ตอนที่ 9 การพบกันครั้งแรกกำลังจะเกิดขึ้น
“อ้าก…!”
หลังจากออกจากพื้นที่จําลองเหตุการณ์แล้ว ซูเฉอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโดยไม่รู้ตัว
ในฉากจำลองของระบบที่สร้างขึ้นมาเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนว่าตัวซูเฉอเองได้สัมผัสประสบการณ์จริงของ ‘วันสิ้นโลก’ ที่ตัวเองเป็นคนแต่งขึ้นมาจริงๆ
อารมณ์ซึมเศร้า ทรมานใจ หวาดกลัวจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รวมถึงหมดอาลัยตายอยากหมดสภาพ
อารมณ์เชิงลบรูปแบบต่างๆ เข้าปกคลุมจิตใจของซูเฉอ
แม้แต่ ช่วงเสี้ยววินาทีที่กลุ่มเซเลสเชียลมองลงมาที่ทุกคนในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ จากนั้นก็บดขยี้โลกด้วยมือเดียว
ซูเฉอดูเหมือนจะรู้สึกราวกับกำลังจะตายด้วยความสิ้นหวังจริงๆ
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ขจัดอารมณ์ด้านลบทั้งหมดที่อยู่ในใจ
จากนั้นสายตาเหลือบไปเห็นกระจกบานโตแขวนอยู่บนผนังโดยไม่รู้ตัว
นั่นจึงทำให้ซูเฉอนค้นพบว่า ถึงแม้ในเงาสะท้อนของคนในกระจกจะยังเป็นชายหนุ่มขวบสิบปี แต่เขาก็ยังหล่อเหลาไม่จางหายอยู่
แต่ความรู้สึกของความผันผวนในดวงตาของเขาไม่สามารถหายไปได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
แววตาคู่นี้ เหมือนกันกับที่ซูเฉอเคยแต่งไว้ในไดอารี่ไม่มีผิดเพี้ยน
ดูท่าแล้วสิ่งที่ประสบพบเจอนี้มันจะทำให้เขาเสมือนได้พบเจอเรื่องสิ้นหวังจากโลกคู่ขนานเข้าให้จนได้จริงๆ นั่นแหละ
ซูเฉอนลุกขึ้นยืนตรงมุ่งหน้าเดินไปยังระเบียง ใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับการยืดเส้นยืดสาย ก่อนที่ร่างกายและจิตใจจะได้แผ่รับรับรู้ไออุ่นที่แสงอาทิตย์โปรยปรายมาหาอย่างสบายกาย
หลังจากนั้นไม่นาน อารมณ์เชิงลบต่างๆ ในใจของซูเฉอก็ค่อยๆ หายไป
“เจ้าฟังก์ชันจำลองสถานการณ์เนี่ยนะ ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ ฉันคงไม่เล่นใหญ่ใช้เรื่องวันสิ้นโลกหรอก แถมมีแคงผู้พิชิตกับพวกเซเลสเชียลมาทำลายดาวโลกอีก!”
“แต่ว่านะ อย่างน้อยช่วงวินาทีนี้ คงไม่ต้องคิดเยอะหรือกังวลกลัวไปก่อนแน่นอน แม้กระทั่งเวลา นิค ฟิวรี่ หรือยัย แบล็ควิโดว์ค้นพบตัวเราแล้ว”
"เห็นตัวเองทะลุปรุโปร่งแบบนี้ก็ถือว่าโอเค”
ก็อย่างที่ระบบบอกนั่นแหละ
เรื่องราวสามารถแก้ไขได้ แต่ประสบการณ์ที่สั่งสมมา และตัวตนที่ฝึกฝนบ่มเพาะจนออกมาได้เป็นผลสำเร็จแบบในวันนี้ มันไม่สามารถปลอมแปลงได้
โดยเฉพาะคนอย่าง แบล็กวิโดว์ หรือ นิค ฟิวรี่ แล้วด้วย...
แค่ใช้ดวงตาสังเกตพฤติกรรมของคน รวมถึงดูจากปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวใบหน้าเล็กๆ น้อยๆ พวกเขาก็แทบจะล่วงรู้ทันทีแล้วว่าเป้าหมายที่สนใจกำลังมีความคิดเห็นเป็นยังไงบ้าง หรือวางตัวไปในแนวทางใดกันแน่
โดยเฉพาะนิค ฟิวรี่หมอนั่นยังนับว่าเป็นสายลับตัวพ่อของชีลด์อีกตะหาก
สมมติถ้าใครดันมีความสงสัยขึ้นมาในมุมมองความคิดแบบคนธรรมดาทั่วไปสักครั้งล่ะก็
ถ้าคนนั่นไม่ได้มีประสบการณ์การค่อนข้างสูง ไม่มีความชำนาญมากพอ แค่ลองโม้เรื่องแนวโน้มหรือทิศทางอนาคตของไทม์ไลน์ที่ไม่ตรงกันต่อหน้านิค
เขากลัวว่าฟิวรี่จะดันจับสังเกตจนทะลุปรุโปร่งแบบทันตาทันใจได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันน่ะสิ
ห้ามดูถูกคู่ต่อสู้ แม้เขาจะเป็นใครก็ตาม
นี่คือกฎที่ซูเฉอตั้งไว้สำหรับตัวเองหลังจากเดินทางมายังโลกมาร์เวลแห่งนี้
ถึงแม้จะล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็ตามทีเถอะ หากว่าเขาดันชะล่าใจคิดดูแคลนคนอื่นล่ะก็…
สุดท้ายโดนตบตกท่อตายอย่างอนาถแน่แท้
การคาดเดาของซูเฉอไม่ผิด หากพิจารณาให้ลึกแล้ว ทั้งนิค ฟิวรี่และนาตาชา โรมานอฟฟ์ พวกเขาก็ฉลาดอยู่แล้ว
หากพวกเขาเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดา คงหาโอกาสผันตัวมาพาตัวเองมีโอกาสโลดแล่นอยู่ในแวดวงนี้ไม่ได้แน่นอน
เปรียบเสมือนสถานการณ์ตอนนี้
นิค ฟิวรี่ค่อยๆ นำข้อมูลมาวิเคราะห์
“แม้ซูเฉอจะเปิดร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามของสตาร์คอินดัสทรีส์ ในไดอารี่ก็ไม่มีเขียนบ่งบอกชัดเจนว่า ตั้งใจจะไปขัดขวางแผนลักพาตัวครั้งนี้”
"ดังนั้น เหตุลักพาตัวโทนี่ สตาร์ค คงเป็นจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชะตากรรมของโทนีสินะ"
"และจากการคาดเดาในไดอารี่ บทนำของการลักพาตัวครั้งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้”
"ไม่อย่างนั้น ซูเฉอคงไม่ใช้คำว่า ‘พักชั่วคราว’ หรอก"
พอนึกตามแล้วนิค ฟิวรี่พิงเก้าอี้ เอนตัวลงบนเก้าอี้แล้วบีบคาง ขมวดคิ้วและมองภาพโฮโลแกรมของโทนี สตาร์กที่อยู่ตรงหน้าเขา
แต่ในใจของเขา เขากำลังจินตนาการว่าเขาควรจะส่งใครสักคนมาติดตามโทนี่ สตาร์คตอนนี้ เพื่อหยุดยั้งคดีลักพาตัวที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ดีไหมนะ?
หลังจากครุ่นคิดอยู่นานกว่าสิบวินาที นิค ฟิวรี่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรเลยในตอนนี้
ท้ายที่สุดแล้ว การคาดเดาในไดอารี่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แม้ว่าโทนี่ สตาร์กจะถูกลักพาตัว แต่ชีวิตของเขาก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย
ในทางกลับกัน นี่จะกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้โทนี่ สตาร์ค เพลย์บอยผู้หยิ่งผยองกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ด้วย
ในแง่มุมที่คิดถึงการยืนกรานเปลี่ยนอนาคตในไทม์ไลน์นี้ จะทำได้หรือทำไม่ได้ นิค ฟิวรี่มันไม่ได้สนใจเลยนิดเดียว
สิ่งที่เขาใส่ใจจริงๆ คือสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตของคนที่ชื่อซูเฉอ จากโลกคู่ขนานเขียนไว้ในไดอารี่ อนาคตในเวอร์ชันโลกฝั่งของเขา...จะต้องมาเยือนโลกในฝั่งของตัวเขาด้วยหรือเปล่าเท่านั้น
ตรงนี้ต่างหากสำคัญ!
ตัดภาพโฮโลแกรม 3 มิตินั่นทิ้ง
นิค ฟิวรี่เริ่มใจจดใจจ่อรอคอย นาตาชา โรมานอฟฟ์ กับการนัดพบแรกกับซูเฉอในตอนนี้!
บางทีนี่อาจนำพามาซึ่งผลลัพธ์และเหตุการณ์สุดคาดไม่ถึงที่ตัวเขาอยากได้ก็เป็นได้