บทที่ 19 ไอ้ฉู่เฉินคนนั้น
บทที่ 19 ไอ้ฉู่เฉินคนนั้น
เช้าตรู่ของวันใหม่ คนรับใช้ของตระกูลซ่งเริ่มทำงาน
เมื่อคืนที่โรงแรมหวงถิง เย่เส้าหวง ทายาทคนโตของตระกูลเย่ บอกว่าจะมาเยี่ยมคุณปู่ของตระกูลซ่งในวันนี้ สำหรับตระกูลซ่งแล้ว พวกเขาต้องใช้พิธีต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ซ่งเหยียนมาถึงหน้าห้องทำงาน ผลักประตูเปิดออกอย่างเบาๆ
เธอรู้อยู่แล้วว่า ทุกเช้า คุณปู่จะฝึกเขียนอักษรพู่กันจีนอยู่ในห้องทำงาน
หลังจากที่ยกธุรกิจทั้งหมดของตระกูลซ่งให้ลูกชายทั้งสองคนแล้ว คุณปู่ก็อ่านหนังสือ เขียนอักษรพู่กันจีน เป็นครั้งคราวก็จะหยิบของเก่าที่ตัวเองชอบออกมาดู
ซ่งเหยียนยืนอยู่ข้างๆ ฝนหมึกอย่างเบาๆ ตอนที่คุณปู่เขียนอักษรพู่กันจีน ไม่ชอบให้คนอื่นรบกวน
ประมาณสิบนาทีต่อมา
คุณปู่วางพู่กันลง มองไปที่ซ่งเหยียน แล้วยิ้มออกมา “เหยียนเหยียน วันนี้หลานมาหาปู่แต่เช้า มีอะไรหรือเปล่า?”
ซ่งเหยียนพยักหน้า “เมื่อคืน...”
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ปู่รู้หมดแล้ว” คุณปู่กล่าว เขาหยิบกระดาษอักษรที่ตัวเองเพิ่งเขียนเสร็จขึ้นมา มองดูอยู่ครู่หนึ่ง ส่ายหน้า ขยำกระดาษแผ่นนั้นเป็นก้อน โยนลงถังขยะ จากนั้นก็มองไปที่ซ่งเหยียน และกล่าวว่า “ให้ฉู่เฉินออกจากตระกูลซ่งไปโดยเร็ว ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้พ่อของหลานเป็นคนจัดการ นี่ก็ถือว่าเป็นการทดสอบเขาอีกครั้ง”
น้ำเสียงของคุณปู่ดูเรียบเฉย
การทดสอบ
ซ่งเหยียนเข้าใจความหมายของคุณปู่เป็นอย่างดี ถ้าการทดสอบครั้งนี้ล้มเหลว ซ่งเสียหยางจะต้องสูญเสียตำแหน่งประมุขของตระกูลซ่ง
ซ่งเหยียนอ้าปากค้าง
เธอก็ไม่ค่อยได้เห็นด้านที่หงุดหงิดของคุณปู่ ปกติท่านจะทะนุถนอมพู่กันและหมึกของตัวเองมาก แต่เมื่อกี้กลับขยำกระดาษอักษรที่เพิ่งเขียนเสร็จทิ้ง
คุณปู่หยิบพู่กันขึ้นมาอีกครั้ง เขียนอักษรพู่กันจีนอีกที
“เหยียนเหยียน หลานว่าอักษรแผ่นนี้เป็นยังไง?” คุณปู่เอ่ยปากถาม
ซ่งเหยียนเดินเข้าไป ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก คุณปู่ก็ถอนหายใจออกมาทันที ขยำกระดาษที่เพิ่งเขียนเสร็จเป็นก้อนอีกครั้ง
“คุณปู่ หนูว่า มันดีมากแล้วนะคะ” ซ่งเหยียนมองไปที่คุณปู่ด้วยความสงสัย
“อีกสิบวัน จะมีพิธีเปิดเมืองจินทานอย่างยิ่งใหญ่ คนทั้งเมืองต่างก็จับตามอง” คุณปู่ชื่อซ่งฉางชิง แววตาของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความคาดหวัง “พอดีกับผู้อาวุโสของตระกูลหวงอายุครบ 80 ปี งานเชิดสิงโตเด็ดไฉ่ชิงที่จะจัดขึ้นในตอนนั้น จะยิ่งใหญ่กว่าที่เคย ตระกูลซ่งของเราจะส่งทีมเชิดสิงโตไปสองทีม หวังว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดี”
“เมื่อกี้คุณปู่เขียน...”
“ผู้อาวุโสหวงประกาศรับสมัครคำอวยพรทั่วทั้งเมือง” ซ่งฉางชิงกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น เมืองจินถานเป็นสถานที่แห่งใหม่ ผู้อาวุโสหวงปฏิเสธนักเขียนอักษรพู่กันจีนและนักวาดภาพที่มีชื่อเสียงของเมืองฉาน แต่กลับประกาศรับสมัครคำอวยพรทั่วทั้งเมือง ถ้าสามารถถูกผู้อาวุโสหวงเลือกได้ ตระกูลซ่งของเราก็จะสามารถอาศัยโอกาสนี้หลีกเลี่ยงพายุลูกนี้ได้”
ซ่งฉางชิงส่ายหน้าถอนหายใจ “น่าเสียดายที่ถึงแม้ว่าปู่จะรู้สึกว่าอักษรพู่กันจีนของปู่ไม่เลว แต่มันก็ยากที่จะเข้าตาผู้อาวุโสหวง”
เมืองจินถาน ตระกูลหวง
ซ่งเหยียนรู้ดีว่าตระกูลหวงแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาคือตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองฉาน
ไม่แปลกใจเลยที่คุณปู่ไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ความสนใจทั้งหมดของท่านอยู่ที่เมืองจินถาน
ตระกูลเย่ หรงซื่อกรุ๊ป ความขัดแย้งครั้งนี้ พวกเขาต้องจัดการกันเอง
ซ่งเหยียนเดินออกจากห้องทำงาน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
เธอรูสึกว่าไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
การแก้แค้นร่วมกันของตระกูลเย่และหรงซื่อ ตระกูลซ่งจะสู้ได้ยังไง?
ที่หน้าประตูใหญ่ เหมือนกับกำลังจะประดับประดาด้วยโคมไฟ ตระกูลซ่งเต็มไปด้วยความสุข
ซ่งเสียหยางออกไปตั้งแต่เช้า แม้ว่าโอกาสจะมีน้อยนิด แต่เขาก็ยังอยากจะลองดู
ซูเยว่เซียนพาคนของตระกูลซ่ง เตรียมการต้อนรับทายาทคนโตของตระกูลเย่ ที่กำลังจะมาถึงบ้านตระกูลซ่ง ด้วยมาตรฐานสูงสุด
เมื่อเธอเห็นซ่งเหยียนเดินเข้ามา ซูเยว่เซียนก็กวาดตามองซ่งเหยียน และขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว “เหยียนเหยียน ชุดที่ลูกใส่ มันดูไม่เหมาะสมนิดหน่อย ลูกกลับไปเปลี่ยนชุด จากนั้นแต่งหน้าทำผมให้เรียบร้อยเถอะ”
ซ่งเหยียนมองดู พี่สาวคนโตกับพี่สาวคนรองก็กลับมาแต่เช้า สำหรับพวกเธอแล้ว เรื่องนี้ก็สำคัญมากเช่นกัน
ถ้าครอบครัวพวกเธอถูกแทนที่ สถานะของพวกเธอในตระกูลของตัวเองก็จะได้รับผลกระทบอย่างมาก
“เย่เส้าหวงจะไม่มาหรอกค่ะ” ซ่งเหยียนเอ่ยปาก นึกถึงสภาพของเย่เส้าหวงที่ถูกซ้อมเมื่อคืน ในฐานะชายหนุ่มอัจฉริยะของวงการธุรกิจเมืองฉาน เย่เส้าหวงไม่มีทางยอมให้ตัวเองมีมลทินใดๆ สองวันนี้ เย่เส้าหวงคงจะไม่ออกไปไหน
“ตระกูลเย่ยกโรงแรมหวงถิงให้คุณชายใหญ่เย่บริหาร แถมคุณชายใหญ่เย่ก็มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจเมืองฉาน” หลินซิ่นผิงเอ่ยปาก “ในเมื่อเขาบอกว่าวันนี้จะมาเยี่ยมคุณปู่ เขาก็ต้องมาแน่”
“เมื่อคืนคุณชายเย่ก็บอกแล้วนี่ เขานัดตัวแทนของตระกูลเซี่ยแห่งเมืองหยางมาเจรจาความร่วมมือที่หวงถิง ดังนั้นพวกเราเลยคิดว่า คุณชายเย่จะมาในช่วงเช้า เมื่อเขาเยี่ยมคุณปู่เสร็จ เขาก็จะกลับไปที่หวงถิง คุยเรื่องความร่วมมือกับตระกูลเซี่ย” โจวเจี้ยนกล่าว “เธอก็เตือนฉู่เฉินให้ดี วันนี้ห้ามให้เขาออกมาหาเรื่องเด็ดขาด”
“จริงสิ เอกสารการหย่าฉบับใหม่ส่งมาแล้ว” ซูเยว่เซียนกล่าว “ลูกกลับไปเปลี่ยนชุดสวยๆ หน่อย แล้วก็ให้ฉู่เฉินเก็บของของตัวเองให้เรียบร้อย พอถึงเวลา ให้เขาเซ็นชื่อในเอกสารการหย่า แล้วก็ไสหัวไปซะ”
ซูเยว่เซียนรู้สึกว่าความอดทนที่ตัวเองมีต่อฉู่เฉินหมดลงแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่เฉิน เมื่อคืนคงจะราบรื่นมากกว่านี้
ซ่งเสียหยางคงจะไม่ต้องออกไปทำงานแต่เช้า ตระกูลซ่งคงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้หรอก!
“อย่าลืมเตือนไอ้ปัญญาอ่อนคนนั้นด้วย” ซ่งชิ่งแค่นเสียง “ของที่ไม่ใช่ของเขา อย่าคิดจะเอาไปด้วย ก่อนออกไป จะมีรปภ.มาตรวจ”
“แล้วก็ เรื่องเข็มเงินบนแส้เมื่อคืน ถึงความจริงยังไมากระจ่าง” ซ่งหยุนกล่าว “ฉู่เฉินยังคงน่าสงสัย”
เสียงที่แสบแก้วหูดังขึ้นข้างหูของซ่งเหยียน
“เมื่อคืน ฉู่เฉินช่วยชีวิตเสี่ยวชิวเอาไว้ ในสายตาของพวกพี่ ชีวิตของเสี่ยวชิวไม่มีค่าเลยงั้นเหรอ?” ซ่งเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ หันหลังกลับไป
คนตระกูลซ่งมองหน้ากัน
ทุกคนต่างส่ายหน้าทันที
“คุณแม่ ไม่ต้องโกรธหรอก เหยียนเหยียนรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนี้ไอ้ปัญญาอ่อนคนนั้นมาโดยตลอด หลังจากวันนี้ เธอจะเข้าใจว่า อะไรคือชีวิตที่เธอควรจะมี” ซ่งหยุนปลอบ
คนตระกูลซ่งต่างก็เงยหน้าขึ้น รอคอยการมาถึงของเย่เส้าหวง
ซ่งเหยียนกลับไปที่ห้องชุดเล็กของบ้าน เมื่อเห็นว่าประตูห้องของฉู่เฉินปิดสนิท ซ่งเหยียนก็ไม่ได้ไปเคาะประตู
ยามเที่ยงวัน
หน้าประตูใหญ่ของบ้านตระกูลซ่ง
คนตระกูลซ่งยิ่งรอคอยก็ยิ่งร้อนใจ
พวกเขาไม่เห็นแม้แต่เงาของเย่เส้าหวง
แม้แต่ซ่งชิวก็ไปเยี่ยมชิงเฟิงเต้าซื่อ แล้วก็กลับมาบ้านแล้ว
ซ่งชิวถามข่าวคราวที่แน่ชัดของจางเต้าซื่อไม่ได้
“คุณชายเย่...จะไม่มาจริงๆ เหรอ?” สุดท้ายโจวเจี้ยนก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา
ใบหน้าของซูเยว่เซียนมืดมน
เย่เส้าหวงไม่มา นั่นหมายความว่า ตระกูลเย่ตัดสินใจที่จะตัดขาดกับตระกูลซ่งแล้ว
สำหรับตระกูลซ่งแล้ว นี่คือข่าวร้ายชัดๆ
“พวกเธอดูสิ” ทันใดนั้น ดวงตาของหลินซิ่นผิงก็เป็นประกาย รถหรูสีดำคันหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“คุณชายเย่มาแล้ว”
ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ แววตาของพวกเขาเป็นประกาย
นั่นหมายความว่า ยังพอมีความหวัง
แค่คุณชายเย่มา ตระกูลซ่งก็ยังมีโอกาสไถ่โทษ แก้ไขเรื่องที่ลูกเขยปัญญาอ่อนฉู่เฉินก่อขึ้นเมื่อคืน
“เหยียนเหยียนทำไมยังไม่มาอีก?” ซูเยว่เซียนขมวดคิ้ว “ให้คนไปบอกเธอเดี๋ยวนี้ คุณชายเย่มาถึงแล้ว”
รถหรูสีดำจอดลงหน้าบ้าน
คนตระกูลซ่งรีบเดินเข้าไป ใบหน้าของซูเยว่เซียนก็สดใสขึ้น มีรอยยิ้ม
ประตูรถเปิดออก
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแบบลำลองเรียบง่ายเดินลงมา ร่างกายของเขาดูสูงโปร่ง ใบหน้ามีรอยยิ้ม
คนตระกูลซ่งต่างก็ตกตะลึง
คนที่มานั้น ทำไมถึงกลายเป็นคุณชายเซี่ย
คำพูดของซ่งเหยียนผุดขึ้นมาในหัวของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว
คุณชายเซี่ยจะมาที่ตระกูลซ่ง คุยเรื่องความร่วมมือ
แต่ไม่มีใครเชื่อ
ตอนนี้คุณชายเซี่ยควรจะอยู่ที่โรงแรมหวงถิงไม่ใช่เหรอ?
“ตระกูลซ่งนี่กระตือรือร้นจริงๆ” เซี่ยเป่ยกวาดตามอง อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียง “แล้วไอ้บ้าฉู่เฉินคนนั้นล่ะ หรือว่าเขาชอบทำตัวเป็นคุณชาย ไม่ยอมออกมาต้อนรับผม?”