอ้ปัญญาอ่อนคนนั้นเซ็นเอกสารการหย่า ถึงได้เกิดเรื่องต่างๆ ขึ้น” ซ่งชิ่งกล่าว “หาตัวจางเต้าซื่อไม่เจอ ชิงเฟิงเต้าซื่อก็คำนวณดวงชะตาของเขาไม่ได้ เพียงพอที่จะอธิบายแล้วว่า ตระกูลซ่งเก็บคนผู้นี้ไว้ไม่ได้”

เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากข้างนอก

ซ่งหรูไห่วิ่งเข้ามาด้วยความเหนื่อยหอบ “ท่านผู้นำตระกูล ผลการตรวจสอบเข็มเงินออกมาแล้วครับ ข้างในมีพิษร้ายแรง”

สีหน้าของคนตระกูลซ่งเปลี่ยนไป พวกเขารู้สึกหนาวไปทั้งหลังทันที

เข็มเงินมีพิษร้ายแรง!

นี่คือต้องการให้ซ่งชิวตาย

รูม่านตาของซ่งชิวเบิกกว้างถึงขีดสุด เหงื่อผุดขึ้นมาบนฝ่ามือของเขาในทันที

โชคดีที่เป็นฉู่เฉิน

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของซ่งชิว

คนอื่นๆ ต่างก็หุบปาก ไม่มีใครกล้าพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับฉู่เฉินในตอนนี้

ลูกชายคนเดียวของซ่งเสียหยาง

ในตอนนี้ สีหน้าของซ่งเสียหยางมืดมนถึงขีดสุด “สืบให้ละเอียด!”

ซ่งหรูไห่รีบหันหลังกลับไป

ซ่งเสียหยางกวาดตามองทุกคน พูดอย่างช้าๆ ว่า “แค่เรื่องนี้ ฉู่เฉินก็ยังคงเป็นลูกเขยของตระกูลซ่ง”

นี่คือบุญคุณที่ช่วยชีวิตเอาไว้จริงๆ

ข้อมูลถูกส่งไปอย่างรวดเร็ว

ภายในห้องประชุม

ฉู่เฉินหยิบแผนการขึ้นมา เปิดดูอยู่ไม่กี่หน้า

“จริงๆ แล้ว ตระกูลซ่งของเราก็มีความจริงใจ” ฉู่เฉินกล่าว

“มีความจริงใจ แต่ความสามารถไม่มากพอ” เซี่ยเป่ยยกขาขึ้นมาวางบนโต๊ะประชุม เปิดดูข้อมูลส่งๆ “ไม่ปิดบังนาย ตระกูลเซี่ยตั้งใจจะเปิดตลาดที่เมืองฉาน แต่สถานการณ์ทางการตลาดที่นี่ค่อนข้างซับซ้อน ตระกูลเซี่ยอยากจะเข้ามาอย่างแข็งกร้าว มันจะยากมาก แต่ถ้ามีคู่ค้าที่เมืองฉาน มันยังอาจช่วยเหลือได้บ้าง และเรื่องราวจะง่ายขึ้นเยอะ เมื่อพิจารณาถึงตรงนี้ ตระกูลเย่…. คือตัวเลือกอันดับหนึ่ง”

ฉู่เฉินมองไปที่เซี่ยเป่ย เขารู้ว่าคุณชายเซี่ยคนนี้ยังพูดไม่จบ

“นายกลับไม่ร้อนใจเลยนะ” เซี่ยเป่ยรู้สึกว่าน่าเบื่อเล็กน้อย จากนั้นก็พูดต่อ “ตอนนี้มีทีมงานอีกทีมหนึ่งกำลังคุยกับตระกูลเย่อยู่ แต่สุดท้ายแล้ว สิทธิ์ในการตัดสินใจก็ยังคงอยู่ในมือของฉัน ความหมายของคุณปู่คือให้ฉันใช้โอกาสนี้ฝึกฝนตัวเอง ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ให้ทีมงานทีมนั้นเป็นคนคุย”

แผนสำรองของตระกูลเซี่ยสินะ

ถ้าเซี่ยเป่ยอยากจะทำ ทีมงานทีมนี้ก็จะกลายเป็นทีมงานที่ทำงานให้เซี่ยเป่ยทันที

“เมื่อคืนฉันบอกแล้วว่า พวกเรา คนหนึ่งเป็นคุณชายสามของตระกูลเซี่ย อีกคนหนึ่งเป็นลูกเขยคนที่สามของตระกูลซ่ง พวกเราร่วมมือกัน ก็จะไม่มีใครสู้ได้” เซี่ยเป่ยเอาขาลง “ความสามารถของตระกูลซ่งไม่เพียงพอ แต่ฉันเชื่อว่า นายสามารถชดเชยข้อบกพร่องนี้ได้”

เซี่ยเป่ยลุกขึ้นยืน ยื่นมือออกไปหาฉู่เฉิน ยิ้มพลางถามว่า “ยังไง? นายจะแกล้งบ้าอยู่ในตระกูลซ่ง ปิดบังความสามารถต่อไป หรือจะร่วมมือกับฉัน ลงมือทำอย่างยิ่งใหญ่? ฉันยังจำคำพูดของนายเมื่อคืนได้ดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป้าหมายของฉัน เซี่ยเป่ย มีแค่หนึ่งเดียว กุมอำนาจปกครองแผ่นดินอย่างตื่นตัว เอนกายลงนอนบนตักของหญิงงามอย่างเมามาย”

ดวงตาของเซี่ยเป่ยเริ่มมีประกาย

ฉู่เฉินก็ลุกขึ้นยืน จับมือเซี่ยเป่ย “งั้นฉันก็ขอแสดงความยินดีกับนายด้วย”

เซี่ยเป่ยตกตะลึง “แสดงความยินดีกับฉันเรื่องอะไร?”

“แสดงความยินดีที่วันหนึ่ง นายจะต้องกลายเป็นชายหนุ่มอัจฉริยะอันดับหนึ่งทางตอนใต้ตัวจริง ไม่ใช่แค่ในวงการเขียนอักษรอักษรพู่กันจีน” ฉู่เฉินยิ้ม

“ฉันไม่กล้ารับหรอก” เซี่ยเป่ยพูดอย่างดูถูก “ที่เมืองหยาง มีชายหนุ่มอัจฉริยะทางตอนใต้สิบคน แต่ไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นชายหนุ่มอัจฉริยะอันดับหนึ่งทางตอนใต้ ชื่อเสียงแบบนี้ ฉันไม่สนใจ”

“ตอนที่นายไปถึงจุดนั้นแล้ว ไม่ต้องแย่งชิง นายก็ได้เป็นอยู่ดี” ฉู่เฉินพูดอย่างเรียบๆ

โรงแรมหวงถิง

ห้องประชุม

ใบหน้าของเย่เส้าหวงมีรอยฟกช้ำ แต่ก็ไม่ชัดมากนัก ทั้งเช้าเขารู้สึกโกรธมาก

ความอัปยศอดสูที่เขาได้รับเมื่อคืน เขาจะต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่า

การเจรจาอย่างละเอียดกับทีมงานตัวแทนของตระกูลเซี่ยเป็นไปด้วยดี เงื่อนไขของตระกูลเย่ สอดคล้องกับความต้องการทั้งหมดของตระกูลเซี่ย

“ตระกูลเย่กับตระกูลเซี่ยร่วมมือกัน ผมเชื่อว่า ย่อมสามารถจัดระเบียบวงการยาของเมืองฉานใหม่ได้” ใบหน้าของเย่เส้าหวงมีรอยยิ้ม ในที่สุดก็มีข่าวดี ปลอบประโลมจิตวิญญาณที่บาดเจ็บของเขา

หลังจากที่เรื่องตรงนี้จบลง เขาจะไปคิดบัญชีกับฉู่เฉิน

ตัวแทนของตระกูลเซี่ยเป็นชายวัยกลางคน ในตอนนี้เขาก็ลุกขึ้นยืน สีหน้าผ่อนคลาย เขามีความคาดหวังอย่างมากกับความร่วมมือครั้งนี้

ขณะกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆ เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น

ตัวแทนของตระกูลเซี่ยรับโทรศัพท์ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย สุดท้ายก็พยักหน้า

เขาวางสาย…

ตัวแทนของตระกูลเซี่ยเงยหน้าขึ้น “ขอโทษด้วยครับ คุณชายเย่ พวกเราได้แต่หวังว่าจะได้ร่วมมือกันในครั้งต่อไป”